Hypermiling คือวิธีการขับรถให้ได้ระยะทางมากที่สุดจากปริมาณเชื้อเพลิงเต็มถังของรถคันหนึ่งๆ ซึ่งมักจะตัดการใช้งานส่วนต่างๆ บนรถที่ไม่จำเป็นออกเพื่อประหยัดพลังงานที่สุด ซึ่งล่าสุดมีผู้ใช้ Model 3 ทดสอบ Hypermiling สามารถทำระยะทางได้ทั้งหมด 606.2 ไมล์ (975 กม.) จากการชาร์จเพียง 1 ครั้ง ซึ่งเป้าที่พวกเขาตั้งไว้คือราว 1,086 กิโลเมตร
ความเร็วที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 32-48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับวนอยู่ในเส้นทางราว 1.6 กิโลเมตร มีหยุดบ้างบางช่วงเพื่อเข้าห้องน้ำและหาอะไรกิน สรุปใช้เวลาทั้งหมดราว 32 ชั่วโมงโดยไม่เปิดแอร์ ซึ่งผู้ทดสอบทวีตบอกด้วยว่าบางช่วงอุณหภูมิในรถขึ้นไปสูงถึงราว 42 องศาด้วยซ้ำ ซึ่งการทดสอบนี้มี Live บน YouTube ด้วย
Tesla Model 3 เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 และเคยสัญญาไว้ว่าจะเป็นรถราคาจับต้องได้ เริ่มต้นที่ 35,000 ดอลลาร์ แต่ในความเป็นจริง ผู้รับรถในตอนนี้ไม่มีใครสามารถสั่งรถราคาต่ำสุดได้ บริษัทเองนอกจากติดพันกับการแก้ปัญหาสายการผลิต และยังหันไปเปิดตัวรุ่น Performance ที่ราคาสูงถึง 78,000 ดอลลาร์แทน
เมื่อมีผู้สอบถามเมื่อใดถึงจะสั่งรุ่นต่ำสุดได้ Musk ตอบว่าต้องรอ 3-6 เดือนหลังจากสามารถปรับสายการผลิตให้เข้าสู่ระดับ 5,000 คันต่อสัปดาห์ได้แล้ว โดยตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 3,500 คันต่อสัปดาห์เท่านั้น
นิตยสาร Consumer Reports ได้ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ซึ่งเป็นรุ่นต่ำสุดและตั้งเป้าเป็นรถที่คนส่วนใหญ่ซื้อไหว โดยพวกเขารายงานว่าพบปัญหาใหญ่เรื่องเบรค ทำให้ไม่สามารถแนะนำรถรุ่นนี้แก่ผู้บริโภคได้
พวกเขารายงานว่าทดสอบเบรคจากความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง (96 กม./ชม.) หลายครั้ง พบว่าครั้งหนึ่งใช้ระยะทางถึง 152 ฟุต หรือ 46.33 เมตร กว่ารถจะหยุดนิ่ง ซึ่งถือว่าแย่กว่ารถยุคนี้ที่พวกเขาเคยทดสอบมามาก และระยะเบรคประมาณนี้ก็ไกลกว่ารถกระบะ Ford F-150 ที่หนักราว 2.4 ตันอยู่เกือบ 7 ฟุต (Tesla Model 3 หนัก 1.6 ตัน)
Tesla ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟด่วนของตัวเอง หรือที่เรียกว่า Supercharger เพื่อรองรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเว็บไซต์ Electrek เคยรายงานว่าเฉพาะไตรมาสแรกของปี 2018 Tesla เปิดสถานีชาร์จเพิ่มถึง 121 สถานี นับเป็นสถิติใหม่
ล่าสุด Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ได้ทวีตตอบเจ้าของรถคนหนึ่งที่ถามว่าจะเพิ่มสถานี Supercharger มาบริเวณ Woodland Hills รัฐแคลิฟอร์เนียหรือไม่ ซึ่ง Elon ตอบว่าขณะนี้ Tesla มีสถานที่ที่จะตั้ง Supercharger ที่อยู่ระหว่างการขออนุญาตสร้างรวมถึงกำลังสร้างอยู่หลายพันแห่ง และจะอัพเดตแผนที่ค้นหาสถานีชาร์จใหม่ในไม่กี่วันข้างหน้า
ระยะหลังเราเห็นข่าวอุบัติเหตุ Tesla กันหลายครั้ง ทำให้สื่อนำไปลงข่าวกันมาก ล่าสุดมีเหตุการณ์ Tesla Model S วิ่งไปชนท้ายรถดับเพลิงที่จอดติดไฟแดงอยู่ คนขับได้รับบาดเจ็บแต่ไม่อันตรายถึงชีวิต ซึ่งคนขับระบุว่าเธอเปิดใช้งาน Autopilot และตอนก่อนชนเธอใช้โทรศัพท์มือถืออยู่
