เราคงทราบกันดีว่าคนอินเดียเดินทางด้วยรถไฟกันเยอะมาก (สถิติบอกว่าวันละ 23 ล้านคน) ล่าสุดกูเกิลไปจับมือกับการรถไฟอินเดีย เปิดบริการ Wi-Fi ฟรีในสถานีรถไฟแล้ว โดยเริ่มจาก Mumbai Central Station ที่เมืองมุมไบ ซึ่งมีผู้โดยสารเข้าออกวันละ 1 แสนคน
สถานีมุมไบเป็นสถานีแรกตามเป้าหมาย 100 สถานีในปีนี้ และในอนาคตกูเกิลจะขยายให้ถึง 400 สถานีทั่วประเทศอินเดีย การใช้งานคือต่อเข้าเครือข่ายชื่อ 'RailWire Wi-Fi' และลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของอินเดีย จากนั้นจะได้ access code เพื่อใช้ต่ออินเทอร์เน็ตส่งมาทาง SMS (หนึ่งเบอร์สามารถขอได้ 3 อุปกรณ์)
โครงการ Internet.org ของ Facebook ประสบปัญหาในอินเดีย หลัง TRAI (กสทช.อินเดีย) สั่งให้โอเปอเรเตอร์ Reliance Communications หยุดให้บริการเน็ตขั้นพื้นฐานฟรี Free Basics ที่ร่วมมือกับ Facebook
เหตุผลที่ TRAI สั่งหยุดบริการ Free Basics เป็นเรื่อง net neutrality เพราะยังไม่ชัดเจนว่าโอเปอเรเตอร์สามารถ "เลือกปฏิบัติ" ด้านราคาของเนื้อหาแต่ละแบบได้หรือไม่ (การให้บริการบางเว็บฟรี อาจถือเป็นการกีดกันคู่แข่งที่ไม่เข้าร่วมโครงการ) ดังนั้น TRAI จึงขอให้ Reliance หยุดพักไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติในเรื่องนี้
รอบปีที่ผ่านมาเราเห็นยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล กูเกิล ซัมซุง เปิดตัวระบบจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาของตัวเอง ระบบเหล่านี้ต้องให้บริการคนทั้งโลก แต่ล่าสุดเริ่มมีระบบจ่ายเงินบนมือถือที่เจาะเฉพาะบางประเทศเกิดขึ้นแล้ว
Micromax ยักษ์ใหญ่ของวงการมือถืออินเดีย ประกาศความร่วมมือกับ TranServ บริษัทด้านการจ่ายเงินออนไลน์ของอินเดีย พัฒนาระบบจ่ายเงินบนอุปกรณ์พกพาสำหรับคนอินเดียโดยเฉพาะ ระบบจะเริ่มใช้งานได้ในเดือนหน้า (มกราคม 2016)
เงียบหายไปพักใหญ่ วันนี้ Micromax ออกมาเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงในซีรีส์ Yu อย่างเป็นทางการในชื่อ Yu Yutopia ที่ลือกันมาได้หลายเดือน โดย Yutopia จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับสเปคสูงทัดเทียมเรือธงของคู่แข่งเป็นครั้งแรกของซีรีส์ YU อีกด้วย
ตัวเครื่องของ Yutopia ออกแบบมาเรียบๆ ใช้โลหะทั้งเครื่อง และมีที่สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังตามกระแสรุ่นเรือธงในปัจจุบัน ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งปลดล็อกตัวเครื่อง และเป็นชัตเตอร์กล้องได้ในตัว ส่วนสเปคอื่นๆ มีดังนี้
นอกจากการจัดการเรื่องความปลอดภัย และระบบจ่ายค่าบริการด้วยเงินสดในอินเดียแล้ว เพื่อให้เข้าถึงความเป็นท้องถิ่นของอินเดียมากขึ้น Uber ได้เปิดบริการเรียกรถลาก (หน้าตาเหมือนตุ๊กๆ) ในชื่อ UberAUTO มาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
แม้ว่าการใช้บริการรถลากในอินเดียจะได้รับความนิยมมากแต่ทว่าตอนนี้ Uber ออกมาประกาศว่าจะยุติบริการ UberAUTO เป็นการชั่วคราวหลังจากพบกับปัญหาที่ทำให้ตัวบริการไม่สามารถขยายตัวเพิ่มได้
