Mac Mini นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ที่ดีมากสำหรับผู้ที่ต้องการใช้แมคเป็นเครื่องที่สอง หรือใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์ในบ้าน หรือนอกบ้าน เมืองนอกนั้นถึงขั้นมีบริการโฮสต์เครื่อง Mac Mini โดยเฉพาะ แอปเปิลเองก็รู้จุดนี้ดี การอัพเกรด Mac Mini ครั้งใหม่จึงมีรุ่นเซิร์ฟเวอร์ออกมาพร้อมกัน

Apple เปิดเผยผลการประกอบการไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2552 (สิ้นสุด ณ วันที่ 26 กันยายน 2552) ว่ามีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 กล่าวคือ 5,704 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 46.5 ในไตรมาสสุดท้ายไตรมาสเดียว

นาย Peter Oppenheimer ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัท กล่าวว่า "Apple พึงพอใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับผลการประกอบการไตรมาสสุดท้ายและในภาพรวมทั้งปี"

ผลการประกอบการซึ่งเป็นที่น่าพอใจมากนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายทั้งหมดประจำปีซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12.5 เป็น 36,537 ล้านดอลลาร์ โดยยอดขายของคอมพิวเตอร์ Macintosh เพิ่มขึ้นมากที่สุด กล่าวคือ ร้อยละ 17 และ iPhone เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ส่วน iPod ยอดขายลดลงร้อยละ 8

ถึงแม้ Windows 7 จะออกตัวจริงภายในเดือนนี้ และจะเพิ่มยอดขายคอมพิวเตอร์ฝั่งพีซีอีกมากจนอาจกินตลาดของแมคไปบ้าง แต่ Brian Marshall นักวิเคราะห์จากบริษัท Broadpoint AmTech ได้ตรวจสอบยอดขายของเครื่องแมคในอดีตครั้งที่วินโดวส์ออกรุ่นใหม่ ย้อนกลับไปถึง 4 รุ่น และพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน

Brian Marshall กลับไปดูสถิติตั้งแต่ Windows 98 กลับมายัง 2000, XP และ Vista เขาพบว่าแมคมียอดขายตกลงเพียงครั้งเดียวตอนที่ไมโครซอฟท์ออก 2000 แต่ตอน Vista นั้นยอดขายเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เขาให้เหตุผลว่าส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลนั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับทั้งอุตสาหกรรม และดันเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ไม่ขึ้นกับผู้เล่นรายอื่นๆ เลย

NPD Group บริษัทที่ทำงานเกี่ยวข้องกับงานวิจัยด้านการตลาด ได้เผยผลสำรวจออนไลน์ที่มีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามกว่า 2,300 คน พบว่า มีผู้ตอบราว 12% ที่ใช้เครื่อง Mac ของแอปเปิล ซึ่งเพิ่มจาก 9% ของผลสำรวจเมื่อปีก่อน แต่น่าสนใจว่ากว่า 85% ของผู้ใช้ Mac นี้ยังมีเครื่อง PC ที่ใช้ Windows อยู่ในครอบครองด้วย

สงครามน้ำลายในสมรภูมิซอฟต์แวร์จัดการภาพถ่ายมืออาชีพกำลังจะเริ่ม ฝั่ง Adobe นำโดย John Nack ซึ่งเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Adobe Photoshop อ้างตัวเลขจากการสำรวจของบริษัท InfoTrends สอบถามช่างภาพมืออาชีพว่าใช้โปรแกรมอะไรจัดการกับไฟล์ภาพแบบ RAW บ้าง

ตัวเลขของปี 2009 คือ

• Photoshop Camera Raw plug-in 57.9%
• Lightroom 37.0%
• Aperture 6.3%

ถ้าเทียบกับปี 2007 และ 2008 แล้ว อัตราส่วนของคนใช้ปลั๊กอินใน Photoshop มีแนวโน้มลดลง ส่วน Lightroom เติบโตขึ้น และ Aperture ลดลง

ถ้าคัดเฉพาะคนใช้แมคเท่านั้น คนใช้ Lightroom มี 44.4% ส่วน Aperture มี 12.5% รอบนี้ Adobe โฆษณาว่า "4x" ครับ ผมไม่ได้ใช้ทั้งคู่ให้ความเห็นไม่ได้แหะ