เมื่อสื่อเล่นข่าวจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็สร้างความไม่พอใจให้ Elon Musk โดยเขาทวีตว่ามันทุเรศมากที่อุบัติเหตุจากรถ Tesla ที่คนขับได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้ากลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง แต่มีคนอีกราว 40,000 คนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อื่นๆ ในสหรัฐอเมริกากลับเป็นข่าวน้อยมาก
ผู้อ่านคงเคยได้ยินคำว่า Hackathon กันมาบ้าง ส่วนมากจะเป็นการแข่งขันเขียนโปรแกรมตามโจทย์ที่ตั้งไว้และรับรางวัลกันไป ล่าสุด Elon Musk ซีอีโอ Tesla ทวีตว่าได้จัด Hackathon เพื่อแก้ปัญหาสายการผลิต Model 3 อยู่
ทวีตดังกล่าวเป็นการอ้างถึงบทความของ Ars Technica ที่บอกว่า Tesla กำลังทำผิดซ้ำรอยบริษัทรถยนต์อื่นๆ ตั้งแต่ปี 1980 เช่น GM เคยพยายามทำให้สายการผลิตเป็นแบบอัตโนมัติ เสียเงินไปมากมายและล้มเหลว ซึ่ง Elon Musk ก็บอกว่าเป็นบทความวิจารณ์ที่แฟร์ แต่พวกเขาก็กำลังแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว และตอนนี้มี Hackathon ดำเนินอยู่เพื่อแก้ 2 ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดเกี่ยวกับหุ่นยนต์ในสายการผลิต และมันกำลังไปได้สวยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ Elon ยอมรับว่าเขาผิดเองที่ใช้หุ่นยนต์มาประกอบ Tesla Model 3 มากเกินไป
ไล่เลี่ยกันกับข่าวการขอลาพักงานของรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของ Tesla ซึ่งก็มีบางคนมองว่าอาจเป็นผลจากความไม่ลงรอยกับนายใหญ่ Elon Musk เรื่องปัญหาการผลิตรถไม่ได้เร็วตามเป้าหมาย
ตอนนี้ Tesla ก็เสียเจ้าหน้าที่สำคัญไปในช่วงที่ชวนหัวหมุนอีกราย เมื่อ Matthew Schwall ผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมประสิทธิภาพภาคสนามของ Tesla (director of field performance engineering) ขอลาออกจากบริษัทไปทำงานกับ Waymo
หลังการแถลงผลประกอบการ Tesla ไตรมาส 1/2018 ท่าทีหนึ่งของ Elon Musk ที่แสดงออกมาชัดเจนคือไม่พอใจการตั้งคำถามของนักลงทุนเท่าใดนัก (บางคำถามเขาถึงกับเลือกตอบว่า "น่าเบื่อ คำถามถัดไปมาเลย")
ผลข้างเคียงจากการแสดงออกของ Musk ก็คือนักลงทุนจำนวนหนึ่งเลือกตอบโต้โดยใช้วิธีขายชอร์ตหุ้นของ Tesla (อ่านเพิ่มเติม) ถ้าอธิบายง่ายๆ คือปกตินักลงทุนจะได้กำไรเมื่อหุ้นราคาเพิ่มขึ้น แต่การขายชอร์ตจะได้กำไรเมื่อหุ้น Tesla ราคาลดลง
เมื่อต้นเดือนเมษายน มีข่าวว่า Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ไปนอนที่โรงงานเพื่อมาดูแลปัญหาการผลิต Tesla Model 3 ด้วยตัวเอง เนื่องจากมียอดการผลิตต่ำกว่าเป้ามานาน ซึ่งตอนนั้นนักข่าวของ The Information ได้เขียนบทความกล่าวหาว่า Doug Field ซึ่งเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของ Tesla นั้นคือสาเหตุของปัญหาดังกล่าว
