คิดว่าทุกคนคงมีประสบการณ์แก้ปัญหาไอทีให้กับสาวๆ ใกล้ตัว ตามสถิติแล้ว ปริมาณผู้หญิงที่ใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ที่ 28% ถ้านับเฉพาะซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ แต่ถ้าเป็นโอเพนซอร์สแล้ว ตัวเลขมันน้อยกว่านั้นมาก อยู่ที่ 1.5% เท่านั้นเอง
ทางโครงการโอเพนซอร์สและดิสโทรต่างๆ จึงพยายามสร้างแคมเปญและชุมชนผู้หญิงถึงผู้หญิงให้มากขึ้น ตอนนี้ก็มีหลายที่
อินเดียมีโครงการที่จะจัดทำซีดีรวบรวมฟรีซอฟต์แวร์เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในประเทศ
โครงการนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Center for Development of Advanced Computing (C-DAC) และกระทรวงการสื่อการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIT) ในการที่จะรวบรวมฟรีซอฟต์แวร์ต่างๆ ซึ่ีงจะมีทั้ง Open Source ที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนวินโดวส์และลินุกซ์ รวมถึง Close Source ที่ใช้งานได้บนวินโดวส์อย่างเดียว
GPLv3 นั้นเพิ่งมีการเปิดให้แสดงความเห็นเป็นรอบที่สองไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นที่น่าสนใจคือ ไลนัส โทรวัลซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการลินุกซ์นั้นแสดงท่าทีที่ชัดเจนที่จะไม่เปลี่ยนจาก GPLv2 ที่ลินุกซ์ใช้อยู่เดิมไปเป็น GPLv3 แต่อย่างใด
โดยจุดที่ไลนัสไม่เห็นด้วยหลักๆ เลยคือการที่ GPLv3 ห้ามไม่ให้ผู้ผลิตป้ิองกันการลงซอฟต์แวร์อื่นนอกจากซอฟต์แวร์ที่ออกโดยผู้ผลิตเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้อุปกรณ์ที่ใช้ลินุกซ์จำนวนไม่น้อยใช้หลักการนี้ในการจำกัดสิทธิการลงซอฟต์แวร์
BlueJ IDE ที่เน้นสำหรับใช้ในการเรียนรู้และการสอนภาษา Java เป็นหลัก ตอนนี้ได้ออกเวอร์ชั่นที่รวมเข้ากับ Netbeans แล้วครับ
การออกเวอร์ชั่นนี้เกิดขึ้นจากการที่นักศึกษาที่หัดภาษา Java ด้วย BlueJ นั้นเวลาจะข้ามไปใช้ IDE ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าตัวอื่นๆ ต้องมีการเรียนรู้การใช้ IDE อีกตัวใหม่ ก็เลยจับรวมกันซะเลย ใช้ทั้งเรียนและใช้ทำงานจริงได้ทันที
ที่มา - Edu.Netbeans.BlueJ (ดาวน์โหลดได้ที่นี่เช่นกัน)
หลังจากได้มีการเขียนถึง 5 สิ่งที่ลินุกซ์ควรเรียนรู้จากไมโครซอพท์ ไปแล้ว คุณ Steven J. Vaughan-Nichols ก็ได้เขียนใน Linux-Watch เกี่ยวกับ 5 สิ่งที่ไมโครซอฟท์ควรจะเรียนรู้จากลินุกซ์ครับ
หลังจากส่งร่างฉบับแรกของ GPL เวอร์ชัน 3 ออกมาฟังความคิดเห็นจากสาธารณชน (และได้ความเห็นกลับไปเป็นพัน) ทาง Free Software Foundation และ Software Freedom Law Center (SFLC ตัวย่อใหม่มาอีกแล้ว) ได้ปล่อยร่างฉบับที่สองของ GPLv3 ออกมาพร้อมกับร่างฉบับแรกของ LGPLv3 ด้วย
ร่างฉบับที่สองนี้เปลี่ยนไปจากฉบับแรกหลายจุด เพียงแต่แนวคิดหลักๆ ยังคงเหมือนเดิม และ Linus Torvalds ก็ยังไม่ค่อยชอบใจ เช่นเดิม
GPLv3 จะมีร่างฉบับสามออกมาในช่วงปลายปี และมีเป้าหมายว่าจะออกฉบับจริงต้นปี 2007
