ในงาน Computex ล่าสุด Intel และ AMD มีการเปิดตัวชิปใหม่ ซึ่งมี NPU ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเข้ามาด้วย แต่ยังไม่สามารถรองรับ Copilot+ ของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้
ไมโครซอฟท์ระบุตอนเปิดตัวว่า Copilot+ จะรองรับทั้ง Intel, AMD และ Qualcomm แต่ยังไม่มีการระบุไทม์ไลน์ชัดๆ โดยโฆษกไมโครซอฟท์ยืนยันกับ XDA ทั้ง Intel และ AMD จะมีการออก SoC ที่มีสเปคคล้ายๆ กับของ Qualcomm (น่าจะหมายถึงชิปสถาปัตยกรรม ARM)
ที่มา:XDA
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Copilot เวอร์ชันแอปสำหรับใช้งานบน Telegram ซึ่งเป็นแชทบอตถาม-ตอบในหัวข้อต่าง ๆ โดยเปิดให้ใช้งานได้ฟรีทั้งผ่าน Telegram บนเว็บและสมาร์ทโฟน โครงการดังกล่าวไมโครซอฟท์บอกว่ายังอยู่ในสถานะเบต้า
ในการเปิดใช้งาน Copilot บน Telegram ผู้ใช้งานต้องให้เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนกับ Telegram ด้วย ในตอนนี้สามารถตอบเป็นข้อความได้เท่านั้น ยังไม่สามารถสร้างรูปภาพได้
ลองใช้งาน Copilot บน Telegram ได้ที่นี่
ที่มา: 9to5Mac
ไมโครซอฟท์อัปเดตว่าปัญหา Bing, Copilot และ Copilot บน Windows ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งมีรายงานตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ตอนนี้ปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขและกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว
บัญชี Microsoft 365 Status โพสต์รายงานสถานะครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาว่าฟีเจอร์ Copilot ทั้งหมด กลับมาทำงานได้ตามปกติ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Admin Center หมายเลข CP795190 ซึ่งระบุว่ากลับมาเป็นปกติตั้งแต่ 21:55น. วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม
มีรายงานปัญหา Bing เสิร์ชเอ็นจินของไมโครซอฟท์ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ และส่งผลกระทบกับ API ทำให้บริการที่เชื่อมต่อบริการเสิร์ชกับ Bing เช่น DuckDuckGo พบปัญหาในการใช้งานด้วย นอกจากนี้ Microsoft Copilot ก็ไม่สามารถโหลดหน้าใช้งานได้ตามปกติส่วนที่เป็นการค้นหาข้อมูลเว็บ
เว็บไซต์ Downdetector รายงานปัญหานี้ทั้งของ Bing และ DuckDuckGo โดยพบปัญหาจำนวนมากตั้งแต่เวลาประมาณ 13:20น. ตามเวลาในไทย จนถึงตอนนี้ยังคงมีปัญหาอยู่
เชื่อว่าผู้อ่าน Blognone ที่ติดตามข่าวการกำกับดูแลจากฝั่งยุโรปและสหราชอาณาจักรมาตลอด น่าจะสงสัยอยู่บ้างว่าฟีเจอร์ Recall ที่ไมโครซอฟท์ประกาศในงาน Copilot+ PC ซึ่งใช้วิธีบันทึกหน้าจอผู้ใช้งานเป็นระยะ แล้วมีโมเดล AI คอยเก็บข้อมูลเพื่อรองรับหากผู้ใช้งานต้องการย้อนทวนความจำได้ว่าทำอะไรไปตอนไหน จะถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน
ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง
คณะกรรมการสารสนเทศของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตต่อฟีเจอร์นี้ โดยบอกว่าได้ทำการสอบถามไมโครซอฟท์ให้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมของฟีเจอร์ Recall เนื่องจากดูเป็นอันตรายมากต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มเครื่องมือใหม่ AI ผู้ช่วย (Agent) บน Copilot สำหรับลูกค้าองค์กร เพื่อช่วยเหลืองานด้านต่าง ๆ มีรายละเอียดดังนี้
GitHub Copilot ประกาศเปิดส่วนขยาย Extension ให้พาร์ทเนอร์รายอื่นเข้ามาต่อเชื่อมได้ โดยยังรองรับเฉพาะส่วน GitHub Copilot Chat เท่านั้น
