หลังเลื่อนการผลิต Cybertruck หลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่ล่าสุด Tesla ประกาศว่าจะเริ่มส่งมอบในไตรมาส 3 ปีนี้
มีรายงานการพบรถยนต์ที่รูปร่างคล้ายกับ Cybertruck ถูกนำออกจากเครื่องบินที่สนามบินนิวซีแลนด์ ซึ่งคาดว่าเป็นการนำรถต้นแบบ (รุ่น alpha) ของ Cybertruck มาทดสอบครั้งสุดท้ายในสภาพอากาศแบบฤดูหนาวที่นิวซีแลนด์ก่อนเริ่มผลิตจริงที่ Gigafactory Texas
โดยปกติแล้ว Tesla จะทดสอบสภาพอากาศแบบฤดูหนาวที่อลาสก้าเป็นหลักแต่เมื่อถึงฤดูร้อนในซีกโลกเหนือก็จะเปลี่ยนมาใช้พื้นที่ทดสอบในซีกโลกใต้อย่างนิวซีแลนด์แทน
Tesla เปิดตัว GIGA Laboratory สร้างจริงแห่งแรกในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เป็นโชว์รูมที่แสดงศักยภาพการผลิตรถยนต์ในตัว
โพสต์จากบัญชีทางการของ Tesla ใน Weibo เผยให้เห็นภาพโชว์รูมแห่งใหม่ที่แสดงสายการผลิตรถในตัวสายการผลิตใน GIGA Laboratory สามารถประกอบรถยนต์ภายใน 45 วินาที พร้อมพื้นที่พบปะพูดคุยพักผ่อนกับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย
แม้ว่า Tesla จะเน้นการขายทางออนไลน์มากขึ้นตั้งแต่ในปี 2019 แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา โชว์รูมของ Tesla ก็มีเพิ่มขึ้นถึงนับพันแห่ง ซึ่งประเทศจีนก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
Cybertruck สร้างความประทับใจแรกกับมวลชนตั้งแต่การเดโมในเวทีเปิดตัว ที่ Musk คุยว่ากระจกจะเป็น Armor Glass ที่แข็งเป็นพิเศษ ไม่แตกง่ายๆ แต่กลับแตกเมื่อถูกเขวี้ยงด้วยลูกเหล็ก
ล่าสุด Handelsblatt สื่อเยอรมนีเปิดเผยเอกสารภายในที่หลุดออกมาของ Tesla กว่า 23,000 ฉบับ ขนาดกว่า 100GB โดยมีรายละเอียดของปัญหาทางเทคนิคที่บริษัทเผชิญมาตลอด ตั้งแต่ช่วงปี 2015 จนถึงมีนาคม 2022 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องสารพัดปัญหาของระบบ Autopilot ด้วย
เดือนที่แล้ว Ford เป็นรายแรกที่จับมือกับ Tesla ในการรองรับระบบ Supercharger และนำพอร์ต NACS ที่ Tesla เปิดมาตรฐาน มาใช้งาน ล่าสุด GM เดินตามรอยอีกเจ้าแล้ว
Mary Barra เปิดเผยว่า การส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์ EV มีมากขึ้น ก็ต้องทำให้ระบบสถานีชาร์จมีความแพร่หลายมากขึ้น ขณะที่ GM จะเริ่มส่งมอบอแดปเตอร์หัวชาร์จสำหรับ Supercharger ให้ลูกค้าอย่างเร็วที่สุดคือช่วงต้นปีหน้า ส่วนรถยนต์ที่รองรับ Supercharger ในตัวเลยจะมาภายในปี 2025
Tesla ยังคงเดินหน้าเปิดสถานีชาร์จ Supercharger ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเปิดเพิ่ม 2 แห่งที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 และพระราม 3 ล่าสุดประกาศเปิดเพิ่มอีกสองแห่งที่ห้าง ICONSIAM และพัทยา โดยสถานีชาร์จที่พัทยาจะเป็นที่แรกที่อยู่นอกกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ยังระบุว่าจะสร้างสถานีชาร์จ 7 แห่งทั่วประเทศภายในไตรมาสที่ 2 ด้วย
