Elon Musk ซีอีโอ Tesla รายงานตัวเลขยอดจองของรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ว่าทะลุ 2 แสนคันเรียบร้อยหลังเปิดตัวได้ 3 วัน โดยเขาได้ทวีตสั้น ๆ ว่า 200k แต่ก็เข้าใจได้ว่าหมายถึง Cybertruck เนื่องจากวันก่อนเขาประกาศตัวเลขยอดจองที่ 146,000 คัน
รถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ราคาขายเริ่มต้นที่ 39,900 ดอลลาร์ หรือราว 1.2 ล้านบาท ส่วนการจองนั้นต้องจ่ายเงินทันที 100 ดอลลาร์ รถกระบะจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปี 2021 และเริ่มส่งมอบหลังจากนั้น
Elon Musk เผยข้อมูลผ่านทวิตเตอร์ว่า รถกระบะไฟฟ้า Cybertruck มียอดจองทะลุ 146,000 คันแล้ว โดยที่เขาไม่ได้จ่ายเงินค่าโฆษณาหรือจ้างคนดังมาช่วยเชียร์เลย
เขายังให้สถิติว่าลูกค้า Cybertruck 42% เลือกรุ่นมอเตอร์คู่, 41% เลือกรุ่นสามมอเตอร์ และ 17% เลือกรุ่นมอเตอร์เดี่ยว
รถกระบะ Cybertruck รุ่นมอเตอร์เดี่ยวราคาเริ่มต้น 39,900 ดอลลาร์ (ราว 1.2 ล้านบาท), รุ่นมอเตอร์คู่ 49,900 ดอลลาร์ (1.5 ล้านบาท), รุ่นสามมอเตอร์ 69,900 ดอลลาร์ (2.1 ล้านบาท)
ส่วนการจองนั้นจ่ายเงินเพียง 100 ดอลลาร์เท่านั้น และมีสิทธิรับเงินคืนได้เต็มจำนวนถ้าเปลี่ยนใจภายหลัง จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ตัวเลขยอดจองจะล้นหลามเกินจริงไปบ้าง (ตอน Tesla Model 3 ก็แบบนี้)
เมื่อวาน Tesla เปิดตัว Cybertruck รถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซน์แปลกแหวกแนวที่ถ้าไม่ชอบก็คงเกลียดไปเลย โดยมีเรื่องฮือฮาระหว่างการเปิดตัวตอนที่ Elon Musk และ Franz von Holzhausen หัวหน้าทีมออกแบบของ Tesla ได้โชว์ว่ากระจกรถรุ่นนี้แข็งแรงขนาดไหนด้วยการขว้างลูกเหล็กหนัก 1 กิโลกรัมใส่กระจกรถ ปรากฎว่ากระจกแตก ทำเอา Elon ต้องแก้เก้อด้วยการรับปากว่าจะกลับไปปรับปรุงเพิ่มเติม
รถกระบะไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ Elon Musk เคยบอกไว้หลายปีแล้วว่าอยากผลิตขาย โดยเมื่อกลางปี 2018 เขาได้ทวีตถามว่าอยากเห็นอะไรในรถดังกล่าวบ้าง หลังจากนั้นก็ยืนยันเองช่วงปลายปี 2018 ว่า Tesla จะทำรถกระบะไฟฟ้าแน่ ต่อมาเขาก็เริ่มพูดถึงมันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ พร้อมบอกว่ามันจะมีดีไซน์ล้ำยุคอย่างกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ และไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบมัน
ล่าสุดวันนี้ Tesla ได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าแล้วในชื่อ Cybertruck เป็นการพิสูจน์ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบมันจริงๆ เพราะการออกแบบนั้นเรียกว่าไม่เหมือนใคร (และไม่แน่ใจว่าใครจะอยากมาเหมือน) โดยหลังคามาเป็นรูปสามเหลี่ยม รอบตัวรถไม่มีเส้นโค้งเลย ทุกจุดเหลี่ยมทั้งหมด
เมื่อสองวันก่อน Elon Musk ประกาศว่าจะตั้งโรงงาน Gigafactory 4 ใกล้เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี หลังบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลท้องถิ่น ล่าสุดมีข่าวว่า Tesla จะต้องถางป่าตัดต้นไม้เพื่อสร้างโรงงานด้วย
สื่อเยอรมันรายงานว่าพื้นที่ที่ Tesla จะตั้งโรงงานมีพื้นที่ขนาดใหญ่ราว 3 ตารางกิโลเมตร ใกล้สวนอุตสาหกรรม GVZ Berlin-Ost Freienbrink โดย Tesla จะต้องตัดต้นไม้บางส่วนจากป่าบริเวณนั้นออก ทำให้มีกระแสด้านลบออกมาบ้าง ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่รัฐของเยอรมนีได้ออกมาบอกว่า Tesla สัญญาจะปลูกต้นไม้คืนให้สามเท่าจากจำนวนที่ต้องตัดทิ้ง