Adobe ประกาศว่าสำหรับ Mac OS X 10.6 จะสนับสนุนเฉพาะ Adobe CS4 เท่านั้น ถ้า CS3 ใช้บน Snow Leopard ไม่ได้ บริษัทจะไม่แก้ไขให้

ข้อมูลนี้อยู่ใน FAQ ของ Adobe Creative Suite บอกว่า Adobe ได้ทดสอบ CS4 บน Snow Leopard และพบว่าทำงานได้ดีไม่มีปัญหา แต่ซอฟต์แวร์ที่เก่ากว่านั้นอย่าง CS3 และ Macromedia Studio 8 นั้นไม่อยู่ในแผนการทดสอบ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา บริษัทจะไม่แก้ไขเพื่อให้ทำงานกับ Snow Leopard ได้ โดยบอกว่าต้องการเอาทรัพยากรไปทุ่มลงใน CS5 แทน

AppleInsider รายงานว่าแอปเปิลกำลังเตรียมที่จะเปลี่ยนหน้าตาภายนอกของ MacBook ที่ไม่ได้เปลี่ยนมาตั้งแต่สมัยเปลี่ยนมาใช้อินเทล (หากไม่นับ MacBook อลูมิเนียมที่โดนเปลี่ยนชื่อมาเป็น MacBook Pro) และยังจะทำการดีไซน์ภายในของเครื่องใหม่อีกด้วย โดยคาดว่าตัวเครื่องจะบางลง น้ำหนักเบาขึ้น

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าจะมีการเพิ่มจำนวนรุ่นและเปลี่ยนราคาเริ่มต้นให้ถูกลงกว่าปัจจุบัน (อยู่ที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐ) และชิ้นส่วนที่มีราคาถูกลงเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์จากแอปเปิลนั้นสามารถสู้ในด้านราคาได้กับโน้ตบุคพีซีราคาถูก

แหล่งข่าวบางแหล่งยังอ้างอีกว่าแอปเปิลเคยคิดจะใช้ Atom ของอินเทลเพื่อ MacBook อีกด้วยเพื่อลดราคา แต่เปลี่ยนใจเมื่อโปรเจค Tablet เริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น

บริษัท Retrevo เว็บไซต์ช็อปปิ้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สำรวจกลุ่มลูกค้าประมาณ 300 คน และพบว่าการที่แอปเปิลไม่มีเน็ตบุ๊กหรือโน้ตบุ๊กราคาถูกนั้นเป็นผลเสียมากกว่าผลดีในตลาดการศึกษา

ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Microsoft Office for Mac รุ่นถัดไป (น่าจะใช้ชื่อว่า Office 2011) จะวางตลาดในช่วงปลายปี 2010

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือจะมี Outlook รุ่นสำหรับแมคออกมาให้ใช้กันเป็นครั้งแรก จากเดิมที่ไมโครซอฟท์ใส่โปรแกรม Entourage ขัดตาทัพมาโดยตลอด Eric Wilfrid ผู้จัดการฝ่ายแมคของไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Outlook for Mac ถูกเขียนขึ้นใหม่หมดด้วย Cocoa สนับสนุนเทคโนโลยีบนแมคทั้ง Spotlight และ Time Machine แต่ก็ยังเข้ากันได้กับ Microsoft Exchange รุ่นล่าสุด

ข่าวเล็กๆ อีกข่าวที่เกี่ยวข้องกันคือ Office for Mac 2008 จะออกรุ่น Business Edition ที่มี Entourage Web Services Edition เพิ่มเข้ามา ขายในราคาชุดละ 399 ดอลลาร์ และออกมาแทนรุ่น Standard Edition เดิม

แอปเปิลอัพเดตความจุของ Time Capsule จากเดิมที่มีอยู่ 2 รุ่นคือ 500GB และ 1TB มาเป็น 1TB และ 2TB โดยที่ราคาเท่าเดิมคือ 10,990 บาทและ 17,990 บาทตามลำดับ ส่วนความสามารถอื่นๆ นั้นยังคงเป็นเช่นเดิมตามปกติ ซึ่งการอัพเดตครั้งนี้ก็เป็นไปตามภาพหลุดกล่อง Time Capsule รุ่น 2TB ที่เคยออกมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

