หลังจากโน้ตบุ๊กของ Huawei ถูกถอดออกจาก Microsoft Store ให้หลังการประกาศคำสั่งประธานาธิบดี ล่าสุดทั้ง Matebook 13, Matebook และ Matebook X Pro กลับมาวางขายบน Microsoft Store แล้ว
ด้านไมโครซอฟท์ชี้แจงว่าที่ผ่านมาได้ประเมินและได้ปฏิบัติตามข้อฎหมายและพูดคุยกับธุรกิจภาคส่วนต่างๆ มาโดยตลอด จึงตัดสินใจจะวางขายโน้ตบุ๊ก Huawei "ที่เหลืออยู่" (existing inventory) บน Microsoft Store อีกครั้ง ซึ่งเมื่อถูกถามในรายละเอียด โฆษกไมโครซอฟท์ระบุว่าการขายอุปกรณ์ที่เหลืออยู่นั้น ยังคงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งผู้เขียนคาดว่าน่าจะหมายถึงว่าขายเท่าที่สต๊อคเหลืออยู่เท่านั้น (ตอนนี้มี Matebook X Pro ขึ้นว่า 'Out of Stock')
หลังประกาศคำสั่งประธานาธิบดีของสหรัฐที่ส่งผลให้บริษัทสัญชาติอเมริกันไม่สามารถทำธุรกิจกับ Huawei ได้ จนอาจส่งผลกระทบในหลายๆ ด้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบในระยะกลางและระยะยาวมากกว่า อย่างไรก็ตามผลกระทบในระยะสั้นที่สุดของ Huawei คือเรื่องของความเชื่อมั่นในแบรนด์ และดูเหมือนว่าจะกระทบไม่น้อยเสียด้วย
Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei ที่ระยะหลังปรากฎตัวต่อสื่อมากขึ้นได้ให้สัมภาษณ์กับ China Global Television Network ยอมรับว่าบริษัทคาดว่าน่าจะสูญเสียรายได้ราวๆ 3 หมื่นล้านเหรียญภายใน 2 ปีข้างหน้า จากมาตรการครั้งนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ขณะเดียวกันยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกก็น่าจะหายไปไม่เกิน 40% ด้วย เรียกได้ว่าเป้าหมายของการแซงซัมซุงเป็นเบอร์ 1 ถูกดับไปดื้อๆ
Reuters รายงานอ้างอิงคนที่เกี่ยวข้องว่าผู้ผลิตชิปในสหรัฐที่เคยเป็นซัพพลายเออร์ให้ Huawei ซึ่งรวมถึง Qualcomm และ Intel ได้เจรจาพูดคุยและล็อบบี้กระทรวงพาณิชย์ให้ผ่อนปรนมาตรการแบน Huawei
บริษัทอ้างว่าผลิตภัณฑ์อย่างสมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊คหรือเซิร์ฟเวอร์โดยปกติใช้ชิ้นส่วนที่มีการใช้งานกันทั่วไปอยู่แล้ว และไม่น่าจะสร้างปัญหาด้านความมั่นคงเหมือนกรณีอุปกรณ์ 5G โดยการโต้แย้งครั้งนี้จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อช่วย Huawei แต่เพื่่อช่วยบริษัทและคนอเมริกัน
สมาร์ทโฟนพับจอได้ Huawei Mate X มีอันต้องเลื่อนวันวางขายซะแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ Huawei ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าจะวางขายในเดือนกรกฎาคมตามแผนเดิม แต่ล่าสุดต้องเลื่อนออกไปอีกเล็กน้อยเป็นเดือนกันยายนแทน
โฆษกของ Huawei ให้เหตุผลว่าต้องการเวลาเพื่อทดสอบเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจอพังแบบเดียวกับ Samsung Galaxy Fold และจะทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสื่อมเสีย
หลังจากที่ Huawei จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า HongMeng OS ในจีนไปแล้ว ล่าสุด Reuters รายงานอ้างอิงข้อมูลจาก U.N. World Intellectual Property Organization (WIPO) ว่า Huawei ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า HongMeng ในอีกหลายประเทศอย่างน้อย 9 ประเทศรวมถึงในยุโรปแล้ว
