Google ยื่นขอสิทธิบัตรเกี่ยวกับการจ่ายเงินด้วยสมาร์ทโฟน โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่การชำระค่าใช้จ่ายแบบกลุ่ม ทำให้กลุ่มผู้ใช้สามารถบันทึกได้ว่าในการจ่ายเงินร่วมกันแต่ละครั้งนั้น ใครออกเงินเท่าไหร่ และใครยังติดเงินคนอื่นอยู่อีกบ้าง
ตัวอย่างเช่นการที่ผู้ใช้กลุ่มหนึ่งไปสังสรรค์รับประทานอาหารกันในร้าน และตกลงว่าจะช่วยกันออกเงินค่าอาหาร จนเมื่อถึงตอนเรียกเก็บเงินแล้วก็จะต่างคนต่างนำเงินออกมาจ่าย แต่บางครั้งก็อาจให้ใครคนใดคนหนึ่งออกเงินไปก่อน โดยคนอื่นๆ ที่เหลือก็จะจ่ายเงินคืนให้ในภายหลัง (ว่าง่ายๆ ก็คือติดเงินกันไว้ก่อนนั่นเอง) กรณีนี้ระบบที่ Google ยื่นขอจดสิทธิบัตรจะสามารถช่วยบันทึกเพื่อติดตามยอดเงินที่ค้างกันระหว่างผู้ใช้ให้โดยอัตโนมัติ
หลังจากที่มีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์จะยกเลิกระบบ Microsoft Points และหันมาใช้ระบบจ่ายด้วยเงินสด และผ่านบัตร Gift Card แทน ล่าสุดเว็บไซ
PayPal เริ่มคิดการณ์ไกลวางแผนสร้าง PayPal Galactic ระบบการทำธุรกรรมจากบุคคลที่อยู่นอกโลก เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องอวกาศ
PayPal เริ่มพัฒนาระบบการจ่ายเงินและทำธุรกรรมสำหรับมนุษย์ที่อยู่บนอวกาศ โดยชี้ตัวอย่างว่า แม้แต่นักบินอวกาศในปัจจุบันก็มีความต้องการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อบริการต่างๆ เช่น การซื้อเพลง, ภาพยนตร์ หรืออีบุ๊ก ไว้เพื่อความบันเทิงในช่วงปฏิบัติงานอยู่บนสถานีอวกาศเป็นระยะเวลานานๆ ยังไม่นับรวมถึงอุตสาหกรรมท่องอวกาศที่มีแนวโน้มจะขยายตัวใหญ่ขึ้นอีกในอนาคต
จากข่าวก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลือว่า ไมโครซอฟท์เตรียมจะทิ้ง Microsoft Point และหันไปใช้ Microsoft Gift Card แทน ดูท่าจะเริ่มเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อมีคนค้นพบระบบจ่ายเงินผ่าน gift card ในแอพ wallet บน Windows Phone 8 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่จากที่ผมทดลองหาดู พบว่ายังคงมีแค่บนสหรัฐอเมริกาเท่านั้นครับ ซึ่งคาดว่าระบบนี้คงจะรองรับแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้นครับ (ตัวภาพอยู่ท้ายเบรก)
ที่มา: Windows Phone Central
บริการจ่ายเงิน Google Checkout ถูกยุบรวบกับ Google Wallet ตั้งแต่ปี 2011 และตอนนี้ก็ได้เวลาที่กูเกิลจะปลด Checkout ทิ้งแล้ว
ผู้ขายสินค้าที่ยังใช้ Google Checkout อยู่จะสามารถรับเงินผ่าน Checkout ได้จนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2013 และกูเกิลก็แนะนำให้ทุกคนเปลี่ยนไปใช้ Google Wallet กันโดยด่วน
ที่มา - Google Commerce
เว็บไซต์ The Verge รายงานว่า ไมโครซอฟท์เตรียมจะยกเลิกระบบ Microsoft Point (ตามข่าวลือของปีที่แล้ว) และจะย้ายระบบทั้งหมดให้คิดเป็นเงินจริงผ่านการเติมเงินด้วยบัตร Gift Card แทน (ซึ่
ผลิตภัณฑ์ที่โลกลืมอย่าง Google Wallet ก็มีฟีเจอร์ใหม่ในงาน Google I/O ด้วย (แม้ไม่ได้ขึ้นเวทีหลัก)
