Ronin Network เครือข่าย sidechain สำหรับการทำ transaction ความเร็วสูงสำหรับ Ethereum ถูกแฮกถอนเงินออกไปทั้ง USDC และ ETH รวมมูลค่ากว่าสองหมื่นล้านบาท
การแฮกครั้งนี้อาศัยการแฮกที่ตัวโหนด validator โดยตรง โดยใน Ronin มีทั้งหมด 9 โหนด และต้องยืนยันธุรกรรมอย่างน้อย 5 โหนด คนร้ายสามารถแฮก 4 โหนดของ Sky Mavis และอีกหนึ่งโหนดของ Axie DAO ที่แม้จะเป็นผู้สร้างโหนดคนละราย แต่กลับเปิดให้ โหนดของ Sky Mavis เซ็นยืนยันธุรกรรมแทนเอาไว้ ทำให้คนร้ายยืนยันธุรกรรมได้สำเร็จ
Ronin Network ได้รับความนิยมสูงในหมู่คน Game-Fi และ NFT เป็นรองเพียง Ethereum หลักเท่านั้น ตัวเครือข่ายอาศัยการยืนยันแบบ Proof-of-Authority
จากเหตุการณ์แฮ็กเกอร์กลุ่ม LAPSUS$ เจาะเข้าระบบของบริษัท Okta ที่ให้บริการ CRM จนกระทบลูกค้าหลายราย
วันนี้มีเอกสารสอบสวนการเจาะระบบของ Okta หลุดออกมาทางนักวิจัยความปลอดภัยอิสระ Bill Demirkapi โดยเอกสารนี้เป็นของบริษัทความปลอดภัย Mandiant (เพิ่งขายให้กูเกิล) ที่ได้รับการว่าจ้างจาก Okta ให้มาตรวจสอบเหตุการณ์
ทีมความปลอดภัยไซเบอร์ของไมโครซอฟท์ ออกรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มแฮ็กเกอร์ LAPSUS$ ที่กำลังดังในตอนนี้ หลังเจาะข้อมูลของบริษัทชื่อดังหลายแห่ง เช่น NVIDIA, Samsung, Okta รวมถึงไมโครซอฟท์เองด้วย
ไมโครซอฟท์บอกว่าจากการสอบสวนภายใน พบว่ามีบัญชีของพนักงานถูกเจาะ 1 รายเท่านั้น และแฮ็กเกอร์ไม่ได้ข้อมูลอื่นขององค์กรไป นอกจากข้อมูลในบัญชีของพนักงานคนนั้น
Okta แถลงถึงเหตุการณ์ที่กลุ่ม LAPSUS$ อ้างว่าสามารถยึดระบบหลังบ้านของ Okta สำเร็จ โดยระบุว่าเครื่องที่ถูกแฮกเป็นเครื่องของพนักงานซัพพอร์ตที่เป็นลูกจ้างของบริษัทภายนอกอีกที
ทาง Okta ระบุว่าข้อมูลลูกค้า 2.5% ได้รับผลกระทบ โดยอาจจะถูกแฮกเกอร์เข้าไปดูข้อมูล หรือถูกกระทำบางอย่างกับข้อมูล ตัวเลขล่าสุดจำนวนลูกค้าของ Okta มีประมาณ 15,000 ราย หากคิดจากตัวเลขนี้ก็อาจจะมีบริษัท 300-400 บริษัทได้รับผลกระทบ
กลุ่ม LAPSUS ประกาศว่าสามารถแฮกเซิร์เวอร์ Azure DevOps ของไมโครซอฟท์เองได้สำเร็จ ทำให้ได้ข้อมูลซอร์สโค้ดไปจำนวนมาก ทั้งโครงการที่ให้บริการทั่วไป เช่น Bing หรือ Cortana และบริการภายในของไมโครซอฟท์เอง
LAPSUS ปล่อยไฟล์ .torrent ออกมาผ่านช่องทาง Telegram ของกลุ่ม พร้อมกับระบุรายชื่อ tracker ที่รองรับไฟล์นี้อยู่ ตัวไฟล์จริงๆ เป็น 7zip ขนาด 9GB และเมื่อแตกไฟล์ออกมาแล้วจะได้ขนาดรวม 37GB
ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นซอร์สโค้ดบริการฝั่งเว็บและแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ไม่มีซอร์สโค้ดฝั่งเดสก์ทอป เช่น Windows, Office, หรือซอฟต์แวร์ระดับองค์กรอย่าง SQL Server แต่อย่างใด
กลุ่มแฮกเกอร์ LAPSUS ที่โด่งดังขึ้นในช่วงหลังจากการแฮกข้อมูล NVIDIA และซัมซุง ประกาศว่าทางกลุ่มสามารถล็อกอินเข้าระบบของ Okta ผู้ให้บริการยืนยันตัวตนระดับองค์กรรายใหญ่