แม้จะไม่มีรายละเอียดว่า Uber เจอปัญหาอะไรจริงๆ กันแน่ แต่หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะมาจากการแข่งขันสูง ที่นอกจากจะชนกับ Ola ซึ่งเป็นบริการเรียกรถลากสัญชาติอินเดียหลากรายแล้ว ยังต้องแข่งกับบริการของทางการอินเดียเองในชื่อ PoochO อีกด้วย
The Financial Times รายงานว่า Alibaba ได้เริ่มชะลอแผนขยายการลงทุนในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ผู้ก่อตั้ง Jack Ma แสดงความ
สนใจ โดยเห็นได้จากการที่บริษัท เลื่อนการเจรจาเพื่อเข้าถือหุ้นประมาณ 20% ในบริษัทผลิตมือถือของอินเดียรายใหญ่อย่าง Micromax ตลอดจนเริ่มชะลอการเข้าถือหุ้นกิจการอื่นๆ ในประเทศอินเดีย
ก่อนหน้านี้ Alibaba ได้เข้าถือหุ้น 40% ใน PayTM สตาร์ทอัพระบบจ่ายเงินที่อินเดีย และ Snapdeal เว็บซื้อขายสินค้าออนไลน์
Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่ากูเกิลเตรียมปรับยุทธศาสตร์ Android One ในอินเดียใหม่ หลังโครงการปีแรกไม่ประสบความสำเร็จมากอย่างที่คิด (ในขณะที่ Redmi ของ Xiaomi กลับทำยอดขายได้ถล่มทลายในอินเดีย)
ตามข่าวบอกว่าผู้ผลิต Android One ชุดแรกถูกกูเกิลจำกัดเรื่องชิ้นส่วน ฟีเจอร์ และราคามากเกินไป ทำให้ปีนี้กูเกิลจะผ่อนคลายเงื่อนไขและให้อิสระกับผู้ผลิตมากขึ้น สามารถเลือกชิ้นส่วนได้หลากหลายขึ้น (ปีก่อนเลือกโมดูลกล้องได้ 1 รุ่น ปีนี้ได้ 5 รุ่น)
ผู้ผลิตที่มีรายชื่อว่าจะเข้าร่วมโครงการ Android One ในปีนี้เพิ่งมีชื่อของ Lava ออกมาเพียงรายเดียวครับ
หากยังพอจำกันได้ เมื่อปลายปีที่แล้ว คนขับ Uber ของอินเดียถูกกล่าวหาและจับกุม ฐานข่มขืนผู้โดยสาร ตอนนี้คดีมาถึงที่สิ้นสุดแล้วเมื่อศาลในกรุงนิวเดลี มีคำตัดสินให้อดีตคนขับรถ Uber มีความผิดจริง
นาย Shiv Kumar Yadav ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงใน 4 ข้อหาคือข่มขืน ลักพาตัว ข่มขู่คุกคาม และทำให้เกิดอันตราย จากกรณีข่มขืนผู้โดยสารหญิงวัย 25 ปีที่เรียกใช้บริการ โดยนาย Yadav มีกำหนดการเข้ารับฟังพิจารณาโทษในวันที่ 23 ตุลาคมนี้
นอกจาก OnePlus X ดูเหมือนว่าทาง OnePlus กำลังซุ่มเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กอยู่ด้วยเช่นกัน โดยมีภาพหลุดพร้อมข้อมูลของสมาร์ทโฟน OnePlus Mini จากเว็บไซต์อเมซอนของอินเดีย
รายละเอียดบนหน้าเว็บระบุว่า OnePlus Mini ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด FullHD มีกรอบโลหะรอบตัวเครื่อง ใช้ชิปเซ็ต MediaTek MT6795 แรม 2GB แบตเตอรี่ลิเทียมโพลีเมอร์ขนาด 2,450 mAH รันแอนดรอยด์ Marshmallow ครอบทับด้วย OxygenOS 3.0
และแน่นอนว่าหน้าเว็บนี้ย่อมถูกลบออกไปในที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไปโผล่บนอเมซอนของอินเดีย อาจมาจากการที่ OnePlus เตรียมจะวางจำหน่ายรุ่น Mini นี้ในฐานะสมาร์ทโฟนราคาถูกของตัวเองในอินเดียครับ
Croma เครือร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเครือ Tata ระบุว่ากำลังร่วมมือกับแอปเปิลเปิดตัว Apple Store โดยเริ่มเปิดสาขาแรกในอินเดียเดือนหน้า สาขาที่เตรียมเปิดทั้งหมดจะพื้นที่ขาย 400-500 ตารางฟุต อยู่ในเมืองมุมไบห้าสาขา และบังกาลอร์อีกหนึ่งสาขา
