ในที่สุด Tesla ก็เปิดตัวรถยนต์ SUV ขนาดเล็กที่มีข่าวมานานอย่าง Model Y โดยหน้าตาก็เป็นไปตามคาดคือเป็นการเอา Model 3 มาขยายตัวถัง และทำให้สูงขึ้น แบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ดังนี้
Performance เป็นรุ่นท็อปสุด เร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 3.5 วินาที มาพร้อมมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทาง 450 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาเริ่มต้น 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านบาท (ยังไม่รวมส่วนลดจากรัฐ
Tesla ประกาศแต่งตั้ง Zachary Kirkhorn ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินหรือซีเอฟโอคนใหม่ ต่อจาก Deepak Ahuja ซึ่งจะเกษียณและไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสแทน
Kirkhorn ร่วมงานกับ Tesla มาตั้งแต่ปี 2010 โดยมีตำแหน่งก่อนหน้านี้คือรองประธานฝ่ายการเงิน, ฝ่ายวางแผนการเงิน และการดำเนินงานธุรกิจ
ฝ่ายการเงินถือเป็นส่วนที่ท้าทายของ Tesla เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงปรับแผนธุรกิจเพื่อควบคุมต้นทุน นอกจากนี้ Tesla ยังแต่งตั้ง Vaibhav Taneja เพื่อดูแลด้านบัญชีของทั้ง Tesla และบริษัท SolarCity อีกด้วย
ที่มา: TechCrunch
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว Tesla ประกาศว่าจะปิดโชว์รูมเกือบทั้งหมด แล้วมาขายรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ประสาบริษัทคิดไวทำไว Tesla ก็ออกแถลงการณ์ใหม่ว่าได้ตัดสินใจใหม่ในเรื่องนี้แล้ว
โดย Tesla จะเปลี่ยนมาปิดสาขาโชว์รูมประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมดจากเดิมที่บอกปิดเกือบทั้งหมด พิจารณาพบว่า 10% ของสาขามียอดขายที่ต่ำจึงต้องปิดเพื่อควบคุมต้นทุน แต่หากสาขานั้นอยู่ในพื้นที่โดดเด่นมีคนมองเห็นเยอะ แต่ก็จะลดขนาดสาขาลง ใช้พนักงานน้อยลง นอกจากนี้ยังมีสาขาอีกประมาณ 20% ที่กำลังประเมินยอดขายจากลูกค้าวอล์กอินว่าจะปิดหรือไม่ เท่ากับ Tesla จะยังเปิดโชว์รูมอยู่เป็นจำนวนที่มากกว่าที่เคยบอกก่อนหน้านี้
วันนี้ Tesla ได้จัดงานที่สำนักงานใหญ่ ณ เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นการเปิดตัวสถานีชาร์จ Supercharger V3 หรือรุ่นที่ 3 ซึ่งมีกำลังไฟสูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาทีก็วิ่งต่อได้อีก 75 ไมล์ หรือราว 120 กิโลเมตร
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริการสาธารณะประจำรัฐนิวยอร์ก (New York Public Service Commission – NYPSC) ได้ออกคำสั่งว่าจะคิดค่าไฟในราคาต่ำกว่าปกติแก่สถานีชาร์จสาธารณะแบบชาร์จเร็วกระแสตรง (Direct Current Fast Charging – DCFC) ที่ติดตั้งหัวชาร์จมาตรฐาน Combined Charging System (CCS) และ CHAdeMo ซึ่งเป็นหัวชาร์จที่ใช้กันแพร่หลาย โดยหัวชาร์จ CCS นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจากฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป และหัวชาร์จ CHAdeMo นิยมใช้ในรถยนต์จากญี่ปุ่น
สืบเนื่องจากโพสต์ทวิตเตอร์ของ Elon Musk ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัว Model Y ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ มีคนเข้าไปถามต่อ (หรือหลอกถาม?) ว่า Model Y จะเป็นรถกระบะใช่ไม๊ หลังจากที่ Musk เคยออกมาบอกว่าบริษัทจะทำรถกระบะ ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธ พร้อมบอกว่ารถกระบะจะถูกเปิดตัวภายในปีนี้ (later this year)
