ไมโครซอฟท์ประกาศออก .NET Aspire รุ่นเสถียร (General Availability)
.NET Aspire เป็นชุดซอฟต์แวร์ (stack) สำหรับพัฒนาแอพสาย .NET แบบ cloud native คือรันในคอนเทนเนอร์ โครงการนี้เริ่มต้นแบบพรีวิวมาตั้งแต่ .NET 8 เมื่อปี 2023 และเข้าสถานะเสถียรในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ให้ Microsoft Edge for Business เวอร์ชันใช้ในองค์กร ฟีเจอร์เด่นคือ screenshot prevention ป้องกันการแคปหน้าจอ เพื่อไม่ให้ข้อมูลขององค์กรรั่วไหล
วิธีการทำงานของ screenshot prevention คล้ายกับการแคปหน้าจอแอพสตรีมมิ่งที่ติด DRM ในปัจจุบัน นั่นคือแอพแคปหน้าจออย่าง Snipping Tool จะจับภาพหน้าจอได้ออกมาเป็นสีดำล้วน ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องให้แอดมินองค์กรเป็นผู้เปิดใช้ผ่านเครื่องมือควบคุมต่างๆ
ฟีเจอร์ใหม่ของไมโครซอฟท์ที่เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยคือ PowerToys เพิ่มแอพตัวใหม่ Advanced Paste ที่ใช้พลังของโมเดลภาษา เข้ามาช่วยปรับฟอร์แมตของสิ่งที่เราคัดลอกมา กับสิ่งที่เราต้องการแปะลงไปที่อื่น
ตัวอย่างการใช้งานคือการคัดลอกข้อความมาเป็น XML แล้วตอนสั่งแปะเลือกเป็นฟอร์แมต JSON หรือ Markdown, และหากยังไม่พอใจก็สามารถสั่ง AI ให้ปรับรูปแบบเนื้อหาตามที่ต้องการได้ เช่น Markdown Table แบบเอาคอลัมน์ไหนบ้าง (ดูคลิปประกอบจะเห็นภาพกว่า)
พลังโมเดลภาษายังช่วยให้ "สรุป" เนื้อหาจากข้อความที่คัดลอกมาได้ด้วย ตัวอย่างที่ไมโครซอฟท์นำมาโชว์คือการคัดลอก log จาก Command Prompt ที่มักจะยาวๆ เยอะๆ จนอ่านไม่ไหว มาแปะในแอพอื่นโดยสั่งให้ AI สรุป log เหล่านี้มาเลย
Khan Academy เว็บไซต์คอร์สออนไลน์ชื่อดัง ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ เปิดบริการผู้ช่วย AI สำหรับช่วยสอนวิชาการให้นักเรียน ชื่อว่า Khanmigo และเปิดให้บริการฟรี
รูปแบบการทำงานของ Khanmigo ไม่ต่างอะไรจากแชทบอท AI อื่นๆ มากนัก แต่ปรับความเชี่ยวชาญของบอทให้เป็นเหมือนติวเตอร์สอนวิชา มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้นๆ เหมือนกับครูคนหนึ่ง เหมือนเป็นผู้ช่วยสอน (TA) ประจำตัวของนักเรียนแต่ละคน สามารถตอบคำถาม ช่วยแนะนำวิธีการทำโจทย์ได้ (ดูคลิปประกอบ)
ไมโครซอฟท์ประกาศใน X (หรือทวิตเตอร์เดิม) บัญชี Microsoft Bing Dev ว่าได้ขยายประเทศที่สามารถใช้งาน Microsoft Rewards โปรแกรมสะสมแต้มจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ เช่นการค้นหาเว็บด้วย Bing หรือการเล่นเกมบนคอนโซล Xbox เป็นจำนวนมากกว่า 230 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย (ที่ผู้เขียนข่าวก็เพิ่งทราบว่าสามารถสะสมแต้มมาได้ซักพักแล้ว)
แต้มที่สะสมสามารถนำไปแลกเป็นของรางวัลต่างๆ ได้ยกตัวอย่างของประเทศไทยเช่น บัตรของขวัญเซ็นทรัล, บัตรของขวัญลาซาด้า, เหรียญเกม Overwatch, เหรียญเกม Sea of Thieves, Battle Pass เกม Diablo IV, บัตรเติมเงินเกม Roblox หรือนำแต้มที่ได้ไปบริจาคซึ่งตามประกาศล่าสุดจะสามารถเลือกบริจาคให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ ใน 200 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมูลนิธิและองค์กรการกุศลในประเทศไทย