Okta เป็นบริษัที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง จากการให้บริการจัดการการล็อกอินระดับองค์กร และปีที่แล้วก็เพิ่งเข้าซื้อ Auth0 ผู้ให้บริการล็อกอินสำหรับลูกค้ารายย่อย ที่ผ่านมาบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากใช้บริการของ Okta ในการยืนยันตัวตนพนักงาน หากข้ออ้างของกลุ่ม LAPSUS เป็นความจริงก็อาจจะทำให้องค์กรที่เป็นลูกค้าของ Okta ตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย โดย LAPSUS ก็ระบุว่าการโจมตีครั้งนี้มุ่งไปที่ลูกค้าของ Okta เป็นหลัก
HubSpot บริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ CRM, การตลาดออนไลน์ และระบบบริการลูกค้า รายงานว่าค้นพบการเจาะระบบเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2022 ที่ผ่านมา และมีข้อมูลของลูกค้าจำนวนหนึ่งถูกขโมยออกไป
HubSpot เปิดเผยรายละเอียดของการแฮ็กว่าเริ่มจากบัญชีของพนักงานโดนแฮ็กก่อน และถูกใช้เข้ามาเจาะไปยังข้อมูลของลูกค้าอีกทีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ HubSpot ได้แจ้งเตือนไปยังลูกค้าองค์กรประมาณ 30 รายที่ได้รับผลกระทบแล้ว
บริษัทหลายรายที่เป็นลูกค้าของ HubSpot ที่ระบุชื่อคือบริษัทสายคริปโต 4 ราย BlockFi, Swan Bitcoin, NYDIG, Circle เปิดเผยว่าโดนเจาะบัญชี HubSpot ของตัวเองตามไปด้วย แต่แฮ็กเกอร์เข้าไม่ถึงระบบไอทีหลักของบริษัทที่แยกจากกัน
กลุ่มแฮกเกอร์ Lapsus$ ประกาศขโมยข้อมูลออกจากมาจากซัมซุงได้สำเร็จ โชว์ไฟล์บีบอัดแล้วขนาด 190GB ส่วนสำคัญคือซอร์สโค้ดของอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลไฟล์อื่นๆ จะเป็นอะไรบ้าง โดยทาง Lapsus$ กำลังปล่อยไฟล์ทั้งหมดผ่านทาง bittorrent
ที่มา - Bleeping Computer
ข่าวบางข่าวบนเว็บไซต์สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ถูกเปลี่ยนข้อมูลเป็นข้อความโปรโมตเว็บพนันออนไลน์ ปัจจุบันพบ 2 ข่าวที่ถูกแก้ไข คือลิงก์นี้ และลิงก์นี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีลิงก์อื่นที่โดนแก้ไขอีกหรือไม่ โดยข้อมูลที่ถูกแก้ไข ยังเหลือข้อมูลแหล่งข่าวและที่มาเป็นของเดิมอยู่ คาดอาจมีแอคเคาท์ผู้เขียนข่าวหรือผู้ดูแลถูกแฮก
NVIDIA ยืนยันข่าวว่าบริษัทโดนแฮ็ก และโดนขโมยข้อมูลภายในบางอย่างออกไป ซึ่งจากข่าวในแวดวงความปลอดภัยระบุว่าโดนขโมยซอร์สโค้ดของ DLSS ไปเผยแพร่ด้วย
NVIDIA พบว่าตัวเองถูกแฮ็กในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ หลังสอบสวนพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างยูเครน-รัสเซีย และไม่โดน ransomware เรียกค่าไถ่ แต่พบว่าโดนขโมยบัญชีล็อกอินของพนักงานและข้อมูลภายในบางอย่าง
มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ LAPSU$ จากอเมริกาใต้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้แฮ็ก NVIDIA และขโมยข้อมูลออกมาได้ 1TB ซึ่งในนั้นมีไดรเวอร์ LHR สำหรับการใช้จีพียูขุดเงินคริปโตด้วย โดย LAPSU$ ประกาศขายข้อมูลนี้ให้กับผู้สนใจ
Qubit Finance แพลตฟอร์ม Defi ข้ามเชน (Ethereum-Binance) ถูกแฮกดึงโทเค็นออกไปรวมมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ทาง Qubit Finance พยายามเปิดทางเจรจากับผู้แฮก โดยเสนอรางวัลรายงานช่องโหว่สูงสุด 250,000 ดอลลาร์ หรือหากแฮกเกอร์ต้องการมากกว่านี้ก็พร้อมเจรจา
