Cisco เตรียมเปิดตัวซอฟต์แวร์ SocialMiner สำหรับวิเคราะห์ข้อความต่างๆ ใน social network ที่อาจจะกระทบต่อแบรนด์ของเรา SocialMiner จะสามารถเข้าไปกวาดข้อมูลเหล่านี้แล้วแจ้งเตือนให้พนักงานสามารถเข้าไปตอบสนองต่อปัญหาได้ทัน ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามเกินควบคุม
SocialMiner เป็นโมดูลหนึ่งของ Cisco Contact Center โดยตัวเซิร์ฟเวอร์นั้นมีราคา 1,000 ดอลลาร์ และ 1,500 ดอลลาร์สำหรับพนักงานแต่ละคน
บริษัทในไทยเองก็น่าจะเจอปัญหาลูกค้าไม่สามารถติดต่อช่องทางที่เตรียมไว้ให้ แล้วไปโวยวายกันในอินเทอร์เน็ตเยอะ แต่เนื่องจากสินค้ายังไม่เปิดตัวก็ไม่แน่ว่ามันจะวิเคราะห์ภาษาไทยได้ดีแค่ไหน
นอกจาก Facebook for Android/iPhone รุ่นใหม่ ทาง Facebook ยังประกาศของใหม่อีก 3 เรื่องครับ
อย่างแรกคือ Facebook Deals เป็นฟีเจอร์ที่ออกมาฆ่า Foursquare ตรงๆ โดย Facebook ร่วมมือกับร้านค้าต่างๆ ให้ส่วนลดสินค้าและบริการแก่คนที่เช็คอินด้วย Facebook Places ตอนนี้ยังใช้ได้กับ Facebook for iPhone หรือ touch.facebook.com เท่านั้น - Facebook Blog
MySpace อดีตยักษ์แห่งวงการ social network ที่ช่วงหลังอยู่ในขาลง ได้เปลี่ยนโฉมหน้าเว็บใหม่หมด โดยหวังว่าจะช่วยเรียกความนิยมกลับคืนมา
การปรับโฉมครั้งนี้ทำต่อเนื่องกับ โลโก้ใหม่ของ MySpace (ที่เขียนว่า My_____) เว็บโฉมใหม่เน้นจับกลุ่มผู้ใช้อายุระหว่าง 13-35 ปี เพื่อเลี่ยงการชนกับ Facebook ซึ่งเป็นผู้ใหญ่มากกว่า เว็บใหม่จะเน้นเพลง ภาพยนตร์ ดารา รายการทีวี และเกม ซึ่งเป็นหัวข้อที่วัยรุ่นสนใจ
นอกจากนี้ MySpace ยังเพิ่มระบบแต้มและ badge เข้ามา ยิ่งโพสต์มากยิ่งได้แต้มมาก และจะได้ badge เพิ่มขึ้นไปด้วย ตอนนี้เว็บโฉมใหม่ให้บริการเฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐเท่านั้น
Windows Live Messenger Connect คือ Facebook Connect เวอร์ชันไมโครซอฟท์ (อ่านรายละเอียดในข่าวเก่า Windows Live Messenger Connect ล็อกอินผ่านเว็บด้วย Live ID) วันนี้มันออกรุ่นจริงเรียบร้อยแล้ว
การออกรุ่นจริงมีผลกับนักพัฒนาเว็บไซต์มากกว่าผู้ใช้ทั่วไป เพราะ Messenger Connect เป็นบริการที่มุ่งเป้านักพัฒนาเว็บโดยตรง (ให้เอา Messenger Connect ไปเชื่อมต่อกับเว็บ แล้วค่อยให้ผู้ใช้ล็อกอินผ่าน Live ID อีกที)
แต่บริการแชร์ข้อมูลผ่านเว็บหลายแห่ง เช่น AddThis, ShareThis เริ่มเพิ่ม Messenger เข้าเป็นส่วนหนึ่งของปุ่ม Share แล้ว เช่นเดียวกับ Bing เวอร์ชันสหรัฐ ที่เพิ่มปุ่มแชร์ไปยัง Messenger เช่นกัน (ดูภาพประกอบ)
Electronic Frontier Foundation (EFF) กลุ่มรณรงค์ด้านสิทธิดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้เปิดเผยเอกสารสองฉบับจากกระทรวงความมั่นคงภายในของสหรัฐ (Department of Homeland Security กระทรวงที่ตั้งขึ้นสมัยรัฐบาลบุช หลังเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน) ที่กล่าวถึงการเข้าไปสอดส่องบนเว็บไซต์ social network ต่างๆ เช่น Facebook, MySpace, Hi5, ฯลฯ
Bing และ Facebook ได้ประกาศร่วมกันว่า Bing จะเริ่มรวมผลการค้นหาข้อมูลจาก Facebook อาทิ การค้นหาเพื่อนและการส่งข้อความหากัน (Facebook Profile Search) การค้นหาสิ่งที่เพื่อนชอบ (Bing with Liked Results) โดยแค่พิมพ์ชื่อคนที่ต้องการค้นหาใน Bing โดยผลลัพธ์การค้นหานั้นได้รับการจัดเรียงลำดับรายชื่อตามจำนวนการเป็นเพื่อนร่วมกัน (share mutual friends)
ในการจัดการกับปัญหาความเป็นส่วนตัว (privacy) นั้น
