ปลายเดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio Code เวอร์ชัน 1.58 ตามรอบการออกทุกสิ้นเดือน
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือเปิด Terminal ในพื้นที่ Editor (ตัวแก้โค้ด) ได้แล้ว จากเดิมที่ต้องเปิด Terminal ที่ครึ่งล่างของหน้าจอเท่านั้น ผลของฟีเจอร์นี้ทำให้เราสามารถแสดงผล grid layout ที่ประกอบด้วย Editor และ Terminal แบบไหนก็ได้อย่างอิสระ
Eclipse IDE ปัจจุบันออกเวอร์ชันใหม่ทุกไตรมาส ออกเวอร์ชัน 2021-06 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ
นอกจากตัวโปรแกรมแล้ว องค์กรแม่คือ Eclipse Foundation ที่ปัจจุบันมีโครงการในสังกัดมากขึ้น ยังได้ตั้งคณะทำงาน Eclipse IDE Working Group ขึ้นมาเพื่อโฟกัสกับกระบวนการพัฒนาตัว Eclipse IDE ชัดเจนกว่าเดิม โดยมีสมาชิกเป็นตัวแทนจากบริษัทใหญ่ๆ เช่น IBM, SAP, VMware, Renesas อยู่ในคณะทำงานด้วย
จากที่ไมโครซอฟท์ประกาศไว้ว่า Visual Studio 2022 เป็น 64 บิตแล้ว รองรับแรมเกิน 4GB วันนี้ Visual Studio 2022 version 17.0 Preview 1 เปิดให้ทดสอบแล้ว
ของใหม่นอกจากเรื่อง 64 บิต ได้แก่
Android Studio ออกรุ่นเสถียร 4.2 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้ระบบเลขรุ่นแบบเดิม หลังจากนี้จะเปลี่ยนไปใช้ระบบเลขรุ่นแบบ IntelliJ เช่น 2020.3.1
ของใหม่ใน Android Studio 4.2 ได้แก่
JetBrains ประกาศหยุดรองรับระบบปฏิบัติการ 32 บิต (ทั้งลินุกซ์และวินโดวส์) กับ IDE ทุกตัวของบริษัท ได้แก่ AppCode, Clion, DataGrip, GoLand, IntelliJ IDEA, PhpStorm, PyCharm, Rider, RubyMine, WebStorm
IDE ที่อิงอยู่บน IntelliJ เวอร์ชัน 2021.1 ถือเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่ยังรองรับระบบปฏิบัติการ 32 บิต ถัดจากนี้ไปคือเวอร์ชัน 2021.2 จะใช้งานไม่ได้แล้ว
JetBrains บอกว่าระบบปฏิบัติการ 32 บิตมีคนใช้งานน้อยลงมากแล้ว จึงตัดสินใจหยุดรองรับ เพื่อนำทรัพยากรไปรองรับสถาปัตยกรรมใหม่ๆ เช่น AArch64 (ARM64) แทน
พบกันทุกสามปี ไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio 2022 เวอร์ชันพรีวิว ส่วนตัวจริงจะออกช่วงกลางปีนี้
จุดเด่นที่สุดของ Visual Studio 2022 คือเป็นแอพพลิเคชัน 64 บิตเต็มรูปแบบ ทำให้ไม่ถูกจำกัดเรื่องแรม 4GB อีกต่อไปแล้ว จะเปิดโซลูชันใหญ่ขนาดไหนก็แล้วแต่สะดวก ถ้าแรมถึงเงินถึง (ตัวเลขของไมโครซอฟท์ระบุว่าเปิดโซลูชันที่มี 1,600 โปรเจคต์ และ 300,000 ไฟล์ได้สบาย)
Visual Studio Code ออกเวอร์ชัน 1.54 รอบอัพเดตเดือนกุมภาพันธ์ 2021 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ
ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio Code 1.53 เวอร์ชันอัพเดตรอบเดือนมกราคม 2021 มีฟีเจอร์น่าสนใจหลายตัว ตัวแรกคือ wrap tabs หรือการเรียงแท็บให้ "ล้น" ลงมาอยู่บรรทัดใหม่เมื่อย่อขนาดหน้าต่าง เป็นอีกทางเลือกแทนการ scroll bar ที่บางคนอาจไม่ชอบเพราะคลิกยาก