เอกสารจดเครื่องหมายการค้าชี้ว่า Huawei ต้องการใช้ HongMeng OS ในหลายอุปกรณ์ตั้งแต่สมาร์ทโฟน ไปจนถึงหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ในรถ ส่วนประเทศที่ Huawei จดเครื่องหมายการค้าก็มีอาทิกัมพูชา, แคนาดา, เกาหลีใต้, นิวซีแลนด์, เปรู และไทยด้วย ขณะที่ Andrew Williamson รองประธานด้านสาธารณะและการสื่อสารยืนยันว่า Huawei กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการหาทางเลือก
ความวัวยังไม่ทันหาย Huawei กลับมาเป็นประเด็นข่าวอีกแล้ว หลังมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนซีรีส์ P20, P30, Honor 10 รายงานว่าพบการแสดงโฆษณาในหน้าล็อคสกรีน
มือถือของ Huawei มีฟีเจอร์แสดงภาพพื้นหลังของหน้าจอล็อคสกรีนที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ (เรียกว่า magazine) ซึ่งผู้ใช้ที่ตั้งค่าแสดงภาพหมวด landscape จะเห็นโฆษณาของเว็บจองโรงแรม Booking.com และไม่สามารถปิดได้ ทางออกเดียวคือต้องเปลี่ยนภาพพื้นหลังไม่ใช้แบบ magazine เท่านั้น
ผู้ใช้ที่พบโฆษณามาจากหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ เยอรมนี นอร์เวย์
ที่มา - Android Police
ดูเหมือนว่า Huawei จะมองหาทางออกหลายแบบในการแก้ปัญหาไม่สามารถใช้งาน Android ได้ นอกจาก Hongmeng หรือ Ark OS ยังมีข่าวว่าบริษัทสนใจทดสอบระบบปฏิบัติการจากรัสเซียด้วย
ข้อมูลนี้มาจากเว็บไซต์ข่าว The Bell ของรัสเซีย ที่ระบุว่า Huawei กำลังเจรจากับบริษัท Open Mobile Platform (OMP) ของรัสเซีย ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการ Aurora OS เพื่อนำไปใช้งาน ตอนนี้ Huawei กำลังทดสอบ Aurora OS กับฮาร์ดแวร์บางรุ่นแล้ว
เมื่อวานมีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า Huawei สั่งระงับการผลิตโน้ตบุ๊คและชะลอโคตรงการพัฒนา ล่าสุด The Information รายงานในทิศทางเดียวกัน โดยอ้างอิงพนักงาน Huawei ที่เกี่ยวข้องว่า Huawei เลื่อนการเปิดตัวโน้ตบุ๊คใหม่ออกไปอย่างไม่มีกำหนดแล้ว
การยกเลิกแผนเปิดตัวโน้ตบุ๊คครั้งนี้นับเป็นผลกระทบแรกๆ ของ Huawei หลังคำสั่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ฝั่งสมาร์ทโฟน Huawei ยังพอมีแผนและช่องทางในการเอาตัวรอดอยู่บ้าง
DigiTimes สื่อของไต้หวันรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวจากซัพพลายเชนที่ผลิตโน้ตบุ๊คให้ Huawei ว่าบริษัทจากจีนสั่งหยุดการผลิตและระงับการส่งมอบโน้ตบุ๊ค ทั้ง MateBook และ MagicBook ของ Honor รวมถึงสั่งระงับโครงการพัฒนาทุกอย่างออกไปก่อน
ถึงแม้ Huawei จะถูกตัดการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ในการพัฒนาสมาร์ทโฟน แต่ Huawei ก็ยังคงมีช่องทางและความสามารถพอที่จะทำเองได้อยู่ ตรงกันข้ามกับโน้ตบุ๊คที่ Huawei แทบไม่มี know-how เลยไม่ว่าจะเรื่องชิปหรือระบบปฏิบัติการ หลัง Intel ประกาศหยุดทำธุรกิจด้วยและไมโครซอฟท์ก็มีแนวโน้มจะเป็นไปในทิศทางนั้น เหลือแค่ AMD ที่แม้จะยังไม่มีท่าที่ แต่ด้วยความที่เป็นบริษัทอเมริกันก็คงจะหนีไม่พ้นเช่นกัน
บริษัทต่างชาติเริ่มมีความเคลื่อนไหวแบนอุปกรณ์หัวเว่ยจากคำสั่งแบนของสหรัฐฯด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ลังเล โดยฟิลิปปินส์ หนึ่งในพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ก็ยังไม่ได้ลงนามในข้อห้ามของสหรัฐ และกำลังดำเนินการตามแผนการที่จะใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในการทดลองใช้ระบบไร้สาย 5G ต่อไป