ต่อมา Elon ก็ทวีตตอบโต้ว่า Doug เป็นผู้บริหารด้านวิศวกรรมที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในโลกคนหนึ่ง และสาเหตุที่เขาเข้ามาดูแลสายการผลิตเองก็เพราะเป็นหน้าที่ของซีอีโอที่ต้องโฟกัสกับเรื่องที่สำคัญที่สุดของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า Doug ได้หยุดพักงานที่ Tesla แล้ว โดยให้เหตุผลว่าต้องการพักผ่อนและใช้เวลากับครอบครัว ซึ่งโฆษกของ Tesla ก็ระบุว่าเขาไม่ได้ลาออกจากบริษัทแต่อย่างใด
Elon Musk เลิกกับดาราสาว Amber Heard จาก Justice League ไปแล้ว ล่าสุดก็มีข่าวเดทเงียบๆ กับ Grimes นักร้อง นักดนตรีสาวชาวแคนาดา จนกระทั่งทั้งคู่เปิดตัวว่าคบกันและควงกันมาออกงาน Met Gala งานอีเวนท์สำคัญของวงการแฟชั่น นอกจากสื่อจะสนใจการปรากฏตัวของทั้งคู่แล้ว โช้คเกอร์หรือเครื่องประดับที่คอของ Grimes เป็นโลโก้ Tesla เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย
Us Weekly รายงานว่าทั้งสองร่วมกันออกแบบโช้คเกอร์นี้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นงานแฟชั่น การแต่งกายของผู้ร่วมงานแต่ละคนย่อมได้รับความสนใจ โช้คเกอร์ของ Grimes มีขนาดใหญ่ มองเห็นแต่ไกลว่าเป็นสัญลักษณ์ Tesla บางครั้งก็มองดูเหมือนที่เหล็กตรึงคอขนาดใหญ่เช่นกัน
และนี่คือปฏิกิริยาบางส่วนต่อโช้คเกอร์ของเธอ ผู้อ่านเห็นแล้วคิดเห็นอย่างไร ก็สามารถเขียนคอมเม้นท์ทิ้งไว้ได้
Nikola Motors ผู้ผลิตและออกแบบรถบรรทุกไฮบริดยื่นฟ้อง Tesla Motors ในศาลแขวงแอริโซนาว่า Tesla Semi รถบรรทุกไฟฟ้าที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว มีดีไซน์คล้ายกับ Nikola One รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2016 โดย Nikola เรียกค่าเสียหายจาก Tesla ราว 2 พันล้านเหรียญ
Tesla ปล่อยภาพยั่วของ Tesla Semi ครั้งแรกช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว ขณะที่ Nikola อีเมลไปหา Tesla ก่อนการเปิดตัว Tesla Semi ว่าดีไซน์ของรถบรรทุกไฟฟ้านั้นมีบางส่วนที่ไปละเมิดสิทธิบัตรดีไซน์ของ Nikola พร้อมแจ้งว่าไม่ให้ Tesla เปิดตัว Semi จนกว่าประเด็นนี้จะถูกแก้ไข ทว่า Tesla ไม่เคยตอบกลับ Nikola เลย
รถบรรทุกพลังไฟฟ้า Tesla Semi ถูกเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยตอนนั้นโฆษณาไว้ว่าจะวิ่งได้ไกล 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่ล่าสุด Elon Musk คุยว่ารถเวอร์ชันขายจริงน่าจะวิ่งได้เกือบ 965 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ระหว่างช่วงถามตอบหลังการแถลงผลประกอบการบริษัท นักข่าวได้ขอให้ Elon แสดงความเห็นต่อคำพูดของ Martin Daum ผู้บริหารสูงสุดของธุรกิจรถบรรทุกบริษัท Daimler (บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz) ที่เคยกล่าวว่า "หาก Tesla ทำอย่างที่พูดได้จริง (ผลิตรถบรรทุกที่วิ่งได้ 800 กิโลเมตรแม้บรรทุกเต็มพิกัด) พวกเราก็จะซื้อมา 2 คัน คันแรกเอามาแยกส่วน อีกคันเอามาวิ่งทดสอบ เพราะถ้ามันจริง ก็คงมีอะไรแซงเราไปแล้วแหละ แต่สำหรับตอนนี้ กฎของฟิสิกส์ที่เยอรมนีกับที่แคลิฟอร์เนียยังเหมือนกันอยู่นะ"