รูปแบบการใช้งานคือ บริษัทเทคโนโลยีภายนอกอย่าง MongoDB, DataStax, Docker, Sentry, Stripe สามารถเข้ามาเชื่อมต่อกับ Copilot Chat ให้ตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้อย่างตรงจุด ฝั่งของนักพัฒนาก็ถามปัญหาได้จากหน้าจอ IDE โดยตรง (VS Code หรือ Visual Studio) โดยไม่ต้องสลับแอพไปมา ตัวอย่างที่ไมโครซอฟท์นำเสนอคือถามปัญหาเกี่ยวกับ Docker ว่าวิธีการตั้ง environment variable ทำอย่างไร เป็นต้น
ที่มา - GitHub
ฟีเจอร์พลัง AI อีกอย่างที่เป็นของใหม่ใน Copilot+ PC คือ Cocreate ที่ใช้พลัง NPU ช่วยสร้างภาพจาก AI โดยตอนนี้มีแอพรองรับแล้วสองตัวคือ Microsoft Paint และ Photos
ฟีเจอร์เด่นที่สุดในงานแถลงข่าว Copilot+ PC ของไมโครซอฟท์เมื่อคืนนี้ ย่อมหนีไม่พ้น "Recall" ที่ช่วยให้เรา "ย้อนเวลา" การใช้งาน Windows 11 กลับไประลึกชาติได้ว่าทำอะไรไปบ้างตอนไหน
ไอเดียของ Recall คล้ายกับฟีเจอร์ Timeline ที่เคยอยู่ใน Windows 10 พักหนึ่งก่อนถอดออกไป นั่นคือการให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสามารถย้อนไปดูได้ว่า ในอดีตเมื่อ 1 ชั่วโมงหรือ 1 วันที่แล้ว ใช้แอพอะไร เปิดไฟล์อะไร
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Copilot+ PC วางแนวทางว่าพีซีต้องมาพร้อมกับชิป NPU สำหรับเร่งความเร็วประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ ทำให้สามารถเพิ่มฟีเจอร์บางส่วนให้รันในเครื่องได้โดยตรง โดยเครื่องที่เปิดตัวในงานนี้ใช้ชิป Snapdragon X Elite เน้นโชว์พลังประมวลผล AI สูงกว่า 40 TOPS (ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) โดย NPU ที่ใส่เข้ามาจะเป็นฐานสำหรับการรันโมเดลภาษาขนาดเล็กเฉพาะทางให้สามารถรันในเครื่องได้โดยตรง พีซีกลุ่มใหม่นี้จะได้รับฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Places บริการตัวใหม่พลัง AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าที่ซื้อไลเซนส์ Teams Premium เพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถบริหารจัดการ และพบปะใช้พื้นที่ในสำนักงานได้ดีมากขึ้น Places จึงเข้ามาแก้ปัญหาวิธีที่คนเลือกทำงาน และสถานที่ที่ทำงาน
ฟีเจอร์ใน Places ได้แก่ การกำหนดสถานที่ทำงานในปฏิทิน ให้คนในทีมสามารถเห็นตำแหน่งเราได้ เมื่อต้องการนัดพบปะ AI จะแนะนำเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับทุกคนให้ หัวหน้าทีมก็สามารถพิจารณาและกำหนดวันให้ทีมเข้าสำนักงานเพื่อประชุมพูดคุยได้ดีขึ้น
Places ยังใช้ความสามารถของ Copilot สร้างเครื่องมือแนะนำพนักงานแต่ละคน เช่น วันที่ควรเข้าสำนักงาน เพราะเป็นวันที่มีการประชุมแบบพบปะเห็นหน้า หรือคนในทีมส่วนใหญ่อยู่สำนักงาน เป็นต้น
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ด้าน Prompt ของ Copilot for Microsoft 365 ให้ฉลาดขึ้นอีก 3 อย่าง ได้แก่
ฟีเจอร์เหล่านี้จะทยอยปล่อยให้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
IBM ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ เปิดตัว IBM Copilot Runway ที่นำเอาเทคโนโลยี Microsoft Copilot ไปช่วยประยุกต์กับกระบวนการภายในของลูกค้าองค์กร โดยธุรกิจฝั่งที่ปรึกษา IBM Consulting จะเข้าไปช่วยทำระบบ Copilot ให้ลูกค้า
