ไมโครซอฟท์เผยกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพของ Internet Explorer 10 ที่จะมากับ Windows 8 โดยสร้าง IE Performance Lab จำลองสถานการณ์จริงบนอินเทอร์เน็ต แล้ววัดประสิทธิภาพทุกแง่มุม ซึ่งเป็นกรณีน่าศึกษาสำหรับคนที่ทำงานด้าน testing และ QA ประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์
IE Performance Lab เป็นเครือข่ายปิด ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอกใดๆ รวมถึงอินทราเน็ตของไมโครซอฟท์เอง มันประกอบขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์จำนวน 140 เครื่อง ระบบเครือข่ายจำลองที่เหมือนอินเทอร์เน็ตแทบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์, DNS, เราเตอร์, และระบบจำลองเครือข่ายชนิดต่างๆ
ระบบฮาร์ดแวร์ใน IE Performance Lab แบ่งได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ
จากข้อมูลล่าสุดของไมโครซอฟท์เรื่อง Windows on ARM (WOA) เรารับรู้ว่า Windows 8 รุ่น ARM จะยังมีเดสก์ท็อปแบบ Windows 7 แต่จำกัดแอพที่เป็น native เพียงแค่แอพของไมโครซอฟท์บางตัว เช่น IE, Windows Explorer, Microsoft Office เท่านั้น แอพที่เหลือต้องเขียนขึ้นมาใหม่ด้วย WinRT เท่านั้น ไม่อนุญาตให้รันแอพแบบ native ตัวอื่น
Net Applications รายงานส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์โลกประจำเดือนมกราคม 2012 ปรากฏว่า Chrome ที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 17 เดือนติดกัน กลับมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเล็กน้อย
Net Applications ให้ความเห็นว่าต้นเหตุอาจเป็นเพราะ กูเกิลทำโทษเว็บไซต์ Chrome โดยปรับลด PageRank เป็นเวลา 60 วัน จากกรณีที่เอเยนซีของกูเกิลทำผิดกฎ ทำให้คนค้นหา Chrome เจอได้ยากกว่าเดิม
ส่วนประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือ IE ที่ส่วนแบ่งตลาดลดลงมาเรื่อยๆ กลับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 1 จุดในเดือนนี้ แต่ Firefox นั้นยังลดลงเช่นเดิม
ที่มา - Net Applications via Search Engine Land
แล้วก็ได้ฤกษ์เจริญรอยตาม Angry Birds และ Bejeweled เมื่อ Cut the Rope ออกเวอร์ชัน HTML5
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยคือ ผู้ให้การสนับสนุนบริษัท ZeptoLab ผู้ผลิตเกมกลับเป็น IE9 (ต่างจากเกม HTML5 อื่นๆ ที่มักได้รับการสนับสนุนจาก Google Chrome) ซึ่งมี exclusive เป็นด่านพิเศษ 7 ด่าน ที่สามารถเล่นได้ผ่านการ "ปักหมุด" หน้าต่างเกมนี้เมื่อเปิดโดย IE9 ลงบน taskbar เท่านั้นครับ
อยากเล่นแล้ว? เข้าไปตัดเชือกกันได้เลยที่ CutTheRope.ie
ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศว่าสถิติผู้ใช้เน็ตของสหรัฐในตอนนี้ (จากบริษัท Net Applications) มีคนใช้ IE6 น้อยกว่า 1% ของผู้ใช้ทั้งหมดแล้ว