เมื่อวาน Tesla ได้แถลงผลประกอบการของบริษัทประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2018 ผ่านการประชุมทางโทรศัพท์ โดยนอกเหนือจากเรื่องการเงินแล้ว Elon Musk ยังได้พูดถึงรถยนต์รุ่นถัดไปอย่าง Tesla Model Y ด้วย
เขาระบุว่า Tesla ไม่มีแผนจะผลิต Model Y ที่โรงงานในเมือง Fremont ซึ่งเป็นโรงงานที่ใช้อยู่ปัจจุบัน และจะประกาศสถานที่ตั้งโรงงานใหม่ให้ทราบภายหลังภายในสิ้นปีนี้ ต่อมาเขากล่าวว่า Model Y จะเป็นการ "ปฏิวัติวงการการผลิต" (manufacturing revolution) เลยทีเดียว พร้อมยืนยันว่าบริษัทเริ่มลงทุนกับ Model Y แล้ว แต่ตอนนี้งบประมาณที่มีให้รถรุ่นนี้ยังต่ำอยู่ และจะไม่เพิ่มจนกว่าจะถึงปีหน้า
Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสแรก ประจำปี 2018 มีรายได้รวม 3,408.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 709.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนมากที่สุดในไตรมาสเดียว
ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น Tesla อธิบายว่าหากบริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามแผน Tesla จะมีกำไรสุทธิเป็นบวกได้ในไตรมาสที่ 3-4 ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวชี้วัด คือความสามารถในการผลิตและส่งมอบรถยนต์ Model 3
กำลังการผลิต Model 3 นั้น Tesla บอกว่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญช่วงครึ่งหลังของไตรมาสที่ 1 ต่อเนื่องจนถึงต้นไตรมาสที่ 2 โดยก่อนจะมีการหยุดการผลิตเพื่อขยายช่วงกลางเดือนเมษายน Model 3 สามารถผลิตได้ถึง 2,270 ในสัปดาห์สุดท้าย
SAE International ได้จำแนกระดับของการขับอัตโนมัติในรถยนต์ไว้ 6 ระดับ เริ่มที่ระดับ 0 คือรถยนต์ทั่วไป ไม่มีระบบช่วยเหลือใดๆ และระดับ 5 คือขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ที่ขับได้ทุกสถานการณ์แบบเดียวกับที่มนุษย์ขับได้
ระบบ Autopilot ของ Tesla ถูกจัดให้อยู่ในระดับ 2 คือ "อัตโนมัติบางส่วน" รถสามารถเลี้ยวเองได้, เร่งและเบรกเองได้ แต่ผู้ขับยังต้องตื่นตัวและพร้อมควบคุมรถตลอดเวลา ซึ่ง Tesla ก็ขึ้นข้อความเตือนผู้ใช้รถเสมอว่าให้จับพวงมาลัยตลอดเวลาที่ใช้ Autopilot แต่เราก็เห็นคนทำผิดกันอยู่เรื่อยๆ
ล่าสุดมีชายชาวอังกฤษถูกจับและต้องโทษแบนไม่ให้ขับรถเป็นเวลานานถึง 18 เดือน เพราะมีคนถ่ายคลิปเขานั่งอยู่ในรถ Tesla Model S 60 ในเบาะข้างคนขับ แต่กลับไม่มีคนขับนั่งอยู่
เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา มีชายคนนึงขับรถ Tesla Model S บนถนน M1 ในอังกฤษ เปิดใช้งานระบบ Autopilot แล้วทำการย้ายไปนั่งที่ฝั่งผู้โดยสาร โดยพฤติกรรมดังกล่าวถูกถ่ายไว้ได้จากผู้โดยสารรถคันหนึ่งที่ขับอยู่บนถนน M1 เช่นเดียวกัน (ดูได้จากแหล่งที่มา)
ปัจจุบัน Elon Musk ดำรงตำแหน่งใน Tesla ควบทั้งซีอีโอ และประธานบอร์ดบริหาร (Chairman) ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ช่วงแรกของบริษัทในปี 2004 ล่าสุดมีผู้ถือหุ้นคนหนึ่งได้เสนอให้ถอดเขาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดแล้ว