GitHub เปิดตัว GitHub Copilot Workspace ซึ่งเป็น developer environment แนวคิดใหม่ที่ทำงานบน Copilot ซึ่งเข้ามาช่วยนักพัฒนาในการระดมสมอง, วางแผน, เขียนโค้ด, ทดสอบ และรันโค้ด ทั้งหมดทำบนภาษาธรรมชาติ (Natural Language) โดยมี AI Copilot ช่วยจัดการงานทั้งหมด ขณะที่นักพัฒนาสามารถเข้ามาควบคุมได้ในทุกขั้นตอน
การเริ่มต้นโครงการบน Copilot Workspace ทำได้โดยเริ่มต้นจากแนวคิดตั้งต้น จากนั้น Copilot จะช่วยวางแผนออกแบบขั้นตอนให้ทั้งหมดเพื่อแก้ไขปัญหาแต่ละขั้นตอน ซึ่งแต่ละขั้นตอนนั้นสามารถเข้าไปแก้ไขผลลัพธ์ปรับแต่งให้ตรงกับที่ต้องการมากขึ้น
ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 17.10 Preview 3 มีของใหม่คือปรับการทำงานของ GitHub Copilot โดยผนวกรวมแพ็กเกจสองตัวคือ Copilot ช่วยเติมโค้ด และ Copilot Chat ช่วยตอบคำถาม เข้าเป็นตัวเดียวกัน ติดตั้งแพ็กเกจตัวเดียวไม่ต้องแยกสองแพ็กเกจแบบก่อนหน้านี้
นโยบายใหม่ของไมโครซอฟท์ปีนี้คือ "AI PC" ต้องมีปุ่ม Copilot บนคีย์บอร์ด ด้วย ซึ่งตอนนี้เริ่มมีพีซีรุ่นใหม่ๆ ที่มีปุ่ม Copilot วางขายบ้างแล้ว เช่น Dell XPS
เว็บไซต์ Tom's Hardware ได้เครื่องมาทดสอบ และลองขุดดูว่าปุ่ม Copilot ทำงานอย่างไร พบคำตอบว่าการกดปุ่ม Copilot บนคีย์บอร์ดเป็นการกดมาโคร 3 ปุ่มพร้อมกันคือ Left Shift + Windows key + F23 ซึ่งเป็นคีย์ลัดในการเรียก Copilot ของวินโดวส์ขึ้นมาทำงาน (ผลลัพธ์ไม่ต่างอะไรจากการคลิกปุ่ม Copilot บนหน้าจอ)
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ Copilot ให้กับ Microsoft Teams โดยเป็นการอัพเกรดฟีเจอร์ชุดใหญ่รอบที่สอง หลังเพิ่ม Copilot เข้ามาใน Teams ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023
Copilot in meetings เพิ่มการสรุปแชทในห้องประชุม นอกเหนือจากการถอดเสียงการประชุม (transcript) ที่มีอยู่เดิมแล้ว ช่วยเก็บรายละเอียดของการประชุมได้ครบถ้วนทุกประเด็น หากในห้องมีทั้งคนคุยเสียงและแชทคุยกัน ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้ในเดือนพฤษภาคม
Todd Lewellen ผู้บริหารฝ่าย Client Computing Group ของอินเทล ตอบคำถามของ Tom's Hardware ในงานแถลงเรื่อง AI PC ที่ไต้หวัน โดยเปิดเผยว่าอินเทลเตรียมให้รันฟีเจอร์ Copilot ของวินโดวส์ บนชิป NPU ในเครื่อง ไม่ต้องประมวลผลบนคลาวด์ไปซะทั้งหมด
ปัจจุบันชิป Core Ultra (Meteor Lake) ของอินเทลมี NPU ที่มีสมรรถนะราว 10 TOPS แต่ Lewellen ให้ข้อมูลว่าชิป NPU เวอร์ชันหน้าจะทำได้ราว 40 TOPS สามารถรันงานส่วนหลักๆ ของ Copilot ในเครื่องได้แล้ว แม้อาจไม่ใช้ทั้งหมดเพราะบางอย่างยังต้องพึ่งพาการประมวลผลบนคลาวด์อยู่
Lewellen ยังให้ข้อมูลว่าแนวทางของไมโครซอฟท์คือการให้รัน Copilot บน NPU เท่านั้น ไม่ต้องไปยุ่งกับจีพียู เพราะประหยัดแบตเตอรี่มากกว่า
อินเทล เปิดเผยข้อกำหนดของการใช้คำว่า "AI PC" ของไมโครซอฟท์ โดยต้องมีเงื่อนไข 3 อย่างดังนี้
ในโอกาสเดียวกัน อินเทลยังเชิญทั้งผู้ผลิตซอฟต์แวร์ (independent software vendors) และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ (independent hardware vendors) เข้าร่วมโครงการ AI PC Developer Program เพื่อให้มั่นใจว่าซอฟต์แวร์จะทำงานได้ดีบน AI PC ที่ใช้ Core Ultra
AMD จัดงาน Technology & Innovation Update ใช้ AI ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ทุกระดับ ครอบคลุมตั้งแต่ระบบคลาวด์, องค์กร ไปจนถึงคอมพิวเตอร์พีซี โดย AMD ได้ยกตัวอย่างการใช้งานผลิตภัณฑ์หลายรายการ ประกอบไปด้วย
ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ให้ Copilot ของ Windows 11 รองรับการใช้งานบัญชีองค์กร (Copilot in Microsoft 365) โดยแถบ sidebar ของ Copilot บนเดสก์ท็อปจะเพิ่มโลโก้บริษัท และแท็บ Work / Web เข้ามาที่ด้านบน
ผู้ใช้สามารถเลือกกดสลับให้ Copilot ทำงานในโหมด Work เพื่อดึงข้อมูลจากบัญชีองค์กร เช่น อีเมล เอกสาร ตารางนัด ข้อความแชท มาแสดงบน Windows ได้โดยตรงได้ แต่ถ้าต้องการกลับไปค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเหมือนคอนซูเมอร์ทั่วไป ก็กดสลับกลับเป็น Web ใช้งานได้ตามปกติ
ที่มา - Microsoft
ไมโครซอฟท์ขยายบริการ Copilot Pro ที่เป็น Subscription ราคา 20 ดอลลาร์ต่อเดือน ให้เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ Copilot มากกว่าแบบฟรี โดยเพิ่มเป็น 222 ประเทศทั่วโลก หลังจากเปิดตัวบริการไปเมื่อเดือนมกราคม
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังอยากให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงทดสอบว่า Copilot Pro นั้นดีอย่างไร จึงให้ข้อเสนอทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน เพียงติดตั้งแอป Copilot บน iOS หรือ Android
ที่มา: ไมโครซอฟท์
Microsoft Copilot มีการปรับปรุงใหญ่ โดยผู้ใช้งานทั่วไปได้ใช้ GPT-4 Turbo แทนที่ GPT-4 เดิม ซึ่งมีจุดเด่นคือโมเดลถูกเทรนด้วยชุดความรู้ใหม่กว่าถึงเมษายน 2023 และมีความสามารถอื่นเพิ่มเติมจาก GPT-4 เดิม
ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยโดย Mikhail Parakhin หัวหน้าทีม Windows ซึ่งโพสต์ใน X
GPT-4 Turbo จะถูกใช้งานใน Copilot เวอร์ชันฟรี รองรับทั้งโหมด Creative และ Precise แต่หากยังต้องการใช้ GPT-4 เดิม ต้องเป็นลูกค้า Copilot Pro จึงจะได้ปุ่มปิดให้ไปใช้ GPT-4 เดิม
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Microsoft Copilot for Security ระบบวิเคราะห์เหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ด้วย AI ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้จะเปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้วตั้งแต่ 1 เมษายน เป็นต้นไป
Microsoft Copilot for Security มีความสามารถช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ให้ผู้ดูแลความปลอดภัย เรียนรู้จากสัญญาณความผิดต่าง ๆ มากกว่า 78 ล้านล้านรูปแบบโดยทีมความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ โดยไมโครซอฟท์อ้างผลสำรวจจากการทดสอบใช้งานก่อนหน้านี้ ผู้ดูแลบอกว่าทำงานได้เร็วขึ้น 22% และส่วนใหญ่บอกว่าจะใช้ Copilot ช่วยในครั้งถัดไป
รูปแบบการคิดไลเซนส์ของ Microsoft Copilot for Security ใช้วิธีจ่ายตามการใช้งาน (pay-as-you-go) รองรับอินพุท 8 ภาษา
ไมโครซอฟท์ประกาศจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่ ตรงกับเวลาเที่ยงคืนเข้าสู่วันที่ 22 มีนาคม 2024 ตามเวลาในไทย โดยใช้ชื่องานว่า New Era of Work เผยแพร่เฉพาะช่องทางออนไลน์
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่าจะพูดถึงในงานแถลงข่าวนี้ได้แก่ Copilot, Windows และ Surface จึงคาดว่าเป็นการเปิดตัว Surface Pro และ Surface Laptop รุ่นใหม่ตามธีม AI PC ที่ไมโครซอฟท์ผลักดันอยู่ในปีนี้
มีข้อมูลว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Surface รุ่นอินเทล โดยวางขายในเดือนเมษายน และรุ่น Arm ในเดือนมิถุนายน ส่วน Copilot นั้นจะพูดถึงฟีเจอร์ที่ใช้ NPU ในการประมวลผล รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า AI Explorer