ไมโครซอฟท์เปิดเผยรายละเอียดเบื้องหลัง Copilot+ PC ที่เป็นการนำพีซีพลัง NPU มารันโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบ on-device ภายในเครื่อง ตกลงแล้วโมเดลตัวที่ว่านี้ชื่อว่า Phi Silica (อ่านว่า "ไฟ ซิลิกา") ถือเป็นหนึ่งในเวอร์ชันย่อยของชุดโมเดล Phi 3 โดยปรับแต่งมาเพื่อการรันบน NPU โดยเฉพาะ
Phi Silica พัฒนาต่อมาจาก Phi-3-mini โมเดลรุ่นเล็กสุดของซีรีส์ Phi-3 แล้วปรับขนาดให้เล็กลงอีกหน่อย (ขนาดพารามิเตอร์ลดลงจาก 3.8B เหลือ 3.3B) เพื่อให้รันใน NPU ได้พอดี ศักยภาพของ Phi Silica รองรับอินพุต 650 token ต่อวินาที ใช้พลังงานเพียง 1.5 วัตต์เท่านั้น
เชื่อว่าผู้อ่าน Blognone ที่ติดตามข่าวการกำกับดูแลจากฝั่งยุโรปและสหราชอาณาจักรมาตลอด น่าจะสงสัยอยู่บ้างว่าฟีเจอร์ Recall ที่ไมโครซอฟท์ประกาศในงาน Copilot+ PC ซึ่งใช้วิธีบันทึกหน้าจอผู้ใช้งานเป็นระยะ แล้วมีโมเดล AI คอยเก็บข้อมูลเพื่อรองรับหากผู้ใช้งานต้องการย้อนทวนความจำได้ว่าทำอะไรไปตอนไหน จะถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน
ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง
คณะกรรมการสารสนเทศของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตต่อฟีเจอร์นี้ โดยบอกว่าได้ทำการสอบถามไมโครซอฟท์ให้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมของฟีเจอร์ Recall เนื่องจากดูเป็นอันตรายมากต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
Microsoft Azure เปิดบริการเครื่อง VM ที่ใช้ซีพียู Cobalt 100 ที่ไมโครซอฟท์ออกแบบเอง และเปิดตัวซีพียูครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023
ซีพียู Cobalt 100 พัฒนาอยู่บนพิมพ์เขียวของ Arm Neoverse N2 มาพัฒนาต่อ ก่อนหน้านี้มันถูกใช้งานเฉพาะบริการของไมโครซอฟท์เอง แต่คราวนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดให้คนนอกใช้งาน
ในงาน Build 2024 เมื่อคืนนี้ ไมโครซอฟท์เปิดตัวโมเดลขนาดเล็ก Phi 3 ครบชุด หลังจากเปิดตัว Phi-3-mini มาตั้งแต่เดือนเมษายน
โมเดลในชุด Phi 3 มีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว เป็นโมเดลภาษา (small language model หรือ SML) จำนวน 3 ขนาด พ่วงด้วยของใหม่คือโมเดลภาพ (multimodal) ตัวแรกของไมโครซอฟท์ที่เปิดซอร์สออกมาคือ Phi-3-vision
ไมโครซอฟท์ประกาศเดินหน้าผลักดัน DirectML ให้เป็นแพลตฟอร์มหลักในการพัฒนา AI บนพีซีหากผู้ใช้ต้องการใช้โมเดลของตัวเอง หลังพัฒนามาระยะหนึ่งและรองรับ NPU ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