ผู้เสนอไอเดียดังกล่าวชื่อ Jing Zhao มีหุ้นอยู่ใน Tesla 12 หุ้น ได้ร่างข้อเสนอถอด Elon Musk ออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดโดยให้เหตุผลว่าการที่คนคนเดียวควบสองตำแหน่งอาจดีกับบริษัทในระยะแรก แต่ตอนนี้ Tesla กำลังเติบโตขึ้นและควรหาผู้บริหารที่เป็นคนนอก (independent director) มาดำรงตำแหน่งแทน และยกตัวอย่างบริษัทใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริการวมถึงสหราชอาณาจักรหลายแห่งก็ใช้วิธีการนี้
เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เป็นวัน Earth Day หน่วยงานต่างๆ ก็ออกมารณรงค์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากมาย (กระแสช่วงนี้ก็อยากให้ลดการใช้หลอดพลาสติก) ด้าน Tesla ก็ไม่พลาดที่จะร่วมแจมกระแสรักโลกด้วยโดยการปล่อยสถิติต่างๆ ออกมา โดยมีกิมมิคเล็กๆ ล้อกับนิยายชื่อดัง The Lord of the Rings ซึ่งเป็นหนังสือชุดโปรดของ Elon Musk
Tesla ปล่อยรูปออกมาบนบัญชีอินสตาแกรมของบริษัท เขียนแคปชันว่า "(Middle) Earth Day" รูปแรกบอกว่าทั่วโลกขับรถ Tesla ไปแล้ว 7.2 พันล้านไมล์ (ราว 1.15 หมื่นล้านกิโลเมตร) เทียบได้กับการเดินทางจาก Bag End (บ้านของ Bilbo Baggins) ไป Mount Doom ที่ Frodo มีภารกิจนำแหวนไปทำลาย ถึง 5,390,117 เที่ยว
อย่างที่ทราบกันว่า Tesla เจอกับปัญหาการผลิต Model 3 มาตลอดนับตั้งแต่เริ่ม ซึ่ง Model 3 ก็เป็นหนึ่งในสายการผลิตที่ใช้หุ่นยนต์มากที่สุดก่อนที่ Elon Musk ออกมายอมรับว่าปัญหาหนึ่งก็เกิดจากการใช้หุ่นยนต์มากไปและตัวเขาผิดเอง
อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดกับ Tesla เมื่อนำไปถามนักวิเคราะห์หรือผู้ที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐ พวกเขากลับมองว่าเป็นเรื่องปกติและ Elon Musk ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะในอุตสาหกรรมนี้
Tesla เจองานงอกมาอีกเรื่อง ไม่เพียงจะประสบปัญหาเรื่องกำลังการผลิตรถที่ยังคงไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ ไหนจะข่าวเกี่ยวพันกับอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตใน California มาครั้งนี้มีรายงานจากองค์กรชื่อ "Reveal News" เผยแพร่ออกมาระบุว่าโรงงานของ Tesla มีปัญหาเรื่องความหย่อนยานด้านมาตรการความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
เนื้อหาในรายงานอ้างว่าเป็นการสรุปข้อมูลที่ได้จากการพูดคุยกับพนักงานและอดีตลูกจ้างของ Tesla ราว 40 คน ร่วมกับข้อมูลจากเอกสารอีกหลายร้อยหน้า โดยระบุว่า Tesla ละเลยไม่รายงานข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดการบาดเจ็บรุนแรงหลายครั้ง ทำให้สถิติด้านความปลอดภัยในการทำงานของบริษัทออกมาดูดีกว่าความเป็นจริง
Elon Musk ซีอีโอ Tesla ได้อีเมลถึงพนักงานทุกคน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาต้องการให้บริษัทเดินหน้าต่อไปอย่างไร หลังจากเกิดปัญหาจนต้องหยุดพักการผลิต Model 3