กูเกิลยังคงซือใจเหล่านักพัฒนาโอเพนซอร์สอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวเว็บโฮสต์สำหรับซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สขึ้นมาใหม่ในชื่อ Google Host ซึ่งโดยหลักๆ แล้วไม่ต่างอะไรกับโครงการก่อนหน้านี้อย่าง SourceForge คือการรวมเอาเว็บ, Version Control (Subversion), Issue Trcking, และ Mailing List (Google Groups) เข้าไว้ด้วยกัน
ข้อดีของเว็บนี้ที่เหนือกว่า SourceForge อย่างเห็นได้ชัดคือการสมัครที่ง่ายกว่า เพียงแค่มี Gmail ก็สามารถขอเปิดโครงการใหม่ได้ในทันที
ผมเองเคยขอเปิดโครงการกับ SourceForge ไป ต้องกรอกแบบฟอร์มเป็นโหล แถมต้องรอการตอบกลับ หนีมาใช้ Google Code น่าจะสะดวกกว่าเยอะ
พร้อมกับการมาของ Fedora Core 6 Test 2 ในวันที่ 26 เดือนกรกฏาคมนี้ Fedora จะหยุดการสนับสนุน Fedora และ Red Hat Linux เวอร์ชั่นเก่าอันประกอบไปด้วย Fedora Core 1, Fedora Core 2, Red Hat 7.3 และ Red Hat 9 พร้อมกับหยุดรับบั๊กใหม่ๆ ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และจะแก้เท่าที่แก้ได้ภายใน 31 ธันวาคมนี้ครับ
คุณ Paul Thurrot กับคุณ Steven J. Vaughan-Nichols เขียนใน Linux-Watch ถึง 5 สิ่งที่ Linux ควรเรียนรู้จากไมโครซอพท์และนำมาปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นดังนี้ครับ
ข่าวการร่วมมือระหว่าง XenSource และไมโครซอฟท์เมื่อสองวันก่อนทำให้คู่แข่งอย่าง VMware ที่กลายเป็นผู้ทียืนอยู่โดดเดี่ยวในสงคราม Virtualization ออกมากล่าวถึงการกระทำของ XenSource ว่าเป็นการหักหลังโลกโอเพนซอร์สที่ช่วนสร้างเทคโนโลยีของ Xen ขึ้นมา
รองประธาน VMware ออกมาระบุว่า ข้อตกลงระหว่าง XenSource แัละไมโครซอฟท์จะช่วยให้วินโดวส์วิสต้า รันระบบปฏิบัิติการที่รองรับเทคโนโลยี Xen Hypervisor ได้ดีขึ้น แต่กลับกันแล้ว โลกโอเพนซอร์สกลับไม่สามารถนำวินโดวส์มารันได้ดีขึ้นแต่อย่างใด
สำหรับแฟนๆ MySQL โดยเฉพาะครับ เมื่อ MySQL AB ประกาศว่าได้ร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในระดับ Alliance-level partner เรียบร้อยแล้ว และกำลังพัฒนาปลั๊กอินสำหรับเชื่อมต่อกับ Visual Studio 2005 ให้ทำงานร่วมกันได้มากขึ้นอยู่ครับ
ที่มา - Theserverside.NET
จากข่าวเปิดตัว Freespire ซึ่งเป็นฐานสำหรับ Linspire อีกทีนั้น ตอนนี้ Freespire ได้ออกเบต้า 1 ออกมาแล้วครับ
จุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือ มีทุกอย่างให้อยู่แล้วในตัวมันเอง รวมถึงการสนับสนุนโปรแกรมที่ไม่เปิดเผยซอร์สโค้ด อย่างการสนับสนุน MP3, WMV, QuickTime, Real, Java, Flash, Driver สำหรับ VGA ของ ATi และ Nvidia แต่ก็จะมี Freespire OSS Edition ที่จะมีแต่โปรแกรมเผยซอร์สโค้ดด้วยเช่นกัน
ตัว Freespire เองเป็น Debian-based ใช้ KDE และเปิดเผยซอร์สโค้ดด้วยครับ
Sharpdevelop IDE สำหรับ .NET แบบเปิดเผยซอร์สโค้ด (ซึ่งเขียนด้วย C#) ออกเวอร์ชั่นใหม่เพื่อรองรับ .NET 2.0 แล้วครับ
Qt เป็นทูลคิท GUI แบบข้ามแพลทฟอร์มที่ใช้ใน KDE และโปรแกรมอื่นๆ อีกหลายตัว รวมถึงโปรแกรมตระกูลฝังตัวด้วย ปัจจุบัน Qt ออกถึงเวอร์ชัน 4.1 และมีแผนจะออก 4.2 ช่วงสิ้นปีนี้ ทางบริษัท Trolltech ผู้พัฒนาจึงได้ออก 4.2 Technology Preview มาให้ลองใช้กัน