VS Code เวอร์ชันนี้ยังเพิ่มตัวเลือก tab decorations ให้สามารถตั้งค่าสีของแท็บ หรือแปะป้ายข้อความท้ายแท็บ (เช่น
เพิ่มตัว M หากแก้เนื้อหาในแท็บนั้นแล้วยังไม่เซฟกลับลง git)
Erich Gamma หนึ่งในผู้นำทีมพัฒนา Visual Studio Code เล่าความหลัง 10 ปีว่าความสำเร็จของ VS Code ที่เราเห็นในปัจจุบัน เกิดจากความล้มเหลวของโครงการก่อนหน้านี้คือ Visual Studio Online ที่เป็น code editor บนเบราว์เซอร์
สินค้ากลุ่ม Chromebook อาจเป็นคู่แข่งโดยตรงกับโน้ตบุ๊กวินโดวส์ราคาถูก แต่ความเป็นคู่แข่งกันไม่จำเป็นต้องเกลียดกันเสมอไป
ไมโครซอฟท์เขียนโพสต์สอนการใช้งาน Chromebook ในฐานะเครื่องมือเขียนโปรแกรม โดยเฉพาะเด็กๆ นักเรียนนักศึกษา ที่อาจมี Chromebook ใช้งานอยู่แล้วก็ไม่ต้องซื้อใหม่ ส่วนเครื่องมือที่สอนย่อมเป็น Visual Studio Code เวอร์ชันลินุกซ์ ที่สามารถใช้งานบน Chrome OS ได้อยู่แล้ว
ไมโครซอฟท์บอกว่า VS Code ออกแบบมาให้กินทรัพยากรน้อย ดังนั้นต่อให้เป็น Chromebook รุ่นราคาถูก สเปกต่ำ แรมเพียง 1GB ก็รันได้ (ตัวอย่างที่สอนใช้ Chromebook รุ่นแรม 4GB) แถมยังรองรับการใช้งานบน Chromebook ที่เป็น ARMv7 หรือ ARM64 ก็ได้เช่นกัน
Android Studio ประกาศปรับระบบเลขเวอร์ชันใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้เลขเวอร์ชัน "ปี.เวอร์ชัน" ลักษณะเดียวกับ IntelliJ IDEA ที่ใช้เป็นฐานตัว IDE ของ Android Studio อยู่แล้ว
เลขเวอร์ชันแบบใหม่มี 4 ชุด เช่น 2020.3.1.1 โดยเลขสองชุดหน้าเรียกตาม IntelliJ (Year of IntelliJ Version.IntelliJ major version) ส่วนสองชุดหลังเป็นเลขของ Android Studio เอง (Studio major version.Studio minor/patch version)
ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2019 v16.8 ของใหม่ที่สำคัญคือ รองรับ .NET 5.0 และยกเครื่องฟีเจอร์ Git ครั้งใหญ่ และใช้ Git เป็น default version control
UI ใหม่มีตั้งแต่เมนู Git แบบใหม่แยกเฉพาะของตัวเอง พร้อมปุ่มลัด Alt+G, หน้าต่างสร้าง repo โฉมใหม่, การดูรายชื่อไฟล์จาก Git ใน Solution Explorer, เพิ่มหน้าต่าง Git repo แบบเต็มจอ, ปรับปรุงหน้าจอ merge conflict และเพิ่มหน้าจอตั้งค่า Git ให้ละเอียดขึ้น
ไมโครซอฟท์บอกว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของฟีเจอร์ Git เท่านั้น และจะทยอยเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ เข้ามาในเวอร์ชันถัดๆ ไป
กูเกิลออก Android Studio 4.1 มาพร้อมไอคอนใหม่เป็นโทนสีน้ำเงินแทนสีเขียวของเดิม ฟีเจอร์ใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
ไมโครซอฟท์มีส่วนขยาย C/C++ ให้กับ Visual Studio Code มานานแล้ว (และเป็นส่วนขยายยอดนิยมอันดับ 2 ของ VS Code รองจาก Python) ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกเวอร์ชัน 1.0 ของส่วนขยายตัวนี้สักที
