หลังจากที่ Concepter ประสบความสำเร็จในการระดมทุนได้เงินไปผลิต Lunecase อย่างล้นหลาม ได้เงินไปแล้วเกือบ 120,000 ดอลลาร์ (จากเป้าหมาย 50,000 ดอลลาร์) ตอนนี้พวกเขาได้เพิ่มเคสแบบใหม่ขึ้นมาอีกรุ่น ใช้ชื่อว่า Lunecase Eclipse
สำหรับเคส Lunecase Eclipse นี้ก็จะเหมือนกับรุ่นแรกในเรื่องการใช้พลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจาก iPhone ทว่าสิ่งที่ต่างออกไปคือเรื่องของการออกแบบ โดยรุ่น Eclipse นี้จะมีช่องวงกลมเผยให้เห็นสัญลักษณ์รูป Apple ด้านหลังของ iPhone โดยมันจะทำงานส่องแสงสว่างตรงบริเวณขอบของรูวงกลมรอบเครื่องหมาย Apple นั้นเมื่อมีสายโทรเข้าหรือมีข้อความเข้า
Lunecase คือชื่อของเคส iPhone แบบใหม่ ที่มาพร้อมความสามารถในการแสดงไฟบอกสถานะสายเรียกเข้าหรือ SMS โดยการทำงานทั้งหมดอาศัยเพียงพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากตัว iPhone เอง ซึ่งถือเป็นการนำพลังงานสูญเสียมาใช้งานอย่างสร้างสรรค์
เนื่องจากอาศัยการแปลงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นพลังงานไฟฟ้าเลี้ยงการทำงานของตนเอง Lunecase จึงไม่จำเป็นต้องมีแบตเตอรี่ภายในตัวเอง จึงถูกออกแบบมาในรูปทรงบางเรียบไม่เทอะทะ ทั้งยังไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อเพื่อรับไฟจาก iPhone แต่อย่างใด เพียงผู้ใช้สวม Lunecase เข้ากับ iPhone มันก็จะพร้อมทำงานในทันที
การรักษาความปลอดภัยของบ้านพักอาศัยในปัจจุบันนั้นมีช่องทางและเครื่องมือที่ช่วยให้เราดูแลบ้านในยามที่เราอยู่ข้างนอกได้ง่ายขึ้น และหนึ่งในทางเลือกสำหรับระบบเซ็นเซอร์ภายในบ้านก็รวม Korner เอาไว้ด้วย มันคือเซ็นเซอร์ตรวจจับผู้บุกรุกผ่านทางประตูหรือหน้าต่างที่สามารถส่งสัญญาณเตือนเจ้าของบ้านได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน
Korner เป็นโครงการระดมเงินทุนผ่าน Indiegogo เพื่อสร้างเซ็นเซอร์สำหรับใช้ติดตั้งบริเวณมุมของบานประตูหรือบานหน้าต่าง มาพร้อมตัวรับสัญญาณอีก 1 ชิ้นไว้ทำงานคู่กัน
Muki คือแก้วกาแฟอัจฉริยะที่มีจอ e-paper ในตัวซึ่งอาศัยพลังงานจากความร้อนของเครื่องดื่มมาเลี้ยงระบบจอแสดงผล
เมื่อผู้ใช้เติมเครื่องดื่มที่มีความร้อนลงไปในแก้ว Muki หน้าจอด้านข้างของแก้วก็จะแสดงผลเป็นรูปภาพหรือข้อความที่กำหนดไว้ โดยผู้ใช้สามารถเลือกรูปที่จะมาแสดงผลได้จากแอพที่ติดตั้งไว้ในอุปกรณ์พกพา ทั้งนี้ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นเป็นจอ e-paper แบบเดียวกับเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจอจะแสดงรูปภาพค้างเอาไว้จนกว่าจะมีการเติมเครื่องดื่มร้อนลงไปในแก้ว Muki อีกครั้ง
ทาสแมวที่ต้องทำงานแทบทั้งวัน แต่ก็อยากเล่นกับแมวที่บ้านบ่อยๆ สามารถทำความต้องการให้เป็นจริงได้แล้ว เพียงแค่ใช้ Kittyo อุปกรณ์ที่สร้างมาเพื่อคนรักแมวโดยเฉพาะ