ไมโครซอฟท์พยายามผลักดันให้ DirectML กลายเป็นมาตรฐานสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นปัญญาประดิษฐ์โดยไม่ต้องสนใจฮาร์ดแวร์ด้านล่าง ไม่ว่าเครื่องที่รันอยู่จะมี GPU, NPU, หรือใช้ CPU เฉยๆ ในงาน Build ปีนี้ก็ประกาศว่า PyTorch รองรับ DirectML บน GPU ตั้งแต่วันนี้ไป และจะรองรับ NPU ในเร็วๆ นี้ ส่วนการใช้งาน AI บนเว็บก็จะเริ่มพรีวิวมาตรฐาน WebNN โดยเบื้องหลังเป็น DirectML เช่นกัน
ไมโครซอฟท์เปิดเผยรายละเอียดฝั่งความปลอดภัยของ Copilot+ PC ว่าจำเป็นต้องผ่านสเปก Secured-core PC มีความปลอดภัยระดับสูงตั้งแต่ขั้นของเฟิร์มแวร์ ต้องมีชิปความปลอดภัย Pluton ที่ไมโครซอฟท์ออกแบบ และเปิดใช้งานเป็นค่าดีฟอลต์
เงื่อนไขอื่นๆ คือต้องมี Windows Hello Enhanced Sign-in Security (ESS) โหมดความปลอดภัยขั้นสูงของ Windows Hello ที่เปิดใช้ฟีเจอร์ Virtualization Based Security (VBS) เก็บรักษาข้อมูลไบโอเมตริกแยกเฉพาะด้วย
ไมโครซอฟท์อธิบายประเด็นเรื่องการรองรับแอพ x86 เดิมของวินโดวส์ บน Copilot+ PC ที่ใช้ซีพียูสถาปัตยกรรม Arm (Snapdragon X) ดังนี้
ฟีเจอร์เด่นที่สุดในงานแถลงข่าว Copilot+ PC ของไมโครซอฟท์เมื่อคืนนี้ ย่อมหนีไม่พ้น "Recall" ที่ช่วยให้เรา "ย้อนเวลา" การใช้งาน Windows 11 กลับไประลึกชาติได้ว่าทำอะไรไปบ้างตอนไหน
ไอเดียของ Recall คล้ายกับฟีเจอร์ Timeline ที่เคยอยู่ใน Windows 10 พักหนึ่งก่อนถอดออกไป นั่นคือการให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสามารถย้อนไปดูได้ว่า ในอดีตเมื่อ 1 ชั่วโมงหรือ 1 วันที่แล้ว ใช้แอพอะไร เปิดไฟล์อะไร
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Laptop และ Surface Pro รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นพีซีตามแนวทางล่าสุดที่เพิ่งประกาศ Copilot+ PC จากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว Surface Pro 10 และ Surface Laptop 6 for Business สำหรับลูกค้าฝั่งองค์กรธุรกิจ
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Copilot+ PC วางแนวทางว่าพีซีต้องมาพร้อมกับชิป NPU สำหรับเร่งความเร็วประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ ทำให้สามารถเพิ่มฟีเจอร์บางส่วนให้รันในเครื่องได้โดยตรง โดยเครื่องที่เปิดตัวในงานนี้ใช้ชิป Snapdragon X Elite เน้นโชว์พลังประมวลผล AI สูงกว่า 40 TOPS (ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) โดย NPU ที่ใส่เข้ามาจะเป็นฐานสำหรับการรันโมเดลภาษาขนาดเล็กเฉพาะทางให้สามารถรันในเครื่องได้โดยตรง พีซีกลุ่มใหม่นี้จะได้รับฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 22635.3640 มีฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับการสร้างไฟล์ 7z และ Tar ใน File Explorer แล้ว จากเดิมที่เมนูคลิกขวาสร้างได้เฉพาะไฟล์ ZIP อย่างเดียว
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ทยอยเพิ่มฟีเจอร์การแตกไฟล์ RAR, TAR, GZ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว รอบนี้คือเพิ่มฟีเจอร์ฝั่งการบีบอัดไฟล์เข้ามาใน Explorer ด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้คงแทบไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมบีบอัดภายนอกเพิ่มเติม ก็น่าจะใช้งานได้เกือบครบทุกกรณีแล้ว