Time Capsule เป็นอุปกรณ์สำรองข้อมูลไร้สาย ที่เป็นการรวมกันระหว่าง wireless router กับฮาร์ดดิสก์เข้าด้วยกัน ใช้ได้ทั้งแมคและพีซี

ที่มา - Macrumors

Gene Munster ได้ออกมาวิเคราะห์ว่าทางแอปเปิลน่าจะเปิดตัวเครื่อง Media Pad ในช่วงต้นปี 2010 โดยเครื่องนี้น่าจะใช้ระบบปฏิบัติการที่เป็นลูกผสมระหว่าง iPhone OS กับ Mac OS X

โดยขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 7 - 10 นิ้ว โดยตั้งราคาไว้ที่ $500 - $700 (ประมาณ 17,500 - 24,500 บาท) ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่าง iPod ($399 ประมาณ 14,000 บาท) และ MacBook ($999 ประมาณ 35,000 บาท)

และแน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่การวิเคราะห์ ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นจริงก็เป็นได้ แล้วคุณล่ะอยากให้เป็นเรื่องจริงไหม ?

ที่มา : MacRumors, Gizmodo

RussianMac บริษัทสัญชาติรัสเซียได้มีการว่าจ้างโฆษณาที่ Softpedia เรื่องการจัดจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์เลียนแบบ Mac แต่เป็นที่สงสัยว่าจะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์กับทาง Apple หรือไม่ แต่ได้รับการปฏิเสธว่ามีการตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับทางบริษัทผู้ผลิต

บทความนี้เป็นเพียงข้อคิดเห็นจากนาย Rob Enderle จาก Tech News World

มีคำถามที่ว่า แอปเปิลสมควรได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงโลกหรือไม่ จริงๆแล้วแอปเปิลได้ทำให้โลกขยับก้าวหน้าไปอีกขั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามทิศทางที่แอปเปิลเองตั้งใจเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แอปเปิลสร้างขึ้นนั้นได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วให้กับวินโดวส์ โดยเฉพาะ วินโดวส์ 7 รวมไปถึงเร่งการพัฒนาให้กับ Palm Pre และ Android อีกด้วย
ถึงเวลารึยังที่จะเสียความเป็นผู้นำในตลาด smart phone เช่นเดียวกับที่เคยสูญเสียความเป็นผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไป

โฆษณาที่ออกได้เห็นกัน ในช่วงที่ผ่านมา ที่เชียร์ ให้ซื้อ Laptopที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft นั้น เบื้องหลังคือ สำนักงานของ Alex Bogusky ผู้ทำงานเบื้องหลังโฆษณาชุดนี้ ใช้ MacBook ทำงานดังกล่าว ภาพที่เราเห็น (ดูลิงค์) พบ Macbook รายรอบสำนักงานไปหมด ทำให้ต้องกลับมาคิดใหม่ว่า Microsoft ยังโน้มน้าว partner ตัวเองไม่ได้ แล้วยังจะมาสร้างศรัทธาจากลูกค้าอีกหรือ
ที่มา http://www.wired.com/gadgetlab/2009/05/laptophunter/

หลังจากที่ซีอีโอของสองบริษัทนี้ได้ทำการพูดแขวะกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าพิษของเศรษฐกิจโลกทำให้ทั้งสองบริษัทอาจจะต้องหันหน้าเข้ามาดีกันจนได้ โดยต่อไปนี้บริษัท Dell จะเริ่มวางขายคอมพิวเตอร์่ส่วนตัวที่ทำการติดตั้ง Mac OS X ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

นอกจากสิทธิในการติดตั้งและการขายคอมพิวเตอร์พร้อมกับ Mac OS X แล้ว แอปเปิลยังให้สิทธิ (เชิงบังคับ) ว่าคอมพิวเตอร์ที่ทำการติดตั้ง Mac OS X ของ Dell จะต้องทำการตลาดโดยใช้ชื่อว่า Mac หรือ MacBook อีกด้วย ซึ่งหมายความว่า Dell มีสิทธิขาย Mac แล้วนั่นเอง!