แฮกเกอร์อาศัยช่องโหว่ของฟังก์ชั่น deposit ใน smart contract ที่ตรวจสอบเงื่อนไขไม่ครบถ้วน ทำให้แฮกเกอร์สามารถโอน Qubit xETH จาก Null เข้าตัวเองได้ไม่จำกัด ทาง Qubit Finance ระบุว่าฟังก์ชั่น deposit ควรถูกแทนด้วย depositETH ไปแล้ว แต่ใน smart contract ก็ยังมีฟังก์ชั่นนี้อยู่
บริษัทความปลอดภัย Elliptic รายงานการค้นพบบั๊กของ OpenSea แพลตฟอร์มขาย NFT ชื่อดัง ที่เปิดให้แฮ็กเกอร์สามารถซื้องาน NFT ในราคาที่ต่ำกว่าตลาดมากๆ แล้วไปขายต่อในราคาแพงได้
กรณีตัวอย่างเกิดกับงานในคอลเลคชัน Bored Ape Yacht Club NFT หมายเลข #9991 ที่ราคาตลาดขายกันอยู่ราว 198,000 ดอลลาร์ กลับถูกผู้ใช้ชื่อ jpegdegenlove ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามาก (0.77 ETH หรือราว 1,800 ดอลลาร์) แล้วนำกลับไปขายต่อในราคาถูกกว่าตลาดเล็กน้อยคือ 196,000 ดอลลาร์ในเวลาหลังจากนั้นไม่นาน เท่ากับทำกำไร 194,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.4 ล้านบาท)
ผู้ใช้รายนี้ยังซื้อ NFT อีก 7 ชิ้นด้วยช่องโหว่แบบเดียวกัน ทำกำไรไปอีก 31 ล้านบาท
Crypto.com เว็บเทรดคริปโตออกแถลงการณ์รายละเอียดการโดนแฮก โดยทางเว็บไซต์ระบุว่าธุรกรรมอนุมัติโดยไม่ผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วย 2FA ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ผิดปกติ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเว็บไซต์จึงสั่งหยุดถอนเงิน 14 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบปัญหา
เว็บเทรดคริปโต Crypto.com ออกมายอมรับว่าระบบถูกแฮ็ก ส่งผลกระทบต่อบัญชีของผู้ใช้ประมาณ 400 คน
ตอนแรก Crypto.com ประกาศว่าระบบโดนบุกรุก แต่ไม่กระทบกับบัญชีคริปโตของผู้ใช้ โดยบริษัทระงับการถอนเงินออกชั่วคราว บังคับให้ผู้ใช้ทุกคนต้องล็อกอินบัญชีใหม่ และรีเซ็ต 2FA ใหม่
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ The Block รายงานว่าการแฮ็กระบบครั้งนี้มีเหรียญคริปโตถูกถอนออกไปด้วย ตัวเลขความเสียหายที่ประเมินคือ 4,830 ETH (15 ล้านดอลลาร์) และ 444 BTC (18.5 ล้านดอลลาร์) ซึ่งภายหลัง Kris Marszalek ซีอีโอของ Crypto.com ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่ามีเหรียญถูกถอนออกไปจริง (เขาไม่ยืนยันมูลค่า) กระทบกับผู้ใช้ประมาณ 400 คน ซึ่งบริษัทชดเชยความเสียหายให้ทั้งหมด
ทวิตเตอร์กรมสรรพากรไทย @RevenueDept ถูกแฮกเกอร์ยึดบัญชี ลบทวีตออกทั้งหมด แล้วประกาศรับโฆษณาโครงการ NFT
ตัวแฮกเกอร์ไม่ได้ประกาศแรงจูงใจอื่น หลังก่อนหน้านี้กรมสรรพากรระบุว่าการจัดเก็บภาษีคริปโตต้องจ่าย 15% ทุกรายการโดยไม่หักรายการที่ขาดทุน
GoDaddy เว็บโฮสติ้งรายใหญ่ของโลก แจ้งข้อมูลต่อ ก.ล.ต. สหรัฐ (SEC) ว่าบริษัทโดนเจาะระบบให้บริการโฮสติ้ง WordPress เป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน กระทบลูกค้าอย่างน้อย 1.2 ล้านราย
รายงานของ GoDaddy บอกว่าเหตุการณ์เจาะระบบเกิดขึ้นเมื่อ 6 กันยายน แต่บริษัทเพิ่งมาพบร่องรอยเมื่อ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบบที่ได้รับผลกระทบคือส่วน Managed WordPress ที่เป็นบริการรับฝากเว็บที่ใช้ WordPress โดยทีมงานของ GoDaddy ดูแลระบบหลังบ้านให้เสร็จสรรพ (ลักษณะเดียวกับ WordPress.com)
