รายงานบั๊กล่าสุดของเฟซบุ๊ก พบว่ากระบวนการรายงานขอให้ลบรูปสามารถใช้ไปลบรูปใครก็ได้ ด้วยการสร้างบัญชีผู้ใช้ขึ้นมาสองบัญชี แล้วสร้างข้อความแจ้งขอให้ลบรูปไปยังบัญชีที่สร้างขึ้นมา จากนั้นจึงนำหมายเลขประจำรูปของใครก็ได้มาใส่แทน

เมื่อส่งข้อความขอลบรูปไปแล้ว กระบวนการของเฟซบุ๊กจะส่งข้อความแจ้งไปยังบัญชีปลายทางว่ามีผู้ต้องการลบโพสของเราเข้ามา และให้เราเลือกได้ว่าจะยอมลบตามที่แจ้งมาหรือไม่

แต่เฟซบุ๊กกลับไม่ได้ตรวจสอบว่าหมายเลขโพสที่แจ้งไปนั้นเป็นบัญชีของผู้ใช้ที่ถูกแจ้งจริงหรือไม่ เราจึงสามารถหมายเลขประจำรูปภาพใดๆ ก็ได้ไปสร้าง URL แจ้งลบ แล้วล็อกอินด้วยอีกบัญชีที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อยืนยันขอลบภาพ

ข่าวดีสำหรับผู้ที่ยังใช้ Windows Phone 7 ครับ หลังจากที่ต้องรอแอพ Facebook ตัวใหม่ที่มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งด้านหน้าตาและฟีเจอร์ตามสัญญากันมานาน ในวันนี้แอพดังกล่าวได้ถูกส่งขึ้นสโตร์เรียบร้อยแล้ว

โดย Joe Belfiore หัวหน้าทีม Windows Phone ได้ออกมาทวีตว่าแอพ Facebook ตัวใหม่สำหรับ WP7 น่าจะสามารถออกตัว beta ได้ภายในเดือนสิงหาคมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และในวันนี้ (สิ้นเดือนพอดี = =") เขาก็ได้ทวีตสั้นๆ อีกครั้งยืนยันว่าได้ส่งแอพขึ้นสโตร์ไปแล้ว

เฟซบุ๊กร่วมมือกับ Unity ออก SDK รุ่นทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ รองรับ แอนดรอยด์, iOS, และเว็บ (ผ่าน Unity Web Player) เพิ่มความสามารถในการเชื่อมเกมเข้ากับเฟซบุ๊ก

ตัว SDK มีสองความสามารถหลัก คือ การพอร์ตเกมบนโทรศัพท์และแท็บเล็ตมายังเว็บ โดยตอนนี้มีผู้ผลิตบางรายเช่น Madfinger หรือ Cmune เริ่มใช้ฟีเจอร์นี้แล้ว อีกความสามารถคือการเชื่อมต่อผู้เล่นเข้ากับเฟซบุ๊ก ระหว่างเล่นเกมไม่ว่าบนแพลตฟอร์มใดๆ ก็ยังแชร์จากในเกมได้โดยไม่ต้องออกจากเกม เช่น การแชร์ว่าเราผ่านด่านใหม่

ตัว SDK ใช้ภาษา C# เท่านั้น

ที่มา - Facebook Developer

ฟีเจอร์ Make Shared Album เป็นที่น่าสนใจสำหรับคอแชร์ภาพมากๆ เพราะสามารถเป็นเจ้าของอัลบั้มรูปภาพได้มากกว่า 1 คน ตอนนี้เปิดให้ใช้งานได้ในประเทศไทยแล้ว

หากต้องการแชร์รูปภาพก็เพียงแค่กด Make Shared Album เท่านี้อัลบั้มของเราก็จะมีผู้ร่วมในการแก้ไขอัลบั้มรูปด้วย เราจะเรียกเขาว่า "คอนทริบิวเตอร์" (contributor) ซึ่งจะสามารถทำได้แค่เพิ่มรูปภาพ ไม่สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ ใน 1 อัลบั้มสามารถเพิ่มคอนทริบิวเตอร์ได้ 50 คน เพิ่มได้ 200 รูปต่อคน

ก่อนหน้านี้หากจะทำกิจกรรมหรือโปรโมชันใดๆ บน Facebook จะต้องทำผ่านแอพเท่านั้น แต่ตอนนี้ Facebook อนุญาตให้แบรนด์หรือเพจใดๆ ก็ตามทำโปรโมชันผ่านหน้าเพจได้อย่างเสรี ไม่ว่าจะเป็น