ก่อนหน้านี้ Musk ก็เคยบอกว่ารถกระบะของ Tesla จะเป็นรถกระบะแห่งอนาคต เหมือนหลุดมาจาก Blade Runner และใน thread ข้างต้น เจ้าตัวก็แย้มอีกเล็กน้อยด้วยว่า เขาตื่นเต้นกับรถกระบะมาก หลายคนอาจมองว่ามันดูล้ำเกิน (too futuristic) แต่เขารักมันเลยหละ
Elon Musk ซีอีโอ Tesla ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ Model Y ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ที่สตูดิโอออกแบบของบริษัทในลอสแอนเจลิส
Model Y จะเป็นรถยนต์แบบ SUV มีขนาดใหญ่กว่า Model 3 ประมาณ 10% จึงมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น 10% แต่ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ Model 3 ถึง 75% จึงสามารถควบคุมต้นทุนรวมได้ดี ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในงานครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ Tesla เปิดเผยกรอบเวลาของ Model Y ว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปี 2020 และคาดว่าจะเริ่มกระบวนการได้รวดเร็วกว่าสมัย Model 3 เนื่องจากแก้ปัญหาการผลิตไปหลายอย่างแล้ว
นอกจากนี้ Musk ยังบอกว่า Supercharger เวอร์ชันที่ 3 จะมีการเปิดตัวในสัปดาห์นี้ด้วย
สืบเนื่องจากกรณีที่ Tesla ตัดสินใจปิดโชว์รูมทั้งหมดและขายผ่านออนไลน์อย่างเดียวเพื่อลดต้นทุนและจะต้องมีการเลย์ออฟหรือจ้างพนักงานออกบางส่วน ล่าสุดดูเหมือนแผนการของ Tesla อาจแยบยลและใช้เงินน้อยกว่าที่คิด
Electrek อ้างอิงข้อมูลจากพนักงานฝ่ายขายปลีกของ Tesla ที่ระบุว่าบริษัทยกเลิกโบนัสของพนักงานฝ่ายขายทั้งหมด เพื่อบีบให้พวกเขาลาออกแทนที่จะต้องจ้างออก เพื่อประหยัดเงินลงไป ด้าน Tesla ปฏิเสธจะแสดงความเห็นในกรณีนี้
ที่มา - Electrek
ในงานเปิดตัว Tesla Model 3 เมื่อเกือบสามปีก่อน Elon Musk ระบุว่ารถรุ่นนี้จะมีราคาขายเริ่มต้นที่เพียงคันละ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.104 ล้านบาทเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถขายรถในราคานั้นได้เสียทีเนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทยังไม่สู้ดีนัก และหากดึงดันขายในราคานั้นจะทำให้บริษัทขาดทุนจนเจ๊งได้
วันนี้นอกจาก Tesla จะประกาศข่าวดีเรื่อง Model 3 แล้ว Tesla ยังประกาศว่าจะปิดโชว์รูมเกือบทุกแห่งด้วย เหลือไว้เพียงไม่กี่แห่งที่คนเยอะจริงๆ ที่จะยังเปิดต่อไปในฐานะ gallery และ ศูนย์ให้ข้อมูล เท่านั้น
คนที่ซื้อรถ Tesla แบบออนไลน์ จะมีเวลาถึง 1 สัปดาห์ที่จะคืนรถแบบได้เงินคืนทั้งหมด ดังนั้นการ Test drive จึงไม่จำเป็น เพราะหากซื้อมาลองแล้วไม่ชอบ ก็แค่เอาไปคืนเท่านั้นเอง
แน่นอนกว่าการปิดโชว์รูมเกือบทั้งหมด ต้องมีการจ้างพนักงานออก แต่ Elon Musk เองยังไม่ได้บอกว่าจะจ้างออกกี่คน โดยเขาบอกแค่ว่า "มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก แต่ผมเชื่อว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว สำหรับอนาคตของ Tesla"