เมื่อวานเพิ่งมีข่าวรถยนต์ Tesla Model 3 เวอร์ชันผลิตที่โรงงาน Gigafactory 3 ในจีนเตรียมเดินสายการผลิตภายในปีนี้ แต่ล่าสุด Elon Musk ได้ประกาศเดินหน้าตั้งโรงงานเพิ่มอีกแห่งแล้ว
Elon Musk กล่าวขณะรับรางวัลพวงมาลัยทองคำ หรือ Golden Steering Wheel จาก Bild หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดังจากเยอรมนีว่าจะตั้งโรงงาน Gigafactory 4 ที่ชานเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี อีกทั้งยังระบุว่าจะตั้งศูนย์ออกแบบและวิศวกรรมที่นี่ด้วย
เมื่อเดือนสิงหาคมมีข่าวความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ของ Tesla ในจีน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Gigafactory 3 ซึ่งจัดว่าคืบหน้าไปเร็วมาก และจะเริ่มเดินสายการผลิตภายในสิ้นปีนี้เลย
ล่าสุด Tesla ได้ปล่อยภาพรถยนต์รุ่น Model 3 เวอร์ชันที่ผลิตในจีนออกมาแล้วทางบัญชี Weibo ของ Tesla เอง โดยภายนอกมีความแตกต่างจากเวอร์ชันที่ขายทั่วโลกคือมีคำว่า Tesla ในภาษาจีน หรือ 特斯拉 ติดอยู่บริเวณฝากระโปรงท้ายด้านซ้าย
สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของนครนิวยอร์กคือ "แท็กซี่สีเหลือง" ที่เราคงเห็นกันบ่อยๆ ในภาพยนตร์ หรือในรูปถ่ายท้องถนนของเมืองนิวยอร์กก็มักจะมีแท็กซี่สีเหลืองอยู่ด้วยเสมอ และขณะนี้ Tesla Model 3 ก็ได้ผ่านการอนุมัติให้นำมาใช้เป็นรถแท็กซี่ได้แล้ว
คณะกรรมการรถแท็กซี่และลิมูซีนแห่งนครนิวยอร์ก (New York City Taxi and Limousine Commission - TLC) ได้รับรองให้บริษัทแท็กซี่สามารถนำ Tesla Model 3 มาให้บริการได้แล้ว โดยบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในรถยนต์ราว 40 รุ่นที่ผ่านการรับรอง และเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพียงรุ่นเดียว โดยปัจจุบันมีเพียงรถยนต์ปกติและรถยนต์ไฮบริดที่มีการใช้งาน
รถยนต์ Tesla นั้นได้รับอัพเดตซอฟท์แวร์อยู่เรื่อยๆ เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็เพิ่งปล่อยอัพเดต V10 ซึ่งเป็นอัพเดตใหญ่ เพิ่มฟีเจอร์อย่าง Smart Summon เรียกรถให้ขับมาหาจากลานจอดได้อัตโนมัติ
ล่าสุด Tesla ได้ปล่อยอัพเดตย่อย โดยตอนนี้รถ Tesla จะมองเห็นกรวยยางหรือกรวยจราจรแล้ว ทำให้เวลาผู้ขับเปิดโหมด Autopilot รถจะหลบกรวยได้เอง เช่นมีงานซ่อมถนนริมทางและเจ้าหน้าที่ได้วางกรวยเรียงไว้เพื่อบีบให้ผู้ขับขี่ออกจากเลนที่กำลังซ่อมอยู่ รถก็รู้และเปลี่ยนไปอยู่เลนอื่น
เมื่อช่วงประมาณตีหนึ่งของวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย Elon Musk ทวิตว่าจะลดราคาพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ในชุด Solar และ Powerwall เป็นเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,000 บาท) ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการตัดไฟในพื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมทั้งขออภัยที่อาจต้องเลื่อนการส่งสินค้าไปยังรัฐอื่นๆ เนื่องจากจะให้ความสำคัญกับผู้ที่อยู่ในแคลิฟอร์เนียก่อนอีกด้วย
Elon Musk บอกอีกด้วยว่าเนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ไม่ได้ทำกำไรมาก การลดครั้งนี้จึงถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงแล้วสำหรับ Tesla
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 Tesla เปิดตัวหลังคาบ้านผสานโซลาร์เซลล์ หรือ Solar Roof อย่างยิ่งใหญ่ และประกาศราคาราวกลางปี 2017 แต่ก็ติดปัญหาหลายประการเช่นการติดตั้งล่าช้า และทำตลาดในสเกลใหญ่ไม่ได้
ล่าสุด Tesla ได้เปิดตัวหลังคา Solar Roof รุ่นที่ 3 และเป็นรุ่นที่ Elon Musk ระบุว่าจะขายระดับ "ร้อยล้านหลังคาเรือน" ทั่วโลก (เสียที)
