กูเกิลปรับสถานะของ Cloud Speech API บริการแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ จากเดิมที่เป็น open beta เข้าสู่รุ่นจริง general availability แล้ว
Cloud Speech API คือการนำเทคโนโลยีแยกแยะเสียงพูด (speech recognition) ที่กูเกิลใช้งานอยู่แล้วใน Google Now, Google Assistant, Google Search) มาเปิดให้คนภายนอกใช้งานแบบคิดเงินผ่านคลาวด์ ข้อดีของมันคือเป็นระบบแยกแยะเสียงพูดที่กูเกิลเทรนมาเรียบร้อยแล้ว พิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้จริง แถมทำงานได้แม้มีเสียงรบกวนมาก รองรับทั้งการแปลงเสียงแบบเรียลไทม์ และแปลงไฟล์เสียงที่อัดมาก่อนแล้ว
Google Cloud Platform ประกาศจะเปิดศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว วันนี้ก็มีรายงานว่าผู้ใช้ Google Cloud Platform เริ่มสร้างเซิร์ฟเวอร์ในโซน asia-southeast1 หรือสิงคโปร์ได้แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้โซนที่ใกล้ที่สุดคือไต้หวัน (asia-east1)
สิงคโปร์จะมี 2 โซนตามประกาศก่อนหน้านี้ เทียบกับไต้หวันที่มี 3 โซน
สำหรับบริการในไทย การเปิดเซิร์ฟเวอร์ที่สิงโปร์น่าจะให้ประสบการณ์กับผู้ใช้ในไทยได้ดีที่สุดเพราะ latency อยู่ในช่วงประมาณ 30ms แทบไม่ต่างจากเซิร์ฟเวอร์ในไทย
กูเกิลเนเธอร์แลนด์เปิดเผยโครงการใหม่ล่าสุด โดยทีมวิศวกรของกูเกิลที่นั่นระบุว่า เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน แต่ปัญหาใหญ่ก็คือสภาพอากาศ เพราะมีฝนตกเฉลี่ยถึง 145 วันต่อปี ซึ่งควรได้รับการแก้ไข
โครงการนี้มีชื่อว่า Google Wind เริ่มดำเนินการในวันที่ 1 เมษายนปีนี้ แนวคิดคือ ควบคุมสภาพอากาศด้วยกังหันลม โดยกูเกิลจะเชื่อมต่อกังหันลมที่มีอยู่ทั่วเนเธอร์แลนด์เข้าด้วยกัน และใช้การประมวลผลผ่าน Machine Learning บน Google Cloud ให้กังหันหมุนในทิศทางที่ควบคุมพัดพาเมฆบนท้องฟ้า จนได้สภาพอากาศที่ปลอดโปร่งในวันที่ต้องการ ก็ทำให้ฝนตกเฉลี่ยน้อยลง
แล้วเนเธอร์แลนด์ก็จะเป็นดินแดนที่ท้องฟ้าสดใส
ในงาน Google Cloud Next นั้น Google ได้ประกาศเพิ่มความสามารถด้านความปลอดภัยใหม่ให้กับ Google Cloud Platform และ G Suite หลายอย่าง ดังนี้
Identity-Aware Proxy (IAP) สำหรับ Google Cloud Platform (ตอนนี้อยู่ในช่วงเบต้า) ให้ผู้ใช้จัดการการเข้าถึงแอพพลิเชั่นที่รันบน Google Cloud Platform ทีละตัวได้โดยขึ้นกับความเสี่ยง แทนที่จะใช้แนวคิดแบบ all-or-nothing
แนวคิดบริการคลาวด์แบบ serverless ไม่ต้องเปิดเครื่องรันทิ้งไว้ ทำงานเมื่อถูกเรียกใช้งาน กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มจาก AWS Lambda ที่เปิดมาก่อนเพื่อน
ฝั่ง Google Cloud Platform ก็ออกบริการแบบเดียวกันในชื่อ Cloud Functions ที่เปิดตัวครั้งแรกช่วงต้นปี 2016 โดยยังจำกัดวงทดสอบแบบอัลฟ่า
เวลาผ่านมา 1 ปี บริการก็เปิดให้คนทั่วไปทดสอบแบบ public beta แล้ว
ในงาน Google Cloud Next 2017 กูเกิลประกาศของใหม่ให้ Google Cloud Platform (GCP) หลายอย่าง ที่น่าสนใจมีดังนี้