นาย Alfred Chuang ซึ่งเป็น Systems chief executive ของ BEA ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคู่แข่งอย่าง JBoss และ Sun ดังนี้ครับ
เค้าวิจารณ์ JBoss ว่าจริงๆแล้ว JBoss นั้นไม่ใช่โอเพนซอร์สที่แท้จริงสักหน่อย เพราะว่าการแก้ไขโค้ดนั้นทำกันเพียงภายใน JBoss เองเท่านั้น กระบวนการพัฒนาไม่ได้เปิดเผยสู่ภายนอกด้วย เป็นการรวมศูนย์กลางเท่านั้น ซึ่งการพัฒนาแบบนี้ก็ใช้กันในโอเพนซอร์สอื่นที่ดังๆ เช่น Firefox, BSD ด้วย
แม้ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์มีโครงการโอเพนซอร์สออกมาอยู่เรื่อยๆ อยู่บ้าง แต่เกือบทั้งหมดมักต้องไปโฮสต์เอาตาม SourceForge หรือไม่ก็เป็นเว็บที่เปิดให้ดาว์นโหลดอย่างเดียว แต่ในช่วงหลังที่โลกโอเพนซอร์สเริ่มมีโปรแกรมที่น่าใช้อยู่หลายตัวจากการบ่มเพาะของเว็บต่างๆ ไมโครซอฟท์ก็ต้องออกมาสู้ด้วยการเปิดตัว CodePlex เว็บทีถูกตั้งเป็นคู่แข่งของฝั่งโอเพนซอร์สแบบเพียวๆ อย่าง SourceForge โดยเฉพาะ ทั้งเครื่องมือภายในที่แทบไม่ต่างกัน ทั้ง Version Control, Forum และ Wiki
โครงการเด่นๆ ใน CodePlex ช่วงแรกนี้ที่ชัดๆ คงเป็น AtlasControlToolkit อันโด่งดังนั่นเอง
มือพัฒนาลินุกซ์หมายเลขสองอย่าง Andrew Morton ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาอาจจะบังคับให้นักพัฒนาเคอร์เนลทั้งหลาย ต้องแก้บั๊กที่โดนทิ้งมานานกันซักที ในตอนนี้จำนวนบั๊กในลินุกซ์กำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เพราะนักพัฒนาทั้งหลายแก้ปัญหากันไม่ทันปัญหาที่เพิ่มขึ้น
ปัญหาหลักคือบั๊กในโค้ดส่วนที่ใช้กับอุปกรณ์เก่าๆ ที่มีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป ซึ่งมักไม่มีใครสนใจที่จะกลับไปแก้ แต่ Morton ชี้ว่าการทิ้งบั๊กไว้เช่นนี้ส่งผลกระทบกับกระบวนการพัฒนาทั้งหมด และควรถึงเวลาที่ต้องมีการแก้ไขแล้ว
หลังจากที่ Jonathan Schwartz ขึ้นเป็น CEO ต่อจาก Scott McNealy ก็จัดให้มีการอภิปรายกันเป็นการภายในเรื่องการเปิดเผยซอร์สโค้ด Javaซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่ ESR เคยส่งจดหมายเปิดผนึกถึง McNealy มาก่อน
ซึ่งผลการอภิปรายจะไปว่ากันในงาน JavaOne ปีนี้ครับ ป.ล. โดยส่วนตัวผมเฉยๆนะ :P
ที่มา - OSNews
ผมคงไม่อธิบายว่า RMS หรือ Richard Stallman เป็นใคร (ไม่รู้จัก อ่านที่นี่)
RMS และ Free Software Foundation ได้ประท้วงทั้ง Nvidia และ ATI ด้วยเรื่องการไม่เปิดสเปกชิปเซ็ตของ GPU ทำให้ไม่สามารถสร้างไดรเวอร์แบบโอเพนซอร์สได้มาซักระยะหนึ่งแล้ว
สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมบน KDE คงดีใจกันถ้วนหน้า เมื่อ KDE ปล่อย โปรเจค Phonon ซึ่งเป็น Library และ API สำหรับทำงานด้านมัลติมีเดียโดยเฉพาะ ซึ่งผู้เขียนไม่ต้องไปยุ่งกับการติดต่อฮาร์ดแวร์ หรือติดต่อในระดับๆลึกเลย
ส่วนผู้ใช้ก็ได้รับผลประโยชน์ใน การปรับแต่งเรื่องเสียง/ภาพ หรือ ฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับมัลติมีเดียได้ง่ายขึ้นมาก