ถึงแม้จะมีข่าวยืดเวลาการแบน Huawei ออกไปก่อน แต่อนาคตของ Huawei หลายๆ อย่างก็ยังไม่แน่นอนและ Huawei เองก็ยังคงต้องพยายามสร้าง ecosystem ของตัวเองต่อไปเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวด้วย
ล่าสุดมีนักพัฒนาแอปแอนดรอยด์ได้เปิดเผยกับ XDA ว่า Huawei ได้ส่งอีเมลเชิญชวนให้เขียนแอปลงบน AppGallery แอปสโตร์ของ Huawei โดยพยยามชูจุดขายว่า 2 ปีที่ผ่านมา Huawei ส่งมอบมือถือไปกว่า 350 ล้านเครื่องและเกินครึ่งก็อยู่ในตลาดฝั่งตะวันตก ทุกเครื่องมาพร้อม AppGallery โดยมีผู้ใช้แอคทีฟรายเดือน (MAUs) กว่า 270 ล้านราย และนักพัฒนาในชุมชนแล้วกว่า 5.6 แสนคน
ที่มา - XDA
กรณีการแบน Huawei ของรัฐบาลสหรัฐ อาจมีข้อยกเว้นให้บริษัทกลุ่มที่รับงานจากรัฐบาลสหรัฐ (contractor) มีเวลาปรับตัว ยังสามารถค้าขายกับ Huawei ได้อีก 2 ปี
สำนักงานการจัดการและงบประมาณของทำเนียบขาว (Office of Management and Budget หรือ OMB) ยื่นจดหมายขอให้สภาคองเกรส ยืดเวลาการแบนห้ามไม่ให้ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารจากบริษัทที่เป็นภัยต่อความมั่นคง
คำสั่งแบนอันนี้เป็นคนละส่วนกับ คำสั่งทางปกครองของ Trump ที่ห้ามบริษัทเอกชนสหรัฐทำธุรกิจกับ Huawei ที่อยู่ในรายชื่อของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ แต่เป็นคำสั่งอีกชุดตามกฎหมายความมั่นคง (กฎหมาย National Defense Authorization Act ของปีงบประมาณ 2019) ที่ห้าม "หน่วยงานของรัฐ" ใช้อุปกรณ์ของ Huawei
Facebook ยืนยันข่าวการตัดสัมพันธ์กับ Huawei โดยสมาร์ทโฟนของ Huawei ที่จะวางขายในอนาคต จะไม่สามารถพรีโหลดแอพของ Facebook (รวมถึง WhatsApp และ Instagram) ได้อีกต่อไป แต่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Huawei ยังสามารถดาวน์โหลดและใช้งานแอพเหล่านี้ได้ตามปกติ
สมาร์ทโฟนของ Huawei ในบางประเทศยังพรีโหลดแอพ Twitter และ Booking.com แต่ทั้งสองบริษัทยังไม่ยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้พรีโหลดเหมือนกรณีของ Facebook หรือไม่
บริษัทวิจัย Harris Interactive ของฝรั่งเศส ได้เก็บรวบรวมข้อมูลบริการหลังการขาย จากเชนเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ Darty โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับการซ่อมแซมสินค้าที่มีปัญหา ซึ่งยังอยู่ในช่วงรับประกัน โดยเป็นข้อมูลเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดต่าง ๆ รวมทั้งสมาร์ทโฟนด้วย
ข้อมูลพบว่าในช่วงระยะรับประกันสินค้า แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีอัตราการเคลมแจ้งปัญหาต่ำที่สุด อันดับ 1 คือ Honor แบรนด์ลูกของ Huawei ส่วนอันดับ 2 ก็คือ Huawei เอง ตามด้วยอันดับที่ 3 คือ Apple
รายงานยังบอกว่าค่าเฉลี่ยที่คนเปลี่ยนสมาร์ทโฟนไปเป็นเครื่องใหม่อยู่ที่ราว 3 ปี
ที่มา: Phone Arena
Financial Times รายงานว่า Google ได้ยื่นเรื่องไปยังรัฐบาลสหรัฐจากกรณีที่ต้องหยุดทำธุรกิจกับ Huawei โดยอ้างว่าการทำเช่นนี้อาจส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศมากกว่าที่คิด