Kittyo เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นกับแมวที่บ้านได้ โดยใช้กล้องที่อยู่ภายในเครื่องถ่ายภาพสัตว์เลี้ยงแสนรักส่งไปแสดงผลบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ที่ติดตั้งแอพ Kittyo เอาไว้ (มีทั้งเวอร์ชันสำหรับระบบปฎิบัติการ iOS และ Android) โดยตัวเครื่อง Kittyo มีเครื่องยิงลำแสงเลเซอร์ที่จะหันขยับไปตามการควบคุมของผู้ใช้ที่สั่งการผ่านทางหน้าจอสมาร์ทโฟน
สำหรับยุคที่กระแสความนิยมของสื่อสังคมออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นจนเรียกได้ว่าผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายคนไปแล้ว พฤติกรรมหนึ่งของผู้คนที่แพร่หลายเห็นกันได้มากก็คือการถ่ายภาพแบบ selfie ซึ่งก็คือการถ่ายรูปตนเองแล้วแบ่งปันกับผู้ใช้อื่นผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ และสำหรับคนที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพแบบดังกล่าว ก็น่าจะถูกใจสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ที่กล่าวได้ว่ามันคือกระจกวิเศษที่จะช่วยถ่ายภาพ selfie ให้ผู้ใช้ได้แบบอัตโนมัติ
StoreDot เป็นบริษัทจากอิสราเอลที่พัฒนาแบตเตอรี่แบบใหม่โดยอาศัยนาโนเทคโนโลยี โดยแบตเตอรี่ดังกล่าวสามารถชาร์จประจุใหม่ให้เต็มได้ในเวลาเพียงครึ่งนาทีเท่านั้น
StoreDot ได้นำอุปกรณ์ชุดต้นแบบออกแสดงวันนี้ในงาน Think Next ที่ Microsoft จัดขึ้นใน Tel Aviv โดยใช้เครื่อง Samsung Galaxy S4 เป็นสมาร์ทโฟนสาธิตควบคู่กับอุปกรณ์ต้นแบบ ซึ่งการสาธิตอุปกรณ์เพียงแค่เสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟใหม่ให้แก่แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนที่ใกล้จะหมด หลังจากนั้นแค่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีอุปกรณ์ก็สามารถชาร์จไฟให้แก่สมาร์ทโฟนได้จนเต็ม
เมื่อปีก่อนเคยมีโครงการบน Kickstarter ระดมทุนทำปุ่มมหัศจรรย์สำหรับช่วยสั่งงานสมาร์ทโฟนในชื่อ Pressy ซึ่งได้เสียงตอบรับค่อนข้างดี และมียอดระดมทุนเกือบ 700,000 เหรียญ มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 17 เท่า
ดูเหมือนแนวคิดนี้จะไม่ได้ถูกใจแต่เพียงผู้ใช้ทั่วไป แต่ไปถูกใจผู้ผลิตรายอื่นด้วย และเป็น Xiaomi ที่ออกมาเปิดตัวอุปกรณ์ลักษณะคล้ายกันในชื่อ MiKey สำหรับใช้กับสมาร์ทโฟนของ Xiaomi นั่นเอง โดยฟีเจอร์ของ MiKey นั้นไม่ต่างจาก Pressy มากนัก สามารถตั้งค่าเพื่อใช้งานได้สูงสุด 10 รูปแบบ ความเจ๋งของเจ้านี้คือ Xiaomi ตั้งราคาเอาไว้เพียง 4.9 หยวนเท่านั้น (ประมาณ 25 บาท) ซึ่งถูกกว่า Pressy ที่ตั้งราคาต่ำสุด 17 เหรียญ (ประมาณ 550 บาท) อยู่หลายเท่าตัว
วันนี้เว็บไซต์ Sony ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศข่าวเกี่ยวกับอัพเดต WALKMAN ตระกูล F880 และ ZX1 ไว้สั้น ๆ แต่จัดว่าแรงมากสำหรับคู่แข่งในวงการ นั่นคือการเพิ่มการรองรับรูปแบบไฟล์ DSD หรือ Direct Stream Digital