Croma เองมีสาขาในอินเดียทั้งหมด 97 สาขาทั่วประเทศ สำหรับ 6 สาขาแรกนี้จะใช้พื้นที่ของร้าน Croma มาตกแต่งเป็น Apple Store ตามแนวทางของแอปเปิลทั้งเฟอร์นิเจอร์, แสงไฟ, และการฝึกอบรมพนักงาน
ที่มา - India Times
การต่อสู้ของ Cyanogen เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ของโลกอย่างอินเดียยังคงมีอุปสรรคขัดขวาง หลังจากมีปัญหาด้านสัญญาการใช้งานระหว่าง Micromax กับ OnePlus เมื่อปีก่อนจนต้องเลิกรากับรายหลังไป ตอนนี้ความสัมพันธ์กับ Micromax เองก็เริ่มมีท่าทีแปลกๆ เช่นกัน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดียมีภารกิจมาทัวร์ซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งเป็นการมาเยือนลักษณะนี้ครั้งแรกในรอบกว่า 3 ทศวรรษ โดยในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาและคณะได้ไปเยี่ยมชมโรงงานของ Tesla Motors ด้วย
การเยี่ยมเยียนสหรัฐฯ ของนายกรัฐมนตรีอินเดียนอกจากจะพบปะกับกูเกิล แล้วยังได้ไปเจอกับไมโครซอฟท์ด้วย โดยทางไมโครซอฟท์ถือโอกาสครั้งนี้ในการประกาศแผนความร่วมมือกับอินเดียเพื่อขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ไปในตัว
ระหว่างการพูดคุยกับนายกฯ อินเดีย Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ได้ประกาศแผนการขยายอินเทอร์เน็ตไปยังผู้คนในอินเดียกว่า 500,000 หมู่บ้านทั่วอินเดีย โดยต่อยอดจากโครงการที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านคลื่นความถี่ช่วง white space ที่ไม่ถูกใช้งานเพื่อมาให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ราคาย่อมเยาแทน
ในระหว่างการพบปะกันของ Sundar Pichai ซีอีโอของกูเกิล กับ Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดีย กูเกิลได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับการรถไฟอินเดีย Indian Railways เพื่อให้บริการไวไฟฟรีครั้งใหญ่
แผนการเปิดไวไฟฟรีในอินเดียครั้งนี้เป็นหนึ่งในขั้นตอนเพื่อไปสู่ผู้คนอีกหนึ่งพันล้านที่จะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ โดยแผนระยะยาวคือให้บริการในพื้นที่รถไฟทั้งหมด ในปีนี้คาดว่าจะขยายให้ได้ถึง 100 สถานีก่อนสิ้นปี เน้นไปที่สถานีพลุกพล่านก่อน แล้วจึงขยับไปเป็น 400 สถานีในอนาคต
กูเกิลระบุว่าในช่วงแรกจะให้บริการไวไฟฟรี แต่แผนระยะยาวจะต้องหาโมเดลธุรกิจให้ตัวบริการนี้อยู่ได้ด้วยตัวเอง และสามารถขยายสถานีต่อได้ในอนาคตอีกด้วย
รัฐบาลอินเดียเสนอกฎหมายควบคุมการเข้ารหัส (National Encryption Policy) ระบุเงื่อนไขของการเข้ารหัส ให้ผู้ที่สื่อสารโดยเข้ารหัสมีหน้าที่รับผิดชอบต้องเก็บข้อมูลที่สื่อสารเอาไว้ 90 วัน และกระบวนการเข้ารหัสและขนาดกุญแจต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเท่านั้น
ร่างกฎหมายบังคับให้ปลายทางของการสื่อสารที่เข้ารหัสที่อยู่ในอินเดียต้องรับผิดชอบต่อการเก็บข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัส ให้พร้อมส่งมอบให้เจ้าหน้าที่หากมีการร้องขอภายใน 90 วันหลังการสื่อสาร กระบวนการเข้ารหัสทุกรูปแบบจะต้องส่งให้เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุมัติล่วงหน้าก่อนใช้งาน