เรียกได้ว่าเป็นคู่ไม้เบื่อไม้เมาก็ว่าได้สำหรับ SEC หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ กับ Elon Musk โดยเฉพาะหลังเกิดการฟ้องร้องว่า Musk ทวีตเพื่อปั่นราคาหุ้น ก่อนที่ซีอีโอ Tesla จะยอมความและยอมรับข้อตกลงให้มีการตรวจสอบทวีตที่อาจชี้นำตลาดและส่งผลต่อราคาหุ้นก่อนทุกครั้ง
ล่าสุด SEC ส่งหนังสือถึง Elon Musk ถามว่าที่เจ้าตัวทวีตเรื่องจำนวนรถยนต์ที่จะผลิตได้ในปีนี้ เมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมานั้นได้รับการรับรองก่อนหรือยัง ก่อนที่ทนายของ Tesla จะยอมรับว่าทวีตดังกล่าวไม่ได้ผ่านการตรวจสอบก่อน เพราะไม่ใช่ข้อมูลที่มีผลต่อตลาด แต่ Musk แค่เน้นย้ำข้อมูลที่ Tesla เคยเปิดเผยมาแล้วเท่านั้น
รายการข่าว 60 Minutes ของอเมริกา ได้ทำสกู๊ปเกี่ยวกับ Nio บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ มูลค่ากิจการกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ของจีน ซึ่งเนื้อหาตอนหนึ่งกล่าวถึงการที่ Tesla เปิดโรงงานขนาดยักษ์ (gigafactory) ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อผลิต Tesla เน้นขายในจีน โดยเป็นการพูดคุยกับ William Li ซีอีโอของ Nio
Electrek รายงานว่าได้รับอีเมลที่ Tesla Motors ส่งให้พนักงานภายในระบุว่าบริษัทเตรียมจะให้บริการซื้อผ่อน (leasing) Model 3 ด้วยเหตุผลหวังเพิ่มยอดให้กับรถยนต์รุ่นดังกล่าว
ด้าน Tesla Motors ยืนยันข้อมูลในอีเมล โดยระบุว่าจดหมายภายในเป็นการแจ้งเตือนให้พนักงานเตรียมตัว โดยวันที่จะเริ่มให้บริการซื้อผ่อนยังไม่มีกำหนด ถึงแม้ว่าในอีเมลจะระบุว่าภายใน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ก็ตาม
ในการประชุมผู้ถือหุ้นรอบล่าสุด Musk ยอบรับว่าบริษัทลังเลที่จะปล่อยบริการซื้อผ่อน Model 3 มานาน เพราะถึงแม้จะช่วยเพิ่มดีมานด์ให้กับ Model 3 แต่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ GAAP ของบริษัท
ที่มา - Electrek
Tesla ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ให้กับรถยนต์ Model 3 และ Model S กับ Model X ที่ผลิตหลังสิงหาคม 2017 มีผลเฉพาะในอเมริกา โดยเพิ่ม 2 ฟีเจอร์ใหม่ ตัวแรกคือ Dog mode เมื่อเจ้าของรถจอดรถ และจำเป็นต้องออกธุระ แต่ในรถมีสัตว์เลี้ยงอย่างเช่นสุนัขอยู่ด้วย การทิ้งน้องหมาไว้ในรถนาน ๆ อาจไม่ดีนัก Dog mode จะช่วยปรับอุณหภูมิในรถให้มีความเหมาะสม กรณีรถยนต์มีระดับแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% จะมีการส่งแจ้งเตือนไปยังแอปมือถือของเจ้าของรถ
ฟีเจอร์นี้เริ่มต้นจากลูกค้า Tesla คนหนึ่งทวีตหา Elon Musk เมื่อปลายปีที่แล้ว และเขาก็ตอบรับที่จะทำให้
Tesla ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Maxwell Technologies ด้วยมูลค่า 218 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันของ Maxwell 55% โดย Tesla บอกว่าบริษัทจะเน้นซื้อกิจการที่สนับสนุนธุรกิจและช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะด้านแผนการจัดการพลังงานที่ยั่งยืน
Maxwell เป็นผู้พัฒนาตัวเก็บประจุแบบ Ultracapacitor ซึ่ง Elon Musk ซีอีโอ Tesla เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาสนใจใช้เทคโนโลยีนี้ มากกว่าการใช้แบตเตอรี่แบบดั้งเดิมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคตเราจึงน่าจะเห็นรถยนต์ Tesla ใช้ Ultracapacitor เป็นตัวเก็บพลังงาน
