ช่วงหลัง Facebook มีประเด็นขัดแย้งเรื่องการเซ็นเซอร์รูปภาพและเนื้อหาอยู่บ่อยครั้ง อย่างการเซ็นเซอร์ภาพสงครามที่โพสต์โดยหนังสือพิมพ์ในนอร์เวย์ หรือกรณีล่าสุดคือเซ็นเซอร์วิดีโอกราฟิกรูป "นม" ที่ใช้ประชาสัมพันธ์เรื่องมะเร็งเต้านมสตรีของกลุ่ม Cancerfonden ในสวีเดน
สิ่งที่ Facebook ถูกวิจารณ์มีทั้งเรื่องบทบาทของบริษัทในการเซ็นเซอร์สื่อ และวิธีการเซ็นเซอร์ที่ไม่ยืดหยุ่นนัก (อะไรที่เกี่ยวกับภาพโป๊เปลือยจะโดนเซ็นเซอร์โดยไม่คำนึงถึงบริบท)
Facebook ได้ปรับอัลกอริทึมสำหรับการแสดงเนื้อหาบน News Feed เมื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้าลง โดย Facebook จะทำการจัดอันดับโดยใช้เกณฑ์ “เนื้อหาใหม่จากเซิร์ฟเวอร์และเนื้อหาที่ยังไม่ได้อ่านจากแคช” ซึ่ง Facebook บอกว่าจะทำให้โพสต์น่าสนใจต่อการอ่านมากขึ้น
ระบบการจัดอันดับโดยฝั่งไคลเอนท์จะใช้การประมวลผลจากสมาร์ทโฟน โดยจะแสดงแต่ข้อความได้เมื่ออินเทอร์เน็ตช้า และดาวน์โหลดภาพเมื่ออินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น Facebook บอกว่าเนื้อหานั้นยังไม่สำคัญจนกว่าสื่อที่เกี่ยวข้องจะถูกดาวน์โหลดมา
หากใครยังจำบริการ FB Newswire บริการข่าวห้องข่าวของ Facebook ซึ่งเป็นแหล่งรวมข่าว เปิดตัวมาตั้งแต่ 25 เมษายน 2014 ซึ่งมีหน้าที่สำหรับแชร์ข่าวด่วนและข่าวที่น่าสนใจจากสำนักข่าวทั่วโลกให้ติดตามข่าวกันได้ง่าย ๆ ผ่านเพจ FB Newswire และยังมีบัญชี Twitter ที่ชื่อว่า @FBNewswire ให้ติดตามกันด้วย
แม้การแสดงออกว่าคุณสนับสนุนใครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯบน Facebook จะเป็นเรื่องง่าย แต่ Facebook ก็ยังเปิดฟีเจอร์ Endorse ออกมาเงียบๆ ให้ผู้ใช้โพสต์แสดงออกมาว่าคุณสนับสนุนใครระหว่าง โดทัลด์ ทรัมป์ และฮิลลารี คลินตัน (ถ้าคุณกล้าพอจะโพสต์) ได้อย่างชัดเจนกว่าเดิม
Facebook ได้เริ่มทดสอบแอพเวอร์ชันเบต้าใหม่บน Android ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ Data Saver เพื่อช่วยประหยัดข้อมูลให้ผู้ใช้ โดยเปลี่ยนวิธีที่แอพดาวน์โหลดสื่อหรือคอนเทนต์ใด ๆ ที่ผู้ใช้ได้รับ เช่น รูปและวิดีโอ
ปัจจุบันนี้ Messenger จะดาวน์โหลดทุกอย่างที่ผู้ใช้ได้รับมา โดยไม่ได้สนใจขนาด หรือว่าผู้ใช้จะเห็นคอนเทนต์นั้น ๆ หรือไม่ แต่เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์นี้แล้ว ผู้ใช้จะสามารถแตะเพื่อสั่งให้ดาวน์โหลดคอนเทนต์ที่ต้องการเห็นได้ (แต่ข้อความปกติจะยังคงดาวน์โหลดโดยอัตโนมัติเหมือนเดิม)
นอกจากนี้ แอพเวอร์ชันเบต้ายังมีฟีเจอร์นับปริมาณข้อมูลว่าผู้ใช้ได้ใช้ข้อมูลไปเท่าไร และสามารถรีเซ็ทได้เมื่อต้องการ
จากกรณีที่ Facebook ระงับการแสดงผลโฆษณาชั่วคราวในประเทศไทย และคาดว่าจะกลับมาแสดงผลอีกครั้งใน 3-7 วัน (ประมาณวันที่ 20 ตุลาคม) ในวันนี้ Facebook แก้ประกาศใหม่จาก 3-7 วัน เป็น ไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
เงื่อนไขอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม ผู้ลงโฆษณาในไทยยังสามารถลงโฆษณาเพื่อแสดงผลนอกพื้นที่ประเทศไทยได้ตามปกติครับ
ที่มา - Facebook Business
โครงการ Facebook Bug Bounty ได้ประกาศว่า ในช่วงระยะเวลา 5 ปีของโครงการ bug bounty ของบริษัทได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 5 ล้านดอลลาร์ ให้นักวิจัยและผู้รายงานบั๊กกว่า 900 คน