อินเดียประกาศโครงการ Electronics@School พัฒนาความสามารถด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ให้กับเด็ก โดยเตรียมกระจายคอมพิวเตอร์และชุดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับโรงเรียนทั่วรัฐเกรละ (Kerala) รวมประมาณ 6,000 โรงเรียน
โครงการอีกส่วนจะแจกชุด Raspberry Pi ให้กับนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกอีกทั้งหมด 10,000 ชุด
ชุดคอมพิวเตอร์เหล่านี้จะถูกใช้เสริมกับวิชาฟิสิกส์ชั้นม.3 และม.4 โดยก่อนหน้านี้หลักสูตรใหม่ได้รับการรับรองไปก่อนหน้านี้แล้ว และเริ่มทดสอบการเรียนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากับนักเรียน 2,500 คน เป้าหมายของโครงการนี้คือสร้างเยาวชนที่มีความสามารถทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มอีก 40,000 คน
ความฝันอย่างหนึ่งของมนุษย์คือการติดต่อกันโดยเพียงแค่นึกคิดก็สามารถคุยกันได้ และถึงแม้ว่าจะมีโทรศัพท์มือถือเข้ามาช่วยแล้ว แต่หลายๆ คนอาจจะยังต้องการให้ไปไกลกว่านั้น คือเพียงแค่นึกถึงก็สามารถโทรหากันได้ทันที ทั้งหมดอาจจะยังคงเป็นเพียงความฝันอยู่ แต่งานสำรวจงานวิจัย (literature review) ชิ้นล่าสุดที่ตีพิมพ์ออกมาอาจจะช่วยให้มนุษย์สามารถติดต่อเช่นนั้นได้จริงๆ
แม้ว่าจะเป็นพันธมิตรกับกูเกิลทำสมาร์ทโฟนซีรีส์ Android One และยังทดลองตลาดด้วย Android ทางเลือกอย่าง Cyanogen OS แต่ดูเหมือนเป้าหมายของ Micromax ยักษ์ใหญ่จากอินเดียดูจะไกลกว่าการไปซบทีมซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่นเสียแล้ว
แผนใหม่ของ Micromax ออกมาจาก Ashish Agrawal ซีทีโอของบริษัทที่ออกมาเผยว่าทาง Micromax วางแผนจะพัฒนาระบบปฏิบัติการที่ใช้ฐานจาก Android ของตัวเองเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ทั้งหมดตั้งแต่สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ ไปจนถึงทีวี โดยทาง Micromax ระบุว่าการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง เนื่องมาจากการใช้งานของคนอินเดีย ต่างจากผู้ใช้ในสหรัฐฯ หรือจีน ที่ Android เป็นที่นิยมอยู่มาก และทางบริษัทเองก็รู้ว่าคนอินเดียต้องการอะไรจากสมาร์ทโฟน
หลังจากเปิดตัว MIUI 7 เวอร์ชันจีนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้ทาง Xiaomi จัดงานที่อินเดียพร้อมกับเผยฟีเจอร์ทั้งหมดของ MIUI 7 รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ และกำหนดการอัพเดตนอกประเทศจีนมาพร้อมกัน
เริ่มต้นกันด้วย MIUI 7 ที่ในปีนี้มาพร้อมกับแนวคิด "Design by Yours" เน้นการให้ผู้ใช้เป็นผู้เลือกหน้าตาของเครื่องด้วยตัวเอง แทนที่จะยึดกับการออกแบบของฝั่งนักพัฒนา อันเป็นที่มาของธีมใหม่ทั้ง 4 ธีม และระบบพัฒนาธีมใหม่อย่าง MUSE
ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ MIUI 7 แบบละเอียดกว่าเดิมไล่เป็นข้อๆ ได้ดังนี้ครับ
* Showtime วิดีโอรอสายเมื่อมีคนโทรเข้า ความยาวสูงสุด 5 วินาที เล่นวนซ้ำไปเรื่อยๆ
Telecom Reulatory Authority of India (TRAI) หน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมแบบเดียวกับกสทช. ของไทย ได้ออกประกาศหมายเลข 308-1/2015 แก้ปัญหาค่าบริการสูงเกินคาด (bill shock) ระบุให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะต้องเปิดให้บริการแจ้งเตือนผู้ใช้ว่าใช้อินเทอร์เน็ตไปมากแค่ไหนแล้วเป็น SMS โดยส่งทุกครั้งที่การใช้งานครบ 10MB
Xiaomi เปิดตัว Redmi 2 Prime รุ่นพิเศษสำหรับประเทศอินเดีย ความพิเศษของมันคือเป็นมือถือของ Xiaomi รุ่นแรกที่ผลิตในอินเดียด้วย
สเปกโดยรวมของ Redmi 2 Prime เหมือนกับ Redmi 2 Enhanced ที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยใช้ Snapdragon 410, หน้าจอ 4.7" IPS, กล้อง 8MP, 4G สองซิม เท่ากับ Redmi 2 รุ่นปกติ แต่เพิ่มแรมจาก 1GB เป็น 2GB และเพิ่มความจุจาก 8GB เป็น 16GB
Redmi 2 Prime วางขายในราคา 6,999 รูปี (ประมาณ 3,900 บาท) ส่วน Redmi 2 รุ่นเดิมขายถูกกว่าคือ 5,999 รูปี (ประมาณ 3,300 บาท)
โครงการ Android One ของกูเกิลยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก โดย Rajan Anandan ผู้อำนวยการของกูเกิลอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่าปัญหาของ Android One ในอินเดียคือสินค้าขาดตลาด เพราะต้องนำเข้ามือถือส่วนใหญ่มาจากจีน
Anandan บอกว่ากูเกิลเตรียม "รีบูต" ของโครงการ Android One อีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จุดสำคัญที่เปลี่ยนไปคือเรื่องราคา จากของเดิมที่ตั้งราคาระดับ 100 ดอลลาร์ ก็จะเปลี่ยนมาจับตลาดล่างกว่าเดิม เป็นมือถือราคาระหว่าง 2,000-3,000 รูปี (31-47 ดอลลาร์) แทน
มีข่าวมาก่อนหน้าว่ากูเกิลกำลังร่วมมือกับ Lava ผู้ผลิตสัญชาติอินเดียเพื่อทำสมาร์ทโฟน Android One รุ่นใหม่ที่อัพสเปคขึ้นมาจาก Android One ของปีก่อนพอสมควร วันนี้ Lava เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้วในชื่อรุ่น Lava Pixel V1
Lava Pixel V1 แม้จะยังราคาถูก แต่ก็อัพสเปคขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่างมาก รวมถึงใช้วัสดุดูดีขึ้นด้วยโลหะทั้งด้านข้าง และฝาหลังแล้ว สเปคคร่าวๆ มีดังนี้
Micromax เปิดตัว Yureka Plus สมาร์ตโฟนใช้ระบบปฎิบัติการ Cyanogen OS 12 อัพเกรดจาก Micromax Yureka ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
Yureka Plus เพิ่มสเปคเป็นหน้าจอ 1080p จากเดิมเป็น 720p แต่สเปคอื่นๆ ยังคล้ายรุ่นเดิมมาก ซีพียูยังเป็น Snapdragon 615 เช่นเดิม
ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 9,999 รูปีย์ หรือประมาณ 5,500 บาทไทย จากเดิม 8,999 รูปีย์ ขายวันแรกวันที่ 24 นี้เฉพาะใน Amazon India เท่านั้น
ดูเหมือนนอกจากตลาดประเทศจีนที่ถูก Xiaomi บุกตีอย่างหนักจนพ่ายแพ้ไปแล้วเมื่อปี 2014 ตอนนี้อีกตลาดใหญ่อย่างอินเดียก็กำลังจะซ้ำรอยเดิมเสียแล้ว
ข้อมูลดังกล่าวรายงานโดยบริษัทเก็บข้อมูล Cybex Exim Solutions ที่เผยภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศอินเดีย ที่แม้ว่าซัมซุงจะยังเป็นผู้นำตลาดอยู่ แต่ทว่าส่วนแบ่งลดลงอย่างมาก จากเดิม 28% ของไตรมาสก่อน ลดลงเหลือ 21.5% ในไตรมาสล่าสุดเสียแล้ว
สำหรับส่วนแบ่งที่หายไปของซัมซุงนั้นไปเพิ่มให้อันดับรองลงมาอย่าง Micromax ที่รั้งที่สองต่อเนื่อง ส่วนแบ่งเพิ่มจาก 12.6% มาเป็น 17.9% ตามมาด้วย Intex ที่ 10.2% อันดับสี่เป็นผู้ผลิตจีน Lenovo ที่ 7.6% และอันดับห้า Lava ที่ 7%