Tim Cook ให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษ The Independent ในประเด็นหลักเกี่ยวกับ AR ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่มากในอนาคต โดย ARKit ของแอปเปิลเป็นผู้นำในตลาดนี้ และจะมีนักพัฒนาจำนวนมากแห่กันมาทำแอพ AR ในลักษณะเดียวกับความสำเร็จของ App Store
ประเด็นสำคัญอยู่ที่คำถามว่าแอปเปิลสนใจทำแว่น VR/AR หรือไม่ คำตอบของ Cook คือเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่ดีพอสำหรับการทำแว่นที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมุมมองการแสดงผล (field of view) หรือคุณภาพของหน้าจอ ซึ่งแอปเปิลจะยังไม่ทำแว่นหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็น VR/AR ออกมาจนกว่าจะได้คุณภาพระดับที่แอปเปิลต้องการ
Cook บอกว่าแอปเปิลไม่ต้องการเป็นรายแรกที่ทำ แต่ต้องการทำผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด ตอนนี้ในตลาดยังไม่มีผลิตภัณฑ์ VR/AR ตัวไหนที่ผู้บริโภคพึงพอใจกับมัน
ซีอีโอแอปเปิล Tim Cook ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ครั้งแรกหลังเปิดตัว iPhone X ในรายการ Good Morning America โดยเขาตอบคำถามจากผู้ชมทางบ้านเกี่ยวกับราคา iPhone X ที่สูงถึง 999 ดอลลาร์ ว่าแพงเกินไปหรือไม่ว่า นี่เป็นราคาที่คุ้มค่าสำหรับเทคโนโลยีที่ได้รับ ขณะเดียวกันผู้ซื้อก็มีทางเลือกทั้งจ่ายเต็มราคา ผ่อนชำระ หรือได้รับส่วนลดจากผู้ให้บริการมือถือ
เขายังเสริมต่ออีกว่า iPhone ได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันแต่ละคนมากขึ้นเรื่อยๆ และคาดหวังให้สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ฉะนั้นแอปเปิลก็ต้องทำให้มากขึ้น และใส่เทคโนโลยีให้มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการนี้เช่นกัน นอกจากนี้เขายังย้ำแนวทางแอปเปิลว่าคือการทำของที่ดีที่สุดมาขาย ไม่ใช่ทำของมาขายให้ได้มากที่สุด
ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่ Donald Trump ออกมายืนยันว่าแอปเปิลจะสร้างโรงงานในสหรัฐ 3 แห่ง ก่อนจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าหรืออาจจะว่าประธานาธิบดีสับสนแอปเปิลกับซัพพลายเออร์แอปเปิลอย่าง Foxconn ที่มาเปิดโรงงานหรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม Tim Cook กลับยิ่งทำให้หลายฝ่ายรู้สึกว่าข้อสงสัยนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อต้องการคำยืนยัน ทว่าเจ้าตัวกลับเลี่ยงที่จะตอบคำถามโดยตรง ก่อนจะหันไปยืนยันและพูดถึงความพยายามในการสร้างงาน 2 ล้านตำแหน่งในสหรัฐของแอปเปิลแทน
เมื่อข่าวการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของแอปเปิลได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ การพูดถึงโปรแกรมนี้ของผู้บริหารก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างล่าสุดในรายงานผลประกอบการของบริษัท
