Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและการส่งมอบรถ ของไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ผลิตรถยนต์ได้ 494,989 คัน (เป็น Model 3/Y 476,777 คัน) และส่งมอบรถยนต์ 484,507 คัน (เป็น Model 3/Y 461,538 คัน)
ตัวเลขรวมตลอดปี 2023 Tesla ผลิตรถยนต์ได้ 1,845,985 คัน และส่งมอบรถยนต์ได้ 1,808,581 คัน ทำได้ตามเป้าหมายที่บริษัทประกาศก่อนหน้านี้ที่ 1.8 ล้านคัน ส่วนจำนวนที่รายงาน เมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2022 ผลิตรถยนต์ 1,369,611 คัน (เพิ่มขึ้น 35%) และส่งมอบรถยนต์ 1,313,851 คัน (เพิ่มขึ้น 38%)
Tesla ประกาศราคาขายรถกระบะ Cybertruck ที่รอคอยกันมายาวนาน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 60,990 ดอลลาร์ (2.15 ล้านบาท) ไปจนรุ่นท็อปสุดที่ราคา 99,990 ดอลลาร์ (3.5 ล้านบาท)
Cybertruck รุ่นล่างสุด 60,990 ดอลลาร์ เป็นแบบมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลังอย่างเดียว มีระยะวิ่งได้ราว 250 ไมล์ (400 กิโลเมตร) แต่ถ้าอยากได้รุ่นนี้ต้องรอรุ่นปี 2025 ที่จะตามมาในภายหลัง
ส่วนรุ่นกลางที่ขยับขึ้นมาอีกหน่อย ราคา 79,990 ดอลลาร์ (2.8 ล้านบาท) เป็นแบบมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (all-wheel driver) ที่ออกมาชนกับ Rivian R1S มีระยะวิ่ง 340 ไมล์ (550 กิโลเมตร) กำลัง 600 แรงม้า
Elon Musk ประกาศว่า Tesla เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของรถสปอร์ต Tesla Roadster ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของบริษัทที่วางขายระหว่างปี 2008-2012 ขึ้นบนเว็บไซต์ Tesla Roadster
การเปิดข้อมูลรอบนี้เป็นการเปิดเผยเอกสารการออกแบบตัวรถทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถบบไฟฟ้า ระบบทำความร้อน-แอร์ ระบบขับเคลื่อน รวมถึงแผนผังวงจรต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่ารู้ข้อมูลเหล่านี้แล้วน่าจะสามารถดัดแปลงรถยนต์ที่มีอยู่แล้วได้ แถมยังมีคนไปถาม Elon Musk ว่าสามารถสร้าง Roadster เองขึ้นมาอีกคันเลยได้ไหม ซึ่งคำตอบของ Elon คือบอกว่าบางส่วนจำเป็นต้องมีการประกอบจากโรงงาน (some assembly required)
รถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ของ Tesla กำหนดเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าวันแรก 30 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตในเอกสารสัญญาว่าด้วยการนำ Cybertruck ไปซื้อขายต่อ
โดยข้อตกลงระบุว่าผู้ซื้อไม่สามารถขายต่อ Cybertruck ได้ภายในระยะเวลา 1 ปี ได้เอง หากต้องการขายจะต้องแจ้ง Tesla ก่อนเพื่อให้ได้รับการอนุมัติ ซึ่ง Tesla จะซื้อคืนเองในราคาส่วนลดโดยคำนวณจากไมล์ที่ใช้งานและปัจจัยอื่น หรืออาจขายต่อให้กับบุคคลอื่น
Tesla ยังระบุว่าหากพบการขายต่อโดยไม่มีการแจ้ง จะถือว่าทำผิดข้อตกลงนี้และ Tesla อาจฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่าหากพบราคาที่ขายต่อสูงกว่านั้น รวมถึง Tesla อาจปฏิเสธการขายรถให้ผู้ซื้อดังกล่าวในอนาคตด้วย
รถยนต์ของ Tesla ถูกจัดอันดับให้เป็นรถยนต์ที่ถูกขโมยน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีการติดตามด้วย GPS เป็นคุณสมบัติมาตรฐานของรถทุกคัน จึงทำให้เมื่อเกิดเหตุรถ Tesla ถูกขโมย รถยนต์ดังกล่าวจะถูกตามพบเจอได้อย่างรวดเร็ว