ไม่รู้อะไรดลใจให้ตลาด POS ที่ใช้จอสัมผัส-แอพช่วงนี้ดุเดือดมาก นอกจาก Square Stand และ PayPal Cash for Registers ก็ยังมี Groupon อีกหนึ่งรายที่ลงมาลุยตลาดนี้
ผลิตภัณฑ์ของ Groupon คือ "แอพ" บน iPad ที่เปลี่ยนแท็บเล็ตเป็นเครื่องคิดเงินสำหรับร้านค้า ชื่อของมันคือ Breadcrumb POS (เป็นบริษัทที่ Groupon ซื้อมาก่อนหน้านี้)
วันเดียวกับที่ Square เปิดตัว Square Stand ทางค่าย PayPal ในฐานะเจ้าพ่อด้านการจ่ายเงินออนไลน์ ก็เปิดตัวโครงการชื่อ Cash for Registers ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายร้านค้ารายย่อยเหมือนกัน
โครงการของ PayPal จะเปลี่ยนเครื่องคิดเงินรุ่นเก่าที่ร้านค้ามีอยู่แล้ว เป็นเครื่องคิดเงินรุ่นใหม่ที่ใช้จอสัมผัส และรวมซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม PayPal Here รองรับการจ่ายบัตรเครดิต เดบิต เช็ค และระบบจ่ายเงินออนไลน์ของ PayPal ได้ทั้งหมด
Square บริษัทผู้บุกเบิกการจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์พกพา ออกฮาร์ดแวร์ตัวใหม่ชื่อ Square Stand เพื่อจับตลาดเครื่องคิดเงินในร้านค้าหรือจุดขาย (POS) โดยเฉพาะ
Square Stand คือ "ขาตั้ง" สำหรับ iPad แต่พิเศษหน่อยตรงที่ขาตั้งนั้นรวมเครื่องรูดบัตรมาด้วยในตัว เมื่อนำ iPad ไปประกอบและติดตั้งแอพ Square Register เรียบร้อย เจ้าของร้านค้าจะได้ระบบจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูปทันที เงินจะเข้าบัญชีของร้านค้าที่เปิดไว้กับ Square โดยจะโดนหักค่าธรรมเนียม 2.75% จากมูลค่าการขายในแต่ละครั้ง
Blake Jorgensen ซีเอฟโอของ Electronics Art กล่าวในงานสัมมนาของ Morgan Stanley ว่าในอนาคต เกมของบริษัททุกเกมจะมีระบบจ่ายเงินภายในเกมเพื่อซื้อไอเทม-ตัวละครเสริม-ด่านเสริมต่างๆ ซึ่งเป็นการจ่ายเงินครั้งละไม่มากนัก (micropayment/microtransaction)
EA ทดลองฟีเจอร์นี้กับเกม Dead Space 3 มาก่อนแล้ว และบริษัทก็ระบุว่าลูกค้า "ชื่นชอบวิธีการทำธุรกิจแบบนี้" ทำให้ EA ตัดสินใจเดินหน้าต่อไป
ในอดีต EA เคยใช้วิธีเอาต์ซอร์สระบบจ่ายเงินให้บริษัทอื่น แต่เมื่อพบว่าระบบจ่ายเงินในเกมเป็นอนาคตของบริษัท ก็ตัดสินใจหันมาทำเองทั้งหมด
Jorgensen ยังบอกว่าความยากลำบากของระบบ micropayment คือการจ่ายเงินครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆ ทำให้ระบบจ่ายเงินของ EA เองต้องเข้มแข็งและมีต้นทุนต่ำ
Facebook เปิดตัวบัตรของขวัญแบบใหม่ที่เรียกว่า "Facebook Card" ซึ่งจะต่างไปจากระบบบัตรของขวัญทั่วไปเล็กน้อย
หลักการทำงานคือเราต้องเข้าไปซื้อ "เครดิตของขวัญ" บน Facebook ให้กับเพื่อนตามต้องการ โดยเราเป็นฝ่ายจ่ายเงินด้วยวิธีปกติ (เช่น บัตรเครดิต) ฝั่งของเพื่อนเราจะได้รับ Facebook Card ทางไปรษณีย์ จากนั้นค่อยนำบัตร Facebook Card ไปแลกเป็นของขวัญในมูลค่าที่กำหนดกับร้านค้าที่ร่วมรายการ