Tesla รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2019 รายได้รวม 6,303 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และพลิกกลับมามีกำไรสุทธิอีกครั้งที่ 143 ล้านดอลลาร์ จากที่สองไตรมาสก่อนหน้านี้บริษัทขาดทุน
Tesla อธิบายว่าสาเหตุที่รายได้ลดลงเนื่องจาก Model 3 มีการปรับราคาขาย อย่างไรก็ตามบริษัทโฟกัสที่การควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นจึงกลับมามีกำไร และมีกระแสเงินสดเป็นบวก นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมพร้อมรองรับการเติบโตในเฟสถัดไป จากการเปิดโรงงาน Gigafactory ที่เซี่ยงไฮ้ ที่เสร็จก่อนกำหนดและเริ่มทดสอบการผลิตแล้ว นอกจากนี้เงินลงทุนยังน้อยกว่าโรงงานที่อเมริกาถึง 65%
หลายเดือนก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ไฟไหม้รถ Tesla สองครั้งในเอเชีย โดย Tesla ก็ได้ออกอัพเดตมาครั้งหนึ่งในเดือนพฤษภาคมซึ่งระบุว่าเป็นการแก้ไขค่าบางอย่างของระบบจัดการแบตเตอรี่และควบคุมการชาร์จรวมถึงควบคุมอุณหภูมิ เพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รถ Tesla บางรายพบว่าหลังได้รับอัพเดต รถของพวกเขาก็วิ่งได้ระยะทางน้อยลง แต่ Tesla ก็ไม่ได้ระบุว่าการอัพเดตนี้มีผลกระทบต่อระยะทางหรือไม่ ทำให้ผู้ใช้รถกลุ่มนี้รวมตัวกันร้องเรียนผ่านทนายไปยังหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐอเมริกา (US National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) ให้เข้ามาช่วยสอบสวนกรณีนี้
หากยังจำกันได้ สถานการณ์ด้านการผลิตของ Tesla เมื่อปี 2017 ถึง 2018 เข้าขั้นแย่มาก อัตราการผลิตต่ำแถมยังมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพการประกอบ แต่ขณะนี้ดูเหมือนปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปแล้ว เพราะ Tesla รายงานตัวเลขล่าสุดว่าส่งมอบรถทุกรุ่นในไตรมาส 3/2019 ไปเกือบ 1 แสนคัน
Tesla ระบุว่าไตรมาส 3/2019 บริษัทได้ส่งมอบรถไปราว 97,000 คัน และผลิตไปทั้งสิ้น 96,155 คัน ถือเป็นสถิติใหม่ของบริษัท อย่างไรก็ตาม Tesla เคยตั้งเป้าไว้ว่าไตรมาสนี้จะส่งมอบได้ 1 แสนคัน ซึ่งก็พลาดเป้าไปนิดหน่อย
เมื่อไตรมาส 2/2019 Tesla ทำยอดส่งมอบไว้ที่ 95,200 คัน
ปัจจุบันหากสั่งรถ Tesla Model 3 จะได้รับรถภายใน 2-3 สัปดาห์
มีรายงานว่า Tesla ได้เข้าซื้อกิจการของสตาร์ทอัพจาก Silicon Valley ชื่อ DeepScale เพื่อมาเสริมทัพด้านการประมวลผลภาพในรถยนต์ไร้คนขับ
DeepScale เป็นสตาร์ทอัพอายุ 4 ปี ทำธุรกิจพัฒนาการใช้ deep neural network สำหรับการประมวลผลภาพ (computer vision) และข้อมูลจากเซ็นเซอร์รอบรถ ในการตีความ (interpret) และจัดกลุ่ม (classify) สิ่งต่างๆ รอบตัว หรือกล่าวสั้นๆ ได้ว่าเทคโนโลยีของบริษัทนี้จะช่วยให้รถเข้าใจสิ่งแวดล้อมรอบๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ
การจะได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ไร้คนขับ ต้องถูกจัดกลุ่มตามมาตรฐาน SAE ในระดับ 4 หรือ 5 แต่ปัจจุบันฟีเจอร์ Autopilot ของรถ Tesla ยังอยู่ในระดับ 2 เท่านั้น คือเป็นการช่วยขับแต่คนขับยังต้องมองถนนตลอดเวลา
เป็นที่ทราบกันว่ารถยนต์ Tesla นั้นสามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ได้แบบ OTA (Over-the-air) ซึ่งเป็นช่องทางที่ Tesla ใช้ปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ รวมถึงแพตช์ด้านความปลอดภัยให้รถของตนอยู่เสมอ และล่าสุด Tesla ได้เดินทางมาถึงเวอร์ชัน 10 แล้ว
ซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 10.0 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย อันที่น่าตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็น Smart Summon โดยก่อนหน้านี้รถ Tesla มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Summon มานานแล้ว เป็นการกดปุ่มบนแอพให้รถเดินหน้าหรือถอยหลังโดยที่เราไม่ต้องอยู่ในรถ ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกเวลาต้องนำรถเข้าออกช่องจอดที่แคบมากๆ
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Tesla ปล่อยภาพชิ้นส่วนเกียร์ของ Model 3 ที่ผ่านการทดสอบวิ่งมาแล้ว 1 ล้านไมล์ หรือ 1.6 ล้านกิโลเมตร และยังคงสภาพดีอยู่มากเพราะได้รับการออกแบบมาให้ทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือแบตเตอรี่ที่ Elon Musk ก็อยากให้แบตเตอรี่ 1 ชุดสามารถใช้งานได้ 1 ล้านไมล์เช่นกัน และขณะนี้ก็ดูจะใกล้ความเป็นจริงเข้ามาแล้ว
กลุ่มนักวิจัยด้านแบตเตอรี่จากมหาวิทยาลัย Dalhousie ที่เมือง Halifax ประเทศแคนาดา นำโดยนักฟิสิกส์ Jeff Dahn เคยเซ็นสัญญาพิเศษกับ Tesla ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยใหม่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่สามารถใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 1 ล้านไมล์ โดยมีความจุลดลงเพียง 10% เท่านั้น
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Tesla จัดงาน Tesla Autonomy Day และได้เปิดตัวออนบอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ในชื่อ FSD (Full Self-Driving) พร้อมระบุว่าคอมพิวเตอร์ตัวนี้จะเป็นฮาร์ดแวร์ของ Tesla ตัวแรกที่รองรับการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบในอนาคต
โมเดลการขายรถของ Tesla ที่ทำมาตั้งแต่อดีตคือเปิดให้ลูกค้าซื้อ "แพ็คเกจ" ขับอัตโนมัติ (Full Self-Driving) ไว้ก่อนได้ แม้ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้จะยังไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าวก็ตาม และคนที่ซื้อแพ็คเกจนี้ไว้จะได้รับสิทธิ์อัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ๆ ฟรี รวมถึงฟีเจอร์ขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบเมื่อใดก็ตามที่ Tesla ปล่อยออกมา โดยไม่เกี่ยงว่าจะซื้อรถมาตั้งแต่ปีไหน ผ่านมาห้าเดือน มีรายงานว่าขณะนี้มีเจ้าของรถ Tesla Model S คนแรกที่ได้รับอัพเกรดคอมพิวเตอร์ FSD แล้ว
เรียกว่าไม่ปล่อยให้ Porsche Taycan แย่งซีนไปนาน เพราะวันนี้ Tesla ได้เปิดตัวระบบขับเคลื่อนใหม่สำหรับ Model S ในชื่อ "Plaid" หรือก็คือธงลายหมากรุกที่โบกตอนรถแข่งเข้าเส้นชัย
บัญชีทวิตเตอร์ของ Tesla ระบุว่าได้นำ Model S ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อน Plaid และแชสซีรุ่นต้นแบบไปทดสอบที่สนามแข่ง Laguna Seca ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สามารถทำเวลาได้ 1:36.555 นาที ถือเป็นสถิติใหม่ของรถยนต์ซีดานสี่ประตู เอาชนะ Jaguar XE SV ที่ทำไว้ 1:37.54 นาทีเมื่อปี 2018 (ชมคลิปท้ายข่าว)
ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่กำลังขึ้นภาษีกัน ดูเหมือน Tesla ที่ไปลงทุนสร้าง Gigafactory 3 ในจีนจะไม่ได้รับผลกระทบแถมกำลังชื่นมื่นกับรัฐบาลจีน เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและไอทีเปิดเผยว่า Tesla ในจีนจะถูกยกเว้นภาษี (purchase tax) 10% ด้วย