• การเก็บข้อมูลผ่านการโพสต์หน้าวอลล์โดยผู้ใช้
• การเก็บข้อมูลการกดไลค์โพสต์ของเพจ
• การใช้ระบบข้อความของเพจ
• การใช้ปุ่มไลค์แทนการโหวต

โดยทั้งหมดต้องทำผ่านเพจเท่านั้น และยังไม่อนุญาตให้ใช้ระบบแท็กมาเป็นเครื่องมือในการทำกิจกรรม

ที่มา - Facebook for Business

Facebook ออกรายงาน Global Government Requests Report เปิดเผยสถิติการขอข้อมูลผู้ใช้จากรัฐบาลทั่วโลก ระหว่างครึ่งแรกของปี 2013

สำหรับกรณีของประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐไทยยื่นขอข้อมูลทั้งหมด 2 ครั้ง นับจำนวนผู้ใช้รวม 5 บัญชี ซึ่งก็ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ (สหรัฐอเมริกาขอ 11,000-12,000 ครั้ง รวม 20,000-21,000 บัญชี)

Facebook เปิดเผยเฉพาะสถิติรวมของแต่ละประเทศเท่านั้น ไม่ได้แยกย่อยว่าหน่วยงานที่ขอคือหน่วยงานใด และขอข้อมูลผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง

ที่มา - Facebook

Facebook ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เรียกว่าการแชร์อัลบั้มภาพ (shared photo albums) โดยผู้ใช้สามารถช่วยกันอัพโหลดรูปถ่ายลงไปในอัลบั้มเดียวกันได้ ซึ่งหนึ่งอัลบั้มสามารถมีผู้ร่วมแชร์ (contributors) ได้สูงสุด 50 คน แต่ละคนสามารถอัพโหลดได้ 200 รูป

ในส่วนการกำหนดความเป็นส่วนตัวของอัลบั้มนั้นมี 3 ระดับคือสาธารณะ, เพื่อนของ contributors และเฉพาะกลุ่ม contributors ด้วยกันเอง โดยสิทธิ์สูงสุดอยู่ที่ผู้สร้างอัลบั้ม สามารถแก้ไขหรือลบได้ทุกรูป ส่วน contributor แต่ละคนจะจัดการได้เฉพาะรูปของตัวเอง

ในมุมมองของคนทั่วไป เว็บไซต์ Social Network เช่น Facebook, Twitter ฯลฯ สร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์สร้างสังคมบนโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างกว้างขวางและสะดวกสบาย แต่พักหลังๆ งานวิจัยหลายชิ้นก็เผยผลการศึกษาที่ระบุถึงผลกระทบในแง่ลบของเว็บไซต์เหล่านี้ เช่น คนใช้ Facebook กับอาการหลงตัวเองมีความสัมพันธ์กัน, หรือ คนใช้ Facebook มากๆ มีความสุขและความพึงพอใจในชีวิตน้อย เป็นต้น

Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึมของ News Feed เพื่อแก้ปัญหา "โพสต์คุณภาพต่ำ" (low quality content) รก Timeline ของผู้ใช้

อัลกอริทึมนี้ประเมินค่าคุณภาพของโพสต์จากปัจจัยกว่า 1,000 ชนิด ตัวอย่างที่ Facebook เปิดเผยคือ

• เนื้อหาจากเพจนั้นๆ ถูกผู้ใช้สั่งซ่อน (hide) บ่อยแค่ไหน
• ข้อมูลโพรไฟล์ของเพจมีความครบถ้วนแค่ไหน
• แฟนของเพจนั้นๆ มีความทับซ้อนกับแฟนของเพจที่รู้ว่ามีคุณภาพแค่ไหน

ผลของอัลกอริทึมใหม่นี้ Facebook พบว่าผู้ใช้มีอัตราการปฏิสัมพันธ์ (ไลค์-คอมเมนต์-แชร์) เยอะขึ้น และซ่อนเนื้อหาน้อยลง

Facebook ประกาศปรับปรุงระบบ Facebook Login เสียใหม่ จากของเดิมที่แอพจะขอสิทธิการล็อกอิน + สิทธิอื่นๆ ในการเข้าถึงโพรไฟล์ไปพร้อมๆ กัน ก็จะแยกเป็นการขอสิทธิล็อกอิน และแยกหน้าการขอสิทธิโพสต์บนหน้าวอลล์ของผู้ใช้เป็นอีกหน้าหนึ่ง

นโยบายใหม่นี้ทำให้ผู้ใช้ไม่ถูกแอพสแปมหน้าวอลล์ เพราะสามารถอนุญาตเฉพาะสิทธิล็อกอินแล้วกด Skip ตอนแอพขอสิทธิโพสต์หน้าวอลล์ได้ นอกจากนี้ Facebook ยังระบุว่าการแยกส่วนของการโพสต์ออกมายังช่วยให้ Facebook Login บนมือถือทำงานได้เร็วขึ้น 31% ด้วย

Facebook โฆษณาว่าปัจจุบันมีผู้ใช้ล็อกอินผ่านแอพมือถือด้วย Facebook Login เดือนละ 850 ล้านครั้ง และแอพยอดนิยม 81 ตัวใน 100 อันดับ top grossing ของ iOS (62 ตัวในฝั่ง Android) ก็รองรับระบบ Facebook Login เรียบร้อยแล้ว

Facebook อัพเดต SDK for Android รุ่นใหม่เวอร์ชัน 3.5 (ตามหลัง SDK for iOS ที่ออกมาได้สักระยะแล้ว) โดยปรับปรุงฟีเจอร์หลายอย่าง

จากข่าว Facebook เปิดตัว Embed Post วันนี้ทางบริษัทก็ประกาศว่าเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถฝังโค้ดของโพสต์บนเว็บเพจได้แล้ว (จำเป็นต้องเป็นโพสต์ที่ตั้งค่า public)

Facebook ยังเพิ่มการเล่นวิดีโอ (ในกรณีที่โพสต์นั้นเป็นวิดีโอ), ปุ่ม Embed Post ในโพสต์ที่ถูกฝังบนเว็บอื่น, ปรับปรุงการแสดงผลบนมือถือให้เหมาะกับการสัมผัสด้วยนิ้วมากขึ้น

ว่าแล้วก็ทดสอบกันด้วยโพสต์ของ Mark Zuckerberg ครับ

ที่มา - Facebook Developers

Mark Zuckerberg ประกาศโครงการใหม่เพื่อการกุศลในชื่อ Internet.org มุ่งดำเนินงานเพื่อให้ผู้คนที่ยากไร้ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตกันได้ง่ายขึ้น และทั่วถึงยิ่งขึ้น

นอกจาก Facebook ภายใต้การนำของ Zuckerberg ผู้ผลักดันโครงการนี้แล้ว ยังมีบริษัทไอทีอีก 6 รายที่ร่วมให้การสนับสนุนโครงการ Internet.org นี้ด้วย ได้แก่ Samsung, Nokia, Qualcomm, Ericsson, Opera และ Mediatek โดยทั้ง 7 บริษัทจะร่วมกันวางแผนและดำเนินงานในการขยายโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้แก่ประชากรโลกอีกราว 5 พันล้านคน (หรือ 2 ใน 3 ของประชากรโลกทั้งหมด) จากที่ในปัจจุบันนี้มีผู้ที่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตได้ราว 2.7 พันล้านคนเท่านั้น

จากข่าว เจอบั๊กวอลล์ Facebook แต่บริษัทไม่สนใจ เลยโพสต์ลงหน้าวอลล์ Zuckerberg ซะเลย ที่จบลงด้วยนาย Khalil ไม่ได้รับเงินรางวัล 500 ดอลลาร์จาก Facebook เพราะทำผิดเงื่อนไข

ด้านนาย Khalil ก็ให้สัมภาษณ์หลังจากนั้นว่าเขาผิดหวังที่ไม่ได้เงินรางวัล เพราะเขาตกงานมา 2 ปีแล้ว และเขาก็สามารถขายช่องโหว่นี้ให้กับแฮ็กเกอร์สายมืดได้ในราคาที่แพงกว่า 500 ดอลลาร์มาก แต่เขาก็เลือกจะไม่ทำเพราะเขาเชื่อมั่นในความดี (I'm a good guy)

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจากปาเลสไตน์ชื่อ Khalil ค้นพบช่องโหว่ของ Facebook ที่ทำให้เราโพสต์ข้อมูลบนหน้าวอลล์ของผู้ใช้คนใดก็ได้ เขาแจ้งข้อมูลช่องโหว่นี้ไปยังทีมความปลอดภัยของ Facebook แต่ทางทีมกลับบอกว่า "นี่ไม่ใช่บั๊ก" แม้ Khalil ยินดีจะสาธิตการทำงานของบั๊กก็ตาม