ในกรณีที่เพื่อนเราได้รับบัตร Facebook Card มาแล้ว ถ้าหากเขาได้รับ "เครดิตของขวัญ" เพิ่มเติม (ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม) ก็สามารถใช้บัตรใบเดิมได้เลย โดยบัตรหนึ่งใบสามารถสะสมเครดิตจากร้านค้าหลายๆ แห่งได้พร้อมกัน
ในเบื้องต้น Facebook Card ยังให้บริการเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น
เริ่มมีรายงานว่าร้านค้าจำนวนหนึ่งเริ่มวางขายบัตรเติมเงินออนไลน์สำหรับ iTunes Store แบบที่ไม่ระบุมูลค่าตายตัว แต่สามารถนำไปจ่ายเงินตาม "ช่วง" ราคาที่ระบุไว้หน้าบัตร แล้วนำตัวเงินนั้นไปจ่ายที่แคชเชียร์ เมื่อนำรหัสบัตรไปขึ้นเงินก็จะได้เงินตามที่จ่ายไป
บัตรเติมเงินเป็นช่องทางสำคัญในการทำเงินออนไลน์ แม้แต่ในประเทศที่ใช้บัตรเครดิตมากๆ อย่างสหรัฐฯ หรือชาติในยุโรป จากความสะดวกสบายที่ไม่ต้องผูกบัตรเครดิตเข้ากับบัญชี แต่ปัญหาของบัตรเติมเงินคือการสต็อกของล่วงหน้าที่บัตรมีมูลค่าต่างกันไป ทำให้ขายดีไม่เท่ากัน ต้องมีการคาดเดาความต้องการของตลาดว่าบัตรราคาใดจะขายได้เท่าใดแล้วสต็อกบัตรแต่ละราคาให้พอดีกับความต้องการ
Google เปิดให้บริการบัตรเครดิตแก่ผู้ประกอบการ SME ในประเทศสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร โดยผูกกับบริการโฆษณา AdWords ผลิตภัณฑ์หลักที่ทำรายได้ให้ Google เป็นกอบเป็นกำ
Google คิดอัตราดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิตที่ 8.99% ในสหรัฐอเมริกา และ 11.9% สำหรับบริการบัตรเครดิตในสหราชอาณาจักร ซึ่งถือว่าต่ำกว่าผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายอื่นๆ อีกหลายราย
บริการบัตรเครดิตนี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ Google ตัดสินใจลงทุนโดยหวังว่าจะดึงดูดให้ผู้ประกอบการรายย่อยใช้บริการโฆษณา AdWords มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่ายังมีผู้ประกอบการอีกมากที่ไม่สามารถซื้อโฆษณาจาก Google ได้เพราะปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
กูเกิลพยายามดัน Google Wallet สำหรับงานด้านอื่นๆ นอกจากการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยสินค้าใหม่คือ "เนื้อหาแบบจ่ายเงินบนเว็บ" (premium digital content) ที่มีราคาไม่แพงมากนักคือไม่เกิน 1 ดอลลาร์ต่อบทความ
จุดเด่นของ Google Wallet สำหรับเนื้อหาออนไลน์คือระบบการจ่ายเงินที่สะดวก คลิกเดียวจ่ายเงิน-เข้าไปอ่านเนื้อหาได้เลย แถมยังมีระบบคืนเงิน (instant refund) ได้ภายใน 30 นาทีหลังจ่าย
ตอนนี้กูเกิลยังประกาศหาพันธมิตรเข้าร่วมโครงการอยู่ เบื้องต้นได้พันธมิตรอย่างสำนักพิมพ์ Oxford University Press และ DK Publishing เป็นต้น
การจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์พกพาเริ่มใกล้ความจริงเรื่อยๆ ที่ผ่านมาเราเห็นข่าวบริษัทที่ทำระบบจ่ายเงินลงมาลุยตลาดนี้กันอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง MasterCard ก็ออกมาเปิดแพลตฟอร์ม PayPass ของตัวเอง (ข่าวเก่า MasterCard ประกาศรับรองมือถือชุดแรกที่ใช้ระบบจ่ายเงินด้วย PayPass NFC ) ให้นักพัฒนาแอพมือถือสามารถเชื่อมกับระบบนี้ได้
