แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ที่ขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว แทนที่ 9.7 นิ้วรุ่นแต่มาในขนาดเดิม เนื่องจากสามารถลดขอบหน้าจอ (bezel) ได้ถึง 40% และมีน้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ (ราว 0.45 กิโลกรัม) ส่วนรุ่นใหญ่ยัง 12.9 นิ้วเท่าเดิม
BGR อ้างแหล่งข่าวภายในแอปเปิลว่าแท็บเล็ตหน้าจอ 7.9 นิ้ว iPad mini เตรียมยุติการผลิตและจำหน่ายในเร็วๆ นี้ นั่นคือจะไม่มี iPad mini 5 ออกมานั่นเอง
สำหรับสาเหตุที่แอปเปิลจะเลิกขายนั้นก็ตรงไปตรงมาคือ iPad mini มียอดขายลดลงอย่างชัดเจน โดยแท็บเล็ตรุ่นจอเล็กนี้เริ่มขายในปี 2012 ซึ่งตอนนั้น iPhone ยังหน้าจอเล็ก ไม่มี iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้วออกมา และ iPad ยังไม่มี iPad Air จึงมีน้ำหนักเครื่องค่อนข้างมาก พอเวลาสินค้าเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลง บีบให้ iPad mini เป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นน้อยลง
แอปเปิลปรับสินค้าตระกูล iPad/iPhone อีกครั้ง โดยเป็นการอัพเกรดย่อยๆ สามรายการ
สินค้าทั้งสามตัวจะเริ่มสั่งได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 นี้เป็นต้นไป
สำนักข่าว Bloomberg รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่าแอปเปิลกำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้ iPad Pro อย่างเร็วที่สุดปีหน้า ขณะเดียวกันก็เตรียมออกอุปกรณ์ในไลน์ Mac ใหม่ทั้ง iMac, MacBook Air และ MacBook Pro ภายในสิ้นปีนี้
แหล่งข่าวเผยว่า หนึ่งในการอัพเกรด iPad Pro คือฟังก์ชันของ Apple Pencil ที่จะขยายการรองรับการใช้งานกับแอพอื่นๆ มากยิ่งขึ้นในลักษณะเดียวกับบน Galaxy Note ของซัมซุง ซึ่งอาจจะมาพร้อมกับ iOS 10 ที่จะประกาศในงานวันที่ 7 นี้ หรือไม่รอเพิ่มใน iOS รุ่นถัดไป
ใครที่ตามข่าวไมโครซอฟท์ทำแอปชุด Office บนแพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพาของค่ายอื่นก็จะเห็นว่าตอนนี้มี Word, Excel, PowerPoint, OneNote และ Sway แล้ว คราวนี้มาถึงคิวของ Visio ครับ
เมื่อหลายวันก่อนไมโครซอฟท์เปิดให้สมาชิกโครงการ Office Insider ที่ใช้ iPad ทุกรุ่นที่รัน iOS 9 ขึ้นมาลงชื่อร่วมทดสอบวงปิด Visio for iPad
สำหรับฟีเจอร์ของแอปมีดังนี้
จากข่าว iPad 2-3, iPhone 4S, iPad mini รุ่นแรก ไม่ได้อัพเกรดเป็น iOS 10 คำถามที่ตามมาคือมี iPad จำนวนเท่าไรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้
ถึงแม้แอปเปิลไม่เปิดเผยตัวเลขนี้ แต่สถิติจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลแอพมือถือ Localytics เมื่อเดือนมีนาคม 2016 (ข้อมูลเก่าไปสองสามเดือน) พอให้เราประเมินได้ว่าน่าจะมี iPad ที่ไม่ได้อัพเดตรวมกันประมาณ 40% ของ iPad ทั้งหมดที่อยู่ในตลาด