Joey Tyson วิศวกรด้านความปลอดภัยของ Facebook ได้กล่าวว่าโครงการนี้จะไม่สำเร็จได้เลยถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากนักวิจัยความปลอดภัยในวงกว้าง
Facebook นั้นไมไ่ด้เปิดเผยว่าได้รับรายงานบั๊กเป็นจำนวนเท่าไรใน 5 ปีตั้งแต่เริ่มโครงการ โดยบอกเพียงแค่ครึ่งปีแรกที่มีรายงาน 9 พันครั้ง ซึ่งนักวิจัยจากประเทศอินเดีย, สหรัฐฯ และเม็กซิโกเป็นสามประเทศแรกที่มีนักวิจัยได้เงินจาก Facebook รวมแล้วเป็นจำนวนมากที่สุด
Facebook ประกาศว่าทางบริษัทจะออกอัพเดตทั้งแอพและเว็บ เพื่อเพิ่มความสามารถให้สตรีมวิดีโอไปยัง Apple TV หรือ Chromecast รวมถึงอุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay และ Google Cast ได้แล้ว
สำหรับวิธีดู Facebook บนทีวี คือเมื่อเปิดวิดีโอบน Facebook แล้วจะเห็นปุ่มทีวีทางมุมล่างขวา ให้กดปุ่มทีวีและเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการสตรีมไปได้เลย Facebook ก็จะสตรีมวิดีโอไปที่อุปกรณ์นั้นทันที โดยสามารถสตรีมได้ทั้งวิดีโอปกติและ Facebook Live
ขณะที่กำลังสตรีมวิดีโอจาก Facebook บนทีวีนั้น ผู้ใช้สามารถย้อนกลับและดู News Feed ไปได้ขณะที่วิดีโอยังเล่นอยู่บนทีวี โดยถ้าเกิดดูวิดีโอผ่าน Facebook Live ก็จะแสดง reactions รวมถึงคอมเม้นท์บนจอได้ด้วย
เฟซบุ๊กประกาศในหน้าศูนย์ช่วยเหลือผู้ลงโฆษณา ว่า ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่าได้ปิดการเผยแพร่โฆษณาในประเทศไทย เนื่องจากอยู่ในช่วงไว้อาลัย โดยเบื้องต้น เฟซบุ๊กไม่ทราบระยะเวลาของการไว้อาลัย แต่คาดการณ์ว่าจะหยุดการเผยแพร่โฆษณาประมาณ 3-7 วัน
เฟซบุ๊กประกาศเพิ่มเติมว่าโฆษณาจะยังสามารถเผยแพร่ตามปกติในประเทศอื่นๆ และผู้ลงโฆษณาในประเทศไทยจะยังสามารถเผยแพร่สู่ประเทศอื่นๆ ได้
กูเกิลประกาศจับมือกับเฟซบุ๊ก และบริษัทเคเบิล Pacific Light Data Communication และ TE Subcom ลาสายเคเบิลใต้น้ำ เชื่อมทวีปอเมริกาเหนือกับเอเชียเข้าด้วยกัน
สายเคเบิลเส้นนี้มีชื่อว่า Pacific Light Cable Network (PLCN) เชื่อมต่อตรงระหว่างลอสแองเจลิสและฮ่องกง ความยาว 12,800 กิโลเมตร มีศักยภาพส่งข้อมูลได้ 120 Tbps ถือว่าสูงที่สุดในสายเคเบิลข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมด (เจ้าของสถิติเดิมคือเคเบิล Faster ที่กูเกิลร่วมสนับสนุน ส่งข้อมูลได้ 60 Tbps)
ก่อนหน้านี้ กูเกิลเข้าไปลงทุนในสายเคเบิลใต้ทะเลมาแล้ว 5 โครงการคือ Unity, SJC, FASTER, MONET, Tannat ส่วนโครงการ PLCN นี้จะเริ่มเปิดบริการในปี 2018
ที่มา - Google Cloud Platform Blog
เฟซบุ๊ก, กูเกิล, Exponent, Tilde ร่วมมือกันสร้างระบบจัดการแพ็กเกจสำหรับจาวาสคริปต์ใหม่ เรียกว่า Yarn โดยจะมีข้อดีเพิ่มเติมกว่าระบบจัดการแพ็กเกจอื่น เช่น
Yarn รองรับแพ็กเกจจากทั้ง npm และ Bower
ที่มา - Facebook Code, Yarn
Facebook ได้เริ่มทดสอบการโฆษณาบน Groups แล้ว ทั้งบนอุปกรณ์พกพาและเดสก์ท็อปทั้งในออสเตรเลีย, แคนาดา, ไอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ โดยลักษณะโฆษณาของ Facebook Groups จะมีลักษณะคล้ายกับโฆษณาบน News Feed ซึ่งเป้าหมายในการโฆษณาก็จะเป็นหัวข้อหลักของ Groups
