Google Fiber เป็นโครงการที่กูเกิลประกาศมาเมื่อต้นปีว่าจะเลือกหมู่บ้านจำนวนหนึ่งเพื่อติดตั้งโครงข่ายและให้บริการอินเทอร์เน็ตระดับ 1Gbps แก่ทุกบ้านในบริเวณ และวันนี้ทางกูเกิลก็ประกาศพื้นที่ทดสอบการติดตั้งพื้นที่แรกคือส่วนที่อยู่อาศัยของมหาวิทยาลัย Stanford
ถ้าจำได้มหาวิทยาลัยนี้คือที่ๆ Larry Page และ Sergey Brin สองผู้ก่อตั้งกูเกิลมาพบกัน และนั่งทำกูเกิลจนเรียนไม่จบกันทั้งคู่
วิกฤติการณ์ IPv4 ที่กำลังจะเกิดขึ้นสร้างคำถามต่อบริษัทในยุคก่อตั้งอินเทอร์เน็ตใหม่ๆ ที่ได้รับ IPv4 บล็อก /8 ที่แต่ละบล็อกมีจำนวนไอพีอยู่ถึง 16 ล้านเลขหมาย ล่าสุดบริษัท Interop หนึ่งในกลุ่มบริษัทนี้ก็ได้คืนเลขหมายที่ไม่ได้ใช้งาน ในหมวด 45.0.0.0/8 ให้กับ ARIN เพื่อนำไปจัดสรรต่อไปแล้ว
ARIN สัญญาว่าจะเก็บหมายเลขไอพีเหล่านี้โดยยังไม่ใช้งานต่อไปอีกระยะก่อนจะเริ่มนำไปจัดสรรต่อไป ส่วนทาง Interop นั้นยังคงใช้หมายเลขเดิมต่อไป อย่างไรก็ตาม ARIN เตือนว่าการได้รับหมายเลขไอพีคืนมานี้จะช่วยแก้ปัญหาได้เพียงระยะสั้น โดยหมายเลขที่ได้รับมาจะเพียงพอต่อการจัดสรรอีกเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
จากที่ผ่านมา 2-3 เดือนนี้จะพบว่ามีข่าวเกี่ยวกับ IPv4 ออกมาเป็นระยะๆ ดังเช่น ทำเนียบขาวขีดเส้น หน่วยงานรัฐของอเมริกาต้องใช้ IPv6 ภายในปี 2012 และ จำนวน IPv4 เหลือใช้ได้อีกไม่ถึงปี แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอินเทอร์เน็ตของจริงกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เพราะ หน่วยงานที่จัดสรรหมายเลขเหล่านี้ได้ออกมาระบุแล้วว่า IPv4 ล็อตสุดท้ายกำลังจะถูกปล่อยในต้นปีหน้า
ที่งานสัมมนา International Security Solutions Europe (ISSE) ในกรุงเบอร์ลิน คุณ Scott Charney ผู้บริหารอาวุโสของไมโครซอฟท์เสนอหนทางที่เป็นไปได้ในการจัดการกับบอทเน็ตและมัลแวร์อื่นๆ โดยดูแลพีซีที่ป่วยเหมือนที่สังคมดูแลคนป่วย
บริษัทวิจัยเครือข่าย TeleGeography เผยสถิติการเติบโตของอินเทอร์เน็ตในปี 2010 ว่ามีปริมาณทราฟฟิกรวมโตขึ้นจากปีก่อน 62%
ดูตัวเลขอาจรู้สึกว่ามาก แต่ถ้าเทียบอัตราการเติบโตปีต่อปีถือว่าลดลง เพราะในปี 2009 มีอัตราการเติบโต 74% เทียบจากปีก่อน รายละเอียดอ่านกราฟกันเอง
ส่วนภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือยุโรปตะวันออก และเอเชียใต้ ที่โตเกิน 100% ตามด้วยตะวันออกกลางโตประมาณ 100%
ที่มา - Telegeography, GigaOm
เมื่อวานที่่ผ่านมา H-Root ซึ่งเป็น 1 ใน 13 เซิร์ฟเวอร์ต้นทาง DNS ของทั้งโลกถูกโจมตีจนให้บริการไม่ได้ไปถึง 18 ชั่วโมง เรื่องนี้อาจจะไม่น่าตกใจเท่ากับว่า H-Root นั้นดำเนินการโดยห้องวิจัยของกองทัพบกสหรัฐฯ
H-Root นั้นเป็น root DNS ตัวเดียวที่ยังให้บริการจากที่เดียวคือ Aberdeen Proving Ground ขณะที่เซิร์ฟเวอร์อื่นๆ นั้นมักทำงานเป็นกลุ่มกระจายกันไปทั่วโลกจนยากจะโจมตีจนล่มได้
การโจมตีนี้อาจจะเป็นการโจมตีที่ส่งผลกระทบหนักที่สุดนับแต่ปี 2007 ที่เคยมีความพยายามจะล่มอินเทอร์เน็ตทั้งโลกด้วยการยิง root DNS จำนวนมากอยู่นาน 12 ชั่วโมงแต่เครื่องทั้งหมดก็รอดมาได้ (ข่าวเก่า)