ตอนนี้ iPad รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ iPad Air รุ่นแรก (18%) แต่อันดับสอง iPad 2 (17%) และอันดับสาม iPad mini (15%) ซึ่งมีสัดส่วนผู้ใช้งานเยอะไม่แตกต่างกันมาก กลับไม่ได้ไปต่อ เมื่อรวมกับ iPad 3 (9%) ก็จะได้สัดส่วน iPad ที่ไม่ได้อัพเดตประมาณ 41%
กรณีนี้ถูกเรียกว่า Patent Troll (พูดอย่างไม่เป็นทางการคือแอปเปิลถูกเกรียนใส่) เมื่อ Corydoras Technologies ยื่นฟ้องแอปเปิลละเมิดสิทธิบัตร 6 ชิ้น จากฟีเจอร์อย่างการโทรออก เฟสไทม์ และการวางกล้องหน้าไว้ด้านเดียวกับหน้าจอ บนอุปกรณ์ของแอปเปิลกว่า 20 ชิ้น
นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว ยังมีการแสดงผลตำแหน่งที่อิงกับภูมิศาสตร์ ความสามารถในการบล็อคเบอร์และความสามารถในการส่งอีเมล์ โดย Corydoras Technologies เคยฟ้องซัมซุงในกรณีคล้ายๆ กันนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
CNET รายงานว่า Pantent Troll ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แอปเปิลตกเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ที่โดนฟ้องร้องในลักษณะนี้เมื่อปีที่แล้ว
บริษัทวิจัยข้อมูล 1010data ออกมาเปิดเผยเบื้องต้นถึงรายงานการวิจัยของตนเองที่ระบุว่า แท็บเล็ตแบบ 2-in-1 ลูกผสม (เรียกว่า "laplet") เช่น Surface กำลังได้รับความนิยมและถือเป็นกลุ่มแท็บเล็ตที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัทระบุว่า แม้ Apple iPad จะยังครองส่วนแบ่งได้ที่ 32.5% ของตลาดรวมทั้งหมด แต่แท็บเล็ตกลุ่มลูกผสมเหล่านี้กำลังกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ Surface Book ของ Microsoft สามารถทำส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นได้ถึง 9% ทำให้ Microsoft มีส่วนแบ่งในตลาดเป็นอันดับสองที่ 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสแล้ว ขณะที่ Apple กลับมียอดส่งมอบ iPad คงที่ไม่เปลี่ยนแปลงนัก
รายงานวิจัยฉบับเต็มจะเผยสู่สาธารณะในสัปดาห์หน้าครับ
ปัญหาของผู้ใช้ MacBook หรือ iPad ประการหนึ่งคืออะแดปเตอร์มีขนาดใหญ่จนเกาะกับเต้ารับได้ไม่ค่อยมั่นคงหรือเกะกะเนื้อที่ ตอนนี้มีอุปกรณ์ใหม่ชื่อ Blockhead เปลี่ยนขั้วด้านเต้าเสียบหันอีกด้าน เมื่อใช้กับอะแดปเตอร์เดิม ก็สามารถหันด้านข้างเข้าเต้าเสียบได้ ประหยัดพื้นที่ไปได้มาก
อธิบายลำบาก ลองดูภาพประกอบด้านใน ขาเต้าเสียบเป็นแบบสองขาแบน สิ่งนี้ขายราคาชิ้นละ 19.95 เหรียญสหรัฐฯ กำหนดส่งเดือนเมษายนนี้ครับ
มีข่าวมาได้ระยะหนึ่งพอสมควรกับการจัดงานแถลงข่าวพิเศษเพื่อใช้เป็นเวทีเปิดตัว iPhone SE และ iPad Pro รุ่นใหม่ ล่าสุดแอปเปิลได้ส่งบัตรเชิญเข้าร่วมงานแถลงข่าวดังกล่าวเรียบร้อย โดยมีกำหนดการจัดงานในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ที่สำนักงานใหญ่ของแอปเปิลในรัฐแคลิฟอร์เนีย (ตรงกับคืนวันที่ 21 เข้าวันที่ 22 บ้านเรา)