Tim Cook ออกมายืนยันว่าแอปเปิลให้ความสำคัญและโฟกัสกับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ กำลังมีโปรเจ็คใหญ่และถือว่ากำลังลงทุนครั้งใหญ่อยู่ พร้อมแสดงความเห็นว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถนำไปใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย และรถยนต์เป็นเพียงหนึ่งในนั้น ซึ่งอาจเป็นการบอกใบ้กลายๆ ว่าแอปเปิลอาจไม่ได้ใช้งานระบบอัตโนมัติแค่บนรถยนต์
ประธานาธิบดี Donald Trump ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal บอกว่า Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลได้ให้คำมั่นว่า แอปเปิลจะสร้างโรงงานผลิต ขนาดใหญ่ 3 โรงงาน และเป็นโรงงานที่สวยมาก ในอเมริกา ซึ่งช่วยให้เกิดการจ้างในประเทศเพิ่มขึ้น
Trump ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าโรงงานนั้นจะเป็นโรงงานของแอปเปิลเอง หรือเป็นของบริษัทอื่นที่ผลิตสินค้าให้แอปเปิล รวมทั้งเป็นโรงงานสินค้าประเภทใด
ปัจจุบันแอปเปิลมีโรงงานในอเมริกาที่เปิดเผยแห่งเดียวคือ โรงงานประกอบ Mac Pro ในเมือง Austin
Apple ประกาศเปิดตัวร้านค้า Apple Store แห่งแรกในไต้หวันแล้ว ตั้งอยู่ที่อาคาร Taipei 101 นอกจากบริษัทจะตีพิมพ์คำแถลงเปิดตัวในเว็บไซต์ของไต้หวันแล้ว Tim Cook ยังโพสต์รูปภาพร้านค้าแห่งใหม่ผ่านทวิตเตอร์ด้วย
ความโดดเด่นของร้านค้าแห่งใหม่คือดีไซน์กำแพงที่เป็นสีแดงสด และมีลายแบบกระดาษสไตล์โบราณสวยงาม ออกแบบโดย Yang Shiyi งานศิลปะของเขายังปรากฏบนเว็บไซต์ร้านค้าของ Apple ไต้หวันด้วย
อย่างไรก็ตามตัวร้านค้ายังไม่เปิดเป็นทางการ แต่คาดว่าจะเปิดเต็มที่ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
นโยบายหนึ่งของโดนัลด์ ทรัมป์ คือ ต้องการให้งานและอาชีพที่มักไหลออกไปยังต่างประเทศและบริษัท outsource กลับมาอยู่ในประเทศ โดยเฉพาะงานด้านการผลิตและไอที
ล่าสุด Tim Cook ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว CNBC และประกาศว่าทาง Apple จะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพในสหรัฐฯ โดยการลงทุนระลอกแรกจะเริ่มขึ้นในเดือนหน้า แต่เขาไม่ได้ระบุว่าการลงทุนนี้เป็นผลกระทบจากนโยบายทรัมป์แต่อย่างใด และไม่ได้ระบุว่าจะย้ายฐานการผลิตกลับมาอยู่ในประเทศ บอกเพียงว่าจะลงทุนเพิ่มเพื่อสร้างงานเท่านั้น
ช่วงหลังมานี้ หลายคนอาจเห็นข่าว Uber เล่นไม่ซื่อกับหลายบริษัท โดยเฉพาะกับคู่แข่ง Lyft หรือแม้กระทั่งรัฐบาล และล่าสุดว่ามีรายงานว่า Uber ก็เคยถูกจับได้ว่าเล่นไม่ซื่อกับ Apple เรื่องการติดตามผู้ใช้เมื่อสองปีก่อน
The New York Times รายงานโดยใช้หัวข้อว่า “ซีอีโอ Uber เล่นกับไฟ” โดยในรายงานมีเรื่องที่น่าสนใจว่า ซีอีโอของ Uber คือ Travis Kalanick เป็นคนที่ไม่ชอบทำตามกฎในหลายเรื่อง พร้อมจะทลายกฎทุกครั้งที่ทำให้เขาสำเร็จได้ และหนึ่งในเรื่องทั้งหมดคือการละเมิดกฎของ Apple แถมยังหลอกวิศวกรทำให้ตรวจไม่พบด้วย
ถึงแม้ในทางธุรกิจเป็นคู่แข่งกัน แต่ในแง่สายสัมพันธ์ระหว่างบุคคลก็ยังคบหาได้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีคนพบเห็น Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิล ไปนั่งทานข้าวกับ Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลแบบ 1:1 ที่ร้านอาหารในเมือง Palo Alto ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่ของทั้งสองบริษัท
