คณะกรรมการยุโรป (European Commission หรือ EC) ร่วมกับคณะกรรมการแข่งขันของสหราชอาณาจักร (Competition and Markets Authority หรือ CMA) ประกาศสอบสวน Facebook ว่าใช้ข้อมูลโฆษณาในระบบตัวเอง เพื่อเอาเปรียบคู่แข่งในตลาดที่ทับซ้อนกันหรือไม่
กรณีของ EC สนใจตลาดลงประกาศซื้อขายของบุคคลรายย่อย (classified ads) ที่ Facebook มีบริการ Facebook Marketplace มาแข่งกับเว็บลงประกาศซื้อขายรายอื่นๆ แต่เว็บลงประกาศเหล่านี้ก็ซื้อโฆษณาผ่านบริการ Facebook ที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คเช่นกัน ทำให้ EC สนใจว่า Facebook นำข้อมูลโฆษณาเหล่านี้มาเรียนรู้พฤติกรรมของคู่แข่ง แล้วพัฒนาให้ Facebook Marketplace ได้เปรียบกว่าหรือไม่
แผนก Facebook Gaming ประกาศว่า Unit 2 Games จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน เพื่อต่อยอดจากบริการที่มีอยู่ตอนนี้คือ วิดีโอสตรีมมิ่งสำหรับแคสต์เกม และการสร้างเกมบนแพลตฟอร์มของ Facebook โดยมีเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์เกมแบบร่วมกัน
เทคโนโลยีของ Unit 2 Games ที่ทำให้ Facebook ดึงทีมงานเข้ามาคือ Crayta แพลตฟอร์มเครื่องมือสำหรับสร้างเกมบนคลาวด์ ซึ่งสร้างบน Unreal Engine 4 โดยสามารถร่วมมือกับคนอื่นได้ด้วย ซึ่งเดิมแพลตฟอร์มนี้มีเฉพาะบน Stadia
ในรายละเอียดของการซื้อกิจการนั้น Crayta จะยังคงพัฒนาอยู่ต่อไป จึงไม่มีผลกระทบกับเกมที่สร้างบนแพลตฟอร์มในตอนนี้
เดือนที่แล้ว คณะกรรมการ Oversight Board ที่เป็นคนนอก ตัดสินให้ Facebook แบนบัญชีของ Donald Trump ต่อไป จากกรณีโพสต์ยุยงให้เกิดความรุนแรงในการยึดรัฐสภาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม Oversight Board เสนอว่าการแบนควรมีระยะเวลาที่ชัดเจน ไม่ใช่แบนไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด
วันนี้ Facebook ออกมารับลูกแนวทางของ Oversight Board โดยประกาศนโยบายกำหนดระยะเวลาแบน 4 ระดับคือ 1 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี, 2 ปี ตามคำนวนครั้งของการทำผิดกฎ
Facebook เตรียมเปิดตัว Researcher API เปิดทางนักวิจัยศึกษาพฤติกรรมหรือสำรวจความคิดเห็นของคน กลุ่ม หรือเพจสาธารณะจากแพลตฟอร์ม Facebook ที่เปิดสาธารณะได้ง่ายขึ้น เตรียมเปิดตัวในปีนี้
โดย API ใหม่นี้ช่วยให้นักวิจัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้ามาศึกษากิจกรรมออนไลน์ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงข้อความโพสต์ของผู้ใช้งาน ซึ่ง Facebook ระบุว่าจะแสดงชื่อเป็น anonymous ซ่อน username เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว นักวิจัยยังสามารถเข้าถึงตัวชี้วัดผู้ติดตามและสถิติการมีส่วนร่วมสำหรับกลุ่ม เหตุการณ์ และเพจต่างๆ ได้ด้วย
จากกรณีโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งทรงอิทธิพลในโซเชียลมีเดียมาก แม้เนื้อหาจะขัดต่อหลักสิทธิพลเมืองและกฎแพลตฟอร์ม ก็ตาม Facebook เองก็เคยยืนกรานว่า ถ้อยคำของประธานาธิบดี คือสิ่งที่ประชาชนมีสิทธิ์รับรู้ และแพลตฟอร์มไม่มีสิทธิ์ปิดกั้น แต่เหตุการณ์บุกรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้โซเชียลมีเดียต้องกลับมาคิดใหม่ เพราะอิทธิพลของทรัมป์ส่งผลต่อโลกจริงมากกว่าที่คิด
ล่าสุด มีรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวภายใน Facebook 2 ราย ระบุว่า Facebook จะเปลี่ยนนโยบาย บังคับใช้กฎแพลตฟอร์มกับนักการเมืองด้วย โดยจะแถลงนโยบายต่อสังคมเร็วๆ นี้
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส แถลงว่าศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ในบัญชีผู้ใช้ Facebook แล้ว 8 บัญชีคือ
Facebook เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่จัดการกับผู้ที่มักเผยแพร่เนื้อหาผิดข้อเท็จจริง หรือนำไปสู่ความเข้าใจผิดไม่ว่าจะเป็นเรื่อง COVID-19 การเลือกตั้ง หรือเรื่องเกี่ยวกับ climate change
โดยผู้ใช้งานทั่วไปจะมองเห็นหน้าต่างแสดงการแจ้งเตือนหากกำลังจะกดไลค์เพจที่เผยแพร่ข้อมูลผิดบ่อย ผู้ใช้งานยังเลือกที่จะกดไลค์และติดตามเพจนั้นต่อได้หากต้องการ หรือกด learn more เพื่อดูตัวอย่างโพสต์ที่เผยแพร่ข้อมูลผิดได้
Instagram และ Facebook ประกาศแนวทางที่ชัดเจนหลังทดสอบมาหลายปี เกี่ยวกับการซ่อนจำนวน Like ในโพสต์ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกซ่อนจำนวน Like ได้เอง (opt-in) โดยผู้ที่เลือกจะไม่แสดงตัวเลขในโพสต์ว่ามีจำนวนคน Like เท่าใด
ทั้งนี้ Facebook เคยอธิบายสาเหตุของการซ่อนจำนวน Like ในงาน F8 เมื่อปี 2019 ว่าสามารถช่วยให้เจ้าของบัญชีลดความเครียดได้
ผู้ใช้งาน Instagram และ Facebook สามารถตั้งค่าให้ซ่อนจำนวน Like ที่เป็นสาธารณะได้ ทั้งกำหนดแบบรายโพสต์ หรือกำหนดให้มีผลกับทุกโพสต์ใน Settings โดยเริ่มมีผลแล้วตั้งแต่วันนี้สำหรับ Instagram ส่วน Facebook จะเริ่มใช้งานได้ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เฟซบุ๊กรายงานความสำเร็จในการสร้างปัญญาประดิษฐ์แปลงเสียงเป็นข้อความ (speech recognition) ในชื่อ wav2vec-U โดยมีจุดเด่นคือเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ฝึกแบบ unsupervised ที่เป็นการฝึกปัญญาประดิษฐ์โดบไม่ต้องการข้อมูลตัวอย่างโดยตรง
การสร้างปัญญาประดิษฐ์แปลงเสียงเป็นข้อความโดยปกติแล้วจะต้องใช้ชุดข้อมูลคู่กันระหว่างเสียงและข้อความที่แปลงไว้ก่อนหน้า (labeled data) เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์พยายามเลียนแบบ กระบวนการสร้างชุดข้อมูลนี้มีต้นทุนสูงที่ต้องแปลงข้อมูลเสียงเป็นข้อความนับพันชั่วโมง และในภาษาที่มีชุดข้อมูลอยู่น้อยก็สามารถฝึกปัญญาประดิษฐ์ได้ยาก