เบื้องต้นมีการคาดว่าแอปเปิลจะใช้เวทีดังกล่าวในการกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับคดีที่ FBI ยื่นฟ้องให้ทำ iOS เวอร์ชันปิดระบบรักษาความปลอดภัย ก่อนเข้าสู่การเปิดตัวสินค้าด้วยครับ
จากปัญหา Date of Death ที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ iOS แบบ 64 บิตทั้งหมด ล่าสุดตัวแทนของแอปเปิลออกมาแจ้งว่า ทางทีมรับทราบปัญหาแล้ว และจะออกแพตช์แก้ไขให้อัพเดทถัดไป (iOS 9.3)
อย่างไรก็ตามแอปเปิลไม่ได้เปิดรับแก้ปัญหานี้ที่ศูนย์บริการ หรือบอกวิธีการแก้ปัญหาแบบเบื้องต้นแต่อย่างใด แต่จากรายงานพบว่ามีบางส่วนสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการ "ปล่อยให้แบตหมดไปเอง" หรือ "แกะเครื่องเพื่อถอดสายแบต" แล้วทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง เครื่องก็จะกลับมาใช้งานได้ แต่เครื่องจะทำงานช้ามากในช่วงแรก และจะเข้าที่ในเวลาต่อมา
มีรายงานตรวจพบบั๊กใหม่ของ iPhone (และอาจเหมารวมถึง iPad และ iPod touch) โดยบังเอิญ โดยผู้ใช้ใน Reddit ระบุว่าคนที่พบเจอบั๊กนี่เป็นคนแรกเป็นผู้ใช้ iPhone ชาวจีนที่กำลังแก้ไขปัญหาวันที่ใน iOS 9.3 Beta 3
บั๊กดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อตั้งวันที่เครื่องเป็นวันที่ 1 มกราคม 1970 และบันทึกการตั้งค่านี้เอาไว้ ทำให้เมื่อกลับมาแก้ไขเป็นค่าปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ และซ้ำร้าย เมื่อกดปิด-เปิดเครื่องใหม่ ก็จะเจอปัญหา boot loop ทันที ที่สำคัญคือผู้ใช้ไม่สามารถต่อเข้า DFU Mode เพื่อ Restore เครื่องใหม่ได้ด้วย ทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์
9to5Mac เคยรายงานข่าวลือของผลิตภัฑณ์ใหม่ได้แก่ iPhone 5se, iPad Air 3 และ การอัพเดตย่อย Apple Watch รวมไปถึงสายแบบใหม่ๆ ด้วย
ซึ่งข่าวล่าสุดได้รายงานว่า Apple จะจัดงานเปิดตัวทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ส่วนเวลาและสถานที่อย่างเป็นทางการต้องรอติดตามชมครับ
ที่มา - 9to5Mac
วันนี้ LINE ออกอัพเดทแอพพลิเคชันใน iOS ใหม่เป็นเวอร์ชัน 5.9.3 ของใหม่รอบนี้คือการ "รวมแอพฯ" ระหว่าง LINE for iOS เดิม และ LINE for iPad เข้าเป็นแอพพลิเคชันแบบ Universal ตามรอย LINE for Windows 10 ที่หลอมทั้ง Windows Phone App และ WinRT App เข้าด้วยกันเป็น Universal Windows App (UWP) มาก่อนแล้ว
การอัพเดทในครั้งนี้ยังทำให้ความสามารถของ LINE บน iPad นั้นเพิ่มขึ้นมาเทียบเท่าเวอร์ชัน iPhone คือรองรับการปลดล็อกด้วย Touch ID, รองรับ Video Call/Voice Call และ LINE Premium Call, รองรับฟีเจอร์ Timeline และมีร้านสติกเกอร์เพิ่มเข้ามาแล้ว