ทางโฆษกของ Facebook ก็ได้ยืนยันกับ TechCrunch ถึงเรืองนี้ว่าได้เริ่มทดสอบโฆษณาบน Facebook Groups แล้วจริง ๆ ซึ่งทางบริษัทกำลังเก็บผลตอบรับเพื่อมาประเมินต่อไป
มาตามนัด Facebook at Work บริการโซเชียลสำหรับการทำงาน เปิดตัวอย่างเป็นทางการในชื่อใหม่ Workplace by Facebook
Workplace by Facebook เปิดบริการมาก่อนแล้วใน 5 ประเทศ และมีองค์กรใช้งานกว่า 1,000 ราย ตอนนี้ Workplace เปิดบริการแก่องค์กรทุกรายที่ต้องการใช้งาน โดยคิดราคาตามจำนวนผู้ใช้งานจริง (monthly active users) เริ่มต้นที่ 3 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน และถ้ามีผู้ใช้มากกว่า 10,000 ราย ราคาจะเหลือเพียง 1 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน สำหรับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานไม่หวังผลกำไร สามารถใช้งานได้ฟรี
Facebook ได้เปิดตัวแอพใหม่ชื่อว่า Events โดยออกแบบมาเพื่อใช้งานฟีเจอร์ Events ของ Facebook โดยเฉพาะ ให้สามารถค้นหาและจัดการอีเว้นท์ได้สะดวกยิ่งขึ้น
แอพ Events เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วจะแสดงอีเว้นท์ที่เพื่อนกำลังสนใจอยู่, อีเว้นท์จากเพจที่ไลค์ และการอัพเดตอีเว้นท์ที่คุณสนใจ สามารถดูการแนะนำอีเว้นท์โดยขึ้นกับเวลา สถานที่ และความสนใจได้ หรือค้นหาอีเว้นท์ก็ได้ โดยเมื่อค้นหาอีเว้นท์จะแสดงแผนที่แบบ interactive เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น
อีเว้นท์ทั้งหมดที่กำลังจะมาถึงจะถูกเก็บไว้ในปฏิทินของตัวแอพ ผู้ใช้สามารถเข้าไปดูได้ว่าจะมีอีเว้นท์มาเมื่อไร เพื่อทำให้ง่ายต่อการจัดตารางเวลา
บริการ Free Basics ซึ่งเป็นการให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรีผ่านพาร์ทเนอร์เป็นสิ่งที่ Facebook กำลังผลักดันให้เกิดขึ้น และล่าสุดตอนนี้ทางบริษัทเตรียมจะเปิดให้บริการนี้ในสหรัฐแล้ว โดย The Washington Post รายงานว่า ตอนนี้ Facebook กำลังพูดคุยกับรัฐบาลสหรัฐเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดียวกับที่เคยเกิดในอินเดียและอียิปต์
สำหรับบริการ Free Basics ในสหรัฐฯ ยังไม่แน่ชัดว่าจะออกมาในรูปแบบไหน และจะมีอะไรให้ผู้ใช้บ้าง ซึ่งจากรายงานบอกว่า Facebook ไม่ได้เข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง AT&T หรือ T-Mobile แต่จะไปเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการรายเล็ก ๆ แทน
ฟีเจอร์หนึ่งของ Facebook ที่ฮิตกันแบบเงียบๆ คือการตั้ง Groups ขึ้นมาเพื่อซื้อขายสินค้าระหว่างผู้ใช้ ส่งผลให้ล่าสุด Facebook ต่อยอดความนิยมนี้อย่างจริงจัง (สถิติของบริษัทคือมีคนซื้อขายผ่าน Groups มากถึง 450 ล้านคนต่อเดือน) โดยเปิด Facebook Marketplace ขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
แอพ Facebook จะมีแท็บ Marketplace โผล่เพิ่มมาอีกหนึ่งอัน ผู้ใช้สามารถเลือกดูหมวดสินค้า ค้นหาสินค้า และประกาศขายสินค้าได้ง่ายๆ จุดเด่นอีกอย่างคือสามารถดูได้ว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ขายอยู่ใกล้ๆ กับเรา (Items for Sale Near You) เพื่อให้สะดวกกับการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย
หลังเคยออก Facebook Lite สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สเปคต่ำ ล่าสุดเฟซบุ๊กขยายบริการในลักษณะเดียวกันไปยังแพลตฟอร์มแชทของตัวเองอย่าง Messenger Lite แล้วด้วยขนาดแอพเพียง 10MB
เป้าหมายของ Messenger Lite ไม่แตกต่างจาก Facebook Lite คือสำหรับกลุ่มประเทศที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตยังไม่มาก ค่าใช้จ่ายดาต้าค่อนข้างสูงและกำลังซื้อสมาร์ทโฟนสเปคแรงๆ ไม่ค่อยสูงนัก โดยความสามารถของ Messenger Lite นอกจากส่งข้อความแล้ว สามารถส่งได้เพียงรูป ลิงก์และสติ๊กเกอร์เท่านั้น
เบื้องต้น Messenger Lite เปิดให้ดาวน์โหลดในเคนยา ตูนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกาและเวเนซูเอลาก่อนเท่านั้น ก่อนที่จะขยายไปยังประเทศอื่นต่อไป
Facebook ได้เริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ของ Messenger โดยใช้ชื่อฟีเจอร์ว่า Messenger Day เป็นฟีเจอร์ที่คล้ายกับ Stories ของ Snapchat และ Instagram คือจะให้ผู้ใช้โพสต์ภาพหรือวิดีโอที่ใส่ฟิลเตอร์, วาดเขียนลงบนภาพ และโพสต์ไว้ในส่วนที่เรียกว่า My Day ใน Messenger โดยภาพที่โพสต์ไว้นี้จะหายไปใน 24 ชั่วโมง
TechCrunch ได้สอบถามไปยัง Facebook ถึงการทดสอบฟีเจอร์นี้ โดยทางบริษัทก็ยืนยันว่าได้ทดสอบฟีเจอร์นี้กับผู้ใช้กลุ่มเล็ก ๆ ในประเทศโปแลนด์จริง
ฟีเจอร์ Messenger Day นี้มี Share Suggestion Filters ซึ่งใช้กราฟิกฟิลเตอร์มาแนะนำว่าอะไรที่จะแชร์เป็นจุดขายอย่างหนึ่งที่ทำให้ตัวฟีเจอร์นี้ต่างจาก Snapchat ที่จะมีเพียง geofilter ซึ่งเป็นฟิลเตอร์สำหรับเหตุการ์สำคัญหรือฟิลเตอร์เฉพาะสถานที่เท่านั้น
Mark Zuckerberg ได้โพสต์ว่านับตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป เจ้าตัวจะเริ่มโพสต์ภาพเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทางเฟซบุ๊กกำลังพัฒนาอยู่ทั่วโลก โดยภาพชุดแรกเป็นภาพของศูนย์ข้อมูลในเมือง Luleå ทางตอนเหนือขอสวีเดน ซึ่งอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือราว 112 กิโลเมตร
ศูนย์ข้อมูลที่เมือง Luleå มีขนาดเทียบเท่าสนามฟุตบอล 6 สนาม เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 2013 และเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกของเฟซบุ๊กนอกสหรัฐ โดยซีอีโอเฟซบุ๊กระบุว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ใช้พลังงานจากแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ติดตั้งอยู่ใกล้ๆ และใช้ความเย็นตามธรรมชาติในการช่วยลดอุณหภูมิเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ศูนย์ข้อมูลในเมือง Luleå ใช้พลังงานน้อยกว่าศูนย์ข้อมูลทั่วไปถึง 40%
Facebook, Amazon, Google, IBM และ Microsoft ประกาศจับมือก่อตั้งองค์กรความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ในชื่อ Partnership on Artificial Intelligence to Benefit People and Society (Partnership on AI) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่เปิดพื้นที่ให้หน่วยงานพัฒนา AI ได้ทำวิจัยและแบ่งปันคำแนะนำ รวมถึงรายงานการวิจัยภายใต้สิทธิบัตรเปิดในด้านต่างๆ ร่วมกัน
Facebook at Work เปิดทดลองใช้งานมาตั้งแต่ต้นปี 2015 และมีข่าววงในมาว่าบริษัทเตรียมเปิดให้ใช้งานในวงกว้างในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