เงื่อนไขดังกล่าวครอบคลุมทุกรุ่นที่ขายในจีน นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะเกิดจากความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Tesla จากการมาลงทุนสร้าง Gigafactory ในจีน ขณะที่ Musk มีการเข้าพบผู้นำระดับสูงของจีนหลังไปขึ้นเวที World AI Conference ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย
เมื่อสองปีก่อน Tesla เคยเปิดเผยว่ามีแผนจะขายรถพ่วงแพ็คเกจประกันภัยมาด้วย ล่าสุดโครงการนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
โครงการประกันภัยรถยนต์นี้ใช้ชื่อตรงไปตรงมาว่า Tesla Insurance โดย Tesla ระบุว่าเบี้ยประกันจะถูกกว่าเจ้าอื่นถึง 20% และในบางกรณีอาจถึง 30% ซึ่งสาเหตุที่ทำราคาได้ต่ำกว่าคู่แข่งเพราะ Tesla รู้จักรถตัวเองดีที่สุดนั่นเอง รวมถึงได้นำประโยชน์จากระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับที่มีในรถ Tesla เข้ามาคำนวณความเสี่ยงด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงการ Tesla Insurance ยังเปิดให้เฉพาะลูกค้าในรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น และจะขยายไปรัฐอื่นในอนาคต
Walmart ได้ยื่นฟ้อง Tesla ข้อหาละเมิดสัญญาและประมาทจนทำให้แผงโซลาร์บนหลังคาของร้าน Walmart ไฟไหม้
Walmart ระบุไว้ในคำร้องต่อศาลรัฐนิวยอร์กว่า Tesla ประมาทและล้มเหลวในการออกแบบ, ติดตั้ง และดำเนินการพร้อมทั้งดูแลรักษาความปลอดภัยแผงโซลาร์ที่ติดตั้งไว้บนหลังคาของร้าน Walmart โดยคำฟ้องนี้เน้นที่แผนก Tesla Energy Operations หรือที่รู้จักกันก่อนควบกิจการกับ Tesla ในชื่อ SolarCity
ทั้งนี้ Walmart ได้ขอให้ Tesla ถอดแผงโซลาร์ที่ติดตั้งไปแล้วกว่า 240 แห่ง รวมถึงชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้แผงโซลาร์ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ Walmart ได้ขอให้ Tesla ถอดระบบโซลาร์ออกแล้ว แต่ก็ยังเกิดเพลิงไหม้หลังจากนั้นอยู่ดี
Tesla ทำธุรกิจโซลาร์เซลล์มาตั้งแต่ควบรวมบริษัท SolarCity มาตั้งแต่ปี 2016 แต่จนตอนนี้ธุรกิจฝั่งโซลาร์เซลล์ก็ไม่ได้เติบโตนัก ยังกินส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสามที่ 29 เมกกะวัตต์ต่อปี ขณะที่อันดับหนึ่งอย่าง SunRun ติดตั้งถึง 103 เมกกะวัตต์ วันนี้ Elon Musk ก็ประกาศแนวทางใหม่ ให้เช่าแผงโซลาร์เซลล์แทนการซื้อขาด
ค่าเช่าแผงโซลาร์เซลล์ชุดเล็กที่สุดเริ่มต้นที่ 50 ดอลลาร์ต่อเดือน (ขึ้นกับรัฐ บางรัฐเริ่ม 65 ดอลลาร์) โดยไม่มีสัญญาขั้นต่ำแต่อย่างใด ไม่มีค่าติดตั้งแต่มีค่ารื้อถอน 1,500 ดอลลาร์เมื่อยกเลิกสัญญา
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Tesla ประกาศเริ่มก่อสร้างโรงงาน Gigafactory 3 ที่เซี่ยงไฮ้ หลังบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลจีนเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยเริ่มจากพื้นดินเปล่าๆ มาถึงวันนี้ผ่านมาเพียง 7 เดือนพอดี Tesla ได้ปล่อยภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นโรงงานทั้งโรง ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้ว
จุดขายอย่างหนึ่งของรถยนต์ Tesla ในอดีตคือการชาร์จไฟฟรีไม่อั้นที่สถานี Supercharger แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อน Tesla ประกาศยกเลิกและให้เครดิตชาร์จไฟ 400 กิโลวัตต์ชั่วโมงทดแทน แต่ล่าสุด Tesla ได้นำจุดขายนี้กลับมาใช้งานอีกครั้งแล้ว
Tesla ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ซีดาน Model S และเอสยูวี Model X คันใหม่ทุกคันจะได้รับสิทธิ์การชาร์จไฟที่สถานีชาร์จไฟฟรีแบบไม่อั้นที่เครือข่ายสถานีชาร์จไฟ Supercharger ของ Tesla โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม