สัปดาห์ที่ผ่านมา ร้าน Apple Store ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย มีประเด็นห้ามไม่ให้วัยรุ่นผิวดำจากประเทศซูดานและโซมาเลีย (ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนบริเวณใกล้เคียง) เข้าไปในร้าน ด้วยเหตุผลว่าวัยรุ่นเหล่านี้ "อาจขโมยของในร้าน" ได้ เหตุการณ์นี้ถูกอัดคลิปไว้และนำมาเผยแพร่ ส่งผลให้แอปเปิลถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ากีดกันคนผิวดำ

หลังจากเหตุการณ์นั้น บริษัทออกแถลงการณ์ขอโทษ และยืนยันว่าแอปเปิลเคารพความแตกต่างหลากหลาย ทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว ย่อมเท่าเทียมกัน เหตุการณ์นี้คลี่คลายด้วยดี โดยครูใหญ่ของโรงเรียนที่วัยรุ่นเหล่านี้เรียนอยู่ ให้สัมภาษณ์ว่าทางโรงเรียนแจ้งไปยังร้าน Apple Store ว่าวัยรุ่นเหล่านี้เชื่อถือได้ ซึ่งร้าน Apple Store สาขาดังกล่าวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษ ประเด็นที่น่าสนใจคือเขาบอกใบ้ว่าแอปเปิลกำลังจะขยายไปยังอุปกรณ์ด้านการแพทย์ แต่ไม่ใช่การนำ Apple Watch ไปใช้งาน เพราะเขาไม่ต้องการนำสินค้าคอนซูเมอร์ไปใช้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่ต้องผ่านการรับรองจาก FDA (อย.ของสหรัฐ)

Cook พูดถึงยอดขายของ Apple TV รุ่นใหม่ว่าไปได้สวย และตอบคำถามที่ว่าแอปเปิลสนใจเปิดบริการสตรีมมิ่งของตัวเองหรือไม่ โดยเขาบอกว่าถ้าบริษัทมองว่ามันจะช่วยเป็นตัวเร่งยอดขายได้ เขาก็จะตัดสินใจทำ แต่เขาไม่ต้องการทำด้วยเหตุผลแค่ว่าเลือกทำเพราะคนอื่นทำ

ในงานสัมมนา Wall Street Journal Digital Live ซีอีโอแอปเปิล Tim Cook ออกมาพูดคุยถึงผลิตภัณฑ์ในเครือแอปเปิลหลายอย่าง รวมถึงยอดผู้ใช้ Apple Music หลังหมดช่วงการให้ใช้ฟรีสามเดือนไปแล้ว

เริ่มต้นกันที่ Apple Music ที่ Cook ออกมายืนยันตัวเลขเป็นครั้งแรก โดยตอนนี้มีลูกค้าแบบเสียเงิน 6.5 ล้านราย จากผู้ใช้ทั้งหมด 15 ล้านราย ซึ่งยังห่างไกลกับเจ้าตลาดอย่าง Spotify ที่มีลูกค้าแบบเสียเงินรายเดือนราว 20 ล้านคน

หลังจากเรื่องการดักข้อมูลส่วนตัวของรัฐบาลสหรัฐถูกเผยแพร่ออกมาจนเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายเป็นห่วง ในช่วงปีที่ผ่านมา Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์กับวิทยุแห่งชาติของสหรัฐ (National Public Radio) เกี่ยวกับประเด็นข้างต้นว่าไม่เปิดเผยข้อมูลให้รัฐบาล รวมไปถึงไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เพราะเป็นสิทธิพื้นฐาน

แอปเปิลได้เพิ่ม สีทอง เข้าไปในไลน์ผลิตภัณฑ์ของตัวเองเป็นครั้งแรกใน iPhone 5s ก่อนจะเริ่มเพิ่มสีนี้เข้าไปในไลน์ของ iPad และ MacBook โดย Tim Cook ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้เป็นครั้งแรกว่าคนจีน เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แอปเปิลเพิ่มตัวเลือกสีทองเข้ามา