สำหรับนักพัฒนาน่าจะคล้ายๆกับ DirectDraw และ DirectSound มั้ง
ที่มา - OSNews
Apache เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 70% ที่สองคือ IIS อยู่ที่ 20% แต่ตัวเลขนี้นับเฉพาะ HTTP เท่านั้นไม่รวม HTTPS
ผลสำรวจล่าสุดของ Netcraft ในตลาด HTTPS ประจำเดือนเมษา Apache ได้แซง IIS ก้าวเป็นอันดับหนึ่งแทนแล้ว (44.0% เทียบกับ 43.8%) และดูจากแนวโน้มก็พุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ Apache ลุยตลาด SSL ได้ไม่ดีนัก เนื่องจากกฎหมายของสหรัฐที่ห้ามส่งออกวิธีการเข้า-ถอดรหัสมากกว่า 56 บิต ทำให้โมดูล SSL ใน Apache 1 ต้องแยกออกมาและพัฒนาโดยทีมจากประเทศอื่น แต่ทุกวันนี้กฎหมายนั้นถูกแก้ไข ทำให้ Apache 2 รวม mod_ssl มาได้ในตัวเลย
หลังจากอกหักจากทั้ง InnoDB และ BerkeleyDB ทาง MySQL จึงได้ร่วมมือกับ Solid Information Technology เพื่อใช้ Storage Engine ไปก่อนหน้านี้แล้วหนึ่งตัว และในวันนี้ทาง MySQL ก็ประกาศ Storage Engine ตัวใหม่ที่ทาง MySQL สร้างขึ้นใช้เองโดยเฉพาะอีกตัว โดยใช้ชื่อว่า Falcon ซึ่งจะออกเบต้าในช่วงกลางปีนี้ ส่วนตัวจริงนั้นจะออกมาประมาณปลายปี
นับว่าเป็นเรื่องดีของ MySQL ที่จะมี Storage Engine เป็นของตัวเองในที่สุด อย่างน้อยก็ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าออราเคิลจะมาไล่ซื้อไปอีกหรือไม่
รายละเอียดของ Falcon ทาง MySQL จะเปิดเผยออกมาในสัปดาห์หน้า
คู่แข่งตลอดกาลของไมโครซอฟท์ในตลาดอินเทอร์เน็ตนั้นคงเป็นลินุกซ์กับ Apache ที่กินกันไม่ลงโดยตลอดมา ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่าผู้ให้บริการโฮสต์รายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกอย่าง GoDaddy นั้น ได้ย้ายไปใช้โครงสร้างพื้นฐานจากไมโครซอฟท์เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ Dapper Drake โดนโรคเลื่อนไปสองเดือน Mark Shuttleworth ก็ตัดสินใจเตรียมแยกโค้ดสำหรับ Unbuntu ตัวต่อไปออกมาพัฒนาแล้วในชื่อว่า Edgy Eft ซึ่งมันถูกวางตัวไว้ให้เป็นระบบปฎิบัติการที่นำสมัยสุดๆ และเน้นไว้สำหรับผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ มากกว่าที่จะเป็นองค์กรณ์ขนาดใหญ่ที่ต้องการเสถียรภาพมากกว่า
การพัฒนาเจ้า Edgy นี้จะเน้นการพัฒนาโดยกำหนดทิศทางจากนักพัฒนามากกว่าจะเป็นการรับความต้องการของผู้ใช้ นอกจากนี้ Mark ยังระบุว่าเขาเตรียมที่จะวางแผน Ubuntu สำหรับงานระดับ Enterprise ไว้อีกด้วย
กระทาชายนาย John C. Dvorak แห่ง PC Magazine เขียนแนะนำ Apple ในคอลัมน์ของเค้าว่า Apple ควรจะปล่อย Mac OS X เปิดเผยซอร์สโค้ดซะ
ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจาก Boot Camp ที่ทำให้รัน Windows XP หรือแม้อาจจะกระทั่ง Windows Vista บนเครื่อง Intel Mac ได้ ซึ่งจะทำให้คนสนใจมาซื้อ Mac มากขึ้นเพื่อรัน Windows แทน Mac OS X ซะงั้น
ทางแก้ก็คือทำการเปิดเผยซอร์สโค้ด Mac OS X ซะและทำให้มันรันบน PC ธรรมดาๆ ได้ เพื่อแข่งขันกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ
ที่มา - OSNews