ของใหม่ที่สำคัญในเวอร์ชันนี้คือ รองรับการใช้งานบนลินุกซ์สถาปัตยกรรม ARM/ARM64 ทำให้สามารถใช้ VS Code เขียนแอพ C++ บนอุปกรณ์อย่าง Raspberry Pi ได้แล้ว, เพิ่มตัวปรับแต่งคอนฟิก C++ IntelliSense และตั้งค่าฟอร์แมตของโค้ด C++ แบบเดียวกับ Visual Studio ตัวเต็มได้
ความนิยมของ Visual Studio Code กลายเป็นจุดอ่อนของไมโครซอฟท์ เพราะส่วนขยายของภาษาสำคัญๆ กลับมีใน Visual Studio Code มากกว่า Visual Studio ตัวหลัก
ล่าสุดไมโครซอฟท์ทยอยแก้ปัญหานี้ ด้วยการออก Angular Language Service ตามมาให้ Visual Studio แล้ว ทำให้นักพัฒนาบน Visual Studio สามารถใช้ฟีเจอร์ของ editor พวก auto-completion, rename กับภาษา Angular ได้เต็มรูปแบบ
เมื่อเดือนพฤษภาคม VS Code ออกเวอร์ชัน Windows 10 ARM เพื่อใช้บนอุปกรณ์แบบ Surface Pro X โดยยังเปิดทดสอบเฉพาะกลุ่ม Insiders ก่อน
ล่าสุดใน VS Code เวอร์ชัน 1.47 รอบอัพเดตเดือนมิถุนายน 2020 รองรับ Windows ARM อย่างเป็นทางการ เข้าสถานะเสถียรเรียบร้อยแล้ว สามารถดาวน์โหลดได้จากลิงก์ https://aka.ms/win32-arm64-user
แอปเปิลออก Xcode 12 ตามรอบการอัพเดตปีละครั้งในงาน WWDC ของใหม่ที่สำคัญคือ ปรับหน้าตาและ UI เป็นสไตล์แบบใหม่ตามอย่าง macOS Big Sur เปลี่ยนไอคอนในทูลบาร์, ปรับหน้าตาและพฤติกรรมของแท็บ (เปิดแท็บใหม่ด้วยการดับเบิลคลิก), ปรับขนาดฟอนต์ในแถบ Navigator ด้านข้าง (อิงตามค่าของระบบปฏิบัติการ ซึ่งใช้กับโปรแกรมอื่นๆ อย่าง Finder ด้วย), ปรับหน้าตาของ code completion และหน้าตาของ Organizers ใหม่
นับเป็นข่าวดีสำหรับนักพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นที่ใช้เฟรมเวิร์คตระกูล ASP.NET เมื่อไมโครซอฟท์ประกาศออก Web Live Preview ส่วนขยายใหม่สำหรับ Visual Studio 2019 เพื่อเพิ่มความสะดวกใหักับการเขียนโค้ดในส่วนที่เป็น UI ของเว็บแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาด้วย ASP.NET
การติดตั้งส่วนขยายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มฟังก์ชั่น Edit in Browser ให้ VS 2019 ช่วยซิงก์การเปลี่ยนแปลงโค้ด UI ของเว็บกับการแสดงผลหน้าเว็บบนเบราว์เซอร์ ทำให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ด ASPX (ASP.NET Web Forms) หรือ .cshtml, .vbhtml (ASP.NET MVC Razor) แล้วดูผลลัพธ์จากเบราว์เซอร์ได้ทันที
ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio Code สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows on ARM แล้ว ทำให้อุปกรณ์อย่าง Surface Pro X เริ่มน่าสนใจมากขึ้นสำหรับคนที่อยากซื้อมาเขียนโค้ดนอกสถานที่