Cook ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg Business ว่าแอปเปิลได้เอารสนิยมของคนจีนมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาตอนออกแบบผลิตภัณฑ์ และที่เลือกสีทองก็เพราะความนิยมสีทองของคนจีนนั่นเอง เนื่องจากจีน รวมไปถึงฮ่องกงและไต้หวัน เป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ของแอปเปิล ที่ได้กลายเป็นอีกสมรภูมิของแอปเปิลในการแข่งกับซัมซุงและ Xiaomi

ทิม คุก ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ในงาน epic2015 เมื่อวานนี้ในประเด็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า "พวกเราในแอปเปิลไม่ยอมรับแนวคิดว่าลูกค้าของเราต้องแลกระหว่างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เราสามารถให้ทั้งสองอย่างไปเท่ากันและเราต้องทำอย่างนั้น เราเชื่อในสิทธิพื้นฐานที่จะมีความเป็นส่วนตัว"

ตลาดจีนกลายเป็นตลาดสำคัญของแอปเปิล ตอนนี้ ทิม คุก ก็เปิดบัญชี Weibo เพื่อสื่อสารกับชาวจีนเป็นทางการแล้ว

ข้อความแรกของทิม คุก แสดงความยินดีที่ได้กลับมาปักกิ่งเพื่อประกาศโครงการด้านสิ่งแวดล้อม

ไม่ถึงวันหลังบัญชีนี้เปิดตัวก็มีคนติดตามแล้วกว่าสี่แสนคน มีคนกดไลค์ข้อความกว่าหกหมื่นครั้ง, รีทวีตอีกสี่หมื่นครั้ง, และคอมเมนต์อีกเกือบห้าหมื่นคอมเมนต์

ที่มา - TechCrunch

นาฬิกา Apple Watch มีให้เลือกหลายรุ่นหลายสไตล์จนบางคนอาจสับสน คำถามที่น่าสนใจคือซีอีโอ ทิม คุก ใช้ Apple Watch รุ่นใด

ทิม คุก ตอบคำถามนี้กับรายการทีวีของ CNBC ว่าเขาใส่นาฬิกา Apple Watch รุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล พร้อมสายสีขาวแบบสปอร์ตที่ทำจาก fluoroelastomer ราคาเรือนนี้ 549 ดอลลาร์

คุกบอกว่าเขาใส่นาฬิกาเรือนนี้ตลอดทั้งวัน และใส่ออกกำลังกายด้วย แต่เขาก็บอกอีกว่ายังมี Apple Watch ที่ใช้สายแบบอื่นๆ เพื่อใส่สลับกันบ้างในบางโอกาส

ที่มา - Fortune

กฎหมาย Religious Freedom Restoration Act ให้สิทธิ์กับร้านค้าต่างๆ สามารถปฎิเสธให้บริการลูกค้าที่มีความหลากหลายทางเพศ ทางรัฐอินเดียน่าเพิ่งผ่านเป็นกฎหมายรัฐเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ทำให้บริษัทไอทีและงานอีเวนต์สำคัญเริ่มประท้วงกฎหมาย ด้วยการประกาศย้ายที่จัดงานไปจนถึงการงดเข้าร่วมงาน

นิตยสาร Fortune เพิ่งประกาศรายชื่อผู้นำยอดเยี่ยม 50 อันดับแรกประจำปี 2015 ซึ่งอันดับหนึ่งในปีนี้ตกเป็นของ Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลที่สร้างผลงานให้ผู้คนจดจำได้มากมายในรอบปีที่ผ่านมา

ผลงานที่ปรากฏแก่สาธารณะมีทั้งจากแอปเปิลเองทั้ง Apple Watch และ Apple Pay ที่คาดการณ์ว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่จะสร้างชื่อให้แอปเปิล รวมถึงผลงานโดยรวมที่ทำมูลค่าหุ้นสูงสุดตลอดกาล รวมถึงวาทะประจำปีอย่าง "ผมภูมิใจที่เป็นเกย์" ในบทความบน Bloomberg Businessweek อีกด้วย