ของใหม่อย่างอื่นในเวอร์ชันนี้คือ รองรับ Emoji เวอร์ชัน 15.1 ซึ่งเพิ่ม Emoji หลายๆ ตัวอย่างมะนาวเขียว นกฟีนิกซ์ เข้ามา
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวภายในไมโครซอฟท์ เผยว่าบริษัทได้แจ้งพนักงานในประเทศจีน ในฝ่ายที่ดูแลคลาวด์และ AI ให้ข้อเสนอย้ายออกมาทำงานนอกประเทศ โดยมีตัวเลือกทั้งสหรัฐอเมริกา, ไอร์แลนด์, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งมีพนักงานส่วนนี้ประมาณ 700-800 คน ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้เป็นการบังคับ และหากพนักงานต้องการอยู่ที่จีนต่อไปก็สามารถทำงานได้ตามปกติ
คาดว่าสาเหตุที่ไมโครซอฟท์ยื่นข้อเสนอดังกล่าว เพื่อบริหารความเสี่ยง หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาออกกฎหมาย ให้บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา ต้องได้รับใบอนุญาตเท่านั้น ก่อนให้ลูกค้าในประเทศจีนสามารถใช้งานหรือเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้
ไมโครซอฟท์เปิดตัวคอนโทรลเลอร์สำหรับผู้พิการ Xbox Adaptive Controller รุ่นปรับปรุงใหม่ ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อให้เกมสามารถเข้าถึงได้กับทุกคน โดยเพิ่มการรองรับอุปกรณ์เสริมใหม่ผ่านการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัว Proteus Controller ซึ่งออกแบบโดยทีม Xbox ร่วมกับทีม Byowave มีชิ้นส่วนซึ่งสามารถถอดประกอบสลับชิ้นส่วนให้รองรับความต้องการ รวมถึงข้อจำกัดในการเข้าถึงของแต่ละคน ใช้งานได้ทั้งกับ Xbox และพีซี โดย Byowave บอกว่าสามารถปรับแต่งได้นับ 100 ล้านรูปแบบ (รวมกับสี LED)
ข้อมูลจาก Windows Central รายงานว่า Satya Nadella ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของ Microsoft กำลังกดดันทีมงาน Xbox ให้นำเกมไปวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มคู่แข่งอย่าง PlayStation กับ Nintendo มากขึ้นอีกโดยที่ไม่ต้องมีเส้นแบ่ง (Red Line) ว่าเกมไหนควรวางขายหรือไม่ควรวางขาย โดยเรียกแผนการนี้ว่า Latitude เพื่อเพิ่มอัตรากำไรและรายได้ให้แก่บริษัท
จากรายงานพบว่าแผน Latitude กำลังทำให้ทีมงาน Xbox เกิดการถกเถียงและสร้างความไม่สบายใจ และตั้งคำถามเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลของแผนการนี้
ปัจจุบัน Xbox เริ่มวางจำหน่ายเกมบนแพลตฟอร์มอื่นแล้วมี 4 เกมได้แก่ Sea of Thieves, Grounded, Hi-Fi Rush และ Pentiment ซึ่งในเดือนเมษายนเกม Sea of Thieves กลายเป็นเกมที่ยอดขายแบบดิจิทัลสูงสุดบน PS5 ในยุโรป
ไมโครซอฟท์ออกอัปเดตแก้ไขบั๊ก VPN ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ เมื่ออัปเดตแพตช์ของเดือนเมษายน 2024 ซึ่งตอนนั้นไมโครซอฟท์ยืนยันปัญหา และแนะนำให้ถอนการติดตั้งไปก่อน
อัปเดตใหม่ที่ได้รับการแก้ไขบั๊ก VPN จะอยู่ในอัปเดตของเดือนพฤษภาคม 2024 สำหรับ Windows 11, Windows 10 ตลอดจนกลุ่ม Windows Server