ในงาน Google Cloud Next 2017 กูเกิลประกาศของใหม่ให้บริการคลาวด์ของตัวเองหลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ App Engine บริการคลาวด์แบบ PaaS สำหรับรันแอพ
เดิมที App Engine รองรับการรันแอพเพียงไม่กี่ภาษาเท่านั้น โดยเริ่มจาก Python แล้วตามด้วย Java และ Go แต่ช่วงหลังก็รองรับภาษาโปรแกรมเพิ่มขึ้นหลายตัว เช่น PHP, Node.js, Ruby และ .NET Core (C#) รวมทั้งหมด 7 ภาษา
Google ได้อัพเดต Firebase บริการ backend ครบวงจรสำหรับนักพัฒนาแอพ โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ Google บอกว่าเป็นการทำให้ Firebase เข้าใกล้กับ Google Cloud Platform มากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์แรกคือ Cloud Functions for Firebase บริการรันโค้ดบนโดยไม่ต้องเปิดเซิร์ฟเวอร์ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ได้เข้าสู่ public beta แล้ว และ Cloud Functions จะแชร์โครงสร้างพื้นฐานของ Firebase และ Cloud ทำให้สามารถใช้ฟังก์ชันหรือเข้าถึงทรัพยากรข้ามกันไปมาได้
ถัดไปคือ Firebase Storage เปลี่ยนชื่อเป็น Cloud Storage for Firebase และขยายความสามารถจากเดิมที่สามารถเก็บไว้ที่ bucket หนึ่งในสหรัฐฯ ให้เก็บไว้ที่ bucket ของ Cloud Storage ที่ไหนก็ได้ในโลก
กูเกิลเคยเปิดบริการ Cloud Vision API ลูกค้าสามารถส่งไฟล์ภาพขึ้นคลาวด์ แล้วให้ AI ของกูเกิลแยกแยะกลับมาให้ว่าในภาพมีวัตถุอะไรบ้าง
ปีนี้ระบบของกูเกิลพัฒนาไปอีกขั้น เพราะมันสามารถแยกแยะวัตถุในวิดีโอได้แล้ว ภายใต้ชื่อว่า Cloud Video Intelligence API
หลักการของ Cloud Video Intelligence API ก็เหมือนกันคือใช้เอนจินเรียนรู้ deep-learning ของตัวเอง TensorFlow แล้วให้ฝึกเรียนรู้จากวิดีโอบน YouTube ตอนนี้มันเก่งพอที่จะแยกแยะเนื้อหาในวิดีโอได้แล้ว จากภาพตัวอย่างที่กูเกิลนำมาโชว์ มันสามารถแยกแยะได้ว่าในวิดีโอมี "เสือ" และถ้าค้นด้วยคำว่า Tiger เราก็จะได้คำตอบกลับมาเป็นช่วงเวลาทั้งหมดในวิดีโอที่มีเสืออยู่ในภาพ
กูเกิลประกาศความร่วมมือกับ SAP ในงาน Google Cloud Next 2017 หลายอย่าง ความร่วมมือหลักคือบริการคลาวด์ Google Cloud Platform (GCP) ได้รับการรับรอง (certified) ให้รันฐานข้อมูล SAP HANA อย่างเป็นทางการ โดยรองรับทั้งกรณีลูกค้ามีไลเซนส์แล้วนำมารันบน GCP และรุ่น Express Edition สำหรับนักพัฒนา
ส่วนอื่นในข้อตกลง เน้นการเชื่อมต่อกันระหว่างบริการของกูเกิลกับ SAP
กูเกิลประกาศซื้อ Kaggle ชุมชนคนทำงานด้าน data science ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะนำเข้าไปอยู่ในทีม Google Cloud
Kaggle เป็นเว็บไซต์ที่เปิดในปี 2010 ประกอบด้วยเว็บบอร์ด ประกาศหางาน ชุดข้อมูลที่นำไปใช้ต่อได้ เป็นแหล่งให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลมาแลกเปลี่ยนโมเดล จัดการแข่งขันด้านวิเคราะห์ข้อมูลและ machine learning ระหว่างกัน ปัจจุบัน Kaggle มีสมาชิกเป็นคนทำงานด้านนี้หลักแสนคน