เว็บไซต์ The Register วิเคราะห์ว่า VS Code เวอร์ชัน ARM มาช้า เพราะตัวมันพัฒนาขึ้นบน Electron (ที่พัฒนาต่อจาก Chromium อีกที) ซึ่งว่า Electron จะรองรับ ARM64 ก็ต้องรอถึงปี 2019 และต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าไมโครซอฟท์จะพัฒนา VS Code ARM ตามมา
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งออก Edge Chromium เวอร์ชัน ARM64 หลังการวางขาย Surface Pro X เช่นกัน ทำให้ Surface Pro X โดนวิจารณ์ว่าไม่ค่อยพร้อมในเรื่องแอพที่รองรับ แม้แต่แอพของไมโครซอฟท์เองก็ตาม
กูเกิลเปิดตัว Android Studio 4.0 ที่มีของใหม่หลายอย่าง ฟีเจอร์สำคัญมีดังนี้
เมื่อคืนนี้ GitHub มีของใหม่ชุดใหญ่ ฝั่งของบ้านใกล้เรือนเคียง Visual Studio Code ก็มีของใหม่สำหรับ GitHub เช่นกัน
VS Code มีส่วนขยาย GitHub Pull Requests มาตั้งแต่ต้นปี 2019 หลังไมโครซอฟท์ซื้อกิจการไม่นาน เวลาผ่านมาอีกปีกว่า ส่วนขยายตัวนี้เปลี่ยนชื่อมาเป็น GitHub Pull Requests and Issues เพิ่มฟีเจอร์ตามชื่อคือ เชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลบั๊ก GitHub Issues ด้วย
GitHub เปิดฟีเจอร์ใหม่ในงาน Satellite 2020 โดยฟีเจอร์สำคัญ 3 รายการ ได้แก่ Codespaces, Discussions, Code scanning, และ GitHub Private Instances
ไมโครซอฟท์ประกาศเปลี่ยนชื่อ Visual Studio Online ซึ่งเป็น IDE เวอร์ชันเว็บ (มันคือ VS Code เวอร์ชันเว็บ, คอมไพล์บนเซิร์ฟเวอร์ไมโครซอฟท์ คิดเงินตามเวลาใช้งาน) เป็น Visual Studio Codespaces
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่า บริการ Visual Studio Online ไม่ได้เป็นแค่ IDE ผ่านเบราว์เซอร์ แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมในการพัฒนาโปรแกรมที่โฮสต์ไว้บนคลาวด์ (cloud-hosted dev environments) ซึ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แถมผู้ใช้ยังสามารถใช้ Visual Studio ตัวเต็ม เชื่อมต่อกับ Visual Studio Online ได้ด้วยเช่นกัน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Codespaces เพื่อสะท้อนรูปแบบการใช้งานมากขึ้น
ชุมชนโปรแกรมเมอร์ภาษา Go เผยผลสำรวจข้อมูลของนักพัฒนาสาย Go ประจำปี 2019 ซึ่งมีผู้ตอบมา 10,975 คน ทำให้เราเห็นทิศทางของ Go ว่าใครใช้ทำอะไรกันบ้าง
ข่าวเก่านิดนึงนะครับ แต่หลังจากที่ SAP Business Application Studio ได้เปิดทดสอบเวอร์ชันเบต้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา SAP Business Application Studio ก็ได้ประกาศออกรุ่นใช้งานจริง (Generally Available) บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของ SAP (Cloud Foundry) เป็นที่เรียบร้อย
SAP Business Application Studio เป็นเครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์ม SAP ตัวใหม่ที่สามารถเรียกใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ นับเป็น IDE รุ่นต่อจาก SAP Web IDE ของบริษัท SAP เดิม