หลังศาลรัฐธรรมนูญถูกแฮกเมื่อวาน วันนี้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) แสดงความเห็นในกรณีนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าการแฮกเป็นเพียงการดิสเครดิต ไม่มีข้อมูลหายและระงับการเข้าถึงเว็บแล้ว
ส่วนระบบหลังบ้านเว็บ ก็เป็นการจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดูแล เจ้าตัวคาดว่าคงไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ และคาดว่ายูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ด อาจจะหลุดจากแอดมิน หรือแฮกเกอร์เจาะเข้ามาเอง ซึ่งทั้งหมดกำลังสืบสวนกันอยู่ และก็คาดว่าการกู้เว็บคงยาก
ตอนนี้ เว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญ www.constitutionalcourt.or.th ถูกแฮ็ก และเปลี่ยนหน้สเว็บไซต์เป็นเพลง Death Grips - Guillotine (It goes Yah และยังเปลี่ยนชื่อไซต์เป็น Kangaroo Court ซึ่งมีความหมายว่าศาลเตี้ยด้วย
เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ซึ่งมีนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นผู้ปราศรัย เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ผู้ดูแลแพ็กเกจ ua-parser-js บน npm ถูกคนร้ายแฮกบัญชีและวางแพ็กเกจเวอร์ชั่น 0.7.29, 0.8.0, และ 1.0.0 เพื่อวางมัลแวร์ในเครื่องของเหยื่อ โดยนักพัฒนาที่โหลดแพ็กเกจนี้ไปควรถือว่าเครื่องของตัวเองถูกแฮก และรีเซ็ตรหัสผ่านหรือกุญแจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทันที
ตอนนี้ผลกระทบของมัลแวร์ที่แน่ชัดคือการขโมยรหัสผ่านในเครื่อง, ขโมย cookie ในเบราว์เซอร์, และขุดเงินคริปโตสกุล Monero
GitHub ออกประกาศแจ้งเตือนระดับวิกฤติ ระบุว่ากุญแจและรหัสผ่านควรสร้างใหม่บนเครื่องที่ไม่ได้ติดตั้งแพ็กเกจนี้ทันที และต่อให้ถอนการติดตั้งแพ็กเกจนี้ไปแล้วก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่ายังเหลือมัลแวร์ในเครื่องหรือไม่
บางกอกแอร์เวย์สประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 บริษัทถูกโจมตีทางไซเบอร์ เป็นผลให้อาจมีข้อมูลผู้ใช้บริการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาติ ซึ่งข้อมูลที่โดนเข้าถึงนั้นได้แก่ ชื่อ นามสกุล สัญชาติ เพศ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ ช่องทางการติดต่อสื่อสาร ข้อมูลหนังสือเดินทาง ประวัติการเดินทาง ข้อมูลอาหารพิเศษของผู้โดยสาร รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตบางส่วนด้วย
บริษัทแนะนำให้ผู้โดยสารติดต่อไปยังธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตเพื่อดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ทำการเปลี่ยนรหัสผ่าน รวมถึงระวังการแอบอ้างโดยใช้ข้อมูลดังกล่าวจากผู้ไม่ประสงค์ดี
แฮกเกอร์ผู้แฮกบริษัท Electronic Arts และได้ข้อมูลไปถึง 780 กิกะไบต์ เริ่มปล่อยข้อมูลออกสู่สาธารณะ โดยตอนนี้ซอร์สโค้ดของเกม FIFA 21 และซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์อื่นๆ เริ่มกระจายไปตามเว็บ torrent