ดร.รอม หิรัญพฤกษ์ ที่ปรึกษารมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการติดตั้งอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศว่า ในวันที่ 17 ก.ย. นี้ กระทรวงไอซีทีเตรียมเสนอร่างนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติต่อคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ (NITC) และเมื่อคณะกรรมการฯ ผ่านการพิจารณาร่างดังกล่าวก็จะเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีในเดือนตุลาคม และหากผ่านก็จะเร่งดำเนินการเปิดบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 2 ปี เพื่อคนไทยจะได้ใช้อินเทอร์เน็ตราคาถูก และทุกพื้นที่สามารถมีอินเทอร์เน็ตใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน
พอดีเห็นว่าบทความนี้มีประเด็นที่โดนใจ ถึงแม้บทวามนี้จะเก่าไปซักหน่อยเพราะได้รับการตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็อยากผู้อ่านใน Blognone ลองอ่านดูครับ
เมื่อสองปีก่อน คุณนิโคลัส คาร์ ได้เขียนบทความ "กูเกิลกำลังทำให้พวกเราโง่ลงหรือเปล่า" (Is Google Making Us Stupid?) ลงในนิตยสาร ดิ แอตแลนติก ซึ่งเป็นนิตยสารอเมริกันที่มีอายุยาวนานมาราว 150 ปี (ลิงก์บทความต้นฉบับ)
ขอรวบ 2 ข่าวเช่นเคย
เมื่อวานนี้คิดว่าหลายคนน่าจะเห็นโฆษณาทางทีวีตัวใหม่ของ True Online กันแล้ว ก็อย่างที่ทราบกันว่าเมื่อตอนต้นเดือนมีข่าวทรูประกาศอัพความเร็วของลูกค้า 4 Mbps/512 Kbps ไปเป็น 6 Mbps/512 Kbps ในราคา 599 บาทต่อเดือนนั้น เมื่อวานนี้ทรูก็ได้ประกาศโปรโมชั่นใหม่อย่างเป็นทางการ นั่นคือ Basic และ Premium ทุกแพ็คเกจอัพขึ้นแพ็คเกจละ 2 Mbps (สุดที่ 16 Mbps ซึ่งลดราคาลง 200 บาท) แต่กรณีของ Basic ตั้งแต่ความเร็ว 8 Mbps ขึ้นไป จะได้อัพโหลดความเร็ว 1 Mbps แทน ซึ่งจะเท่า Premium Package
เมื่อวานนี้ (25 ส.ค. 2553) เว็บไซต์ Wikileaks ได้เผยแพร่บันทึกข้อความลับภายในของ CIA เรื่อง "อะไรจะเกิดขึ้นหากชาวต่างชาติมองว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่ส่งออกผู้ก่อการร้าย ?" โดยเอกสารดังกล่าวให้บทวิเคราะห์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่กลุ่มคนหัวรุนแรงรับสมัครชาวอเมริกันและใช้สหรัฐอเมริกาเป็นฐานในการบงการการก่อการร้ายในต่างประเทศ
บุคคลซึ่งเป็นผู้ยกร่างบันทึกดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่าการเปิดเผยเอกสารดังกล่าวไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก โดยหากรัฐบาลต่างประเทศได้อ่านบันทึกดังกล่าวแล้ว ก็อาจจะให้ความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายกับสหรัฐอเมริกาน้อยลง
โด่งดังจริงๆ กับเว็บ WikiLeaks ซึ่งเป็นเว็บที่เอาข้อมูลภายในของทั้งภาครัฐและเอกชนมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เอาข้อมูลของทหารสหรัฐในอัฟกานิสถานมาเปิดเผย ซึ่งมีข้อมูลที่ทำลายชื่อเสียงของทหารสหรัฐอย่างหนัก เท่านั้นยังไม่พอทาง WikiLeaks กำลังจะเปิดเผยเอกสารลับเพิ่มเติมออกมาอีก แต่ที่ทำให้เป็นปัญหาขึ้นมาเพราะข้อมูลที่ WikiLeaks นำมาเปิดเผยนั้นทำให้คนหลายคนตกอยู่ในอันตรายเลยเป็นประเด็นว่า ตรงไหนล่ะคือจุดที่สมดุลระหว่างเสรีภาพบนอินเตอร์เน็ตกับการลรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองนำมาเปิดเผยซึ่งอาจจะทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย
หลังจากข่าวที่ Google จับมือกับ Verizon ออกข้อตกลงร่วมเรื่อง net neutrality (ข่าวเก่า) และมีปฏิกริยาจากฝ่ายต่างๆออกมามากมายวันนี้ผมจะนำมุมมองของคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่อง net neutrality จาก Harvard Business Review มาให้อ่านกันเพื่อจะได้ทำให้เราได้มองในมุมกลับว่าข้อเสียของ net neutrality ก็มีเหมือนกันครับ ข่าวนี้ผมนำมาเพื่อสอบถามความเห็นของทุกท่านว่าท่านคิดว่าอย่างไรกับประเด็นที่ผู้เขียนบทความต้นฉบับเขียนมาขอเชิญทุกท่านแสดงความเห็นได้เต็มที่ครับทั้งเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
ก่อนหน้านี้มีข่าวมานานแล้วว่าทาง FCC ของอเมริกาพยายามที่จะเพิ่มข้อบังคับใหม่ให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อทำให้ผู้บริโภคไม่ถูกเอาเปรียบโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแต่เรื่องก็เงียบหายไปเพราะไม่สามารถตกลงกันได้แต่สองสามวันที่ผ่านมาผมเห็นข่าวของ Google และ Verizon ที่ประกาศขอตกลงเรื่อง net neutrality ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและผมยังไม่เห็นทาง กทช. ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้เลยผมเลยอยากจะนำบทสรุปของข้อตกลงระหว่าง Google กับ Verizon ที่ทาง Engadget ทำสรุปไว้มาแปลเพื่อสอบถามความเห็นของทุกๆท่านครับ
ขอรวบ 2 ข่าวนี้เป็นข่าวเดียวนะครับ
เหตุของการอัพเกรดสปีดอินเตอร์เน็ตทั้ง 2 ค่ายนี้ ก็เริ่มมาจากการยิงโปรโมชั่น 5 Mbps ในราคา 590 บาท/เดือนของ 3BB ที่ได้พันธมิตรใหม่เป็น JAS ซึ่งหลังจากที่ 3BB ออกโฆษณาผ่านโทรทัศน์ได้ไม่กี่วัน True Online ก็เป็นค่ายแรกที่ยิงออกมาด้วยการประกาศใน Facebook ของ True Online
โดยทางทรูได้ประกาศว่าจะทำการอัพเกรดความเร็วของลูกค้าในแพ็คเกจ 4 Mbps/512 Kbps ให้เป็น 6 Mbps/512 Kbps ในราคาปกติคือ 599 บาท/เดือน (คนที่ใช้ 4 Mbps/1 Mbps หรือ Online Premium ยังไม่แน่ใจว่าจะปรับให้หรือไม่นะครับ) ซึ่งก็เริ่มปรับความเร็วให้แล้วตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา
ภาคประชาสังคมอาเซียน รวมถึงเครือข่ายพลเมืองเน็ต ได้ออก "แถลงการณ์ประชาสังคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2010 ว่าด้วยอินเทอร์เน็ตภิบาล" (2010 Southeast Asia Civil Society Statement on Internet Governance) หลังการประชุมการกำกับดูแลอินเทอร์เน็ต เวทีภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก (Asia-Pacific Regional Internet Governance Forum - APrIGF) ที่ฮ่องกงเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
แถลงการณ์ได้ระบุถึงประเด็นคับขันของการกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคนี้สามประเด็น คือ ความเปิดเผย การเข้าถึง และสิทธิในความเป็นส่วนตัว
Blognone เสนอข่าวของ IPv6 มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหา IPv4 ใกล้หมด (ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญให้คนย้ายไปใช้ IPv6)