ไมโครซอฟท์เผยความคืบหน้าเกี่ยวกับ Microsoft Office ดังนี้
แอปเปิลออก iOS 9.3 Beta ให้ผู้สนใจและนักพัฒนาร่วมทดสอบแล้ว ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
แอปเปิลได้ขึ้นราคาของ iPhone และ iPad ที่วางจำหน่ายในประเทศเยอรมนีเล็กน้อย หลังจากแอปเปิลและบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ยินยอมจะจ่ายค่าลิขสิทธิ์ประมาณ 5.50 - 7.70 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 190 - 260 บาท) ต่ออุปกรณ์ 1 ชิ้นที่ขายได้ ให้กับผู้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆ อย่างเช่นนักดนตรี นักแสดง หรือแม้แต่นักแสดงหนังโป๊
ข้อตกลงนี้ถูกจัดทำขึ้น โดยอิงกับกฎหมายของเยอรมนีที่ออกมาตั้งแต่ปี 1965 ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคจะสามารถทำสำเนาของคอนเทนต์ต่างๆ ทั้งเพลง หนังหรือภาพนิ่งเพื่อไว้ใช้งานส่วนตัวได้ แต่ก็ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เมื่อซื้ออุปกรณ์ที่สามารถบันทึกคอนเทนต์เหล่านี้ ซึ่งสินค้าอย่างเช่นแผ่น CD เปล่าก็มีการเก็บค่าลิขสิทธิ์เพิ่มจากผู้ซื้อในลักษณะนี้เช่นกัน
พร้อมกับการวางขาย iPad Pro ที่เปิดศักราชใหม่ให้อุปกรณ์ iOS สามารถทำงานซับซ้อนได้มากขึ้น พร้อมกับการมาของ Surface Book ที่ยิ่งสร้างกระแสอุปกรณ์แบบไฮบริดมากขึ้น หลายคนจึงเริ่มตั้งคำถามว่าแอปเปิลนั้นสนใจทำอุปกรณ์ไฮบริดบ้างหรือไม่
ตอนนี้คำถามที่ว่าได้รับคำตอบจาก Tim Cook แล้ว โดยในระหว่างงานแถลงข่าววางขาย iPad Pro เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าไม่มีแผนจะทำอุปกรณ์ไฮบริดกับ MacBook และ iPad เนื่องจากความพยายามทำให้อุปกรณ์ทำงานได้สองรูปแบบพร้อมกันนั้นไม่สามารถทำให้ผู้ใช้ MacBook และ iPad ในปัจจุบันนั้นพึงพอใจได้ และไม่ใช่วิธีการใช้งานที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆ
ตรงตามข่าวลือ แอปเปิลเปิดขาย iPad Pro ผ่านหน้าร้านออนไลน์ Apple.com ในวันพุธที่ 11 พฤศจิกายนนี้ และจะเริ่มขายผ่านร้านของแอปเปิลและพันธมิตร ช่วงปลายสัปดาห์นี้ใน 40 กว่าประเทศทั่วโลก (รวมประเทศไทยด้วย)
iPad Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สำหรับรุ่น Wi-Fi 32GB ส่วนปากกา Apple Pencil และคีย์บอร์ด Smart Keyboard ก็วางขายพร้อมกันด้วย
ที่มา - Apple
ลือกันมาหลายรอบว่าแอปเปิลวางแผนจะเปิดตัว iPad หน้าจอใหญ่ขึ้นสำหรับใช้ทำงานเป็นจริงเป็นจังได้มากกว่าเดิม ล่าสุดมีข่าวลือมาว่าเจ้า iPad ตัวใหม่นี้ (หรือที่เรียกมาตลอดว่า iPad Pro) จะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมพิเศษด้วย