ข้อมูลนี้มาจาก Highway Loss Data Institute องค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมประกันภัยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเผยรายงานความสูญเสียจากการโจรกรรมรถยนต์ทั้งหมดครอบคลุมรถยนต์มากกว่า 40 ล้านคัน พร้อมการเคลมการโจรกรรม 18,000 ครั้ง
รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาใช้หัวชาร์จเฉพาะของ Tesla เอง ไม่เหมือนหัว CCS ที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานโลก โดย Tesla ก็พยายามทำให้หัวชาร์จของตนเป็นมาตรฐานของอเมริกาเหนือไปเลยในชื่อ NACS (North American Charging Standard) เพื่อป้องกันผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นไปใช้หัว CCS แล้วจะทำให้หัว Tesla กลายเป็นหัวประหลาด แลกกับการที่อนุญาตให้รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อใดๆ ที่เซ็นสัญญาใช้หัว NACS สามารถเข้ามาชาร์จไฟที่สถานี Supercharger ของ Tesla ที่มีอยู่พร้อมแล้วทั่วประเทศได้ทันที ซึ่งก็ดูจะสำเร็จเพราะผู้ผลิตรถหลายรายในสหรัฐฯ เริ่มเซ็นสัญญาใช้หัว NACS กับรถยนต์ไฟฟ้าของตนแล้ว เช่น Ford, GM และ Rivian
Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2023 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 23,350 ล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับตัวเลขการผลิตและส่งมอบที่รายงานไปก่อนหน้านี้ ส่วนกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP ลดลง 44% เป็น 1,853 ล้านดอลลาร์ และกระแสเงินสดอิสระอยู่ที่ 848 ล้านดอลลาร์
Elon Musk ซีอีโอ Tesla กล่าวว่าแผนงานก่อสร้างโรงงานใหม่ที่เม็กซิโกยังคงดำเนินต่อไป ควบคู่ไปกับการลดราคารถลงมา เขามองว่าสถานการณ์ดอกเบี้ยสูงจะกดดันให้คนชะลอการซื้อรถใหม่ Tesla จึงต้องทำให้รถมีราคาที่ลดลง
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและการส่งมอบรถ ของไตรมาสที่ 3 ปี 2023 ผลิตรถยนต์ได้รวม 430,488 คัน ลดลงจากไตรมาส 2/2023 เล็กน้อย เนื่องจากมีการหยุดสายการผลิตบางส่วนเพื่ออัพเกรดอุปกรณ์ ซึ่ง Tesla ได้แจ้งเรื่องนี้ไปตั้งแต่ไตรมาสที่แล้ว รถยนต์ที่ผลิตได้แบ่งเป็น Model S/X 13,688 คัน และ Model 3/Y 416,800 คัน
Tesla บอกว่าตัวเลขเป้าหมายการผลิตรวมของปี 2023 ยังคงเดิมที่ประมาณ 1.8 ล้านคัน ซึ่งตัวเลขรวมสามไตรมาสตอนนี้อยู่ที่ 1.35 ล้านคัน
หลังจากเป็นข่าวลือมาหลายเดือน วันนี้ Tesla เปิดตัว Model 3 รุ่นใหม่เป็นที่เรียบร้อย ภายนอกปรับดีไซน์รอบคันโดยเฉพาะด้านหน้าและหลัง ส่วนภายในดูเผินๆ ยังคล้ายรุ่นเดิมแต่ปรับวัสดุบริเวณคอนโซล ส่วนผู้โดยสารตอนหลังมีหน้าจอสำหรับความบันเทิง
สำหรับดีไซน์ด้านหน้าปรับไฟหน้าให้ดูเรียวและโฉบเฉี่ยว พร้อมเส้นไฟ daytime running light พาดอยู่ภายในโคม และดีไซน์บริเวณกันชนก็ปรับให้ดูเพรียวมากขี้น ส่วนด้านหลังก็ปรับไฟท้ายให้ดูเพรียวมากขึ้นเช่นกัน
แอป Tesla ใน iOS ออกอัพเดตเวอร์ชัน 4.24.0 โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือรองรับการควบคุมผ่านแอป Shortcuts ของแอปเปิลแล้ว ซึ่งผู้ใช้งานต้องกำหนดรายละเอียดขึ้นเอง
เมื่อรองรับ Shortcuts ผู้ใช้งานจึงสามารถสั่งการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ผ่านระบบคำสั่งเสียง Siri ได้ด้วย
ตัวอย่างคำสั่งที่รองรับมีทั้งการควบคุมรถยนต์ และการควบคุมอุณหภูมิ เช่น เปิดปิดประตู เปิดปิดหน้าต่าง กำหนดอุณหภูมิ สั่งหยุดการชาร์จไฟ เป็นต้น