Google อ้างว่าการไม่อนุญาตให้ Huawei ใช้แบรนด์แอนดรอยด์รวมถึงบริการของ Google เป็นการบังคับให้ Huawei ต้อง fork ตัวแอนดรอยด์ออกไปทำเอง ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮกมากกว่า
ท่ามกลางประเด็นสงครามการค้าและสงครามเย็นด้านเทคโนโลยีที่กำลังร้อนแรงระหว่างจีนและสหรัฐ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน ได้เดินทางไปเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการเพื่อสานสัมพันธ์ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
การพูดคุยระหว่าง สี จิ้นผิงและวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดข้อตกลงในระดับระหว่างรัฐเท่านั้น แต่บริษัทจากทั้งสองชาติก็มีการพูดคุยและลงนามในข้อตกลงระหว่างกันนอกรอบด้วย โดยหนึ่งในนั้นคือข้อตกลงระหว่าง Huawei และ MTC โอเปอเรเตอร์ของรัสเซีย เพื่อให้ Huawei เข้ามาพัฒนาและวางโครงข่ายเทคโนโลยี 5G ในรัสเซีย โดย MTC แถลงว่าภายใต้ความร่วมมือนี้ น่าจะทำให้บริษัทสามารถเริ่มทดสอบ 5G ในช่วงปี 2019-2020 ได้
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ South China Morning Post รายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า Foxconn หยุดไลน์การผลิต Huawei บางส่วน เพราะยอดขายสมาร์ทโฟนตกลง
ล่าสุดโฆษก Huawei ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว พร้อมยืนยันว่า กระบวนการผลิตทั่วโลกยังคงระดับปกติ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเพิ่มหรือลดแต่อย่างใด
ประเด็นข่าวลือเรื่อง Huawei ลดกำลังการผลิตเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าจะมีออกมา เพราะ Huawei ถูกบีบทุกทางไม่ว่าจะแอนดรอยด์, ชิปเซ็ตไปจนไปไลเซนส์ชิป จนทำให้ทุกคนคิดไปในทางเดียวกันว่าผลกระทบแรกๆ ของ Huawei คือยอดขายสมาร์ทโฟน
IEEE ออกประกาศยกเลิกแบนพนักงานหัวเว่ยจากการเป็นบรรณาธิการและทำหน้าที่ผู้ตรวจสอบงานวิจัย (reviewer) โดยระบุเหตุผลว่าได้รับการชี้แจงจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (Department of Commerce) ผู้รับผิดชอบกระบวนการจำกัดสิทธิ์ของหัวเว่ย ว่า IEEE สามารถร่วมงานกับพนักงานหัวเว่ยได้ต่อไป
หลังจากถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า IEEE เอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับการเมืองและสงครามการค้า ทาง IEEE ชี้แจงว่าที่ต้องแบนพนักงานหัวเว่ยก็เพื่อป้องกันอาสาสมัครและสมาชิกคนอื่นๆ ของ IEEE ไม่ให้มีปัญหาทางกฎหมายภายหลัง โดยระบุว่าทางองค์กรตระหนักว่าเรื่องของวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีเป็นเรื่องของทั้งโลก และเป้าหมายของ IEEE คือการทำให้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ
สื่อฮ่องกง South China Morning Post รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่ระบุตัวว่า การแบน Huawei ของสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบต่อยอดขายสมาร์ทโฟนของบริษัทแล้ว โดย Foxconn ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตสมาร์ทโฟนให้ Huawei ได้หยุดไลน์การผลิตบางไลน์แล้ว
Zhao Ming ประธานของแบรนด์ Honor ปฏิเสธว่าไม่รู้ข่าวเรื่องการหยุดไลน์การผลิต แต่เขาก็ยอมรับว่าเป้าหมายที่ Huawei จะแซงซัมซุงขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในปี 2020 อาจต้องเปลี่ยนแปลง เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปจากเดิม
สำนักข่าว Nikkei อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนสองแหล่งระบุว่าบริษัท Synopsys ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ออกแบบชิป และผู้ขายพิมพ์เขียวโมดูลพื้นฐานในชิปได้หยุดทำธุรกิจกับหัวเว่ยตามคำสั่งรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว
หลัง Google ตัดสัมพันธ์กับ Huawei ทำให้รายชื่อสมาร์ทโฟน Huawei ถูกถอดออกจากทั้งรายชื่อบน Android, Android Enterprise และ รายชื่อสมาร์ทโฟนที่ทดสอบ Android Q เบต้า
ล่าสุด Android Police ค้นพบว่ารายชื่อสมาร์ทโฟนที่ทดสอบ Android Q เบต้ากลับมามีชื่อของ Huawei Mate 20 Pro แล้ว ทว่าในหน้ารายชื่อ Android และ Android Enterprise ยังคงไม่มีรายชื่อของ Huawei เช่นเดิม
ที่มา - Android Q Beta Devices via Android Police
สมาพันธ์คอมพิวเตอร์จีน (China Computer Federation - CCF) ประกาศตัดสัมพันธ์กับ IEEE Computer Society หลังทาง IEEE ห้ามไม่ให้พนักงานหัวเว่ยทำหน้าที่บรรณาธิการวารสารหรือรีวิวงานวิจัย โดยระบุว่า IEEE ได้เฉออกจากแนวทางที่จะสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อมนุษยชาติ และเสียใจที่ Computer Society ยอมต่อกฎหมายท้องถิ่นที่ละเมิดแนวทางเปิดกว้างในทางวิชาการ
ทาง CCF ระบุว่ามี 3 มาตรการ ได้แก่ หยุดสื่อสารและหยุดความร่วมมือกับ Computer Society ทั้งหมดชั่วคราว, ไม่แนะนำให้สมาชิกของ CCF ส่งงานวิจัยเข้าร่วมในงานประชุมวิชาการหรือวารสารของ Computer Society, แนะนำให้สมาชิกหยุดช่วย Computer Society รีวิวรายงานวิชาการ
IEEE ออกอีเมลแจ้งวารสารในเครือว่าหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ แบนหัวเว่ย ตอนนี้ทาง IEEE ก็ไม่สามารถทำงานร่วมกับพนักงานของบริษัทสำหรับการให้ทำหน้าที่บรรณาธิการวารสาร หรือเป็นผู้รีวิวรายงานวิชาการได้อีกต่อไป แม้พนักงานของหัวเว่ยจะเป็นสมาชิกระดับ IEEE Fellow อยู่หลายคน
IEEE หรือ Institute of Electrical and Electronics Engineers เป็นองค์กรที่รวมมาจาก American Institute of Electrical Engineers และ Institute of Radio Engineers โดยตัวองค์กรเองจดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯ แม้จะมีสมาชิกจากทั่วโลกและทำงานระดับนานาชาติก็ตามที แต่การเป็นองค์กรในสหรัฐฯ ก็ทำให้ IEEE ต้องทำตามประกาศของสหรัฐฯ
Huawei เริ่มใช้มาตรการทางกฎหมายตอบโต้คำสั่งแบนของรัฐบาลสหรัฐแล้ว โดยยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐให้หยุดคำสั่งแบนแล้ว
มีผู้ใช้มือถือ Huawei Mate Series จำนวนหนึ่งที่ใช้ฟังก์ชั่นอัพเดทระบบอัตโนมัติข้ามคืน รายงานพร้อมกันในเช้าวันนี้ว่า โทรศัพท์ไม่สามารถใช้งานได้ และขึ้นหน้าจอกู้คืนข้อมูล ผู้เขียนข่าวซึ่งใช้ Huawei Mate 9 ประสบปัญหาเดียวกัน ซึ่งเมื่อทดลองแก้ปัญหาด้วยการกู้ข้อมูลโดยดาวโหลดเวอร์ชั่นสุดท้ายก็ไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้ ต้องล้างข้อมูลและคืนค่าเริ่มต้นจากโรงงานเท่านั้น ส่วนผู้ที่ประสบปัญหาท่านอื่นได้ลองนำเครื่องไปที่ศูนย์บริการ ทางศูนย์บริการไม่สามารถกู้คืนข้อมูลให้ได้ ต้องคืนค่าเริ่มต้นจากโรงงานได้เพียงช่องทางเดียว