ไม่มีใครรู้ว่าการพูดคุยกันระหว่างสองซีอีโอระดับโลกมีเรื่องอะไรบ้าง แต่สำหรับคนที่อยากตามรอยไปกินบ้าง ร้านอาหารนี้ชื่อว่า Tamarine Restaurant เป็นร้านอาหารเวียดนาม
เรียกแขกได้มากจริงๆ สำหรับนโยบายปิดกั้นผู้อพยพจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศไม่ให้เข้าประเทศเป็นการชั่วคราว ผู้บริหารบริษัทไอทีเองก็มีปฏิกิริยาต่อต้านนโยบายดังกล่าว แม้ส่วนใหญ่เคยเข้าร่วมประชุมเป็นส่วนตัวกับทรัมป์มาแล้วเรื่องทิศทางเศรษฐกิจและบริหารประเทศ แต่ดูเหมือนนโยบายผู้อพยพจะล้ำเส้นจนต้องคนไอทีต้องออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย
ไล่เรียงเหตุการณ์หลังจากเซ็นคำสั่งอนุมัติ ซีอีโอ Google เรียกตัวพนักงานที่เข้าข่ายกลับสหรัฐฯ Airbnb ประกาศบริการที่พักพิงฟรีให้ผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบต่อมาผู้บริหารไอทีทยอยส่ง memo ให้พนักงาน สำนักข่าว Buzzfeed ไปรวบรวมมามีดังนี้
จะบอกว่ากำลังเป็นกระแสก็คงไม่ผิดนัก กับคำพูดที่บอกว่าแอปเปิลอิ่มตัวแล้วบ้าง ขาลงแล้วบ้าง ไม่มีอะไรน่าสนใจในงานคีย์โน้ตแล้วบ้าง ซึ่งประเด็นนี้แม้แต่อดีตคนภายในเองก็ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ว่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมองค์ ที่เปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่ที่เขาเคยทำงานอยู่ในยุคที่ Steve Jobs เป็นหัวเรือ
Bob Burrough อดีตวิศวกรของแอปเปิลให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ในยุคที่ Jobs กลับมาเป็นซีอีโอรอบที่สอง อย่างในช่วงของการพัฒนา iPhone ชิ้นแรกนั้น วัฒนธรรมขององค์กรคือการให้ความสำคัญกับโปรเจ็คมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ตัวองค์กรทั้งหมด มีการแข่งขัน มีไดนามิก
ในเอกสารที่แอปเปิลยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เผยตัวเลขรายได้ที่ซีอีโอ Tim Cook ได้รับในปี 2016 รวมแล้วที่ 8.75 ล้านดอลลาร์ (313 ล้านบาท) ลดลงจาก 10.28 ล้านดอลลาร์ที่เขาได้ในปี 2015 (367 ล้านบาท) ด้วยเหตุผลว่ารายได้และกำไรพลาดเป้า
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเฉพาะของเงินเดือนของ Tim Cook เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่ลดลงคือเงินโบนัสตามผลประกอบการของบริษัทเท่านั้น
เอกสารของแอปเปิลบอกว่ารายได้ในปี 2016 ลดลง 7.7% และกำไรจากการดำเนินการลดลง 15.7% จากในปี 2015 ส่งผลให้ค่าตอบแทนผู้บริหารระดับสูงลดลง
ที่มา - CNBC
ไม่กี่วันก่อนมีการประชุมสำคัญระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และผู้ทรงอิทธิพลของไอที หนึ่งในนั้นมีทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลด้วย ไม่แปลกที่จะถูกตั้งคำถามว่า ทิม คุก มีแนวทางอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับความร่วมมือรัฐบาลทรัมป์ ที่ก่อนหน้านี้มีแนวทางอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง
ล่าสุด ทิม คุก ได้อธิบายให้พนักงานแอปเปิลฟังถึงการประชุมดังกล่าวว่า รัฐบาลส่งผลต่อการทำงานของเราได้ทั้งทางบวกและลบ เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องร่วมมือ เราร่วมมือ เพราะเราเห็นพ้อง และถ้าเราไม่เห็นพ้อง เราก็ยังต้องร่วมมือกับรัฐบาล เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการตะโกน แต่เปลี่ยนด้วยการแสดงเหตุผล และหนทางที่คุณคิดว่าดีที่สุด
เป็นประจำทุกครั้งหลังงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิล ที่จะมีคำถามผุดขึ้นมาจากทั้งแฟนแอปเปิลและสื่อ ถึงแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ในไลน์อื่นว่าจะมีรุ่นใหม่หรือไม่อย่างไร เช่นเดียวกันกับกรณีของ Mac เวอร์ชันเดสก์ท็อป ซึ่ง Tim Cook ได้ออกมายืนยันว่ายังคงให้สำคัญกับไลน์นี้ อย่างน้อยๆ ก็ iMac
ซีอีโอแอปเปิลโพสต์ข้อความในบอร์ดของพนักงานแอปเปิลว่า เดสก์ท็อปยังคงสำคัญและเป็นผลิตภัณฑ์ยุทธศาสตร์ของบริษัท เพราะแตกต่างและโดดเด่นไม่เหมือนโน้ตบุ๊ค โดยในข้อความนั้น Tim Cook พูดถึงแต่เพียง iMac เท่านั้นว่าเป็นเดสก์ท็อปที่ดีและหน้าจอสวยงามที่สุดที่เคยทำมา ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าที่ Cook พูดถึงนั้นหมายรวมถึง Mac Pro และ Mac Mini ที่ไม่ได้อัพเกรดมา 3 และ 2 ปีตามลำดับหรือไม่
ค่อนข้างสวนทางกับยอดขายเมื่อไตรมาสที่แล้วที่ IDC เปิดเผยออกมา เมื่อ Tim Cook เปิดเผยว่า Apple Watch มียอดขายทำลายสถิติในช่วงสัปดาห์แรกของหน้าช็อปปิ้งช่วง Holiday Season (ประมาณปลายพฤศจิกายนถึงต้นมกราคม)
ซีอีโอของแอปเปิลได้ตอบกลับอีเมลของสำนักข่าว Reuters โดยระบุว่า ตัวเลขยอดขายของ Apple Watch ในช่วงดังกล่าว พุ่งสูงที่สุดกว่าที่เคยมีมานับตั้งแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งแรก พร้อมทั้งคาดหวังว่าไตรมาสนี้ ยอดขาย Apple Watch จะดีที่สุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Tim Cook ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขยอดขาย Apple Watch ออกมาครับ
ที่มา - Reuters
ว่าที่ประธานาธิบดี Donald Trump ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ในหลายประเด็น เรื่องหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงคือการจ้างงานในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของเขามาตั้งแต่แรก
Trump ยืนยันว่าอเมริกาจะต้องกลับมา "ผลิตของ" (we're going to start making things) ส่วนประเด็นเรื่องการใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนคน เขาบอกว่าอเมริกาต้องผลิตหุ่นยนต์เองด้วย
เขายังบอกว่าได้โทรศัพท์คุยกับทั้ง Bill Gates และ Tim Cook โดยเขาบอกกับ Cook ว่าสิ่งสำคัญที่เขาต้องทำให้ได้คือดึงให้แอปเปิลกลับมาสร้างโรงงานขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา แทนการผลิตสินค้าในจีนหรือเวียดนาม โดยรัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการจูงใจทางภาษี และผ่อนคลายกฎระเบียบให้แอปเปิลเป็นการตอบแทน