ความสนใจของ Musk ในเรื่อง Ultracapacitor นี้ สูงมากจนเขาเคยเกือบจะสมัครทำวิจัยหัวข้อนี้ในระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย Stanford เองเลย
Tesla รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 7,226 ล้านดอลลาร์ และยังคงมีกำไรสุทธิ 139.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Tesla บอกว่าปัจจัยสำคัญคือ Model 3 ที่สามารถเริ่มผลิตได้ในจำนวนที่สูงตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว จำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบมากกว่า 140,000 คัน ยังทำให้ Model 3 กลายเป็นรถยนต์กลุ่มพรีเมี่ยม ที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกาของปี 2018 ด้วย
รายได้ที่เพิ่มขึ้นยังทำให้สถานะทางการเงิน Tesla ดีขึ้นด้วย โดยมีเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิอีก 718 ล้านดอลลาร์ แม้ในไตรมาสที่ผ่านมาต้องจ่ายคืนหุ้นกู้ไปถึง 230 ล้านดอลลาร์
หลังปล่อยภาพสเก๊ตและปล่อยข้อมูลคร่าวๆ เรื่อง Model Y รถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นราคาประหยัดกว่า Model X มาหลายปี รวมถึงมีข่าวลือว่าจะผลิตปลายปีนี้
ล่าสุด Tesla ยืนยันกรอบเวลาการผลิตของรถ SUV รุ่นใหม่นี้ในรายงานผู้ถือหุ้นว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปี 2020 นี้ โดย Musk ระบุด้วยว่าน่าจะผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในรัฐเนวาด้า และคาดว่ายอดขายของ Model Y น่าจะสูงกว่า Model 3 ด้วย
เว็บไซต์ Electrek รายงานว่าตอนนี้ Tesla เริ่มขึ้นราคาของสถานีชาร์จไฟ Supercharger แล้ว โดยมีผลทั่วโลก ซึ่งเป็นเวลาไม่นานนักหลังจากที่ Tesla เพิ่งปลดคนงานครั้งใหญ่ 7% เพื่อควบคุมต้นทุน
จากข้อมูลของ Electrek ระบุว่า การขึ้นราคาของ Tesla นี้มีผลทั่วโลก โดยบริษัทมีการปรับโครงสร้างการคิดราคาของสถานีชาร์จไฟใหม่ จากเดิมที่จะคิดราคาตามรัฐหรือประเทศ มาเป็นการคิดราคาแยกตามสถานีโดยคำนวณจากค่าไฟและความต้องการใช้งานในบริเวณนั้นแทน ซึ่งทำให้ราคาค่าชาร์จไฟบางสถานีสูงขึ้นมาก ซึ่ง Electrek รายงานว่าจากการเก็บผลสำรวจของทางเว็บไซต์ พบว่าค่าชาร์จไฟเพิ่มขึ้นราว 33%
งานแข่งขันแฮก Pwn2Own ปกติแล้วมักเป็นการแข่งซอฟต์แวร์เช่น เบราว์เซอร์หรือระบบ virtualization ที่มีบริษัทสปอนเซอร์เงินรางวัลให้ แต่ปีนี้ Tesla ก็เข้าเป็นสปอนเซอร์งานด้วย โดยเสนอรางวัลให้การแฮกรถ Tesla Model 3 รางวัลระหว่าง 35,000 ถึง 300,000 ดอลลาร์ ขึ้นกับเงื่อนไข เช่น การยิงจนระบบ Autopilot หยุดทำงานมีรางวัล 50,000 ดอลลาร์ ส่วนการปลดล็อกรถแทนกุญแจมีรางวัล 100,000 ดอลลาร์ การแฮกใดๆ ที่เจาะเครือข่าย CAN ที่เชื่อมต่อระหว่างคอนโทรลเลอร์ในรถได้ จะได้เงินเพิ่มอีก 100,000 ดอลลาร์ และหากสามารถฝังการแฮกให้อยู่ในคอมพิวเตอร์ได้แม้บูตเครื่องใหม่ จะได้อีก 50,000 ดอลลาร์
รางวัลพิเศษคือผู้ที่แฮก Tesla Model 3 ได้ตามเงื่อนไขคนแรกจะได้รับรถกลับบ้านไปอีกคัน
Elon Musk ออกประกาศทาง Twitter ว่า Tesla จะหยุดรับออร์เดอร์รถยนต์ขนาดแบตเตอรี่ 75kWh สำหรับทั้ง Model S และ Model X ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุดของรถทั้งสองโมเดลตั้งแต่วันจันทร์หน้าเป็นต้นไป ดังนั้นถ้าผู้ใช้จะสั่งรถยนต์สองรุ่นนี้จะต้องสั่งภายในวันอาทิตย์นี้เท่านั้น