จากเว็บไซท์ของ Dell จะมีโน้ตบุคสามรุ่นแรกที่พร้อมวางจำหน่ายภายในเดือนมิถุนายนคือ MacBook Inspiron, MacBook Studio และ MacBook XPS

ด้วยวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้ยอดขายคอมพิวเตอร์ในสหรัฐติดลบมาโดยตลอด (คิดเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน) โดยตัวเลขของทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2008-กุมภาพันธ์ 2009 อยู่ระหว่าง -2.2% ถึง -6.8% (กุมภาพันธ์ 2009 คือ -6.8% ถือว่าเยอะที่สุด)

แต่ถ้าคิดเฉพาะพีซีแล้ว กลับโตสวนกระแสอุตสาหกรรม โดยพีซีพลิกฟื้นจาก -6.6% ในเดือนพฤศจิกายน ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลับมาเป็นบวก 0.1% ได้เมื่อเดือนมกราคม 2009 และล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดพีซีโต 1.4% ตัวเลขทั้งหมดนี่คิดในเชิงรายได้ ถ้านับเป็นเชิงจำนวนเครื่องที่ถูกขายออกไป ยอดขายพีซีเดือนกุมภาพันธ์ 2009 โตถึง 22% เมื่อเทียบกับปี 2008

มีข่าวลือจากหลายเว็บไซต์ออกมาว่าแอปเปิลเตรียมที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจเร็วมากจนเป็นวันพรุ่งนี้เลยก็ได้ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับข่าวลือนี้คือ iMac, Mac mini และ Mac Pro โดยลือกันว่าจะมีรายละเอียดคือ

Arstechnica ได้บอกว่าทีมงานเว็บและผู้ใช้บางส่วนได้พบว่าคุณสมบัติใหม่บางส่วนของ iLife '09 นั้นสามารถใช้ได้เฉพาะบนเครื่องแมคที่ใช้ซีพียูจากอินเทลเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือ Learn to Play จาก GarageBand '09

โดย Learn to Play เป็นฟีจเจอร์ใหม่ของ Garageband '09 ที่ผู้ใช้สามารถที่จะเรียนวิธีการเล่นเปียโนและกีตาร์ได้ แต่ผู้ใช้แมครุ่น PowerPC เมื่อพยายามจะใช้จะพบคำว่า "Garageband Learn to Play ต้องการอินเทลแมคสองคอร์ขึ้นไป"

ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ผ่าน ๆ มาว่า Snow Leopard ระบบปฏิบัติการตัวต่อไปสำหรับเครื่องแมคอาจจะไม่สนับสนุนเครื่องแมค PowerPC อีกต่อไปจริง ๆ แล้วก็ได้

มีรายงานเกี่ยวกับความปลอดภัยจากบริษัท Intego เกี่ยวกับโทรจันที่ถูกพบแฝงตัวมากับไฟล์ torrent ของ iWork '09 โดยโทรจันตัวดังกล่าวมีชื่อว่า OSX.Trojan.iServices.A ซึ่งเมื่อติดเข้าไปแล้วโทรจันตัวดังกล่าวจะพยายามติดต่อกับอินเทอร์เน็ตเองและมีอำนาจในการอ่าน, เขียน, รันโปรแกรมเทียบเท่ากับ root และนอกจากนี้โทรจันดังกล่าวยังพยายามดาวน์โหลดไฟล์บางไฟล์มาเพิ่มเติมอีกด้วย

ทั้งๆที่คดีของ Psystar ยังไม่จบก็มีเ้จ้าใหม่ขยับเข้ามาถล่มค่ายผลไม้ไม่เต็มลูกด้วย OpeniMac จากประเทศอาเจนติน่า ทำนองเดียวกับ Psystar ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ทั่วไปตามท้องตลาดและใช้ OS X เป็นระบบปฏิบัติการ ทำให้เครื่องทำออกมาขายแรงกว่าของของ Apple เปิดตัวอย่างไม่กลัวเกรง เริ่มต้นที่ 2.53GHz ราคา $990 (หรือ $1,330 ถ้าซื้อพร้อมจอ LG 19 นิ้ว), ชุดมาตรฐานติดตั้งหน่วยความจำหลัก 2GB , ฮาร์ดดิสก์ 320GB , ATI Radeon HD PRO 256MB. แต่ถ้านั่นยังไม่พอก็ยังมี OpeniMacPRO ที่พร้อมจะรองรับความต้องการของคุณด้วย 3.0GHz พร้อมจอ 20 นิ้ว กับ หน่วยความจำหลักอีก 2GB