การประเมินก่อนหน้านี้คือ IPv4 จะหมดในปี 2013 (ประเมินปี 2008) และลดลงมาเหลือ 2012 (ประเมินเมื่อต้นปีนี้) ล่าสุดทางซีอีโอของ American Registry for Internet Numbers ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการหมายเลขไอพีของภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าปริมาณ IPv4 เหลือใช้ได้อีกไม่ถึง 1 ปีดี (ถ้านับจากวันนี้ก็คือหมดประมาณกลางปี 2011) ถ้าคิดเป็นสัดส่วนคือเหลือแค่ 6% เท่านั้น
พ่อแม่หลายคนเห็นลูกๆ นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันแล้วอาจจะเป็นห่วงเรื่องของการเรียนว่าจะแย่ลงได้ แต่งานวิจัย "Predictors and consequences of differentiated practices on social network sites" จากมหาวิทยาลัย Northwestern ก็ชี้ให้เห็นว่าอาการติด Facebook นั้นมีผลน้อยกว่าเพศ, เชื้อชาติ, และระดับการศึกษาของพ่อแม่เสียอีก
เรื่องนี้อธิบายได้ว่าเด็กที่มีอาการติดอินเทอร์เน็ตหรือเว็บสังคมออนไลน์มากๆ นั้นแม้จะเสียเวลามากไปกับเว็บเหล่านี้แต่ก็สามารถเอาตัวรอดกับการเรียนได้ด้วยการหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จนดูเหมือนว่าข้อดีของการติดอินเทอร์เน็ตสามารถเอาชนะข้อเสียไปได้
หลังจากประกาศรับใบสมัครไปก่อนหน้านี้ โครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ 1Gbps ของกูเกิลก็เริ่มประกาศเมืองที่ส่งใบสมัครเข้าโครงการบนหน้าเว็บแล้วและจะประกาศรายชื่อที่ผ่านการคัดเลือกภายในปีนี้ต่อไป
เว็บ Fiber for Communities ในตอนนี้ยังแสดงวีดีโอขอบคุณใบสมัครที่ส่งกันเข้า โดยหลายเมืองพยายามให้กูเกิลไปติดตั้งระบบไฟเบอร์ในเมืองขนาดที่ว่าผู้ว่ายอมลงถังปลาฉลาม หรือสัญญาว่าจะเปลี่ยนชื่อเมืองกันเลยทีเดียว
กูเกิลสัญญาว่าบริการนี้จะมีราคาในระดับที่ "แข่งขันได้" และกูเกิลจะอยู่ให้บริการกับเมืองที่ได้รับการคัดเลือกนี้ในระยะยาว แสดงให้เห็นว่ากูเกิลเตรียมการที่จะเปิดบริการ ISP อย่างจริงจังในอนาคตอยู่แล้ว
ปัญหาความปลอดภัยของเยาวชนในโลกออนไลน์เป็นเรื่องที่เมืองนอกตื่นตัวกันมาก หน่วยงานจัดเรตติ้งอย่าง ESRB ก็ออกตรารับรองความเป็นส่วนตัวของเยาวชนกันแล้ว
โครงการนี้ไม่ใช่การรับรองว่าผู้ใช้เว็บไซต์จะสามารถซ่อนข้อมูลส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์ แต่เป็นการตรวจสอบการทำงานของเว็บว่าได้เก็บข้อมูลอย่างเหมาะสม, แจ้งเตือนผู้ใช้อย่างถูกต้องว่าข้อมูลจะถูกนำไปใช้งานอะไรบ้าง, และเคารพสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้อย่างเต็มที่
ที่น่าสนใจคือมาตราการเช่นนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาเยาวชนถูกล่อลวงได้จริงหรือไม่ เพราะมันคือสาเหตุหลักที่ต้องมีโครงการนี้
ในขณะที่สายการบินต่างๆ ของอเมริกากำลังแข่งกันพัฒนา Wi-Fi บนเครื่องบินของตนเองอยู่นั้น Cathay Pacific สายการบินของฮ่องกงก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของตน โดยเซ็นสัญญาร่วมกับฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีการบินของ Panasonic ในการจัดหาการเชื่อมต่อแบบ full broadband 50Mbps (รวมถึงการใช้โทรศัพท์ ส่ง SMS, ข้อมูลต่างๆ และการดูถ่ายทอดสดแบบ pay-per-view บนเครื่องบินอีกด้วย) เพื่อผู้โดยสารของ Cathay Pacific และ Dragonair ทั้งหมด ภายในปี 2012