ที่มา: The Verge
Tesla กำลังเตรียมจะทำศูนย์ข้อมูลของตัวเอง หลังประกาศรับสมัครพนักงานสำหรับตำแหน่ง Senior Engineering Program Manager, Data Center พร้อมคำบรรยายว่าจะสร้างศูนย์ข้อมูลที่ไม่เหมือนใคร (1st of its kind)
ในประกาศรับสมัครงานของ Tesla ระบุว่ามีหน้าที่ดูแลการออกแบบแบบ end-to-end และจะเป็นหนึ่งในสมาชิกสำคัญของทีมวิศวกรรม แต่ Tesla ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดอื่นๆ โดยตอนนี้ Tesla ดูแลศูนย์ข้อมูลส่วนหนึ่งของ Twitter (X) ในเมือง Sacramento หลัง Musk ลดรายจ่ายของ Twitter มาโดยตลอด ซึ่งส่วนหนึ่งคือค่าใช้จ่ายของศูนย์ข้อมูลแห่งนี้
ก่อนหน้านี้มีแชทภาพที่ Musk ทักไปหา Zuckerberg เพื่อขอฝึกมวยที่หลังบ้าน หลังบ้าน Zuckerberg มีกรงมวย 8 เหลี่ยม ทาง Zuckerberg ได้ตอบกลับว่า ควรไปฝึกฝนด้วยตนเอง
ก่อนที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Zuckerberg ได้ประกาศผ่าน Threads ว่าจะยุติศึกมวยกรงเนื่องจากเห็นพ้องกันว่า Elon ไม่จริงจังกับการแข่งขันครั้งนี้เลย ไม่ยืนยันวันแข่งแล้วยังบอกว่าต้องผ่าตัด
แต่ล่าสุด Musk ทวีตบน X ว่า การทดสอบ Tesla FSD ที่ Palo Alto เขาบอกจะขับรถไปที่บ้านของ Zuckerberg พร้อมทดสอบ X livestream video เพื่อให้ทุกคนติดตามได้แบบเรียลไทม์ ถ้าโชคดี Zuckerberg เปิดประตูให้ การต่อสู้จะเริ่มขึ้นทันที!
หลายปีก่อน Tesla Model S และ X เคยมีรุ่น Standard Range และ Long Range จำหน่ายคู่กัน แต่มีช่วงหนึ่งที่เปลี่ยนรุ่นย่อยบ่อย จนในที่สุดปี 2021 ก็จำหน่ายเพียงสองรุ่นย่อยคือ Long Range และ Plaid (ตัวแรง) แต่ล่าสุดก็นำรุ่น Standard Range กลับมาอีกครั้ง
สำหรับ Model S Standard Range รุ่นปีนี้ แล่นได้ 320 ไมล์หรือ 515 กม. ราคาต่ำกว่ารุ่น Long Range อยู่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ 78,490 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 2.78 ล้านบาท ในขณะที่รุ่น Long Range แล่นได้ 650 กม. ตามมาตรฐาน EPA โดยทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมมอเตอร์คู่และมีความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. เท่ากัน
Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2023 โดยบริษัทบอกว่าทำสถิติใหม่หลายอย่าง ทั้งรายได้รวมสูงสุดในไตรมาสเดียวที่ 24,927 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เช่นเดียวกับจำนวนรถที่ผลิตและส่งมอบ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเช่นกันตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้ กำไรสุทธิตามบัญชี GAAP อยู่ที่ 2,703 ล้านดอลลาร์
อัตรากำไรจากการดำเนินงานยังอยู่ที่ระดับ 10% โดย Tesla บอกว่าแม้จะมีการลดราคารถลงมา แต่ก็ยังรักษาระดับไว้ได้ เป็นผลจากการควบคุมต้นทุน และเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานที่เบอร์ลินและเท็กซัส ตลอดจนรายได้ส่วนธุรกิจพลังงานและธุรกิจอื่นที่ต่างเติบโต
Tesla ประกาศว่า Cybertruck คันแรกได้ถูกผลิตออกจากโรงงาน Gigafactory ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัสแล้ว ซึ่งอาจเป็นการผลิตที่เร็วกว่าแผนงานที่เคยประกาศไว้เล็กน้อย โดย Tesla เคยบอกในเดือนเมษายนว่าจะส่งมอบ Cybertruck คันแรกได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ (กันยายน)