ก่อนหน้านี้กลุ่มแฮกเกอร์เคยพยายามขายข้อมูลชุดนี้เป็นเงิน 28 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่มีใครซื้อ และทาง EA เองก็ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลผู้ใช้หลุดไปแต่อย่างใด และเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลครั้งนี้ไม่กระทบต่อธุรกิจ
กรณีนี้แฮกเกอร์อาศัยจุดเริ่มต้นของการแฮกด้วยการซื้อ cookie เว็บ Slack ของพนักงานคนหนึ่งราคาเพียง 10 ดอลลาร์ จากนั้นจึงไปแชตขอรีเซ็ตโทเค็นล็อกอิน
Electronic Arts ถูกแฮกเซิร์ฟเวอร์ คนร้ายอ้างว่าได้ซอร์สโค้ดเกมและเครื่องมือที่เกี่ยวข้องไปทั้งหมด 780 กิกะไบต์ เช่น ซอร์สโค้ดเอนจิน Frostbite ที่ใช้งานอยู่ในหลายเกม หรือซอร์สโค้ดของเซิร์ฟเวอร์เกม FIFA 21
ทางบริษัทระบุว่ากำลังสอบสวนอยู่ แต่ยืนยันว่าแฮกเกอร์ไม่ได้เข้าถึงข้อมูลผู้เล่น และไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล โดยตอนนี้ได้ทำงานร่วมกับตำรวจและผู้เชี่ยวชาญเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ พร้อมกับปรับปรุงความปลอดภัยของระบบ
ตอนนี้แฮกเกอร์ประกาศอยู่บนเว็บบอร์ดใต้ดินและพยายามขายข้อมูลที่แฮกมาได้ทั้งหมด โดยไม่ระบุว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง แต่แชร์ภาพบางส่วนเท่านั้น
วันนี้ช่อง YouTube ของไทยรัฐออนไลน์ถูกเปลี่ยนชื่อวิดีโอทั้งหมดกลายเป็นข้อความโปรโมทเงินคริปโต แม้ว่าตัววิดีโอยังอยู่ครบดีทั้งหมด
ช่องไทยรัฐออนไลน์มีผู้ติดตามถึง 11.9 ล้านคน นับเป็นช่องขนาดใหญ่ของไทย
นอกจากการเปลี่ยนข้อความหัวข้อวิดีโอและคำอธิบายแล้ว วิดีโอยังถูกเปลี่ยนไลเซนส์เป็นแบบ Creative Commons อีกด้วย
JBS USA ผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ที่สุดในโลกแถลงว่าถูกโจมตีไซเบอร์จนต้องหยุดสายการผลิตและการดำเนินการทั้งในอเมริกาเหนือและออสเตรเลีย แม้ว่าระบบสำรองจะไม่กระทบแต่กระบวนการกู้คืนระบบจะใช้เวลาระยะหนึ่ง
ทางบริษัทไม่ได้บอกรายละเอียดการโจมตีโดยตรงว่าเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่หรือไม่ แต่บอกเพียงว่าไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลลูกค้า, ซัพพลายเออร์, หรือข้อมูลพนักงานรั่วไหลออกนอกบริษัท และได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
กระบวนการผลิตสินค้าเกษตรยุคใหม่พึ่งระบบไอทีอย่างหนักในหลายส่วน เช่น การติดตามย้อนกลับกระบวนการผลิต หรือระบบอัตโนมัติต่างๆ
ที่มา - ZDNet
ทีม DarkSide ที่หน่วยสืบสวนกลางสหรัฐ ยืนยันว่าเป็นทีมงานเบื้องหลังการแฮกบริษัท Colonial Pipeline ผู้ดูแลท่อส่งน้ำมันฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จนต้องปิดท่อส่ง ออกแถลงการบนเว็บไซต์ของทีมในเครือข่ายดาร์กเว็บ (ต้นทางไม่ได้ระบุว่าเป็น Tor หรือเครือข่ายใด) มีเนื้อหาระบุว่าทีมไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ ต้องการแค่เงิน ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาสังคม และคราวหน้าจะตรวจสอบบริษัทเป้าหมายที่ได้รับการว่าจ้างให้แฮกให้ดีกว่านี้