สิ่งที่ MasterCard ทำคือออกชุดพัฒนา Mobile MasterCard PayPass User Interface Software Development Kit (ไม่รู้ชื่อจะยาวไปไหน) บนแพลตฟอร์ม Android และ BlackBerry OS 7 ให้นักพัฒนาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ (และมือถือมี NFC) ทำระบบจ่ายเงินด้วย MasterCard ได้
ช่วงหลังๆ มานี้เราเห็นข่าว PayPal ประกาศความร่วมมือกับบริษัทน้อยใหญ่ นำระบบจ่ายเงินของ PayPal ไปสู่โลกออฟไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ
ข่าวที่ผ่านมาของ PayPal ยังเป็นแค่การทดสอบในวงจำกัด หรือบริษัทห้างร้านขนาดไม่ใหญ่มากเท่านั้น แต่คราวนี้พาร์ทเนอร์อย่าง Discover ไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ของสหรัฐอีกรายหนึ่ง ถึงแม้ในแง่ชื่อเสียงจะเป็นรอง Visa/MasterCard อยู่บ้าง แต่ในแง่จำนวนไม่ได้ทิ้งห่างกันมากนัก
มีหลักฐานชี้ชัดว่ากูเกิลใกล้จะเปิดตัวบัตรของขวัญ Google Play Gift Card ได้ไม่นาน ล่าสุดกูเกิลเปิดตัวบัตรที่ว่าอย่างเป็นทางการแล้วครับ
ตัวบัตรมีอยู่สี่แบบที่ราคา 10, 15, 25 และ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเริ่มวางขายกับหน้าร้านอย่าง Target, GameStop และ RadioShack ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และจะเริ่มวางขายออนไลน์ผ่าน Walmart.com ในเดือนต่อมา
วิธีการเติมเงินเข้าบัญชีทำได้โดยการขูดหลังบัตรแล้วไปเติมผ่านหน้า Google Account เลือก Choose a payment method แล้วกดที่ Redeem a Google Play Gift Card ส่วนวิธีการเติมเงินผ่านแอพ Google Play ทำโดยกด Menu และเลือกคำสั่ง Redeem ครับ
ปัญหาเรื่องการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นประเด็นสำคัญที่คนค้าขายออนไลน์ต้องใส่ใจ โดยทั่วไปแล้ววิธีการจ่ายเงินแบบมาตรฐานคือผ่านบัตรเครดิต แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่คนอีกมากยังไม่มีบัตรเครดิตใช้ด้วยเหตุผลต่างๆ กันออกไป (เช่น อายุไม่ถึง รายได้ไม่พอ ไม่อยากมี ฯลฯ)
ทางเลือกที่หลายๆ บริษัทใช้คือออก "บัตรของขวัญ" หรือ gift card ซึ่งใช้แนวคิดเดียวกับบัตรเติมเงินของโทรศัพท์มือถือ บริษัทไอทีที่ใช้ระบบนี้มานานแล้วคือแอปเปิล ซึ่งออก gift card สำหรับซื้อเนื้อหาบน iTunes Store สำหรับคนที่ไม่มีหรือไม่อยากจ่ายด้วยบัตรเครดิต
สมรภูมิการจ่ายเงินผ่านมือถือร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ PayPal ประกาศการซื้อกิจการบริษัท card.io ผู้ให้บริการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านมือถือ
card.io จะต่างไปจากบริษัท Square ที่มีเครื่องอ่านบัตรเป็นอุปกรณ์เสริมมาเสียบกับสมาร์ทโฟน แต่โซลูชันของ card.io ใช้การถ่ายภาพบัตรเครดิตเพื่อการจ่ายเงินแต่ละครั้งแทน (แอพที่รองรับต้องใช้ไลบรารีของ card.io เองเพื่อความปลอดภัย ใช้แอพกล้องอื่นถ่ายไม่ได้)