Tim Cook ตอบ Trump เพียงสั้นๆ ว่า 'I understand that' (จากที่ Trump เล่าออกสื่อด้วยตัวเอง)
Tim Cook ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว abc News เขาบอกว่าชอบเทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality มากกว่า VR เพราะมันทำให้ผู้ใช้อยู่กับปัจจุบันและความเป็นจริงได้มากกว่า
หัวเรื่องใหญ่ที่สัมภาษณ์กันคือ เทคโนโลยีแบบไหนที่ Apple เล็งจะพัฒนาในอนาคต และพูดคุยในเรื่องหลากหลายอย่าง iPhone 7 และ Earpod แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ Tim Cook ระบุว่าทั้งเทคโนโลยี AR และ VR ต่างก็เป็นสิ่งที่น่าทึ่ง แต่เขาชอบ AR มากกว่า
"AR ทำให้คนสองคนสามารถนั่งคุยกัน ในขณะเดียวกันก็ทำอย่างอื่นไปด้วย อยู่กับปัจจุบันมากขึ้น" Tim Cook กล่าว และการที่มันมีความปัจจุบันมาก เขาจึงคิดว่า AR มีศักยภาพใช้งานเชิงพาณิชย์มากกว่า VR
เมื่อแอปเปิลเปิดตัว AirPods ก็หนีไม่พ้นจะโดนแซะและมีความกังวลกันว่ามันจะหล่นง่าย จนมีการทำสายคล้องออกมาขาย ล่าสุด Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ Good Morning America ยืนยันว่า AirPods ไม่ได้หล่นง่ายๆ แม้แต่ตัวเขาใส่ขณะเต้นก็ยังไม่หล่น
Cook บอกว่าเขาใส่ AirPods ทั้งตอนเดิน ทำธุระต่างๆ หรือแม้แต่ตอนเต้นและอยู่บนลู่วิ่งก็ไม่เคยหล่นออกมาจากหู และย้ำว่า AirPods ของเขาไม่เคยหลุดออกมาเลย ตรงกันข้ามกับหูฟังที่มีสาย ที่ Cook มองว่าสายต่างหากที่เป็นตัวทำให้หูฟังหล่นออกมา เพราะมันมีน้ำหนักที่คอยรั้งหูฟังเอาไว้ตลอด
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้เดินทางไปเยือนจีนเป็นคำรบที่ 2 ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา และได้พูดคุยหารือกับนาย Zhang Gaoli รองนายกรัฐมนตรีของจีน เรื่องการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ของแอปเปิล
ซีอีโอแอปเปิลให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแห่งแรก จะเริ่มสร้างภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการสร้างศูนย์วิจัยครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนในจีนเพิ่มเติม แต่จะเป็นการสานสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัยและพาร์ทเนอร์ต่างๆ ในจีนให้มากขึ้นด้วย
ที่มา - Reuters
นานมาแล้วที่ Tim Cook เผยว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงออกมาเปิดเผย มีเหตุผลอะไรแอบแฝงเบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งเนื้อหาขนาดยาวที่ Tim Cook ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ในโอกาสครบรอบ 5 ปีที่ทำหน้าที่ซีอีโอ มีคำตอบในเรื่องนี้ด้วย
Tim Cook ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ในโอกาสทำงานเป็นซีอีโอมาครบ 5 ปี เขาตอบคำถามว่าอะไรคือความผิดพลาดของแอปเปิลบ้าง คำตอบของเขามี 2 อย่าง