หลังการขายกิจการให้กูเกิลแล้ว Kaggle จะยังให้บริการตามปกติ ทางบริษัทระบุว่าการผนวกเอาชุมชน data scientist ที่ใหญ่ที่สุด กับบริการคลาวด์ด้าน machine learning รายใหญ่ที่สุด จะส่งผลให้ Kaggle ไปต่ออีกได้ไกล
ในอดีต เราอวดกันว่าคอมพิวเตอร์ของเราใช้ซีพียูรุ่นล่าสุดที่แรงกว่าใคร พอมาถึงในยุคสมัยของคลาวด์ที่เปลี่ยนจากการซื้อเครื่องมาเป็นการเช่าเวลา พฤติกรรมนี้อาจยังคงอยู่เหมือนเดิม
Google Cloud Platform ออกมาประกาศว่าเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ "รายแรก" ที่ใช้ Intel Xeon รุ่นล่าสุดบนสถาปัตยกรรม Skylake (Xeon v5 ตอนนี้ยังเปิดตัวเฉพาะรุ่น E3 แต่กูเกิลจะใช้รุ่นที่สูงกว่าที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้) ช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างชุดคำสั่ง Intel Advanced Vector Extensions (AVX-512) ประมวลผลข้อมูลทศนิยมขนาดใหญ่ได้ดีขึ้น
Google Cloud เปิดตัวบริการ GPU ให้ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งการ์ด Tesla K80 เข้ากับเครื่องใดก็ได้ที่ต้องการ โดยเซิร์ฟเวอร์แต่ละเครื่องสามารถติดการ์ดได้ 8 ใบ
การ์ดแต่ละใบเป็น NVIDIA K80 มาพร้อมกับ CUDA core ทั้งหมด 2,496 คอร์ และแรม 12GB ราคาชั่วโมงละ 0.7 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ และ 0.77 ดอลลาร์ในยุโรปและเอเชีย
บริการเช่นนี้ตรงกับบริการ Elastic GPU ของ AWS ที่เปิดตัวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่จนตอนนี้ยังอยู่ในสถานะเบต้าวงปิด ส่วนกูเกิลเปิดเป็นเบต้าแบบเปิดให้ทุกคนใช้งานแล้ว
Google Cloud จัดการแข่งขัน "Google Cloud & YouTube-8M Video Understanding Challenge" จัดหมวดหมู่วิดีโอกว่า 7 ล้านรายการ รวมความยาว 450,000 ชั่วโมง โดยมีหมวดหมู่ทั้งหมด 4,716 ประเภท แต่ละวิดีโอมีหมวดหมู่เฉลี่ย 3.4 ประเภท จากชุดข้อมูล YouTube-8M v2 ที่เพิ่งเปิดออกมา
ผู้เข้าแข่งขันจะได้เครดิตจาก Google Cloud 300 ดอลลาร์และสามารถขอเพิ่มได้หากใช้จนหมด และขอเครดิตเพิ่ม 50 คนแรก หรือได้คะแนนสูงสุด 50 คนแรก รางวัลแบ่งออกเป็น 5 รางวัล 30,000 ดอลลาร์, 25,000 ดอลลาร์, 20,000 ดอลลาร์, 15,000 ดอลลาร์, และ 10,000 ดอลลาร์ตามลำดับ โดยผู้รับรางวัลจะต้องเปิดโค้ดของตนเองเป็นโอเพนซอร์ส
Google ประกาศเปิดตัวระบบบริการจัดการฐานข้อมูลแบบใหม่เรียกว่า Cloud Spanner ซึ่งสามารถใช้งานได้ผ่านระบบ Google Cloud Platform โดยออกแบบมาสำหรับศูนย์ข้อมูลที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก แต่สำหรับงานทั่วๆ ไปแล้ว ข้อมูลจะกระจายอยู่ในศูนย์ข้อมูล 3-5 แห่งภายในภูมิภาคเดียวกันเท่านั้น
Cloud Spanner เป็นการใช้งานจริงของ Spanner ที่ Google เคยเขียนเอกสารไว้ตั้งแต่ปี 2012 และใช้งานในบริษัทกันมานับปี ตัวระบบรองรับภาษา SQL, ระบบ tranctions แบบกระจายตัว และ ACID (atomicity, consistency, isolation, durability) อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ง่าย เนื่องจากรองรับเครื่องมือและภาษาทั่ว ๆ ไปที่ใช้งานกับฐานข้อมูลแบบ relational ด้วย