ทั้งนี้ไมโครซอฟท์ไม่ได้อธิบายสาเหตุที่ทำให้ VPN ใช้งานไม่ได้ในอัปเดตในเดือนเมษายน
ที่มา: Bleeping Computer
ประเด็นน่าสนใจอันหนึ่งในงานเปิดตัว GPT-4o ของ OpenAI เมื่อวานนี้ คือ การออกแอพเดสก์ท็อป ChatGPT เป็นครั้งแรก และเลือกออกบน... macOS
ประเด็นนี้ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า ไมโครซอฟท์ลงทุนใน OpenAI ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ทำไม OpenAI ถึงเลือกออกแอพบนแพลตฟอร์มของแอปเปิลก่อน
เรื่องนี้มีคำตอบในบทสัมภาษณ์ Mira Murati ซีทีโอของ OpenAI บนเว็บไซต์ Axios บอกว่าเราเลือกทำบนแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ของเราอยู่เยอะ (we’re just prioritizing where our users are) โดย OpenAI ยังไม่ประกาศว่าจะออกแอพ ChatGPT บนวินโดวส์ด้วยหรือไม่
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Places บริการตัวใหม่พลัง AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าที่ซื้อไลเซนส์ Teams Premium เพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถบริหารจัดการ และพบปะใช้พื้นที่ในสำนักงานได้ดีมากขึ้น Places จึงเข้ามาแก้ปัญหาวิธีที่คนเลือกทำงาน และสถานที่ที่ทำงาน
ฟีเจอร์ใน Places ได้แก่ การกำหนดสถานที่ทำงานในปฏิทิน ให้คนในทีมสามารถเห็นตำแหน่งเราได้ เมื่อต้องการนัดพบปะ AI จะแนะนำเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับทุกคนให้ หัวหน้าทีมก็สามารถพิจารณาและกำหนดวันให้ทีมเข้าสำนักงานเพื่อประชุมพูดคุยได้ดีขึ้น
Places ยังใช้ความสามารถของ Copilot สร้างเครื่องมือแนะนำพนักงานแต่ละคน เช่น วันที่ควรเข้าสำนักงาน เพราะเป็นวันที่มีการประชุมแบบพบปะเห็นหน้า หรือคนในทีมส่วนใหญ่อยู่สำนักงาน เป็นต้น
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ด้าน Prompt ของ Copilot for Microsoft 365 ให้ฉลาดขึ้นอีก 3 อย่าง ได้แก่
ฟีเจอร์เหล่านี้จะทยอยปล่อยให้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ผู้ใช้ Microsoft Word คงทราบกันดีว่าการสั่ง Paste ข้อความจากที่อื่นมาลงเอกสาร มีตัวเลือก 3-4 แบบ โดยค่าดีฟอลต์ของ Word ที่ใช้มายาวนานคือ Keep Source Formatting อิงจากฟอร์แมตข้อความของเอกสาร/เว็บต้นทาง
แนวทาง Keep Source Formatting มีผลทำให้ข้อความที่คัดลอกมา อาจดูผิดแผกไปจากฟอร์แมตเอกสารปัจจุบัน ทำให้ต้องเสียเวลามาแก้กันใหม่ และที่ผ่านมาผู้ใช้ Word (อย่างน้อยกลุ่มหนึ่ง) ก็ส่งเสียงเรียกร้องมายังไมโครซอฟท์ให้แก้ไขเรื่องนี้
ระบบส่วนขยาย (Extension) ของ VS Code เขียนด้วย TypeScript/JavaScript แต่ช่วงหลังไมโครซอฟท์ก็เริ่มรองรับ WebAssembly (WASM) เพื่อให้รันไบนารีที่คอมไพล์จากภาษาอื่น เช่น C/C++ หรือ Rust ได้ด้วย ตัวอย่างการใช้งานคือ Visual Studio Code for Education ที่ฝังไบนารีของ Python interpreter (CPython ซึ่งเขียนด้วย C แล้วแปลงเป็น WASM) เพื่อให้ประมวลผลโค้ดภาษา Python บนเว็บได้