อย่างไรก็ตาม Tesla ไม่ได้บอกว่ารถที่ผลิตออกมาลอตแรกนี้ จะเป็นการผลิตหลัก (Mass Production) หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ Elon Musk เคยให้ข้อมูลว่า Cybertruck ในปีนี้จะผลิตออกมาจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น การผลิตหลักจะออกในปี 2024
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและการส่งมอบ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ผลิตรถยนต์ได้ 479,700 คัน เพิ่มขึ้น 85% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และส่งมอบรถยนต์ 466,140 คัน เป็นผลจากการขยายกำลังการผลิต และกำลังการผลิตที่มากขึ้นของโรงงานในเมืองออสติน
Tesla ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแบบแยกกลุ่มรุ่นรถยนต์ แบ่งเป็น Model S/X ผลิตได้ 19,489 คัน ส่งมอบ 19,225 คัน และ Model 3/Y ผลิตได้ 460,211 คัน ส่งมอบ 446,915 คัน
Tesla จะรายงานตัวเลขทางการเงินและผลประกอบการอีกครั้งในเช้าวันที่ 20 กรกฎาคม ตามเวลาในไทย
เมื่อต้นเดือนมิถุนายนมีข่าวลือออกมาว่า Tesla กำลังเจรจากับแคว้น Valencia ประเทศสเปนว่าจะลงทุน 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 แสนล้านบาท) เพื่อตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ โดยมีการเซ็นสัญญารักษาความลับกันเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดมีข่าวลืออีกว่า Tesla โกรธมากที่ข่าวการตั้งโรงงานรั่วออกมา และ Elon Musk ได้สั่งยกเลิกแผนการดังกล่าว รวมถึงถือว่าการเจรจาสิ้นสุดลงแล้ว
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข่าวลือที่ออกมาจากสื่อท้องถิ่นของสเปน และก่อนหน้านี้ Elon ได้เปิดเผยว่า Tesla กำลังมองหาที่ตั้งโรงงานแห่งใหม่อยู่ เพิ่มเติมจากโรงงานในประเทศเม็กซิโกที่เผยออกมาเมื่อช่วงต้นปีนี้
หลายคนอาจไม่รู้ว่ารถ Tesla ในสหรัฐอเมริกา, แคนาดา ใช้หัวชาร์จแบบเฉพาะของตัวเอง ในขณะที่รถ Tesla ในทวีปอื่นรวมถึงประเทศไทยใช้หัวชาร์จ CCS เป็นมาตรฐาน (อาจมียกเว้นบ้าง เช่นจีน) โดย Tesla อ้างว่าตอนที่พัฒนารถยนต์แรกๆ ไม่มีหัวชาร์จมาตรฐานใดที่รองรับการจ่ายไฟแรงสูงแบบที่ Tesla ต้องการได้ จึงต้องออกแบบหัวชาร์จเฉพาะของตนเอง
หลังเลื่อนการผลิต Cybertruck หลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่ล่าสุด Tesla ประกาศว่าจะเริ่มส่งมอบในไตรมาส 3 ปีนี้
มีรายงานการพบรถยนต์ที่รูปร่างคล้ายกับ Cybertruck ถูกนำออกจากเครื่องบินที่สนามบินนิวซีแลนด์ ซึ่งคาดว่าเป็นการนำรถต้นแบบ (รุ่น alpha) ของ Cybertruck มาทดสอบครั้งสุดท้ายในสภาพอากาศแบบฤดูหนาวที่นิวซีแลนด์ก่อนเริ่มผลิตจริงที่ Gigafactory Texas
โดยปกติแล้ว Tesla จะทดสอบสภาพอากาศแบบฤดูหนาวที่อลาสก้าเป็นหลักแต่เมื่อถึงฤดูร้อนในซีกโลกเหนือก็จะเปลี่ยนมาใช้พื้นที่ทดสอบในซีกโลกใต้อย่างนิวซีแลนด์แทน
Tesla เปิดตัว GIGA Laboratory สร้างจริงแห่งแรกในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เป็นโชว์รูมที่แสดงศักยภาพการผลิตรถยนต์ในตัว
โพสต์จากบัญชีทางการของ Tesla ใน Weibo เผยให้เห็นภาพโชว์รูมแห่งใหม่ที่แสดงสายการผลิตรถในตัวสายการผลิตใน GIGA Laboratory สามารถประกอบรถยนต์ภายใน 45 วินาที พร้อมพื้นที่พบปะพูดคุยพักผ่อนกับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย
แม้ว่า Tesla จะเน้นการขายทางออนไลน์มากขึ้นตั้งแต่ในปี 2019 แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา โชว์รูมของ Tesla ก็มีเพิ่มขึ้นถึงนับพันแห่ง ซึ่งประเทศจีนก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
Cybertruck สร้างความประทับใจแรกกับมวลชนตั้งแต่การเดโมในเวทีเปิดตัว ที่ Musk คุยว่ากระจกจะเป็น Armor Glass ที่แข็งเป็นพิเศษ ไม่แตกง่ายๆ แต่กลับแตกเมื่อถูกเขวี้ยงด้วยลูกเหล็ก
ล่าสุด Handelsblatt สื่อเยอรมนีเปิดเผยเอกสารภายในที่หลุดออกมาของ Tesla กว่า 23,000 ฉบับ ขนาดกว่า 100GB โดยมีรายละเอียดของปัญหาทางเทคนิคที่บริษัทเผชิญมาตลอด ตั้งแต่ช่วงปี 2015 จนถึงมีนาคม 2022 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องสารพัดปัญหาของระบบ Autopilot ด้วย
เดือนที่แล้ว Ford เป็นรายแรกที่จับมือกับ Tesla ในการรองรับระบบ Supercharger และนำพอร์ต NACS ที่ Tesla เปิดมาตรฐาน มาใช้งาน ล่าสุด GM เดินตามรอยอีกเจ้าแล้ว
Mary Barra เปิดเผยว่า การส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์ EV มีมากขึ้น ก็ต้องทำให้ระบบสถานีชาร์จมีความแพร่หลายมากขึ้น ขณะที่ GM จะเริ่มส่งมอบอแดปเตอร์หัวชาร์จสำหรับ Supercharger ให้ลูกค้าอย่างเร็วที่สุดคือช่วงต้นปีหน้า ส่วนรถยนต์ที่รองรับ Supercharger ในตัวเลยจะมาภายในปี 2025
Tesla ยังคงเดินหน้าเปิดสถานีชาร์จ Supercharger ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเปิดเพิ่ม 2 แห่งที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 และพระราม 3 ล่าสุดประกาศเปิดเพิ่มอีกสองแห่งที่ห้าง ICONSIAM และพัทยา โดยสถานีชาร์จที่พัทยาจะเป็นที่แรกที่อยู่นอกกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ยังระบุว่าจะสร้างสถานีชาร์จ 7 แห่งทั่วประเทศภายในไตรมาสที่ 2 ด้วย
สุดท้ายยังยืนยันข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า Tesla กำลังจะเปิดศูนย์บริการและโชว์รูมเต็มรูปแบบที่แรกในประเทศไทย ณ รามคำแหง โดยก่อนหน้านี้มีผู้พบว่าศูนย์บริการและโชว์รูม Toyota ที่ The Paseo Town รามคำแหงได้ย้ายไปอยู่อาคารอื่น และ Tesla ขึ้นป้ายว่าจะเปิดศูนย์บริการแทน
หลังจากเริ่มเข้ามาให้บริการและเปิดโชว์รูม/ศูนย์รับส่งมอบรถที่ The Paseo รามคำแหงมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุด Nikkei Asia รายงานว่า Tesla เตรียมจะเปิดตัว Flagship Store ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งทาง Autolife Thailand รายงานว่า Tesla ประเทศไทยไปเทคโอเวอร์พื้นที่โชว์รูมของ Toyota TBN สาขารามคำแหง เพื่อมาเปิดเป็นโชว์รูมของตัวเอง
โดยนอกจากเป็นโชว์รูม จะยังเป็นศูนย์บริการ คลังสินค้าชิ้นส่วน และสถานี Fast Charge อีกด้วย
Handelsblatt เว็บข่าวเยอรมนีรายงานถึงไฟล์ข้อมูลจาก Tesla ที่ได้มาจากแหล่งข่าว โดยเป็นเอกสารภายในรานงานถึงเหตุด้านความปลอดภัยนับพันรายการ ในช่วงปี 2015-2022 และยังมีข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานอีกกว่าแสนคน
รายงานเหตุการณ์รถเร่งความเร็วเองจำนวนถึง 2,400 รายการ ส่วนหนึ่งเคยมีการสอบสวนในสหรัฐฯ แล้วแต่สำนักงานความปลอดภัยบนท้องถนนสหรัฐฯ ก็ระบุว่าน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่เอง อีกกว่า 1,500 รายการเป็นรายงานถึงปัญหาในระบบเบรก 139 รายการเป็นเหตุรถเบรกเอง อีก 383 รายการเป็นเหตุรถหยุดเอง และอีกกว่า 3,000 รายการเป็นปัญหาความปลอดภัยจากระบบช่วยขับขี่