ปลายเดือนนี้จะมีหนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์เล่มใหม่ออกวางจำหน่าย หนังสือเล่มนี้ชื่อ Becoming Steve Jobs: The Evolution of a Reckless Upstart into a Visionary Leader เขียนโดย Brent Schlender และ Rick Tetzeli

หนังสือเล่มนี้มี "ข้อมูลใหม่" หลายอย่างที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ซึ่งช่วงโปรโมทหนังสือเล่มนี้ก็มีการตัดเนื้อหาบางส่วนมาเผยแพร่ก่อน ประเด็นที่น่าสนใจคือ ทิม คุก ซีอีโอคนปัจจุบันของแอปเปิลเคยเสนอให้สตีฟ จ็อบส์ รับการปลูกถ่ายตับจากเขาเพื่อเอาชีวิตรอดจากมะเร็ง เนื่องจากกลุ่มเลือดของจ็อบส์และคุกเป็นกลุ่มเลือดพิเศษแบบเดียวกัน (ตัดตับของคุกไปเพียงบางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด)

ทิม คุก ขึ้นพูดสุนทรพจน์ในงาน "White House Summit on Cybersecurity and Consumer Protection" (ที่ซีอีโอบริษัทอื่นหลายบริษัทไม่ยอมไป) สุนทรพจน์ของทิม คุก เน้นยำถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนตัว

แม้จะยังไม่เริ่มขายจริง แต่ดูเหมือน Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลจะมั่นใจในศักยภาพของ Apple Watch ใช่ย่อย หลังจากเพิ่งไปประกาศในงานสัมมนาเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตที่จัดรายปีของ Goldman Sachs ว่าเป้าหมายของ Apple Watch คือการเปลี่ยนการใช้ชีวิตของผู้คนเลยทีเดียว

ถึงแม้แอปเปิลจะมีผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ยอดเยี่ยมมาก และผลิตภัณฑ์ทั้ง iPhone, Mac, App Store ต่างก็สร้างรายได้เยอะเป็นประวัติการณ์ แต่กลับมีผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งที่ยอดขายตก นั่นคือ iPad ครับ

ยอดขาย iPad ในไตรมาสล่าสุดกลับลดลง 18% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (จาก 26 ล้านเครื่องเหลือ 21 ล้านเครื่อง) ซึ่งซีอีโอ Tim Cook ก็ยืนยันว่าเขายังมั่นใจกับอนาคตของ iPad ว่าไปได้ดี และยกสถิติว่าผู้ซื้อ iPad ในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยมี iPad มาก่อน ถือเป็นสัญญาว่าตลาด iPad ยังไม่อิ่มตัว โดยกรณีของประเทศจีนนั้นสัดส่วนผู้ใช้หน้าใหม่มากถึง 70% เลยทีเดียว

Tim Cook กล่าวในงานแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสของแอปเปิลว่าแผนการพัฒนา Apple Watch เป็นไปตามกำหนดเดิม และจะเริ่มวางขาย Apple Watch ในเดือนเมษายนนี้

เขายังบอกว่าเขาหวังกับ Apple Watch ไว้สูงมาก เขาใช้มันทุกวันและอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน (can't live without it) ส่วนอัตราการพัฒนาแอพลง Apple Watch ของเหล่านักพัฒนาก็น่าประทับใจมากเช่นกัน

ที่มา - CNET

จากข่าว BBC เปิดโปง สภาพชีวิตคนงานผลิต iPhone 6 ของ Pegatron ย่ำแย่มาก เมื่อผู้บริหารของแอปเปิลทราบเรื่องนี้ก็ส่งอีเมลชี้แจงถึงพนักงาน อีเมลฉบับที่หลุดออกมาสู่สาธารณะเป็นของ Jeff Williams ผู้บริหารแอปเปิลด้านปฏิบัติการ โดยเขาระบุว่าซีอีโอ Tim Cook รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก (deeply offended) กับการที่ BBC บอกว่าแอปเปิลผิดสัญญาต่อพนักงานในสายการผลิต

Williams ยังบอกว่าแอปเปิลให้ข้อมูลหลายอย่างกับ BBC แต่กลับไม่ถูกนำไปพูดถึงในรายการ และเขาชี้แจงประเด็นต่างๆ ดังนี้