สุดท้ายยังยืนยันข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า Tesla กำลังจะเปิดศูนย์บริการและโชว์รูมเต็มรูปแบบที่แรกในประเทศไทย ณ รามคำแหง โดยก่อนหน้านี้มีผู้พบว่าศูนย์บริการและโชว์รูม Toyota ที่ The Paseo Town รามคำแหงได้ย้ายไปอยู่อาคารอื่น และ Tesla ขึ้นป้ายว่าจะเปิดศูนย์บริการแทน
หลังจากเริ่มเข้ามาให้บริการและเปิดโชว์รูม/ศูนย์รับส่งมอบรถที่ The Paseo รามคำแหงมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุด Nikkei Asia รายงานว่า Tesla เตรียมจะเปิดตัว Flagship Store ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งทาง Autolife Thailand รายงานว่า Tesla ประเทศไทยไปเทคโอเวอร์พื้นที่โชว์รูมของ Toyota TBN สาขารามคำแหง เพื่อมาเปิดเป็นโชว์รูมของตัวเอง
โดยนอกจากเป็นโชว์รูม จะยังเป็นศูนย์บริการ คลังสินค้าชิ้นส่วน และสถานี Fast Charge อีกด้วย
Handelsblatt เว็บข่าวเยอรมนีรายงานถึงไฟล์ข้อมูลจาก Tesla ที่ได้มาจากแหล่งข่าว โดยเป็นเอกสารภายในรานงานถึงเหตุด้านความปลอดภัยนับพันรายการ ในช่วงปี 2015-2022 และยังมีข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานอีกกว่าแสนคน
รายงานเหตุการณ์รถเร่งความเร็วเองจำนวนถึง 2,400 รายการ ส่วนหนึ่งเคยมีการสอบสวนในสหรัฐฯ แล้วแต่สำนักงานความปลอดภัยบนท้องถนนสหรัฐฯ ก็ระบุว่าน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่เอง อีกกว่า 1,500 รายการเป็นรายงานถึงปัญหาในระบบเบรก 139 รายการเป็นเหตุรถเบรกเอง อีก 383 รายการเป็นเหตุรถหยุดเอง และอีกกว่า 3,000 รายการเป็นปัญหาความปลอดภัยจากระบบช่วยขับขี่
Ford ประกาศความสำเร็จในข้อตกลงกับ Tesla ที่ฝ่ายหลังเปิดให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Ford สามารถใช้งาน Supercharger ได้ ทั้งในสหรัฐและแคนาดา เริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเป็นต้นไป
เบื้องต้น Tesla จะออกอแดปเตอร์หัวชาร์จให้กับลูกค้ารถไฟฟ้าของ Ford อย่าง F-150 Lightning truck หรือ Mustang Mach-E ที่ใช้พอร์ท CSS อยู่ (แต่ของ Tesla ใช้ NACS) นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Ford ที่จะออกหลังปี 2025 เป็นต้นไป ก็จะรองรับพอร์ต NACS ด้วย หลัง Tesla ประกาศให้เป็นมาตรฐานเปิด ซึ่ง Ford จะเป็นรายแรกที่ใช้
ที่ผ่าน Tesla ไม่เคยเสียเงินทำการตลาดใดๆ เลย แต่อาศัยการยิงอีเมลมาร์เก็ตติ้ง, บอกปากต่อปาก, สร้างแบรนด์ให้คนบอกต่อ ไปจนถึง Referral Program ซึ่ง Musk เคยบอกว่า "เจ้าของคนรถ Tesla คือ Brand Ambassador"
ล่าสุด Musk ให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า จะลองจ่ายเงินทำตลาดดูบ้างเล็กน้อย และลองดูว่าจะเป็นยังไง ซึ่งสาเหตุที่อาจทำให้ Musk ตัดสินใจเรื่องนี้ มาจากการที่ Musk มาเป็นซีอีโอ Twitter ที่ต้องพึ่งรายได้จากการโฆษณา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า "การทำโฆษณามันเจ๋ง ทุกคนควรทำ"
ที่มา - TechCrunch
Elon Musk ยังต้องถูกควบคุมข้อความทวีตผ่าน Twitter อยู่จากคดีทวีตปั่นหุ้น หลังศาลอุทธรณ์ปัดตกคำร้อง
จากคดีในปี 2018 ที่ Elon Musk ซีอีโอ Tesla โดน US Securities and Exchange Commission (SEC) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฟ้องร้องเรื่องการฉ้อโกงจากการให้ข้อมูลเท็จผ่านทวีตเกี่ยวกับบริษัท Tesla ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด
ประธานาธิบดียุน ซอกยอลแห่งเกาหลีใต้กำลังเยือนสหรัฐอเมริกา และ Elon Musk ได้ขอพบ ซึ่งทั้งคู่ได้พูดคุยกันโดย ปธน. ยุนกล่าวว่าเกาหลีใต้มีเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในโรงงานระดับโลกและมีแรงงานทักษะสูง ทำให้เหมาะสมที่จะตั้งโรงงาน Gigafactory
"หาก Tesla ตัดสินใจลงทุน เราพร้อมสนับสนุนพื้นที่, แรงงาน รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษี" ปธน. ยุนบอก Elon Musk
ด้าน Elon ก็ตอบว่าเขามีแผนเยือนเกาหลีใต้ เพราะเกาหลีใต้ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศต้นๆ ที่น่าไปลงทุนสร้างโรงงาน Gigafactory
นอกจากนี้ ปธน. ยุนยังหวังว่าเกาหลีใต้จะมีโอกาสเพิ่มความร่วมมือกับ SpaceX เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านอวกาศของประเทศ
Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2023 หลังจากรายงานตัวเลขการผลิตไปเมื่อต้นเดือน มีรายได้รวมทั้งหมด 23,329 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 2,513 ล้านดอลลาร์ ลดลง 24% และมีกระแสเงินสดอิสระ 441 ล้านดอลลาร์
Tesla ให้ข้อมูลประกอบว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากจำนวนรถยนต์ส่งมอบที่มากขึ้น ส่วนผลกระทบด้านกำไรมาจากค่าใช้จ่ายโรงงานที่สร้างใหม่ และยังใช้งานได้ไม่เต็มกำลังการผลิต ตลอดจนปัจจัยอื่น เช่น ต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้น ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
จากข่าวลือว่า Elon Musk ตั้งทีมพัฒนาแชทบ็อทแนวเดียวกับ ChatGPT ของ OpenAI ล่าสุดมีคนค้นพบการจดทะเบียนตั้งบริษัท X.AI ในรัฐเนวาดา ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม โดยมีชื่อ Musk เป็นกรรมการบริษัทเพียงคนเดียว
Financial Times รายงานข้อมูลโดยอ้างแหล่งข่าวว่า Musk กำลังสร้างทีมพัฒนา AI โดยดึงวิศวกรและนักวิจัยจำนวนหนึ่งเข้ามาทำงานด้วย ที่ระบุชื่อคือ Igor Babuschkin อดีตพนักงานของ DeepMind และชักชวนนักลงทุนบางรายใน SpaceX และ Tesla ให้มาร่วมลงทุนในบริษัทใหม่แห่งนี้
Tesla เดินหน้าในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศตั้งโรงงาน Megafactory สำหรับผลิตแบตเตอรี่ โดยระบุว่าโรงงานใหม่จะมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่ Megapack ราว 10,000 ลูกต่อปี หรือคิดเป็นราว 40 GWh ต่อปี
หากจะเทียบให้เห็นภาพ ปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนอันดับ 2 ของโลก โดยในปี 2021 มีกำลังการผลิต 44 GWh และประเมินว่าจะขึ้นไปถึง 91 GWh ในปี 2025 ทำให้โรงงาน Megafactory ใหม่ของ Tesla ที่จะมีกำลังการผลิต 40 GWh นั้นแทบจะเทียบได้กับกำลังการผลิตของสหรัฐอเมริกาทั้งประเทศในปี 2021 เลยทีเดียว
Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ยืนยันว่าความเป็นส่วนตัวของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญแต่ในบทความของ Reuters ได้เขียนถึงภาพและวิดีโอในกล้องหน้ารถยนต์ที่หลุดมาจากพนักงานของ Tesla นำมาซึ่งข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยและการละเมิดความส่วนตัวของผู้ใช้
ช่วงปี 2019-2022 มีกลุ่มพนักงาน Tesla ได้แชร์ภาพและวิดีโอ ที่บันทึกจากกล้องหน้ารถยนต์ผ่าน Mattermost ช่องแชตภายในของบริษัท มีตั้งแต่ภาพทั่วไปเช่น ป้ายจราจร, สุนัข, ภาพคนล้ม ที่พนักงานนำมาทำเป็นมีมตลกและพูดเป็นเรื่องขำขันกัน หรือเหตุการณ์อุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดในปี 2021 โดยเนื้อหาแสดงภาพรถ Tesla ขับด้วยความเร็วสูงอยู่ในชุมชนที่มีเด็กขี่จักรยานอยู่และเกิดอุบัติเหตุชนเข้าอย่างแรง ซึ่งวิดีโอตัวนี้ได้กระจายไปทั่วออฟฟิศ Tesla
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและการส่งมอบ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ผลิตรถยนต์ 440,808 คัน เพิ่มขึ้น 36% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และส่งมอบรถยนต์ 422,875 คัน เพิ่มขึ้น 4%
Tesla ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแบบแยกกลุ่มรุ่นรถยนต์ แบ่งเป็น Model S/X ผลิตได้ 19,437 คัน ส่งมอบ 10,695 คัน ส่วนรุ่น Model 3/Y ผลิตได้ 421,371 คัน และส่งมอบ 412,180 คัน
ในรายงานนี้ Tesla ยังบอกว่าบริษัทจะเพิ่มการผลิตที่หลากหลายขึ้นในแต่ละภูมิภาค ซึ่งรวมทั้งการผลิต Model S และ Model X ในภูมิภาคยุโรปและเอเชียที่มากขึ้น
Tesla จะรายงานตัวเลขทางการเงินและผลประกอบการอีกครั้งในเช้าวันที่ 20 เมษายน ตามเวลาในไทย
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Tesla ได้เปิดสถานี Supercharger แห่งแรกในประเทศไทยที่ห้าง centralwOrld ล่าสุดได้เปิดเพิ่มอีก 2 แห่งแล้วที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 และเซ็นทรัลพระราม 3
จากหน้าเว็บ Tesla ระบุว่าสถานี Supercharger ที่เซ็นทรัลพระราม 3 มี 4 หัว ส่วนที่เซ็นทรัลพระราม 2 มี 8 หัวชาร์จ ทั้งสองแห่งเปิดให้บริการตามเวลาทำการของห้างคือ 10:00 - 22:00 น. ชาร์จแรงสุด 250 กิโลวัตต์
นอกจากนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน Tesla ก็ได้เปิดสถานีชาร์จแบบ Destination Charging แห่งแรกในประเทศไทยที่ห้างสยามพารากอน
Tesla ระบุว่าจะเปิดสถานี Supercharger ในประเทศไทยให้ได้อย่างน้อย 13 แห่งภายในปี 2023
The Washington Post มีบทความวิเคราะห์ปัญหา Full Self-Driving (FSD) ของ Tesla ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนถูกหน่วยงานความปลอดภัยทางหลวงของสหรัฐ NHTSA สั่งให้เรียกคืน (recall) เพื่ออัพเดตซอฟต์แวร์
แหล่งข่าวของ The Washington Post มาจากการสัมภาษณ์อดีตพนักงานและผู้เกี่ยวข้องหลายราย ซึ่งพูดตรงกันว่าสาเหตุหลักมาจากการที่ Elon Musk ตัดสินใจเลิกใช้ระบบเรดาร์เพื่อลดต้นทุน เปลี่ยนมาใช้กล้องอย่างเดียว ทำให้ระบบ FSD ไม่สามารถตรวจจับวัตถุรอบรถได้ดีพอ
ผู้ติดตาม Tesla ช่วงหลังอาจไม่ทราบว่าในยุคแรก Elon Musk ได้เขียน "Master Plan" หรือแผนระยะยาวของบริษัท Tesla ไว้ 2 ตอน ซึ่งตอนแรกเขียนไว้เกือบ 20 ปีแล้ว ส่วนตอนที่สองเขียนเมื่อกลางปี 2016 และล่าสุดที่งาน Investor Day เช้าวันนี้ได้กล่าวถึงตอนที่สาม
ผมจะสรุปแผนตอนที่หนึ่งและสองให้คร่าวๆ ดังนี้
Tesla ประกาศที่งาน Investor Day ว่าบริษัทจะผลิตมอเตอร์แม่เหล็กถาวรรุ่นใหม่แบบไม่ใช้แร่โลหะหายาก (rare-earth elements) แล้ว
ปัจจุบันการผลิตมอเตอร์ของรถยนต์ไฟฟ้าต้องใช้แร่โลหะหายากอย่าง Neodymium และมักผสมแร่หายากอื่นเช่น Dysprosium และ Terbium เข้าไปด้วยในแม่เหล็ก Neodymium
Tesla ระบุว่าตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2022 บริษัทได้ลดการใช้แร่หายากลง 25% และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนได้พร้อมกัน แต่ล่าสุดก็ประกาศว่าจะไม่ใช้แร่หายากในการผลิตมอเตอร์แล้ว โดยในสไลด์ของ Tesla ไม่ได้ระบุชื่อของแร่หายากที่ใช้ แต่ระบุว่าปัจจุบันใช้แร่ 3 ชนิดคือแร่ 1, 2 และ 3 โดยใช้เป็นจำนวนราว 500, 10 และ 10 กรัม ตามลำดับ
Tesla ประกาศระหว่างงาน Investor Day ว่าจะตั้งโรงงาน Gigafactory ที่ประเทศเม็กซิโก นับเป็น Gigafactory แห่งที่ 6 แล้ว และเป็นแห่งที่ 3 นอกสหรัฐอเมริกา
Giga Mexico จะตั้งอยู่ที่เมือง Santa Catarina รัฐ Nuevo Leon ซึ่งอยู่ติดชายแดนรัฐ Texas ของสหรัฐอเมริกา ห่างจากสำนักงานใหญ่ของ Tesla ราว 400 ไมล์ (640 กม.)