อัพเดตตัวนี้จะทำให้ WALKMAN สามารถรองรับการเล่นไฟล์แบบ DSD ที่อัตราสุ่มสัญญาณ 2.8 MHz โดยการแปลงเป็นสัญญาณแบบ PCM ในขณะเล่นเพลงได้เลย
กำหนดการอัพเดตจะอยู่ในช่วงประมาณเดือนเมษายน ใครที่ใช้งาน WALKMAN ทั้งสองตระกูลนี้อยู่ สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Media Go 2.7 รุ่นใหม่ ที่รองรับการแปลงไฟล์ความละเอียดสูงที่ตัวเครื่องไม่รองรับเป็น FLAC 24 bit 192 kHz ได้ ไปใช้งานรออัพเดตของตัวเครื่องกันก่อน
ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา เราได้เห็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ มากพอสมควร (เช่น เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ที่ใช้คู่กับสมาร์ทโฟน หรือ กล้องถ่ายภาพกลางคืน) ที่ระดมทุนผ่านเว็บไซต์อย่าง Kickstarter เพื่อจัดหาทุนเพื่อทำอุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งในปีนี้ก็มีอุปกรณ์ที่น่าสนใจอยู่พอสมควร แต่ที่อาจจะเรียกเสียงฮือฮา โดยเฉพาะกับบรรดาผู้ที่ชอบดื่มไวน์อย่างมากคือเครื่องที่เรียกว่า Miracle Machine
หลังจากที่ผมได้เขียนข่าวเกี่ยวกับสินค้ากลุ่ม High Resolution Audio ของ Sony ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในข่าวได้เขียนถึงการลองเล่นเจ้า WALKMAN ZX1 ซึ่งเป็นเครื่องเล่นมีเดียระดับเรือธงประจำปีที่ 35 ของ WALKMAN คร่าว ๆ พอดีตอนนี้ผมได้เป็นเจ้าของแล้ว จึงกลับมาเขียนรีวิวให้อ่านกันอีกครั้งครับ
ก่อนที่จะเขียนถึง WALKMAN ZX1 ก็ขอแนะนำ High Resolution Audio ให้รู้จักกันคร่าว ๆ ก่อน
High Resolution Audio
หลายคนอาจเคยเห็นหลอดไฟอัจฉริยะ Philips Hue ที่ควบคุมได้ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกันมาบ้าง ถือเป็นความแปลกใหม่ของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านแบบเดิมๆ ที่เริ่มมีความฉลาดมากขึ้น
ทีม TrueYou มีโอกาสได้ลองเจ้าหลอดไฟ Philips Hue จึงมารีวิวให้พี่ๆ น้องๆ ได้อ่านกันครับ ต้องขอบอกก่อนว่าราคาเจ้าหลอดไฟนี่ไม่ถูกเลย อยู่ในหลัก 8,xxx บาท ส่วนถ้าต้องการซื้อหลอดไฟเพิ่มมีขายแยกต่างหากให้
นอกจากจะทำ smartwatch แล้ว Sony ยังสนใจทำอุปกรณ์ชิ้นอื่นที่สามารถสวมใส่ได้อีกด้วย และในงาน MWC ปีนี้ก็ได้โชว์แนวคิด SmartEyeglass ต้นแบบของแว่นตาอัจฉริยะจาก Sony ให้เห็นกันบ้างแล้ว
หน้าตาของ SmartEyeglass จะคล้ายกับแว่นตาปกติ แทนที่จะออกแนวล้ำๆ อย่าง Google Glass การใช้งานของตัวต้นแบบยังมีอุปกรณ์ควบคุมแบบมีสายเชื่อมต่อกับตัวแว่นตาอยู่ แต่ก็สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth ได้เช่นกัน
ตัวแว่นตาใช้หน้าจอที่สามารถแสดงสีเขียวบนกระจกเพื่อแสดงข้อมูลได้ และยังมี ไมโครโฟน กล้อง รวมถึงเซนเซอร์ต่างๆ ที่พบได้ในสมาร์ทโฟนอยู่ด้วย