คราวนี้ไม่ทราบว่า Apple จะสงสัยอีกไหมว่าใครอยู่เบื้องหลัง
แล้วจะมีบริษัทไหนในไทยร่วมวงแทะแอปเปิ้ลไหมครับ

จากรายงานในคดีระหว่าง Apple กับ Psystar จากเว็บ Groklaw.net นั้น แอปเปิลเชื่อว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังบริษํท Psystar

ที่น่าสนใจคือ แอปเปิลเชื่อว่ามีบริษัทหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง Psystar ซึ่งแอปเปิลอาจจะขอเพิ่มเข้าไปในรายชื่อของจำเลย หากแอปเปิลทราบว่าบุคคลนั้นเป็นใคร

เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ชัดว่า แอปเปิลเชื่อว่ามีคนที่กำลังถือหาง Psystar อยู่ นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่าทำไมบริษัทกฏหมายยักษ์ใหญ่ต้องมาทำคดีที่น่าจะจบได้ภายในวันเดียวแบบนี้

ผู้เขียนได้อธิบายอีกว่า Psystar ขายเครื่องแมคโคลนได้มากกว่าความสามารถของบริษัทเล็ก ๆ ปกติเป็นอย่างมาก

หลังกจากที่แอปเปิลได้ฟ้อง Psystar ว่าละเมิด EULA (ข่าวเก่า) และ Psystar ได้ฟ้องกลับว่าแอปเปิลผูกขาดตลาด (ข่าวเก่า) และศาลได้ยกฟ้องข้อหาผูกขาดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว (ข่าวเก่า) วันนี้แอปเปิลได้ฟ้อง Psystar เพิ่มด้วยกฏหมาย DMCA โดยอ้างว่า Psystar ได้ละเมิด กฏหมาย DMCA โดยการหลีกเลี่ยงระบบป้องกันการทำสำเนา (Copy protection) ของ Mac OS X เพื่อให้สามารถติดตั้งลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ผลิดโดยบริษัทแอปเปิลได้ นอกจากนั้นแอปเปิลยังได้หว่านแหในคำฟ้องไปถึงบุคคลอื่นที่ไม่ได้ทำงานกับ

ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ในยุโรปสองรายได้เปิดเผยว่า ไม่สามารถสั่ง Mac mini เพิ่มเข้ามาในสต๊อกได้แล้ว และแอปเปิลบอกพวกเขาว่าจะไม่มีของล็อตใหม่เข้ามาอีก นี่อาจเป็นสัญญาณว่าแอปเปิลกำลังจะเลิกขาย Mac mini แล้ว

Mac mini เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม 2005 และอัพเดตครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2007 แต่กลับเป็นสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก ทาง Gizmodo ถึงกับใช้คำว่า "worst-selling computer"

อีกข่าวที่ใกล้เคียงกันคือสตีฟ จ็อบส์ ตอบคำถามนักลงทุนว่า

หลังจากที่ Microsoft ทุ่มทุนครั้งใหญ่จัดทำแคมเปญโฆษณา ในชุด I'm a PC ขึ้นมา เพื่อตอบโต้โฆษณา Get A Mac ของ Apple และทำการเปิดเว็บไซต์ Windows: I'm a PC ขึ้น ก็ปรากฏว่า มีผู้ไปพบข้อมูล metadata ที่อยู่ในภาพของ sean@windows.com ที่ปรากฏอยู่บนเว็บของ Microsoft ว่าถูกสร้างขึ้นจากโปรแกรม Adobe Creative Suite 3 บนเครื่อง Mac ไปเสียนี่ จึงได้นำหลักฐานที่พบไป post เอาไว้บน flickr

ถ้ายังจำกันได้เรื่อง Psystar ได้จำหน่ายเครื่อง Intel Based PC ที่นำมาปรับแต่งให้สามารถลง OSX ของ Apple ได้แต่ติดข้อกฎหมายใน EULA ของระบบปฏิบัติการนี้ทำให้ Apple ฟ้องบริษัท Psystar ฐานละเมิด ซึ่งคดีนี้ถูกฟ้องมาระยะหนึ่งแล้ว

ตอนนี้ Psystar จะฟ้องกลับในข้อหาที่ Appleกีดขวางการแข่งขันทางการค้า เพื่อขอให้ศาลพิจารณาว่า EULA นี้ไม่มีผลทางกฎหมาย