Hugo Barra ผู้ดูแลงานฝั่ง Oculus VR ของ Facebook และ Facebook Reality Labs ลาออกหลังทำงานมาสี่ปี การลาออกของ Barra เกิดขึ้นก่อน Facebook จะเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่ร่วมมือกับ Ray-Ban ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวในปีนี้ ส่วนการทำงานในอนาคต เขากำลังมองโอกาสสายสุขภาพ
WhatsApp เร่งกระบวนการให้คนกดยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่ที่จะมีผล 15 พ.ค. นี้ โดยค่อยๆ ดำเนินการไปทีละขั้นตอน เริ่มจาก ไม่สามารถเข้าถึงรายการแชทของตัวเองได้ แต่ยังกดรับโทรศัพท์, วิดีโอคอลได้ และยังกดที่แจ้งเตือนเพื่อตอบข้อความกลับได้
ถ้าผู้ใช้งานยังไม่กดยอมรับเงื่อนไข หลังจากนั้น WhatsApp จะปิดไม่ให้ผู้ใช้รับสายโทรเข้า, ข้อความเข้า ปิดการมองเห็นการแจ้งเตือน เรียกได้ว่าแทบทำอะไรกับ WhatsApp ไม่ได้เลย แม้ WhatsApp ยืนยันว่าจะไม่ลบบัญชีออกก็ตาม
อัยการจาก 40 รัฐในสหรัฐ ส่งจดหมายถึงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ให้หยุดพัฒนา Instagram สำหรับเด็ก อายุต่ำกว่า 13 ปี ด้วยเหตุผลว่า ที่ผ่านมา Facebook ล้มเหลวในการปกป้องเด็กๆ ให้มีสุขภาวะที่ดีบนแพลตฟอร์ม
Facebook ประกาศผ่านบัญชี Twitter ว่าจะเริ่มทดสอบแสดงข้อความเตือน กรณีผู้ใช้งานกดแชร์เนื้อหาแต่ยังไม่ได้เปิดเข้าไปอ่าน โดยข้อความจะแนะนำให้กดอ่านเนื้อหานั้นก่อนแชร์ แต่ก็มีตัวเลือกยืนยันให้แชร์หากต้องการ ซึ่งตัวแทนของ Facebook ระบุว่าการทดสอบนี้กำหนดไว้ที่ 6% ของกลุ่มผู้ใช้ Android ทั่วโลก
การแสดงข้อความเตือนการแชร์เนื้อหาที่ยังไม่ได้อ่านนี้ เหมือนกับที่ Twitter ทดสอบเมื่อปีที่แล้ว
ที่มา: @fbnewsroom ผ่าน The Verge
เฟซบุ๊กประกาศผลการประชุมของ Oversight Board ที่เฟซบุ๊กเคยให้อำนาจเป็นคนตัดสินใจว่าการแบนโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ โดย Oversight Board ยืนยันว่าจำเป็นเนื่องจากเหตุการณ์นอกจากที่เคยพบกันมาก (unprecedented circumstances)
อย่างไรก็ตาม Oversight Board วิจารณ์ว่าการแบนทรัมป์โดยไม่มีกำหนดเวลาเช่นนี้เป็นมาตรการที่คาดเดาไม่ได้ และไม่มีมาตรฐาน โดยขอให้เฟซบุ๊กปรับปรุงนโยบายเสียใหม่ แต่ระหว่างนี้ก็บัญชีของทรัมป์ก็จะถูกแบนต่อไป
ปีที่แล้ว มีคนไปเจอ Facebook ทดสอบใช้งาน Facebook Neighborhoods เป็นอีกฟีเจอร์แยกไว้รวมตัวคน ข่าวสารในละแวกเดียวกันกับที่อยู่อาศัย ล่าสุด Facebook ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เปิดทอดสอบ Neighborhoods ใน 4 เมืองในสหรัฐฯ (Charlotte, North Carolina; San Diego, California; Baton Rouge, Louisiana และ Newark, New Jersey) และแคนาดา
นอกจากนี้ Facebook ให้รายละเอียดเพิ่มว่า Neighborhoods จะเป็นอีกเซกชั่นแยก ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์แยกใน Neighborhoods ได้ โดยผู้ใช้งานต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