Financial Times หนังสือพิมพ์ด้านเศรษฐกิจ-การเงินที่ทรงอิทธิพลจากอังกฤษ มอบรางวัลบุคคลแห่งปี (Person of the Year) ให้ Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล

เหตุผลที่ Financial Times ยก Cook เป็นบุคคลแห่งปีมีหลายอย่าง เช่น การสืบทอดภารกิจที่หนักหน่วงของคนที่มาแทนสตีฟ จ็อบส์ แต่สามารถทำให้ราคาหุ้นของแอปเปิลที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 50% ในปีนี้, การบุกเบิกธุรกิจใหม่ทั้ง Apple Pay/Apple Watch, นโยบายเปิดรับผู้บริหารหน้าใหม่ๆ จากเพศอื่น, เพิ่มความโปร่งใสของซัพพลายเชน, นโยบายด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการใช้แร่ธาตุที่มีประเด็นขัดแย้ง รวมถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของเกย์

หลังจากที่ Tim Cook กล่าวเผยตัวต่อสาธารณะว่าเป็นเกย์ และมีกระแสต่อต้านตัวเขาจากบางคนในรัสเซียดังเช่นนักการเมืองคนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียแบน Cook ไปตลอดชีวิต ตอนนี้มีข่าวว่ากระทั่งอนุสรณ์รำลึกถึง Steve Jobs ซึ่งตั้งอยู่ในรัสเซียก็พาลโดนรื้อทิ้งออกไปด้วยสาเหตุเกี่ยวโยงกันกับเรื่องที่ Cook เป็นเกย์

หลังจากที่ Tim Cook ได้ออกมาพูดถึงเรื่องที่ตนเองเป็นเกย์อย่างเปิดเผยต่อสังคมเป็นครั้งแรก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่ออกมายกประเด็นนี้สร้างข้อรังเกียจในตัว Cook แทบจะทันที เรื่องนี้เกิดขึ้นที่รัสเซียโดยนักการเมืองรัสเซียรายหนึ่งที่ชื่อ Vitaly Milonov ได้ออกมาให้ความเห็นว่าแต่นี้ไปทางการรัสเซียไม่ควรอนุญาตให้ Tim Cook เดินทางเข้าประเทศอีกเลย

Milonov เป็นนักการเมืองที่ต่อต้านกลุ่มคนรักร่วมเพศทุกชนิด เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันกฎหมายเอาผิดคนที่มีรสนิยมรักเพศเดียวกัน และเป็นคนเดียวกันกับที่เคยออกมาขู่ว่าจะจับกุมตัวนักกีฬาที่เป็นเกย์ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวที่เมือง Sochi

ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลได้เขียนบทความบนเว็บ Bloomberg เปิดเผยตัวตนอย่างเป็นทางการว่าเขาเป็นคนรักร่วมเพศ และถึงแม้ว่าหลายคนจะทราบถึงรสนิยมทางเพศของเขามาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมายืนยันด้วยตัวเอง

"ผมภูมิใจที่ผมเป็นเกย์ และผมถือว่าการเป็นเกย์เป็นหนึ่งในของขวัญที่เยี่ยมที่สุดที่พระเจ้าได้มอบไว้ให้กับผม"

ในบทความ คุกไม่ได้เน้นเรื่องปัญหาส่วนตัวเท่าใดนัก แต่ได้เน้นเรื่องความเท่าเทียมกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเชื้อชาติ สัญชาติ เพศ และรสนิยมทางเพศที่หลากหลาย โดยเขายืนยันว่าตัวเขาเอง และแอปเปิลมีจุดยืนที่จะสู้เพื่อความเท่าเทียมเหล่านี้ต่อไป

Tim Cook เพิ่งไปพูดที่งานของ Wall Street Journal (งานเดียวกับข่าว Apple Pay ถูกเปิดใช้บริการแล้ว 1 ล้านครั้งภายใน 3 วันแรก มากกว่าคู่แข่งทั้งหมดรวมกัน) โดยผู้ดำเนินรายการพยายามถามถึงอายุแบตเตอรี่ของ Apple Watch