แอลจีได้จดสิทธิบัตร Capacitive type stylus and mobile terminal comprising the same ซึ่งกล่าวถึงสไตลัสแบบ capacitive ที่สามารถคล้องกับข้อมือผู้ใช้กลายเป็นสายรัดข้อมือได้ และทำงานแบบนาฬิกาอัจฉริยะ (smart watch) ได้ในตัว โดยสไตลัสนี้จะมีหน้าจอสัมผัสที่สามารถแสดงผลข้อมูลที่อุปกรณ์พกพาที่เชื่อมต่ออยู่ส่งมาให้ได้ และผู้ใช้ก็สามารถสั่งการบางอย่างบนอุปกรณ์พกพาที่เชื่อมต่ออยู่จากหน้าจอบนสไตลัสได้
สิทธิบัตรยังอธิบายว่า อุปกรณ์นี้สามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเองว่ากำลังยืดตรงอยู่ (เป็นโหมดสไตลัส) หรือโค้งงอ (เป็นโหมดสายรัดข้อมือ) และสามารถแจ้งสถานะไปยังอุปกรณ์พกพาที่เชื่อมต่ออยู่ได้ นอกจากนั้นแอลจียังระบุว่าสามารถติดตั้งเซนเซอร์ประเภทต่างๆ เพื่อติดตามกิจกรรมของผู้สวมใส่ได้
หนึ่งในอุปกรณ์ยืนยันตัวบุคคลที่น่าสนใจในงาน CES 2014 คือ Myris ซึ่งเป็นเครื่องสแกนม่านตาขนาดเล็กที่ใช้งานโดยเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางสาย USB รวมอยู่ด้วย
ผู้ผลิต Myris คือบริษัทที่ชื่อ EyeLock ซึ่งใช้เวลาพัฒนาซอฟต์แวร์ตรวจสอบรูม่านตาของมนุษย์อยู่นานถึง 7 ปี จึงเริ่มสร้างผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่าย โดยแรกเริ่มจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผู้ใช้องค์กร ก่อนจะถือโอกาสเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ทั่วไปออกมาเป็นชิ้นแรกในงาน CES 2014 นี้ ซึ่งก็คือ Myris นี่เอง
ในงาน CES 2014 นั้นนอกจากจะมีสินค้าที่เปิดตัวเพื่อวางจำหน่ายจริงแล้ว ยังมีสินค้าที่เปิดตัวเพื่อประกาศระดมทุน อย่างเช่นตัวที่จะพูดถึงต่อไปนี้ นั่นคือสายชาร์จ JUMP จาก Native Union นั่นเอง
สายชาร์จ JUMP นั้นไม่ได้เป็นแค่สายชาร์จธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่ในตัว JUMP นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 800 mAh ที่สามารถชาร์จ iPhone ได้ประมาณ 30% ของความจุของเครื่องทั้งหมด ความเจ๋งของมันอยู่ที่เทคโนโลยี AutoCharge ซึ่งหลักการของมันคือ เมื่อโทรศัพท์ของเราชาร์จจนเต็มแล้ว ไฟฟ้าบางส่วนจะย้ายจากเข้าเครื่องโทรศัพท์มาชาร์จตัวแบตเตอรี่
Cube เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกได้ว่ามันคือหลอดดูดสีในโลกแห่งความจริง ทุกสีที่อยู่รอบตัวจะถูกจับมาสู่คอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ซัมซุงจับมือ Trek Bikes ผู้ผลิตจักรยานรายใหญ่ โชว์จักรยานต้นแบบที่ใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ของซัมซุงได้ (ในที่นี้คือ Note 3 + Gear)
จักรยานนี้ยังเป็นแค่ต้นแบบ และซัมซุงยังไม่บอกว่าจะนำมาวางขายจริงหรือไม่
ที่มา - Samsung Tomorrow, Phandroid
นอกจากเคสที่เปลี่ยน iPhone เป็นกล้องถ่ายภาพความร้อนแล้ว ในงาน CES 2014 ยังมีเคสที่เปลี่ยน iPhone ให้เป็นที่ช็อตไฟฟ้าสำหรับใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวอีกด้วย
สำหรับผู้ปกครองที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของบุตรหลานที่ชอบเล่นน้ำ iSwimband สายรัดศีรษะที่จะช่วยเตือนให้คนผู้ใช้รู้ตัวเมื่อผู้ใช้ที่สวมใส่มันอยู่จมน้ำ อาจช่วยแก้ปัญหาความกังวลนี้ได้