ที่มา: Engadget
สาวๆ หลายคนชอบบ่นว่าคบกับ Geek แล้วความโรแมนติกในชีวิตจะหมดไป คงต้องกลับมาคิดใหม่ เมื่อ Mashable รวบรวม 10 อันดับการขอแต่งงาน ในรูปแบบที่ Geek สุดๆ
ทีนี้จะได้รู้เสียทีว่า Geek อย่างเราก็มีความโรแมนติกกับเค้าเหมือนกันนะ เพียงแค่มันอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไปต่างหาก
1. Super Mario
Geek หนุ่ม Brad ใช้โปรแกรม Lunar Magic เข้าไปแก้ด่านหนึ่งของ Super Mario World ภาค SNES และขอให้ Lisa แฟนสาวลองเล่นดู โดยในตอนแรกของวิดีโอเธอเองก็สงสัยว่าทำไมต้องเล่นด้วย แต่เมื่อเล่นไปซักพักเธอก็พบกับเหรียญทองที่เรียงกันเป็นคำว่า "Lisa .. will you mary me?" เธอตอบ "Yes"
น่ารักไหมล่ะ
เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวเราหน่อย แต่ผมเห็นว่ามันน่าสนใจดีเลยแปลเอามาให้อ่านกันครับ
หนึ่งในสมาชิกสภาล่างของสหรัฐพรรค Democrat ได้ออกเรียกร้องให้มีการสนับสนุนให้เก็บภาษีจากการซื้อขายของบนอินเทอร์เน็ตข้ามรัฐ โดยทุกวันนี้นั้นผู้ที่ทำการซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตจากผู้ค้าที่อยู่อีกรัฐหนึ่งนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเสียภาษีแต่อย่างใด ในขณะที่การจำหน่ายสินค้าออนไลน์นั้นเพิ่มมากขึ้นทุกที ทำให้รัฐหลาย ๆ รัฐเสียภาษีที่ควรจะได้เป็นมูลค่ามหาศาล
กฏหมายประกันการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็ว 1Mbps ของฟินแลนด์ผ่านออกมาตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว วันนี้ก็เป็นวันแรกของการบังคับใช้กฏหมาย
กฏหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนระดับชาติจากกระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของฟินแลนด์ที่แถลงแผนการมาตั้งแต่ปี 2008 (แผนการ [PDF]) ผลจากกฏหมายนี้บังคับให้บริษัทสื่อสารในฟินแลนด์ต้องลากสายเชื่อมต่อไปยังบ้านเรือนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตามที่กฏหมายกำหนด โดยมียอดทั้งหมด 4,000 หลังคาเรือน
ทุกวันนี้ประชาชนฟินแลนด์เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ตามกฏหมายนี้อยู่แล้วถึง 96% (ประชาชนบางส่วนเข้าถึงได้แต่เลือกจะไม่ติดตั้ง)
Twitter เป็นหนึ่งในบริการ Social Network ที่สามารถเจาะตลาดญี่ปุ่นได้สำเร็จ โดยหลังจากที่ได้เริ่มเปิดบริการ Twitter ในภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้ Twitter ในญี่ปุ่นกว่า 10 ล้านคน คิดเป็น 16.3 เปอร์เซนต์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งประเทศ (อเมริกา 9.8 เปอร์เซ็นต์) แซงหน้า Social Network อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่าง Mixi ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทุกวันนี้จะมีข้อความจากชาวญี่ปุ่นโดยเฉลี่ย 8 ล้านทวีตต่อวัน คิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนทั้งหมดทั่วโลก สาเหตุหนึ่งที่น่าสนใจคือเรื่องของภาษา อย่างเช่นคำว่า "information" นั้นสามารถเขียนในภาษาญี่ปุ่นได้เพียงแค่ 2 ตัวอักษรเท่านั้น