Facebook ถูกวิจารณ์อย่างมากว่า "ล็อค" ข้อมูลของผู้ใช้เอาไว้ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้หนีไปใช้บริการของคู่แข่งอื่น หลังจากจ้าง David Recordon ซึ่งเป็นผู้ผลักดันนโยบาย Data Portability ไปทำงานด้วย ตอนนี้ผลลัพธ์ออกมาแล้ว
ถ้าลองเข้าไปในหน้า Account Settings ของ Facebook จะพบลิงก์ Download Your Information (ของผมยังไม่มีเลยทดสอบไม่ได้) สำหรับดาวน์โหลดทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยโพสต์ลงใน Facebook ในรูปของไฟล์ .zip ก้อนเดียว ดูวิดีโอประกอบจะเข้าใจง่ายกว่า
Facebook เปิดบริการ Groups มานานแล้ว (Blognone Group แบบทิ้งร้าง) ตอนแรกมันถูกออกแบบให้เป็น "สมาคม" ระหว่างผู้ใช้ Facebook ที่อาจไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่อาจมีความสนใจร่วมกัน ภายหลังเมื่อมีระบบ Facebook Page ที่เหมาะกับงานมากกว่า ทำให้ Groups เงียบเหงาไปมาก
ล่าสุด Facebook ปรับปรุง Groups ใหม่ โดยเปลี่ยนมันเป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับกลุ่มขนาดเล็กลง และเน้นกลุ่มคนที่รู้จักกันอยู่แล้วแทน มันจะคล้ายคลึงกับการจัดกลุ่มใน Contact ของมือถือหรือ IM มากกว่าของเดิมที่เหมือนกับ Newsgroup สาธารณะ
ภาพยนตร์ The Social Network ที่สร้างจากตำนานการเกิด Facebook เข้าฉายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผลคือเปิดตัวเป็นอันดับหนึ่งของ Box Office ในสหรัฐ ทำเงินสุดสัปดาห์ได้ 23 ล้านดอลลาร์
ทาง Sony Picture คาดว่าเรื่องนี้จะทำรายได้ในสหรัฐประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ และเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ออกมาดี มีโอกาสที่จะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว Facebook ได้จัดให้พนักงานชมภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน โดยโฆษกของบริษัทให้ข้อมูลว่าเป็นการผ่อนคลายหลังงานหนัก แต่ไม่มีรายงานว่า Mark Zuckerberg ไปชมด้วยหรือไม่
สถิติล่าสุดจาก comScore ระบุว่า Twitter มีผู้เข้าชมเว็บเพิ่มเป็น 96 ล้าน UIP ต่อเดือน โตขึ้นจากปีก่อน 96% และกลายเป็น social network อันดับสามตามจำนวนทราฟฟิกแทน MySpace เรียบร้อยแล้ว
ส่วน MySpace ที่อยู่ในช่วงขาลงมีทราฟฟิกลดลง 17% จากปีก่อน เหลือผู้ชม 95 ล้าน UIP ต่อเดือน ลงมาเป็นอันดับสี่
อันดับหนึ่งคือ Facebook ทิ้งห่างที่ 598 ล้าน UIP โตขึ้น 54% ส่วนอันดับสอง Windows Live มีผู้ชม 140 ล้าน โตขึ้น 10%
ที่มา - Wall Street Journal
Ping บริการ social network ของ iTunes 10 นั้นมีจุดอ่อนสำคัญคือใช้ได้กับเพลงที่ซื้อจาก iTunes Store เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเพลงทั่วไปในไลบรารีของเราได้
ข้อจำกัดนี้ถูกแก้ไขแล้วใน iTunes 10.0.1 ซึ่งเราจะเห็นปุ่ม Ping บนทุกเพลงที่เลือก นอกจากนี้แอปเปิลยังเพิ่ม Ping sidebar ที่ช่วยให้เราแชร์เพลงได้ง่ายขึ้น
ส่วนเรื่องการใช้ร่วมกับ Facebook ยังไม่ได้เหมือนเดิม ต้องรอทั้งสองบริษัทเจรจากันต่อไป
ที่มา - TechCrunch
หนังเรื่อง The Social Network ซึ่งสร้างจากเรื่องราวชีวิตจริงของ Mark Zuckerberg หลังจากที่เฟซบุ๊กได้ดูล่วงหน้าและแสดงอาการไม่พอใจสักเท่าใดนัก ตามรายละเอียดข่าวเก่า
ต่อเนื่องจากข่าว Google Me จะไม่ใช่เว็บแยก แต่เป็นตัวเชื่อมให้บริการอื่น? ทางเว็บไซต์ TechCrunch ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากคนในของกูเกิลดังนี้
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Google Me จะไม่เหมือน Facebook? ล่าสุดในงาน Google Zeitgeist ทาง Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิลได้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกหน่อย
Schmidt บอกว่ากูเกิลต้องการจะเพิ่มความสามารถด้าน social เข้าไปยังบริการที่มีอยู่แล้ว มากกว่าจะเปิดบริการใหม่ขึ้นมาต่างหาก ซึ่งการเพิ่มความสามารถ social จะช่วยให้การค้นหาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น เขาบอกว่าคนมักคาดหวังว่า Google Me จะเป็นบริการขนาดใหญ่ที่มาท้าชนกับ Facebook แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น
นักวิเคราะห์คาดว่า YouTube อาจเป็นบริการแรกๆ ที่เพิ่มฟีเจอร์ด้าน social เข้ามา เช่น แนะนำวิดีโอที่เพื่อนๆ ของเรานิยมดูกัน
เมื่อปีที่แล้วไมโครซอฟท์เปิดให้บริการ Microsoft Vine เพื่อที่จะนำมาเป็นบริการสื่อสารกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
แต่เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ทางไมโครซอฟท์ได้ส่งอีเมลแจ้งมาว่า จะยกเลิกการให้บริการนี้ พร้อมปรับหน้าเว็บของ Microsoft Vine เพื่อแจ้งว่าจะยกเลิกการให้บริการเช่นเดียวกัน
ที่มา: Microsoft Vine, TechCrunch
ตำรวจในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ของสหรัฐอเมริกาจับขโมยได้ 3 ราย ซึ่งขโมยระบุว่าใช้ social network (ในที่นี้คือ Facebook) ช่วยดูว่าบ้านใดบ้างที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ โดยดูจากข้อความสถานะของคนที่อยู่ในละแวก
ทาง Facebook ได้ยืนยันว่าฟีเจอร์ Facebook Place ไม่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมคดีนี้ อย่างไรก็ตามนี่เป็นตัวอย่างว่า แค่ข้อความสถานะก็พอเพียงสำหรับการโจรกรรม (อ่านวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Facebook)
โปรแกรมสำหรับใช้ Twitter ชื่อดังได้ออกรุ่นใหม่ Seesmic Desktop 2 (SD2) ซึ่งขยายพรมแดนจาก Twitter มาเป็น social network แทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น Facebook, LinkedIn, MySpace, Ning, Foursquare, YouTube, Google Reader ถ้าไม่พอยังสามารถดาวน์โหลดปลั๊กอินเพิ่มเติมได้จาก Seesmic Marketplace
Seesmic Desktop 2 เขียนด้วย Silverlight ใช้ได้บนวินโดวส์และแมค โดยมันจะมาแทน Seesmic Desktop 1 ที่เขียนด้วย AIR และ Seesmic for Windows ที่เขียนด้วย .NET
นางสาวรัตตยา กุลประดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทซินโนเวท ประเทศไทย จำกัด บริษัทวิจัยระดับโลก เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของวัยรุ่นอายุ 8-24 ปี จาก 11 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ประกอบด้วยจีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา พบว่า
MySpace ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Sync with Facebook โดยสามารถอัพเดตสถานะบน MySpace แล้วให้ไปโผล่บน Facebook ได้ (แต่จาก Facebook กลับมายัง MySpace ยังทำไม่ได้)
ก่อนหน้านี้ MySpace รองรับ Twitter อยู่แล้ว โดยสามารถอัพเดตได้แบบไป-กลับ
ฟีเจอร์นี้มีใน Yahoo!, AOL และ Windows Live มาก่อนแล้ว แต่สำหรับ MySpace ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Facebook มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่า "แพ้" ในศึก status update เรียบร้อยแล้ว
เมื่อปีที่แล้ว กูเกิลประกาศร่วมมือ Twitter เตรียมพบกับการค้นข้อความ tweet แบบเรียลไทม์ โดยนำข้อความ tweet ไปเป็นส่วนหนึ่งของผลการค้นหาเว็บแบบปกติ