iSwimband เป็นสายรัดศีรษะที่จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อผู้ที่สวมใส่มันอยู่ใต้น้ำนานเกินไป การแจ้งเตือนผู้ใช้จะทำผ่านทางสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพสำหรับ iSwimband โดยเฉพาะ ดังนั้นหากผู้ปกครองให้เด็กสวมใส่สิ่งนี้ขณะเล่นน้ำ ก็จะทราบได้ทันทีหากเด็กเกิดจมน้ำ หรืออยู่ใต้น้ำนานเกินไป ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถปรับตั้งได้ว่าระยะเวลาที่เหมาะสมที่ iSwimband จะทนอยู่ใต้น้ำก่อนแจ้งเตือนนั้นเป็นช่วงระยะเวลานานเท่าใด
Oculus VR ผู้สร้าง Oculus Rift แว่นตาสำหรับเล่นเกมเสมือนจริงเผยโฉม Crystal Cove อุปกรณ์ตัวต้นแบบของ Oculus Rift รุ่นใหม่ที่รองรับความละเอียดสูง หลังจากมีข่าวมาแสนนาน
Crystal Cove อัพเกรดสเปคจาก Oculus Rift มาหลายอย่าง ตั้งแต่การเปลี่ยนไปใช้หน้าจอ OLED (เดิมใช้ LED) เพิ่มความละเอียดขึ้นเป็น 1080p หารครึ่งระหว่างสองจอ เพิ่มกล้องภายนอกมาอีกหนึ่งตัวเพื่อให้จับตำแหน่งได้ลึกขึ้น และแก้ภาพเบลอระหว่างเคลื่อนไหวอันเป็นปัญหาหลักของ Oculus Rift รุ่นแรก
NETGEAR ออกสินค้าใหม่ NeoMediacast HDMI Dongle (NTV300D) ที่หน้าตาและความสามารถเหมือนกับ Chromecast ของกูเกิล แต่ทำได้มากกว่าตรงที่
นอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เปิดตัวในงาน CES 2014 (เช่น กล้อง, โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์) แล้ว ภายในงานเองโซนี่ยังเปิดเผยอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่สำหรับสุขภาพ และแอพสำหรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ดังกล่าวด้วย (ประเภทของอุปกรณ์ดังกล่าว เช่น LG Lifeband Touch, Fitbit, UP by Jawbone) โดยเรียกรวมๆ ภายใต้แนวคิด "SmartWear Experience" ซึ่งในชุดแรกจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลักอย่าง The Core, SmartBand และ Lifelog
หลุดภาพและชื่อมาก่อนเปิดตัวไปแล้วสำหรับ Lifeband Touch สายรัดข้อมือจาก LG ที่ทำมาจับตลาดอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ได้ สำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพโดยเฉพาะ ตอนนี้อุปกรณ์ที่ว่าก็ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในงาน CES 2014
ตัว Lifeband Touch มีเซนเซอร์สำหรับตรวจนับก้าว และปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไป ซึ่งแสดงผลได้ผ่านจอ OLED แบบสัมผัสบริเวณปลายสายรัด ตัวสายรัดถูกออกแบบมาให้กันน้ำได้อีกด้วย
นอกจากเก็บข้อมูลสุขภาพแล้ว Lifeband Touch ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน (ทั้ง iOS/Android) เพื่อแสดงผลการแจ้งเตือนของสมาร์ทโฟน ตรวจสอบเป้าหมายการออกกำลังกาย และใช้บังคับเพลงจากตัวสายรัดได้อีกด้วย การเชื่อมต่อนั้นทำผ่าน Bluetooth 4.0