จากแหล่งข่าวที่อ้างว่าเป็นอดีตวิศวกรของแอปเปิลระบุว่าช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลได้ทดสอบอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPad ชิ้นใหม่อยู่ และนั่นก็คือสไตลัสสำหรับ iPad ที่มีรุ่นทดสอบมาได้พักใหญ่แล้ว โดยทางแหล่งข่าวบอกว่าแม้แอปเปิลจะยอมทำสไตลัส (ที่ Jobs เคยบอกว่าเกลียดนักหนา) แต่ก็ทำได้แตกต่างจากสไตลัสทั่วไป แม้ไม่มีรายละเอียดออกมา
พร้อมกับการประกาศปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของ Logitech พร้อมเปิดตัวแบรนด์ย่อย Logi ที่กำลังจะเปิดตัวสินค้าในแบรนด์นี้ในไม่ช้า ตอนนี้ทาง Logitech ได้เผยโฉมสินค้าแรกที่ใช้แบรนด์ตัวใหม่มาแล้ว
และของชิ้นที่ว่านี้คือ Logi Blok ซีรีส์เคสอุปกรณ์เสริมตัวใหม่ที่ทำมาเพื่อ iPad Air และ iPad mini โดยเฉพาะ จุดเด่นของเคสรุ่นนี้คือปกคลุมทั่วทั้งตัวเครื่อง และออกแบบมาให้ทนทานถึงขนาดที่ว่าป้องกันการตกหล่นได้สูงสุดถึง 6 ฟุตด้วยกัน (เกือบสองเมตร)
นอกจากความทนทานแล้ว Logi Blok โชว์จุดเด่นด้านการออกแบบที่ยังทันสมัยแม้ว่าต้องทำให้หนา ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลว่าตัวเครื่องจะออกมาน่าเกลียดเมื่อใช้เคสที่ทนทานแต่อย่างใด
ลือกันมาหลายรอบ ในที่สุด iOS 9 ก็เพิ่มฟีเจอร์ที่รอกันมาแสนนานอย่าง Multitasking สำหรับ iPad อย่างเป็นทางการแล้ว โดยนอกจากจะเพิ่มการทำงาน Multitasking รูปแบบใหม่แล้ว (แอปเปิลบอกว่า iPad รองรับการทำงานแนวนี้มาตั้งแต่ก่อน iOS 9 เสียอีก) ยังปรับอินเทอร์เฟซให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นอีกด้วย
Japan Post Group กลุ่มบริษัทรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น (เริ่มต้นจากไปรษณีย์ แต่ปัจจุบันมีบริการขนส่ง ธนาคาร ประกันภัยด้วย) มีบริการชื่อว่า Watch Over ที่ช่วยดูแลผู้สูงอายุของญี่ปุ่นที่นับวันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยญาติของผู้สูงอายุเหล่านี้สามารถจ่ายเงินเป็นรายเดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ Japan Post เข้าไปตรวจเช็คผู้สูงอายุถึงบ้านเป็นระยะ
บริษัทวิจัยตลาด IDC ออกบทวิเคราะห์ว่าอนาคตของ Windows 10 จะอยู่ที่อุปกรณ์ประเภท 2-in-1 แบบ Surface Pro 3 ไม่ใช่ตลาดแท็บเล็ตแบบปกติ
IDC ประเมินว่าปี 2015 เราจะเห็นแท็บเล็ตวินโดวส์ขายได้มากขึ้นเป็น 16.3 ล้านเครื่อง (โต 41%) ครองส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตโลกได้ 7% แต่พอถึงปี 2019 แท็บเล็ตวินโดวส์จะเพิ่มยอดขายเป็น 38 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 14.1%
ในทางตรงข้าม IDC มองว่ายอดขาย iPad ปีนี้จะลดลง 5% จากปี 2014 (ขายได้ 63.4 ล้านเครื่อง) และในปี 2019 แอปเปิลจะขาย iPad ได้เท่าเดิมคือปีละ 61.9 ล้านเครื่อง และแม้ว่าแอปเปิลจะออก iPad Pro รุ่นจอใหญ่ตามข่าวลือ มันก็จะไม่มีผลต่อยอดขายรวมของ iPad มากนัก