การยกเลิกโมเดลรถยนต์ของ Tesla ครั้งนี้น่าจะเป็นการลดความซับซ้อนของการสั่งรถเช่นเดียวกับ Model S 60 ที่เพิ่งจะยกเลิกไปก่อนหน้านี้
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว Tesla ประกาศตั้งโรงงาน Gigafactory 3 ในประเทศจีน ล่าสุด Elon Musk ได้ทวีตว่าจะทำพิธีเปิดหน้าดิน หรือ groundbreaking ceremony วันนี้ ซึ่งเขาเดินทางไปร่วมพิธีด้วยตนเอง ถือเป็นการเริ่มการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ
ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Tesla ก็ระบุว่าได้ที่ดินขนาด 210 เอเคอร์หรือราว 849,840 ตารางเมตรที่เซี่ยงไฮ้สำหรับก่อสร้างโรงงาน ต่อมาในเดือนธันวาคมนายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยงไฮ้ก็ระบุว่า Tesla ได้ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้วและพร้อมสำหรับการก่อสร้าง
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและการส่งมอบรถยนต์ของไตรมาสที่ 4/2018 โดยผลิตรถยนต์รวมทุกรุ่นได้ 86,555 คัน เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 3/2018 แบ่งเป็น Model 3 61,394 คัน เพิ่มขึ้น 15% และ 25,161 คัน สำหรับ Model S และ X ซึ่งแม้จะลดลง แต่ Tesla บอกว่ายังเป็นไปตามเป้าหมาย 1 แสนคัน
จำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบอยู่ที่ 90,700 คัน เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 3/2018 แบ่งเป็น Model 3 63,150 คัน, Model S 13,500 คัน และ Model X 14,050 คัน ทำให้ตัวเลขส่งมอบรถยนต์รวมของปี 2018 เป็น 245,240 คัน โดยเป็น Model 3 145,846 คัน และ 99,394 สำหรับ Model S และ X
ปัญหาใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าคือสถานีชาร์จน้อยและใช้เวลาชาร์จนาน ซึ่ง Tesla ก็พยายามขยายสถานีชาร์จ Supercharger ของตัวเองอยู่ตลอด โดยล่าสุดได้สรุปตัวเลขของปี 2018 ออกมา
Tesla ระบุว่าตลอดปี 2018 บริษัทฯ ได้เพิ่มสถานีชาร์จไฟไปทั้งสิ้น 3,100 จุดทั่วโลก (ที่ Tesla ทำตลาดอย่างเป็นทางการ) โดยขณะนี้สถานีชาร์จครอบคลุม 99% ของประชากรสหรัฐอเมริกาแล้ว รวมถึงครอบคลุม 97% ของประชากรในทวีปยุโรป เรียกว่าถ้าอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปก็แทบจะไม่มีปัญหาเรื่องหาสถานีชาร์จแล้ว
Tesla ประกาศแต่งตั้งกรรมการอิสระเพิ่มอีก 2 รายคือ Larry Ellison ผู้ก่อตั้ง Oracle และ Kathleen Wilson-Thompson หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของบริษัทร้านขายยา Walgreens Boots Alliance
การแต่งตั้งกรรมการครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่ Tesla ยอมความกับ SEC (ก.ล.ต.สหรัฐ) หลังกรณี Elon Musk ทวีตข้อความเรื่องการเอาบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์
Apple จ้าง Andrew Kim อดีตดีไซเนอร์ที่มีประสบการณ์ในการช่วยออกแบบ UI ของ Windows 10, HoloLens และ Xbox One S และ Tesla โดย Kim ระบุใน LinkedIn ว่าเขาได้ช่วยออกแบบ Tesla Model 3, S, X และ Y ด้วย
สำหรับหน้าที่ใหม่ของ Andrew Kim ใน Apple ยังไม่แน่ชัดว่าเน้นออกแบบอะไร แต่ The Verge ก็คาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ว่า Apple อาจกำลังพยายามสร้างรถยนต์ จากที่ก่อนหน้านี้ Doug Field วิศวรกรรถยนต์ย้ายจาก Tesla กลับไปยัง Apple