แอป Signal แอปแชทเข้ารหัสที่คล้ายคลึงกับ Telegram ลงโฆษณาบน Instagram เป็นรูปภาพระบุว่าผู้ใช้เห็นโฆษณานี้เพราะถูกเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เช่น “คุณเห็นโฆษณานี้เพราะคุณวิศวกรเคมีที่ชอบเคป็อป อาศัยอยู่ในเบอร์ลิน เพิ่งมีลูก เพิ่งย้ายบ้าน และกำลังสนใจการออกกำลังหลังคลอด”
โฆษณาเหล่านี้สะท้อนถึงการถูกเก็บข้อมูลเช่น อาชีพ ความชอบ ตำแหน่งที่อยู่ และความสนใจอื่นๆ ของ Facebook และ Instagram ที่ใช้ข้อมูลเดียวกันในการแสดงโฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมายมาให้ผู้ใช้งาน
Signal ระบุว่าบัญชีโฆษณาของ Signal ถูกแบนโดยที่โฆษณาส่วนใหญ่ยังไม่ได้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ และ Facebook ก็ยังไม่ชี้แจ้งว่า Signal ทำผิดกฎระเบียบข้อไหนของการลงโฆษณา
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกลับคืนสู่โลกออนไลน์อีกครั้งด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง หลังแพลตฟอร์มใหญ่แบนเขามาเรื่อยๆ ล่าสุดกลับมาแล้ว ซึ่งไม่ใช่โซเชียลมีเดียอย่างที่เราคาดกันไว้ แต่เป็นเพียงเว็บบล็อกเท่านั้น ในชื่อว่า From the Desk of Donald J. Trump
Facebook มีผลิตภัณฑ์ Facebook Workplace สำหรับใช้งานในองค์กร เป็นคล้ายๆ โซเชียลแต่เพื่อการทำงาน เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 ล่าสุด Facebook เผยตัวเลขผู้ใช้งานแบบเสียเงินมี 7 ล้านราย ซึ่ง Facebook ระบุว่าเพิ่มขึ้น 40% จากปี 2020
Facebook เริ่มปล่อยหน้าโปรโมตฟีเจอร์ app tracking เพื่อขอติดตามผู้ใช้ พร้อมทั้งชี้แจงประโยชน์เมื่อผู้ใช้อนุญาตให้แอปติดตาม หลังจากที่ Apple เริ่มจำกัดการติดตามผู้ใช้ของตัวแอปที่ผู้ใช้มีสิทธิ์เลือกจะให้แอปเก็บข้อมูลหรือไม่ก็ได้ ส่งผลให้ Facebook แสดงโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้น
นโยบายใหม่ของ Apple เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ iOS 14.5 ส่งผลโดยตรงต่อ Facebook และ Instagram ที่ทำธุรกิจด้วยการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้ Facebook จึงเริ่มแสดงข้อความแจ้งเตือนผู้ใช้ให้รับทราบถึงประโยชน์ในการอนุญาตให้ Facebook ติดตามผู้ใช้ ได้แก่ แสดงโฆษณาที่ตรงกับผู้ใช้, ช่วยให้ใช้ Facebook และ Instagram โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงสนับสนุนธุรกิจที่ใช้โฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
เฟซบุ๊กประกาศเข้าเป็นสมาชิก Rust Foundation มูลนิธิเพื่อการพัฒนาภาษา Rust ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยสมัครเป็นระดับแพลตตินั่มที่เป็นระดับสูงสุดเท่ากับ 5 องค์กรที่ร่วมก่อตั้ง คือ AWS, Google, Huawei, Microsoft, และ Mozilla
Joel Marcey หัวหน้าทีมโอเพนซอร์สของเฟซบุ๊ก และตอนนี้เป็นกรรมการ Rust Foundation ระบุว่ามีการใช้ภาษา Rust มาตั้งแต่ปี 2016 ในทุกส่วนของการพัฒนา ตั้งแต่ระบบควบคุมซอร์สโค้ดไปจนถึงคอมไพล์เลอร์
เฟซบุ๊กกำลังปรับโครงสร้างการพัฒนาภายในให้รองรับภาษา Rust มากขึ้น มีทีมพัฒนาภาษา Rust เฉพาะกิจเพื่อซัพพอร์ตการใช้งาน Rust ทั้งภายในและภายนอกบริษัท
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 48% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 26,171 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 9,497 ล้านดอลลาร์ รายได้หลักของ Facebook มาจากธุรกิจโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 46% ส่วนธุรกิจอื่น (Other) เติบโตถึง 146% เป็น 732 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้ง Oculus และ Portal
จำนวนผู้ใช้งานในแพลตฟอร์ม แบ่งเป็นเฉพาะ Facebook มีผู้ใช้งานประจำทุกวัน (DAUs) 1,878 ล้านคน (+8%), เป็นประจำทุกเดือน (MAUs) 2,853 ล้านคน (+10%) ส่วนจำนวนผู้ใช้งานรวมทุกบริการในเครือมีจำนวน 3.45 พันล้านคน (+15%)
ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งของ iOS 14.5 คือทำให้ Facebook ทำโฆษณาเจาะกลุ่มได้ยากขึ้น ล่าสุด Facebook เสนอแนวทางใหม่ในการทำเงิน ตัวซีอีโอ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และ Adam Mosseri หัวหน้า Instagram เผยว่าจะทำช่องทางเชื่อมต่อแบรนด์และครีเอเตอร์เข้าด้วยกันใน Instagram เป็นมาร์เกตเพลสสำหรับครีเอเตอร์เลย
เป็นไปตามที่ Facebook ให้ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย Spotify ประกาศความร่วมมือเพิ่ม miniplayer เพื่อเล่นเพลงหรือพอดคาสต์ผ่านแอป Facebook ได้ทันที โดยไม่ต้องออกไปที่แอป Spotify เป็นประโยชน์ทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้งาน Facebook จะแชร์เพลงต่าง ๆ ซึ่งโครงการนี้มีชื่อเรียกภายในว่า Boombox
ทั้งนี้ในการเล่น miniplayer ผ่านแอป Facebook ครั้งแรก ผู้ใช้งานต้องกดยืนยันการเชื่อมต่อ Spotify กับแอป Facebook ก่อน ตัว miniplayer จะเล่นเนื้อหาต่อเนื่อง แม้เราเลื่อนไปฟีดไปดูเนื้อหาอื่น ซึ่งสามารถควบคุมเล่นต่อหรือหยุดได้
จากการระบาดของ COVID-19 ในอินเดียรอบที่สองนี้ ทำให้มีคนวิจารณ์รัฐบาลอินเดียในโซเชียลมีเดียว่าไม่เตรียมรับมือการระบาด และมีบางส่วนเรียกร้องให้ Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดียลาออก
ล่าสุดมีข้อมูลจาก Lumen Database ซึ่งเผยแพร่คำขอให้ลบออกตามกฎหมายว่า รัฐบาลส่งคำขอไปยัง Twitter ให้ลบโพสต์วิจารณ์รัฐบาล จำนวน 52 โพสต์ รัฐบาลอินเดียออกมายืนยันแล้วด้วยว่าได้สั่งให้ Facebook และ Instagram และ Twitter ลบโพสต์ที่เห็นว่าอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน และขัดขวางกระบวนการรับมือโรคระบาด รวมๆ แล้วกว่าร้อยโพสต์
Facebook ประกาศทดสอบความเห็นผู้ใช้งานทั่วโลก เกี่ยวกับความรู้สึกเวลาเห็นโพสต์ใดๆ บนหน้าฟีด ซึ่ง Facebook จะนำผลสำรวจไปปรับอัลกอริทึมการแสดงเนื้อหาใหม่ โดย Facebook จะให้ตอบแบบสอบถามด้านล่างโพสต์ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับโพสต์นี้ โพสต์นี้สร้างแรงบันดาลใจหรือไม่ ในระดับใด