ในอีเมลนั้น Musk บอกว่าผู้คนภายนอกต่างวิจารณ์ Tesla อย่างหนักว่านี่ไม่ใช่การทำธุรกิจที่แท้จริง เพราะบริษัทไม่เคยมีกำไร ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าเพราะบริษัทยังไม่ถึงจุดที่คุ้มทุนมากพอในการผลิต (Economy of Scale) แต่ตอนนี้ Tesla มาถึงจุดที่สามารถทำกำไรได้แล้ว
Tesla ประกาศพักการผลิต Model 3 ในโรงงานเมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นเวลา 4-5 วัน เพื่อแก้ปัญหาคอขวดต่างๆ ของการผลิต ซึ่ง Tesla ระบุว่าการพักครั้งนี้อยู่ในแผนการผลิตอยู่แล้ว ทั้งโรงงาน Gigafactory และที่ Fremont โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าการผลิต
โฆษก Tesla ระบุว่าการพักการผลิตเป็นเรื่องปกติในกระบวนการผลิตของบริษัท อย่างการพักการผลิตรอบล่าสุดคือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงหุ่นยนต์และแก้ปัญหาคอขวดในสายการผลิต
หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้านอกจากความทั่วถึงของสถานีชาร์จ ก็เห็นจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ที่ทราบกันดีว่ายังไงก็ต้องเสื่อมลงตามการใช้งาน แต่จากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่ของรถ Tesla นั้นเสื่อมน้อยมาก
กลุ่มผู้ใช้รถ Tesla ในแถบประเทศเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ได้รวบรวมข้อมูลจากรถ Tesla Model S และ X กว่า 350 คันทั่วโลกและทำแผนภาพกระจาย (scatter plot) ออกมา แสดงให้เห็นว่าในการใช้งาน 50,000 กิโลเมตรแรก แบตเตอรี่ส่วนใหญ่เสื่อมไปราว 5% จากความจุเดิม แต่หลังจากนั้นกลับเสื่อมช้าลง คือเสื่อมไปเพียงเกือบ 10% หลังวิ่งไปมากกว่า 250,000 กิโลเมตร
ในขณะที่สถานการณ์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ผลิตอยู่ที่ 2,000 กว่าคันต่อสัปดาห์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าปัญหาที่ผลิตได้ต่ำกว่าเป้าไปมากเกิดจากซัพพลายเออร์ แต่ล่าสุดก็มีรายงานออกมาว่าหนึ่งในสาเหตุคือ Tesla ใช้หุ่นยนต์ช่วยประกอบรถมากเกินไป
รายการ CBS This Morning ได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานและสายการผลิต Tesla Model 3 โดยมี Elon Musk พาเดินพร้อมตอบคำถามหลายเรื่องและนี่เป็นครั้งแรกที่ Tesla อนุญาตให้มีการถ่ายทำสายการผลิตรถรุ่นนี้ด้วย
Tesla ยุติ "ข้อตกลงความร่วมมือ" กับ NTSB คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐฯ ในการสืบสวนอุบัติเหตุที่รถ Tesla X พุ่งชนกำแพงคอนกรีตก่อนจะโดนรถที่วิ่งตามชนซ้ำและเกิดการลุกไหม้ ซึ่งมีผลให้คนขับ Tesla X เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ Tesla ยังออกรายงานที่เน้นย้ำอีกครั้งว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนขับไม่ได้ใส่ใจเพียงพอ
ความไม่ลงรอยระหว่าง Tesla และ NTSB ในระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้มาจากการที่ Tesla ออกรายงานผลการสืบสวนจากฝั่งของตนออกมา ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับ NTSB ที่ไม่คิดว่าการเปิดเผยรายละเอียดการสืบสวนสู่สาธารณชนเป็นเรื่องเหมาะสม