ไมโครซอฟท์เรียกกลุ่มประเทศที่ใช้ IE6 น้อยกว่า 1% ว่า "Champions" ซึ่งนอกจากสหรัฐแล้วยังมีสาธารณรัฐเช็ก โปรตุเกส ฟิลิปปินส์ ยูเครน เม็กซิโก ออสเตรเลีย โปแลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์
จากสถิติของ Net Applications ตอนนี้ทั้งโลกมีคนใช้ IE6 อยู่ 7.33% ส่วนสถิติของเมืองไทยตาม TrueHits มีคนใช้ IE6 อยู่ที่ 3.59% ครับ
รายงานส่งท้ายปีในตลาดเบราเซอร์ปี 2011 ยังคงเป็นปีของ Chrome ที่ยังเดินหน้ากินส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด StatCounter รายงานว่า Chrome นั้นขึ้นเป็นอันดับสองแซงหน้า Firefox เป็นเดือนที่สองและมีช่องว่างถ่างจาก Firefox ไปถึง 2% หลังจากเดือนที่แล้วแซงหน้าไปไม่ถึง 0.5%
ที่น่าสนใจคือ Internet Explorer นั้นมีส่วนแบ่งต่ำลงอย่างรวดเร็ว จนเหลือเพียง 38.65% นับว่าต่ำกว่า 40% เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
ภาพรวมปี 2011 นั้น Chrome กวาดส่วนแบ่งในปีเดียวมาเกือบ 10% ขณะที่ Firefox ลดลงมาประมาณ 5% และ IE ลดลงมมาประมาณ 8% ส่วนที่เหลือคือ Safari ที่ค่อยๆ กินตลาดมาช้าๆ ด้วยอัตรานี้ ปลายปี 2012 อาจจะมีลุ้นว่า Chrome อาจจะแซงหน้า IE ได้
อย่างไรก็ดีต้องตระหนักว่ารายงานนี้มาจากทาง StatCounter เท่านั้น รายงานสำนักอื่นๆ เช่น NetMarketShare นั้นยังสำรวจได้ผลที่ต่างออกไปมาก โดย IE ยังมีส่วนแบ่งมากกว่า 50% อยู่ แต่แนวโน้มเป็นแนวโน้มเดียวกัน
ที่มา - TechCrunch
ไมโครซอฟท์ออกมาอวดสถิติของเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมบน Windows 7 โดยอ้างอิงสถิติจากบริษัท Net Applications ในเดือนธันวาคม 2011
ความน่าสนใจในการชิงส่วนแบ่งตลาดของ IE9 อยู่ที่ว่ามันไม่ได้มาพร้อมกับวินโดวส์ ต้องดาวน์โหลดมาติดตั้งกันเอง (ภายหลังถึงมากับ Windows Update) ซึ่งก็ถือว่ามีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก
อีกประเด็นที่น่าสนใจจากสถิติของ Net Applications คือ Firefox มีส่วนแบ่งลดลงเรื่อยๆ และจากกราฟจะเห็นว่าในตลาดโลกตกมาอยู่อันดับสี่แล้ว
ข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนาเว็บที่ปวดหัวกับ IE รุ่นเก่าๆ ครับ ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะเปลี่ยนนโยบายการอัพเกรด IE ผ่าน Windows Update ใหม่ โดยจะอัพเกรด IE เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดให้อัตโนมัติ (แบบเดียวกับ Chrome) เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป
นโยบายนี้จะครอบคลุม Windows XP, Windows Vista และ Windows 7 ซึ่งในกรณีของ XP จะอัพเป็น IE8 และ Vista/7 จะได้ IE9 หรือรุ่นใหม่กว่านั้นในอนาคต
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าการอัพเกรด IE โดยอัตโนมัติจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยขณะท่องเว็บได้ และผู้ใช้เองก็จะได้ฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างการรองรับ HTML5 ใน IE9 ด้วย
สืบเนื่องจากผลวิจัยเรื่องผู้ใช้ IE มีไอคิวน้อยกว่าผู้ใช้เบราเซอร์อื่นซึ่งต่อมา
ทีมวิจัย Accuvant (ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกูเกิล) ชี้ว่าขณะนี้ Firefox มีความปลอดภัยน้อยกว่า Internet Explorer โดยสาเหตุมาจากการที่ Firefox ไม่สามารถทำ sandbox โค้ดในเบราว์เซอร์ได้ ทำให้เครื่องของผู้ใช้งานตกเป็นเป้าของการถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ได้ง่ายกว่า ส่วนเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยที่สุดตอนนี้ก็คือ Chrome (ซึ่งเป็นของกูเกิล)
Accuvant อธิบายว่า Chrome นั้นเป็นโครงการที่เริ่มใหม่ทั้งหมด ทำให้กูเกิลมีโอกาสที่จะใส่ความสามารถทางด้านความปลอดภัยที่ดีกว่าเข้าไปได้ แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Firefox ที่อาศัยโค้ดที่ตกทอดมาเรื่อยๆ เป็นพื้นฐาน ซึ่ง Firefox นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่ความปลอดภัยของเบราว์เซอร์ยังไม่เป็นปัญหามากนัก ผิดกับ Chrome ที่เกิดมาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดี
สงครามเบราเซอร์ในช่วงสองปีหลังมานี้หวือหวามากนับแต่ Chrome เข้ามาในตลาด และทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเว็บ StatCounter เปิดเผยสถิติเบราเซอร์ของเว็บทั่วโลก พบว่า Chrome นั้นมีส่วนแบ่งตลาด 25.69% เฉือนชนะ Firefox ที่ได้ส่วนแบ่ง 25.23% ไปได้เป็นครั้งแรกนับแต่เปิดตัวมา
ส่วน IE นั้นผงกหัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากส่วนแบ่งตลาดตกลงอย่างต่อเนื่องมาสองปี อยู่ที่ 40.63% ที่เพิ่มขึ้นมา ที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แต่แน่นอนคือ Safari (รวม iPod, iPhone, และ iPad) มีส่วนแบ่งถึง 5.92% แล้วทิ้งห่าง Opera ที่อยู่ในช่วง 1-2% ตลอดมา
ที่มา - StatCounter
ไมโครซอฟท์ยังซุ่มพัฒนา IE10 ขนานไปกับ Windows 8 อยู่เรื่อยๆ และล่าสุดออกรุ่น Platform Preview 4 (PP4) มาแล้ว
ความน่าสนใจของรุ่น PP4 คือมันมีเฉพาะบน Windows 8 เท่านั้น โดย IE10 บน Windows 7 ยังค้างอยู่ที่ PP2 ซึ่งออกตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีนี้
ของใหม่ใน IE10 PP4 ก็เน้นที่เอนจินการแสดงผลเป็นหลัก โดยรองรับความสามารถของ HTML5, CSS, JavaScript ที่เพิ่มขึ้น รวมถึง CORS เทคโนโลยีการแชร์ทรัพยากรข้ามโดเมน ที่เอนจิน Geckto และ WebKit รองรับแล้ว
ฟีเจอร์ตรวจการสะกดคำ (spellchecking) ถือเป็นฟีเจอร์เล็กๆ อันหนึ่งที่ขาดไปใน IE แต่มีในคู่แข่งอย่าง Firefox และ Chrome
ล่าสุดไมโครซอฟท์เพิ่มความสามารถด้านการตรวจสะกดลงใน IE10 แล้ว โดยฟีเจอร์ด้านการตรวจสะกดจะเป็นมาตรฐานให้ทุกแอพบน Windows 8 แต่ก็มีใน IE10 บน Windows 7 ด้วย
แต่ที่เหนือไปอีกระดับคือ IE10 ยังมีฟีเจอร์แก้คำผิดอัตโนมัติ (auto-correct) แบบที่เราคุ้นเคยใน Microsoft Word ด้วย (ถือเป็นเบราว์เซอร์ตัวแรกที่ทำได้) ผู้ใช้สามารถเปิดเมนูแก้คำผิดด้วยการคลิกเมาส์หรือกด Shift+F10 นอกจากนี้ถ้าไม่ชอบคำผิดที่แก้ให้ก็ยังกด Ctrl+Z เพื่อยกเลิกได้ด้วย
ย้ำก่อนข่าวว่านี่เป็น "แคมเปญการตลาด" ของไมโครซอฟท์ครับ
ไมโครซอฟท์เปิดเว็บชื่อ Your Browser Matters เพื่อโปรโมทฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ IE ในด้านต่างๆ จุดที่น่าสนใจคงเป็นการ "ให้คะแนน" ด้านความปลอดภัยของเบราว์เซอร์ โดยแบ่งเป็น 4 ด้าน คือ ตรวจสอบการดาวน์โหลดไฟล์อันตราย, ตรวจสอบเว็บปลอม, ความปลอดภัยของตัวเบราว์เซอร์เอง (เช่น sandbox และตรวจสอบ extension) และป้องกันการโจมตีจากหน้าเว็บ
คะแนนเต็มของการทดสอบคือ 4 คะแนน ซึ่ง Firefox ได้ 2 คะแนน และ Chrome ได้ 2.5 คะแนน (ส่วน IE คงเดากันเองได้ว่ากี่คะแนน) ถ้าใช้เบราว์เซอร์นอกจากนี้จะไม่สามารถทดสอบได้ครับ
ข่าวนี้เป็นเหมือนฝันร้ายของ Adobe เลยทีเดียว เพราะไมโครซอฟท์ประกาศแล้วว่า IE10 ในโหมด Metro จะไม่สามารถใช้งานปลั๊กอินใดๆ ได้
เรื่องนี้เป็นความตั้งใจของไมโครซอฟท์ตั้งแต่ต้น โดยให้เหตุผลว่า "ประสบการณ์ท่องเว็บ" แบบมีปลั๊กอินไม่ดีเท่ากับเว็บที่เป็น HTML5 ล้วนๆ ทั้งในแง่เสถียรภาพ ความปลอดภัย แบตเตอรี่ ความเป็นส่วนตัว ดังนั้น IE10 โหมด Metro จะเป็น "HTML5-only as possible" เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม IE10 ในโหมดเดสก์ท็อปปกติ จะยังทำงานแบบมีปลั๊กอินได้เช่นเดิม เพื่อความเข้ากันได้ของเว็บไซต์บางแห่งที่ยังติดปลั๊กอินอยู่ (เช่น บางเว็บที่อาจใช้ ActiveX)
หลังจากมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่างานวิจัยที่บอกว่าผู้ใช้ IE มีไอคิวต่ำกว่าผู้ใช้เบราเซอร์อื่นนั้นน่าจะเป็นข่าวลวง ล่าสุดทาง AptiQuant ต้นเรื่องทั้งหมดได้ออกมายอมรับแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องแต่งขึ้น
หลังจากข่าวอันร้อนระอุที่ออกมาเมื่อวันก่อนที่บอกว่า มีผลสำรวจว่าผู้ใช้ไออีนั้นมีไอคิวเฉลี่ยต่ำกว่าผู้ใช้บราวเซอร์ยี่ห้ออื่นได้ถูกถ่ายทอดสู่สาธารณะชน ทางผู้สื่อข่าวหลายรายก็ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ ประกอบ จนพบหลักฐานบางอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่าผลสำรวจดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลวงหรือ Hoax เท่านั้น
จากข่าวงานวิจัยชี้ผู้ใช้ IE มีระดับไอคิวน้อยกว่าผู้ใช้เบราเซอร์อื่นนั้นทำให้ผู้ใช้ IE หลายรายไม่พอใจ และอีเมลไปต่อว่าบริษัท AptiQuant ผู้ศึกษาแล้ว
Leonard Howard ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทได้ออกมาชี้แจงว่าตอนนี้ในกล่องอีเมลของเขานั้นเต็มไปด้วยอีเมลบ่นด่าของผู้ใช้ IE โดยเขาได้พยายามชี้แจงว่ารายงานของบริษัทนั้นไม่ได้สรุปว่า "ถ้าคุณใช้ IE คุณจะมีไอคิวต่ำ" แต่หมายความว่า "ถ้าคุณมีไอคิวต่ำ ก็มีโอกาสสูงที่คุณจะใช้ IE" ต่างหาก
นอกจากนี้แล้วเขายังรู้สึกตื่นเต้นที่ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับงานศึกษาชิ้นนี้ด้วย
ที่มา: PR Web