กูเกิลใช้งาน KVM สำหรับการให้บริการคลาวด์ Google Compute Engine แต่ระบบที่ขนาดใหญ่สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์เช่นนี้มักต้องการความปลอดภัยสูงกว่าการใช้งาน virtualization ทั่วๆ ไป เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากูเกิลแถลงถึงกระบวนการต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
ขั้นแรกของการรักษาความปลอดภัยคือการหาช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ด้วยตัวเอง กูเกิลมีทีมงานความปลอดภัยของตัวเองที่ไล่หาช่องโหว่ของ KVM, Xen, หรือ VMware จนถึงตอนนี้กูเกิลพบช่องโหว่ KVM ไปแล้ว 9 รายการ จากนั้นจึงลดความเสี่ยงด้วยการถอดโมดูลที่ไม่จำเป็นออก เช่น ไดร์เวอร์เมาส์รุ่นเก่าๆ และยังมีการแก้ไขโมดูลที่ใช้งานเพื่อให้ปลอดภัยขึ้น
Google Cloud Platform (GCP) อำนวยความสะดวกให้นักพัฒนามากขึ้น โดยออกปลั๊กอิน Cloud Tools for Eclipse เพื่อให้คนใช้ Eclipse สามารถเชื่อมต่อกับ App Engine ได้โดยตรง
ในอดีต กูเกิลเคยออก Google Plugin for Eclipse ที่ใช้เขียนโค้ดด้วย GWT บน App Engine มาก่อน แต่ปลั๊กอินตัวนี้ล้าสมัย ไม่อัพเดตแล้ว ใช้กับ Eclipse 4.6 Neon ไม่ได้ กูเกิลจึงแนะนำให้ย้ายมาใช้ Cloud Tools for Eclipse แทน
Cloud Tools for Eclipse ใช้ได้กับทั้ง Eclipse 4.5 (Mars) และ Eclipse 4.6 (Neon) รายละเอียดการติดตั้งและใช้งาน อ่านได้จากที่มา
Google Cloud Platform เปิดบริการย่อย Cloud Key Management Service (KMS) สำหรับจัดการคีย์เข้ารหัสแล้ว ช่วยให้ลูกค้าของ GCP บริหารคีย์ได้ง่ายขึ้นในกรณีต้องใช้คีย์หลายตัวบนเครื่องเดียวกัน
Cloud KMS ออกแบบมาให้จัดการคีย์ทั้งหมดได้จากระบบของ GCP เลย ไม่ต้องมีโปรแกรมจัดการคีย์แยกเองต่างหาก และสามารถใช้ร่วมกับบริการอื่นอย่าง Cloud Identity Access Management (IAM) และ Cloud Audit Logging ได้ด้วย
ก่อนหน้านี้ GCP เคยเปิดให้ลูกค้าอัพโหลดคีย์ของตัวเอง ภายใต้บริการ Customer-Supplied Encryption Keys (CSEK) แต่การเปิดตัว KMS ถือเป็นบริการร่มใหญ่ที่มาครอบ CSEK อีกชั้น และกลายเป็นบริการเต็มรูปแบบสำหรับการบริหารคีย์บน GCP
ถึงแม้ IBM มีบริการคลาวด์ของตัวเองทั้ง Softlayer และ Bluemix แต่บริษัทก็อนุญาตให้ลูกค้านำไลเซนส์ซอฟต์แวร์ในสังกัด IBM (เช่น DB2, Cognos, Websphere, Tivoli, Informix) ไปรันบนคลาวด์ยี่ห้ออื่นๆ ได้เช่นกันภายใต้นโยบาย BYOSL (Bring Your Own Software License)
ที่ผ่านมา IBM รับรองการนำซอฟต์แวร์ของตัวเองไปรันบน Amazon EC2 และ Microsoft Azure แต่ล่าสุด IBM ก็ประกาศรองรับ Google Compute Engine เพิ่มมาอีกรายแล้ว ส่งผลให้ตอนนี้ซอฟต์แวร์ของ IBM รองรับบริการ public cloud รายใหญ่ทั้งสามค่ายครบหมดแล้ว
Google ประกาศเข้าซื้อกิจการ Qwiklabs แพลตฟอร์มสอน พร้อมทดสอบเขียนแอพและโซลูชันบนคลาวด์ (ที่เน้นไปที่ AWS ของ Amazon เป็นหลัก) โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่า