Khalil ไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงใช้ช่องโหว่ที่ค้นพบนี้โพสต์ข้อมูลบนหน้าวอลล์ของ Mark Zuckerberg มันเสียเลย ในโพสต์ของ Khalil เริ่มจากการขอโทษ Zuckerberg ที่บุกรุกความเป็นส่วนตัว ก่อนจะรายงานปัญหาและอธิบายว่าเขาแจ้งผ่านทีมความปลอดภัยแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง

ข่าวนี้เป็นเวอร์ชันขยายความของข่าว Facebook ปรับอัลกอริทึมในการดึงเรื่องราวมาแสดงใน News Feed นะครับ

Lars Backstrom วิศวกรของ Facebook ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Marketing Land ถึงความเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม News Feed (ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของบริการเลย) จากเดิมที่ใช้อัลกอริทึมซึ่งมีชื่อเล่นว่า EdgeRank ก็เปลี่ยนมาใช้อัลกอริทึมตัวใหม่ที่ซับซ้อนกว่าเดิมมาก (ตัวใหม่นี้ไม่มีชื่อเรียกแล้ว)

เดิมที EdgeRank พิจารณาปัจจัย 3 ประการสำคัญในการเลือกโพสต์มาแสดงบน News Feed ได้แก่

Facebook เป็นเครือข่ายสังคมที่เชื่อมโยง "ความสัมพันธ์" ของผู้คนและวัตถุต่างๆ ซึ่งบริษัทได้ออกแบบแพลตฟอร์ม Open Graph มารองรับฟีเจอร์นี้ (ข่าวเปิดตัวเมื่อปี 2010) ระยะหลัง Facebook จึงมองข้อมูลต่างๆ ในระบบของตัวเองเป็น "กราฟ" (ในความหมายทางคณิตศาสตร์ ไม่ใช้กราฟเส้นแบบราคาหุ้นนะครับ) ไปซะเยอะ

ล่าสุด Facebook ออกมาอธิบายสถาปัตยกรรมเบื้องหลัง Open Graph ที่สามารถประมวลผลข้อมูลกราฟขนาดมหาศาล (Facebook มองไกลถึงระดับ "ล้านล้าน" ความสัมพันธ์)

ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ของ Facebook ชื่อ Peter Deng ได้ลาออกจาก Facebook เพื่อที่จะไปรับตำแหน่งเดียวกันที่ Instagram โดยผลงานของ Peter Deng ใน Facebook นั้น ได้อยู่เบื้องหลังการปล่อย News Feed, ระบบข้อความ รวมไปถึงการอยู่เบื้องหลังของระบบ Facebook Chat Heads ที่สามารถใช้ได้ทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS

Peter Deng ได้เข้าทำงานที่ Facebook ตั้งแต่ปี 2007 รวมเวลาทำงานให้ Facebook ก็กว่า 6 ปี เป็นที่น่าสนใจว่าการย้ายที่ทำงานจาก Facebook ไป Instagram นั้น จะทำให้ระบบนิเวศของ Instagram เหมือนหรือแตกต่างจาก Facebook หรือไม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปในอนาคต

มีรายงานว่า Facebook กำลังพัฒนาแอพที่ใช้ได้เฉพาะผู้มีชื่อเสียง (หรือที่เรียกกันว่า "เซเล็บ" นั่นเอง) โดยมีฟีเจอร์ที่จะทำให้กลุ่มผู้ใช้ดังกล่าวสามารถดูสิ่งที่แฟนๆ พูดคุย รวมไปถึงเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านอุปกรณ์พกพาต่างๆ โดยยังอยู่ในช่วงของการทดสอบในผู้ใช้กลุ่มจำกัดและพาร์ตเนอร์

ทั้งนี้ ลักษณะการทำงานของแอพประมาณนี้ Twitter เคยทำมาก่อนแล้วในรูปของแอพ Twitter Music

ที่มา - All Things D

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในแอพเวอร์ชัน 6.4 คือ

• ค้นหาโพสต์ที่ใช้แฮชแท็กได้แล้ว
• สามารถจองร้านอาหารได้โดยตรงบนเพจ (เฉพาะในอเมริกา)
• หน้าไทม์ไลน์บน iPad สะอาด สวยงาม และโหลดเร็วขึ้นกว่าเดิม
• แก้บั๊กการแจ้งเตือน