Facebook at Work เป็นบริการโซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับการทำงาน (กลุ่มเป้าหมายเหมือน LinkedIn หรือ Yammer) รูปแบบการใช้งานจะเหมือน Facebook รุ่นปกติทุกประการ เพียงแต่เราจะเห็น "Work Feed" โพสต์จากเพื่อนร่วมงานแทนที่จะเป็นเพื่อนในระบบปกติ นอกจากนี้ยังมีบริการ Events, Groups และ Messenger สำหรับการใช้เรื่องงานแยกต่างหากด้วย จุดเด่นที่สำคัญของ Facebook at Work คงเป็นว่าแทบทุกคนใช้ Facebook กันเป็นอยู่แล้ว ไม่ต้องเรียนรู้อะไรกันใหม่
ก่อนหน้านี้ WhatsApp อัพเดตนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ พ่วงเบอร์โทรศัพท์ไปใช้กับ Facebook ได้ ในทางหนึ่งเพื่อสามารถทำธุรกิจด้านโฆษณาได้ นโยบายใหม่นี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากเรื่องความปลอดภัย ล่าสุดประเทศเยอรมนีออกโรงไม่รับนโยบายนี้แล้ว
กรรมาธิการการป้องกันข้อมูลที่เมืองฮัมบูร์กมีคำสั่งให้ Facebook หยุดการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ WhatsApp ในเยอรมนีไปพ่วงกับ Facebook และยังเรียกร้องให้ Facebook ลบข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้ชาวเยอรมันที่ทำการพ่วงต่อไปแล้วประมาณ 35 ล้านคนออกด้วย
ความลับสวรรค์อาจถูกเปิดเผยก็คราวนี้ เมื่อมีแอพรายหนึ่งที่ชื่อ FriendSwipe ที่ทำหน้าที่บอกว่ามีเพื่อนของคุณในบัญชี Facebook ของคุณ ใช้แอพหาคู่อย่าง Tinder อยู่บ้าง และสามารถเข้าไปดูโพรไฟล์ของเขาและเธอได้แบบไม่แยกเพศ แถมยังปัดซ้ายและขวาเตรียมไว้ก่อนได้ด้วย แม้จะไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกันก็ตามที
แอพนี้มีบน iOS ก่อน ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี ผู้เขียนลองแล้วพบว่าแอพค้างบ่อยมากครับ และได้เห็นคำแนะนำตัวเองพร้อมภาพประกอบของเพื่อนแต่ละคนที่เหนือความคาดหมายมากๆ
ที่มา - FriendSwipe
Facebook ออกมาเปิดเผยในหน้า Advertiser Help Center ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลสำหรับผู้ลงโฆษณาบน Facebook ระบุว่า ตัววัดผล (Metric) ของโฆษณาแบบวิดีโอคือ ค่าเฉลี่ยระยะเวลาที่วิดีโอถูกรับชม (Average Duration of Video Viewed) นั้นเป็นการคำนวณที่ไม่ถูกต้อง โดย Facebook ได้แก้ไขวิธีการคำนวณค่าดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่มีผลกระทบกับเงินที่เรียกเก็บไปก่อนหน้านี้
Facebook Messenger ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้ iOS และ Android ในสหรัฐสองอย่าง และจะขยายให้ประเทศอื่นถ้าเกิดการทดสอบได้ผลตอบรับที่ดี
ฟีเจอร์แรกคือ การสร้างโพลล์ในแชทกลุ่ม เพื่อความสะดวกในการถามความเห็นในการวางแผนต่าง ๆ เช่น หากต้องการถามความเห็นคนในกลุ่มแชทว่าต้องการไปกินซูชิหรือพิซซ่า เพียงตั้งโพลล์แล้วให้คนในกลุ่มโหวตเลือกว่าต้องการกินอะไร
ถัดไปคือฟีเจอร์ตรวจสอบคำทวงเงิน คือเมื่อผู้ใช้ได้รับข้อความทวงเงิน เช่น You owe me $10 หรือ Send me $18 for dinner จะแสดงปุ่มด้านล่างให้ผู้ใช้กดจ่ายเงินให้อีกฝ่ายได้ทันที ซึ่งจะเป็นการใช้ฟีเจอร์จ่ายเงินภายใน Facebook Messenger เอง โดยการตรวจสอบคำทวงเงินนี้ Facebook ใช้ machine learning ในการค้นหาข้อความดังกล่าว