Google ระบุว่าบน Qwiklabs จะมีคอร์สสำหรับ Google Cloud Platform และ G Suite เพิ่มเติมเข้ามา ขณะที่ Qwiklabs ระบุว่าจะยังคงให้บริการตามเดิมต่อไป ขณะที่คอร์สของ AWS ก็จะยังคงมีต่อไปตามเดิม แต่ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะมีคอร์สใหม่เพิ่มเข้ามาหรือไม่
ที่มา - The Keyword via TechCrunch
AMD เปิดตัวชุดซอฟต์แวร์ Radeon Open Compute Platform (ROCm) รุ่นใหม่ที่รองรับชิปของเอเอ็มดีรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวมาพร้อมกับ MacBook Pro รองรับการใช้งานแบบ Virtualization และ container
ชุดซอฟต์แวร์ ROCm มาพร้อมกับคอมไพล์เลอร์ HCC ตัวใหม่ที่รองรับการคอมไพล์ครั้งเดียวให้ทำงานได้ทั้งซีพียูและจีพียู, HIP ระบบพอร์ตโค้ดจาก CUDA พร้อมกับโชว์การพอร์ตโค้ดที่ใช้พัฒนาด้วย Caffe มารันบนชิป AMD, และไลบรารีทางคณิตศาสตร์ชุดใหม่
ทางเอเอ็มดีระบุว่าปีหน้า Google Compute Engine และ Google Machine Learning จะเริ่มมีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป AMD ให้บริการ โดยใช้ AMD FirePro S9300
แนวคิดการนำ GPU มาช่วยเร่งงานประมวลผลบางประเภท (ที่ไม่ใช่กราฟิกหรือเกมโดยตรง) ถูกใช้กันมานานแล้วในวงการคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง และผู้ให้บริการคลาวด์หลายเจ้าก็มี VM แบบมี GPU แยกมาให้เลือกบ้างแล้ว
ล่าสุด Google Cloud Platform เป็นผู้ให้บริการคลาวด์อีกรายที่ประกาศนำ GPU มาใช้งาน โดยจะมีให้ใช้ในบริการ Google Compute Engine และ Google Cloud Machine Learning ส่วนของจีพียูมีให้เลือกทั้ง AMD FirePro S9300 x2 สำหรับงานเวิร์คสเตชันทั่วไป และ NVIDIA Tesla P100/K80 สำหรับงานด้าน AI และ deep learning
Google Cloud เดิมมีศูนย์ข้อมูลสำหรับโซนเอเชียเฉพาะที่ไต้หวันทำให้ระยะทางห่างจากไทยไปพอสมควร ตอนนี้ทางกูเกิลก็ประกาศเพิ่มศูนยข้อมูล asia-northeast1 ที่ญี่ปุ่น เป็นศูนย์ข้อมูลที่สองโดยมีโซนภายใน 3 โซน
การที่ศูนย์ข้อมูลไปตั้งในญี่ปุ่นเองทำให้ผู้ใช้ในญี่ปุ่นลดระยะเวลา latency ไปได้ 50-85%
พร้อมๆ กับการประกาศศูนย์ข้อมูลใหม่ กูเกิลยังประกาศแผนการเปิดศูนย์ข้อมูลในปีหน้าว่าจะมี สิงคโปร์, ซิดนีย์, และมุมไบ เพิ่มเติมเข้ามา สำหรับคนไทยศูนย์ที่สิงคโปร์น่าจะมีผลกันมากเพราะใกล้กับไทยเอง
ที่มา - Google Cloud Platform
บริการคลาวด์สตอเรจสำหรับการเก็บข้อมูลระยะยาวมีต้นตำรับอย่าง Amazon Glacier ที่เข้าถึงข้อมูลโดยใช้เวลานาน ตอนนี้กูเกิลก็มีบริการที่ราคาเท่ากันออกมาแล้วในชื่อ Coldline แม้ว่าจะออกแบบสตอเรจสำหรับการเก็บข้อมูลระยะยาว แต่ก็สามารถเรียกข้อมูลได้รวดเร็ว
ก่อนหน้านี้กูเกิลมีบริการ Nearline สำหรับเก็บข้อมูลระยะยาวมาก่อนแล้ว โดย Nearline คิดค่าเก็บข้อมูล 1 เซนต์ต่อกิกะไบต์ และเรียกค่าดึงข้อมูลกลับ 1 เซนต์ต่อกิกะไบต์เช่นกัน สำหรับ Coldline ค่าเก็บข้อมูลจะถูกลงเหลือ 0.7 เซนต์ต่อกิกะไบต์ แต่ค่าเรียกข้อมูลกลับจะแพงขึ้นเป็น 5 เซนต์ต่อกิกะไบต์
กูเกิลเปิดสอบใบรับรองของตัวเอง ชื่อว่า Google Certified Professional เบื้องต้นมีใบรับรอง 3 ใบ ได้แก่