สนใจก็อัพเดตได้ที่ App Store

ที่มา - The Next Web

Facebook ประกาศว่าได้เข้าซื้อบริษัท Mobile Technologies ผู้พัฒนาแอพแปลภาษาแบบใช้เสียง Jibbigo ไปแล้วด้วยจำนวนเงินที่ไม่เปิดเผย พร้อมกับทีมงานส่วนหนึ่ง โดย Facebook บอกว่าจะยังคงสนับสนุนแอพ Jibbigo ต่อไป

Jibbigo เป็นแอพแปลภาษาบน iOS และ Android ที่สามารถป้อนข้อมูลได้ทั้งตัวหนังสือและเสียง รองรับ 25 ภาษารวมทั้งภาษาไทย มีรูปแบบการหารายได้โดยขายส่วนแปลภาษาแบบออฟไลน์

Facebook สำหรับ iOS ออกอัพเดตเวอร์ชัน 6.4 มีของใหม่ดังนี้

• ค้นหาผ่าน hashtag ได้แล้ว
• จองที่นั่งร้านอาหารผ่าน Page ของร้านด้วยระบบ OpenTable ได้ เฉพาะผู้ใช้ในอเมริกา
• โหลดเร็วขึ้นสำหรับบน iPad
• แก้บั๊ก

อัพเดตได้ที่ App Store ครับ

ที่มา: The Next Web

Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึมการทำงานของ News Feed เสียใหม่ โดยเปิดโอกาสให้โพสต์ที่เก่าหน่อย สามารถกลับมาแสดงบน News Feed ของผู้ใช้ได้มากขึ้น ถ้าหากว่าโพสต์นั้นในช่วงเวลานั้นยังมีคนกดไลค์หรือคอมเมนต์ในปริมาณที่มากพอ

บริษัทบอกว่าในการทดสอบกลุ่มเล็กๆ พบว่าอัลกอริทึมนี้ช่วยให้จำนวนไลค์-คอมเมนต์-แชร์เพิ่มขึ้น 5% (ในกรณีที่เป็นโพสต์ของเพื่อน) และ 8% (กรณีโพสต์จากเพจ) แถมยังช่วยให้ผู้ใช้เห็นโพสต์ที่ควรจะเห็นมากขึ้นเป็น 70% เมื่อเทียบกับอัตราเดิม 57%

อัลกอริทึมใหม่ของ Facebook แปลว่าเพจจะโพสต์ข้อความให้ผู้ใช้เห็นได้มากขึ้น แม้โพสต์นั้นจะเก่าไปบ้าง แต่ถ้าโพสต์มีคุณภาพ คนกดไกล์หรือคอมเมนต์เยอะ ก็ยังมีโอกาสเผยแพร่ได้มากกว่าเดิม (อัลกอริทึมนี้ไม่รวมโพสต์แบบจ่ายเงินโฆษณานะครับ)

Facebook v10.2.1 สำหรับสมาร์ตโฟน BlackBerry 10 มีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้

• มี Facebook Chat
• มีรายละเอียดเมื่อส่งข้อความไปเรียบร้อยแล้ว
• เลื่อนหน้าจอดู News Feed ได้เร็วขึ้น
• เปลี่ยนรูป Cover และ Profile ได้ง่ายขึ้น
• มีฟีเจอร์สำหรับแอดมินเพจให้ดูจำนวนเช็กอิน, ค่าการถูกพูดถึง (talking about this)

ชาว BlackBerry ก็อัพเดตกันได้ที่นี่

ที่มา - BlackBerry Blog

อัลกอริธึมในการเลือกโพสต์ (Facebook เรียกว่า "story") ออกมาแสดงใน News Feed ของผู้ใช้นั้น เป็นที่สงสัยกันมานาน และเมื่อวานก็มีงานเชิญสื่อมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมเปิดตัวระบบใหม่ที่จะช่วยดึงโพสต์เก่าๆ ที่น่าสนใจและผู้ใช้อาจมองข้ามขึ้นมาแสดงให้ผู้ใช้เห็นใน News Feed ได้ ซึ่งสิ่งนี้ Facebook เรียกว่า "Story Bumping"

อัลกอริทึมในการดึงสตอรี่มาแสดงใน News Feed นั้น Facebook ใช้สารพัดวิธีมาคำนวณ แต่ก็ยกตัวอย่างให้เห็น 4-5 วิธีคือ