บริษัทที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาของแคนาดา AptiQuant ได้รายงานผลการวิจัยว่าด้วยความสัมพันธ์ของระดับเชาวน์ปัญญา (ไอคิว) กับเว็บเบราเซอร์ที่ใช้ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าหนึ่งแสนคนทำแบบทดสอบวัดไอคิว จากนั้นก็เก็บผลคะแนนที่ได้กับเว็บเบราเซอร์ที่บุคคลนั้นใช้ พบผลลัพธ์ที่น่าสนใจดังนี้
ในภาพรวมแล้วผลการสำรวจพบว่าผู้ใช้ Internet Explorer มีระดับไอคิวอยู่ราว 80-90 ขณะที่กลุ่มผู้ใช้ Firefox, Chrome และ Safari มีไอคิวอยู่ในช่วง 100-110 ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเป็นผู้ใช้งาน Chrome Frame, Camino หรือ Opera จะมีระดับไอคิวสูงมากกว่า 120 กันเลย
บริษัทความปลอดภัย NSS Labs ได้ทดสอบความปลอดภัยของเว็บเบราว์เซอร์ โดยเฉพาะเรื่องมัลแวร์ที่หลอกให้ผู้ใช้ "กดเพื่อติด" (social engineering) ไม่นับมัลแวร์ที่ใช้ช่องโหว่ของเว็บเบราว์เซอร์
NSS Labs ใช้ URL อันตรายที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในยุโรปมักโดนหลอกให้ติดมัลแวร์ในรอบ 12 เดือนล่าสุดเป็นตัวอย่างทดสอบ ผลปรากฏว่า IE9 ซึ่งมีฟีเจอร์ SmartScreen Filter สามารถสกัดมัลแวร์เหล่านี้ได้ถึง 100%
ไมโครซอฟท์ยังใช้ยุทธศาสตร์ออก IE รุ่นสำหรับนักพัฒนาเว็บที่เรียกว่า Platform Preview ที่ปรับปรุงเฉพาะเอนจินการแสดงผล เพื่อให้นักพัฒนาสามารถทดสอบเว็บของตัวเองกับเอนจินรุ่นล่าสุดของ IE ได้
IE10 Platform Preview 1 ออกเมื่อเดือนเมษายน และบัดนี้ก็ได้เวลาของ Platform Preview 2 ซึ่งเป็นตัวที่ใช้เดโม Windows 8 ด้วย
ของใหม่ของ IE10 Platform Preview 2 คือการสนับสนุนฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างใน CSS3, HTML5, ECMAScript 5 ปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพของการแสดงผล (ซึ่งเว็บแอพในอนาคตจำเป็นต้องใช้กันมาก) และความปลอดภัย (HTML5 sandbox และ iframe isolation) รายละเอียดอ่านกันเองใน MSDN
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทีม Internet Explorer ไปแล้วที่เมื่อ Mozilla ออก Firefox รุ่นใหม่ ก็จะส่งเค้กไปร่วมแสดงความยินดี (ข่าวเมื่อตอน Firefox 4) คราวนี้ Firefox 5 ออกมาแล้ว ทีมงาน IE ก็ไม่พลาดมีส่วนร่วมเช่นเคย
คัพเค้กขนาดกะทัดรัดหน้า IE9 ถูกส่งไปที่ Mozilla เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับ Firefox 5 โดยหน้าตาคัพเค้กถูกถ่ายผ่าน Twitter ของ @damons
มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเค้กมันชิ้นเล็กลงไปเยอะเมื่อเทียบกับอดีต
ส่วนแบ่งของ Internet Explorer นั้นแม้จะมีการกระเพื่อมขึ้นเป็นจังหวะบ้าง แต่เมือมองแนวโน้มโดยรวมแล้วกลับลดลงไม่หยุด ล่าสุดตัวเลขจาก Net Applications ก็พบว่าส่วนแบ่งของ IE นั้นลดลงต่ำกว่า 55% แล้ว โดยไปอยู่ที่ 54.27%
ส่วนแบ่งที่หายไปนั้นส่วนมากไปอยู่กับ Chrome ที่เพิ่มขึ้นเป็น 12.52% ทางฝั่ง Firefox นั้นแทบจะนิ่งโดยเพิ่มขึ้น 0.08% เป็น 21.71%