Cook เลี่ยงจะตอบคำถามนี้ตรงๆ โดยเขาตอบว่าแอปเปิลคาดว่าคนจะใช้งานมันเยอะ จนสุดท้ายแล้วต้องชาร์จเป็นประจำทุกวัน (We think people are going to use it so much you will end up charging it daily)

เขายังบอกว่าสงคราม iOS vs Android จะไม่ซ้ำรอย Mac vs PC ในอดีตแน่ๆ เพราะปัญหาของ Mac คือมีแอพน้อยเกินไป แต่ iOS ไม่มีปัญหาแบบเดียวกัน

หลังงานเปิดตัว iPhone 6 ที่ผ่านมา Apple ก็ได้ปลด iPod Classic ออกจากหน้า Apple Store ทิม คุก ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Wall Street Journal เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยสาเหตุที่หยุดจำหน่ายก็เป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ว่า iPod Classic นั้นหาชิ้นส่วนในการผลิตไม่ได้

"เราไม่ได้ผลิตมันอีกแล้ว เรากำลังคิดค้นสินค้าใหม่ๆ อยู่ มันคงเป็นความจริงที่คุณคงไม่อยากจะได้ยิน เพราะคนที่ต้องการมันมีในจำนวนน้อย หากคุณคิดถึง Clickwheel ของมัน ลองหาซื้อที่ eBay" ทิมคุก กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา - Engadget

ทิม คุก ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Wall Street Journal พร้อมกับเผยข้อมูลจาก Visa ว่ามีผู้เปิดใช้บริการ Apple Pay แล้วถึงหนึ่งล้านครั้ง (นับเป็นจำนวน Activations) ภายใน 72 ชั่วโมงแรกของการเปิดให้บริการ โดยตัวเลขนี้ถือว่ามากกว่าจำนวนผู้ใช้บริการชำระเงินแบบ Contactless ทุกรายรวมกันทั้งหมด

คุก ยังได้ออกมาแหย่คู่แข่งรายอื่นอีกว่าแอปเปิลเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลการใช้งานของลูกค้า Apple Pay เลยแม้แต่น้อย ต่างกับบริการคู่แข่งที่ทำตัวเหมือน Big Brother

ที่มา - 9to5Mac

Tim Cook ไปเยือนประเทศจีนเป็นเวลา 4 วัน โดยพบผู้นำระดับสูงของรัฐบาลจีนและเยี่ยมชมโรงงานของ Foxconn ที่ผลิตสินค้าให้แอปเปิล

เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Xinhua ของจีนว่านอกจาก iPhone ที่ทำยอดขายได้สวยในประเทศจีนแล้ว เขายังต้องการนำ Apple Pay บุกตลาดจีนด้วย โดยเขาเชื่อว่ามีคนจีนจำนวนมากอยากใช้บริการนี้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยอมรับว่าต้องเข้าใจพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาดจีน ทั้งบริษัทบัตรเครดิต ธนาคาร และร้านค้าอีกพอสมควรก่อนจะผลักดันให้ Apple Pay ประสบความสำเร็จได้

Tim Cook เขียนอีเมลภายในบริษัทถึงพนักงานทุกคน ในโอกาสครบรอบ 3 ปีการเสียชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ โดยมีข้อความสั้นๆ ว่าอยากให้ทุกคนระลึกถึงสตีฟ จ็อบส์ ในแง่ผลงานของเขาที่ช่วยให้โลกดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ของเด็กๆ หรือการทำงานของศิลปินทั่วโลก

Cook บอกว่าวิสัยทัศน์ของจ็อบส์จะคงอยู่ต่อไปแม้เขาเสียชีวิตไปแล้ว และแอปเปิลจะสานต่อคุณค่าเหล่านั้น ถึงแม้ผลงานช่วงหลังของแอปเปิลจะเริ่มขึ้นหลังเขาเสียชีวิต แต่โครงการเหล่านี้ย่อมได้แรงบันดาลใจมาจากแนวทางของจ็อบส์อย่างแน่นอน

ที่มา - 9to5mac