card.io ทำตัวเป็นไลบรารีสำหรับแอพบน Android/iOS เรียกใช้ และคิดค่าบริการจากการจ่ายเงินต่อครั้ง (card.io จะนำข้อมูลบัตรเครดิตไปจ่ายเงินให้เราต่อเอง)
เมื่อครั้งงาน MWC 2012 ต้นปีนี้ Facebook เคยแถลงข่าวทำระบบ carrier billing หรือการลงบัญชีค่าใช้จ่ายกับบิลค่ามือถือของโอเปอเรเตอร์ ช่วยให้การซื้อสินค้าผ่าน Facebook Credits ทำได้สะดวกขึ้นมาก (ไม่ต้องจ่ายตรงเองแต่ลงบิลค่ามือถือหรือหักจากบัตรเติมเงินแทน)
วันนี้ Facebook ประกาศว่าเริ่มใช้ระบบนี้แล้ว โดยจะเริ่มกับโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐและสหราชอาณาจักรก่อน จากนั้นจะขยายไปยังโอเปอเรเตอร์ในประเทศอื่นๆ อีกกว่า 60 ประเทศต่อไป
เราได้ยินเรื่อง NFC หรือ contactless payment ด้วยโทรศัพท์มือถือกันมาพักใหญ่แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเห็นการใช้งานจริงสักเท่าไร
แต่ล่าสุดบริษัทไปรษณีย์ของอังกฤษหรือ Post Office Ltd. ประกาศว่าจะเริ่มนำระบบ NFC มารองรับการจ่ายเงินในที่ทำการไปรษณีย์ทั่วอังกฤษกว่า 11,500 สาขาแล้ว โดยเริ่มชุดแรกวันที่ 6 มิถุนายนนี้ และกระบวนการติดตั้งระบบ NFC จะเสร็จสมบูรณ์ช่วงเดือนตุลาคม
ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินผ่านบัตร MasterCard PayPass, Visa payWave รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่มีชิป NFC ได้ โดยจำกัดจำนวนการจ่ายเงินที่ 20 ปอนด์
กูเกิลออกมาประกาศข่าวว่า Google Play Store รองรับการสมัครสมาชิกภายในแอพ (in-app subscription) โดยผู้ใช้สามารถซื้อบริการ (เช่น หนังสือ นิตยสาร เพลง) เป็นรายเดือนหรือรายปีจากตัวแอพ แล้วจ่ายเงินด้วยบัญชีของ Google Play ได้
กูเกิลบอกว่าฟีเจอร์นี้เป็นการต่อยอด in-app purchase/billing เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสถิติของกูเกิลระบุแอพส่วนใหญ่ในกลุ่ม top grossing เลือกใช้โมเดลหารายได้แบบนี้เป็นหลักอยู่แล้ว
ฟีเจอร์นี้จะใช้ได้กับ Google Play เวอร์ชัน 3.5 ขึ้นไป ส่วนนักพัฒนาแอพก็ศึกษา API กันได้ถ้าต้องการ
ที่มา - Android Developers Blog
อีกหนึ่งบริการจ่ายเงินผ่านมือถือด้วย NFC จาก MasterCard ในชื่อ PayPass NFC ที่วันนี้ประกาศรับรองมือถือที่ผ่านมาตรฐานของตัวเองอีกหลายแบรนด์ ซึ่งจะมีแปะคำว่า "MasterCard PayPass Ready" เพื่อให้รู้ว่ามือถือรุ่นนี้รองรับแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 17 รุ่นจาก 7 แบรนด์ดังนี้
ทิศทางของ PayPal ในช่วงหลังๆ ชัดเจนมากว่ากำลังขยายธุรกิจตัวเองจากโลกออนไลน์มายังโลกออฟไลน์ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เราเห็น PayPal Here เครื่องรูดบัตรเครดิตด้วยมือถือกันไปแล้ว
ล่าสุด PayPal ออกของใหม่ตามมาอีกคือ PayPal Payments (ของแท้ต้องเติมเอส ผมว่าชื่อมันธรรมดาไปหน่อย) ซึ่งเป็น "โซลูชัน" การจ่ายเงินสำหรับธุรกิจ SME ที่ครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ดังนี้