หลังจาก Tesla ประกาศเรียกรถที่เปิดฟีเจอร์ Full Self Driving (FSD) Beta ให้มาอัพเดตแพตช์เนื่องจากรถมีพฤติกรรมอันตรายในหลายกรณี ตอนนี้ Tesla ก็ทำเว็บประกาศข้อมูลเพิ่มเติม โดยระบุว่าจะหยุดปล่อย FSD Beta ให้กับผู้ใช้เพิ่มเติม
ฟีเจอร์ FSD เป็นฟีเจอร์ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมตอนซื้อรถ Tesla โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์หรือประมาณห้าแสนบาท โดย FSD เป็นรถอัตโนมัติระดับ 2 ที่สามารถควบคุมพวงมาลัยพร้อมกับเร่งหรือเบรกรถได้ แต่ผู้ใช้ต้องพร้อมควบคุมรถตลอดเวลา
ประกาศของ Tesla ยืนยันว่าผู้ที่ได้ใช้ FSD Beta แล้วจะได้ใช้งานต่อไปแม้จะอัพเดตเฟิร์มแวร์ไม่มีการถอนฟีเจอร์ออก
บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ถือกำเนิดขึ้นในรัฐ California และซื้อโรงงานที่เคยเป็นของ GM และ Toyota ในเมือง Fremont โดยใช้โรงงานแห่งนี้เป็นฐานการผลิตมายาวนาน ส่วนสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Palo Alto
หลังเกิดเหตุการณ์โรคระบาด COVID-19 ที่ทำให้รัฐ California ออกมาสั่งให้ Tesla หยุดการผลิตต่อเนื่องยาวนาน ทำให้ Elon Musk ไม่พอใจและตัดสินใจสั่งย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังรัฐ Texas ที่มีโรงงาน Gigafactory อยู่ด้วย โดยเขาวิจารณ์รัฐ California ว่ามีกฎและการกำกับดูแลเข้มงวดเกินไป, ฟ้องร้องกันมากเกินไป และเก็บภาษีโหดเกินไป
อย่างไรก็ดี ล่าสุด Elon Musk ขึ้นเวทีร่วมกับ Gavin Newsom ผู้ว่าการรัฐ California ประกาศว่า Tesla จะตั้งสำนักงานใหญ่ด้านวิศวกรรมที่เมือง Palo Alto โดยใช้ออฟฟิศที่เคยเป็นสำนักงานใหญ่ของ HPE (Hewlett Packard Enterprise) ซึ่งห่างจากสำนักงานใหญ่เดิมของ Tesla เพียง 5 นาที
เกิดเหตุรถยนต์ Tesla Model S ขับไปชนรถดับเพลิงที่จอดอยู่บนไฮเวย์ I-680 ในพื้นที่มณฑล Contra Costa County ใกล้กับซานฟรานซิสโก คนขับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุและต้องตัดรถยนต์ด้านหน้าเพื่อนำศพออกมา ผู้โดยสารอีกคนบาดเจ็บต้องส่งโรงพยาบาล ส่วนพนักงานดับเพลิงบนรถบาดเจ็บเล็กน้อย
เหตุการณ์นี้อาจเป็นแค่อุบัติเหตุทั่วไป แต่ก่อนหน้านี้ กรมทางหลวงของสหรัฐ (NHTSA) ได้สอบสวนอุบัติเหตุรถยนต์ Tesla ชนรถฉุกเฉินบนไฮเวย์หรือที่วิ่งในเลนฉุกเฉินอยู่บ่อยครั้ง (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2021 คือเกิดเหตุชน 12 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 17 คน และเสียชีวิต 1 คน) จึงมีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ Autopilot ทำงานไม่ถูกต้อง
Tesla ประกาศว่ารถยนต์จำนวน 3.62 แสนคันในสหรัฐ ได้รับผลกระทบจากซอฟต์แวร์ Full Self-Driving (FSD) Beta อาจก่อให้เกิดอันตรายเวลาข้ามแยกในบางสถานการณ์ โดยขอให้เจ้าของรถยนต์อัพเดตซอฟต์แวร์ผ่าน OTA
รถยนต์ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ Model S (2016-2023), Model X, Model 3 (2017-2023), Model Y (2020-2023) โดยลูกค้าในสหรัฐจะได้รับจดหมายแจ้งภายในวันที่ 15 เมษายน 2023
ประกาศของ Tesla ผ่านกระบวนการเรียกคืนรถยนต์ที่มีปัญหา (recall) ของหน่วยงานดูแลความปลอดภัยทางหลวงของสหรัฐ (National Highway Traffic Safety Administration) แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็สามารถอัพเดต OTA ด้วยตัวเองได้ ซึ่ง Elon Musk ก็วิจารณ์ผ่านทวิตเตอร์ว่าคำว่า recall สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งาน