ล่าสุดกูเกิลได้แยกส่วนเรียลไทม์ออกมาเป็นหน้าเว็บแยกต่างหาก โดยใช้ชื่อว่า Google Realtime (หรือจะกดที่ลิงก์ Update ในแถบด้านข้างก็ได้) เราสามารถค้นข้อมูลแบบเรียลไทม์แยกตามเวลาและสถานที่ได้ ดูวิดีโอสาธิตการทำงานด้านใน
ที่มา - Google Blog
ในโลกยุค social network เมื่อมีคนยื่นใบสมัครงาน ว่าที่นายจ้างอาจดูข้อมูลของบุคคลเหล่านี้ใน Facebook เพื่อพิจารณาคุณสมบัติ (ซึ่งนายจ้าง 45% เคยตอบแบบสอบถามว่าทำแบบนี้) และสิ่งที่พบอาจเป็นภาพเมาค้างหรือข้อความหยาบคาย จนเป็นผลให้ไม่รับบุคคลนั้นๆ เข้าทำงานในที่สุด (35% ไม่รับเข้าทำงานเพราะ social network)
แต่สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไป อย่างน้อยๆ ก็ในประเทศเยอรมนี เพราะรัฐสภากำลังจะออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่านายจ้างสามารถเก็บข้อมูลของผู้สมัครงานได้จากไหนบ้าง กฎหมายฉบับนี้ห้ามเก็บข้อมูลจาก Facebook แต่ก็อนุญาตให้ใช้ LinkedIn และค้นข้อมูลจากกูเกิลได้
กฎหมายฉบับนี้ยังห้ามถ่ายวิดีโอหรือดักฟังพนักงานคุยกันในห้องน้ำหรือห้องแต่งตัว ซึ่งเคยเป็นคดีที่เกิดขึ้นในเยอรมนีมาแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้สำนักข่าว Telegraph ได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือได้เปิด Facebook ชื่อ uriminzokkiri ขึ้นมา (ซึ่งชื่อก็ใกล้เคียงกับ Twiiter ที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้) แต่ล่าสุดตามการรายงานโดย Alejandro Cao de Benos ผู้แทนพิเศษของคณะกรรมการด้านความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ (Committee for Cultural Relations with Foreign Countries) ที่ตั้งอยู่ในเกาหลีเหนือผ่าน Forbes (นิตยสารธุรกิจชั้นนำ) ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการกับเว็บไซต์เหล่านี้โดยตรงแต่ดำเนินโดยผู้สนับสนุนที่อาศัยอยู
นักร้องสาวชื่อดัง เลดี้กากา (@ladygaga) กลายมาเป็นผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่มียอดผู้ตามสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งแล้ว แซงหน้าบริตนีย์ สเปียร์ส (@britneyspears) ที่ขึ้นสู่บัลลังก์นี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทวิจัย famecount.com มองว่า เลดี้กากามีคู่แข่งสำคัญคือ จัสติน บีเบอร์ (@justinbieber) ซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ตามสูงกว่าเลดี้กากา ถ้าทั้งสองคนยังคงรักษาอัตราการเพิ่มขึ้นไว้เท่านี้ บีเบอร์จะแซงเลดี้กากาภายในเวลาหกเดือน
The Social Network ภาพยนตร์เล่าตำนาน Facebook จะออกฉายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือ The Accidental Billionaires ซึ่งนำข้อมูลมาจาก Eduardo Saverin อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook อีกคนหนึ่ง ที่รู้สึกว่าส่วนแบ่งที่เขาได้รับไม่ยุติธรรมนัก โทนเรื่องจึงออกมาแนวให้ร้าย Mark Zuckerberg อยู่บ้าง
รายงานผลการวิจัยทางการตลาดของบริษัท Harris Interactive ร่วมกับบริษัทวิจัยการตลาดในกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนโดยเฉพาะอย่าง Witeck-Combs Communications, Inc. พบว่าประชากรกลุ่มที่เป็นเกย์และเลสเบี้ยน ในสหรัฐอเมริกามีการใช้ social network มากกว่ากลุ่มคนทั่วไป การวิจัยเป็นการสำรวจผ่านอินเทอร์เน็ต มีผู้ร่วมเข้าร่วมทั้งสิ้น 2,412 คน มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ผมสรุปผลที่น่าสนใจไว้ข้างในครับ