อย่างแรกคือ Apple Maps ซึ่ง Tim Cook บอกว่าตอนแรกมีปัญหามาก แต่สุดท้ายแล้วแอปเปิลต้องกล้ายอมรับความผิดพลาดของตัวเอง เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยบริษัทใหญ่ๆ ในอดีตที่มีอีโก้สูงจนไม่ต้องการยอมรับความผิดพลาดลักษณะนี้ เขาบอกว่ายิ่งยอมรับเร็วยิ่งเป็นเรื่องดี เพราะมีโอกาสปรับปรุงตัวทัน และถ้ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา ทุกคนก็จะให้โอกาส ซึ่งตอนนี้ Maps ของแอปเปิลก็ถูกปรับปรุงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนภูมิใจแล้ว
จริงๆ แล้วเป็นข่าวเก่าช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่เห็นบางสำนักข่าวลงข่าวเรื่องนี้เมื่อวาน ทาง Blognone เห็นว่าประเด็นนี้น่าสนใจจึงหยิบมาเขียน
โรงเรียน Baldwin County Public Schools ที่ Alabama ยกเลิกการใช้ MacBook เพื่อการเรียนการสอนด้วยเหตุผลแสนเรียบง่ายคือ "แพง" โดยจะขายเครื่อง MacBook ทั้งหมดกว่า 20,000 เครื่อง เพื่อนำไปซื้อ Chromebook แทน แบรนด์ที่ทางโรงเรียนเล็งไว้คือ Lenovo N21 Chromebook ราคาต่อเครื่องอยู่ที่ 280 ดอลลาร์
ถึงแม้ยอดขาย iPhone ไตรมาสล่าสุดของแอปเปิลจะลดลง จนมีการวิเคราะห์กันว่าอาจเป็นขาลงของแอปเปิล แต่ดูเหมือนว่าแอปเปิลยังคงมีไพ่เด็ดสำหรับ iPhone รุ่นถัดไปในการดึงดูดเงินของเราๆ ท่านๆ อยู่
Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลไปให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC ของสหรัฐฯ ระบุ iPhone รุ่นใหม่จะเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ เราจะมอบสิ่งที่คุณไม่รู้ว่าคุณต้องการในวันนี้ และคุณจะขาดมันไม่ได้ จนคุณต้องหันกลับไปมองว่า ที่ผ่านมาเราอยู่มาได้อย่างไรโดยไม่มีมัน
สำนักข่าว The Huffington Post รายงานข่าวจากแหล่งข่าวที่ไม่ระบุตัวตนว่า มีการพบปะระหว่างมหาเศรษฐี, ผู้นำบริษัทไอที และสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน เพื่อเข้าร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการ World Forum จัดโดย American Enterprise Institute ที่เกาะส่วนตัวแห่งหนึ่ง
จากรายงานข่าว บอกว่าผู้ร่วมประชุมจากฝั่งไอทีมี Tim Cook ซีอีโอ Apple, Larry Page ผู้ร่วมก่อตั้ง Google, Sean Parker ผู้ก่อตั้ง Napster และเคยทำงานตำแหน่งบริหารใน Facebook และ Elon Musk ซีอีโอ Tesla ส่วนนอกนั้นจะเป็นผู้คนจากวงการการเมืองอย่างเช่น Paul Ryan โฆษกรัฐสภา, Karl Rove กูรูทางด้านการเมือง รวมถึงมหาเศรษฐีอีกหลายคน
พร้อมกับการวางขาย iPad Pro ที่เปิดศักราชใหม่ให้อุปกรณ์ iOS สามารถทำงานซับซ้อนได้มากขึ้น พร้อมกับการมาของ Surface Book ที่ยิ่งสร้างกระแสอุปกรณ์แบบไฮบริดมากขึ้น หลายคนจึงเริ่มตั้งคำถามว่าแอปเปิลนั้นสนใจทำอุปกรณ์ไฮบริดบ้างหรือไม่
ตอนนี้คำถามที่ว่าได้รับคำตอบจาก Tim Cook แล้ว โดยในระหว่างงานแถลงข่าววางขาย iPad Pro เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าไม่มีแผนจะทำอุปกรณ์ไฮบริดกับ MacBook และ iPad เนื่องจากความพยายามทำให้อุปกรณ์ทำงานได้สองรูปแบบพร้อมกันนั้นไม่สามารถทำให้ผู้ใช้ MacBook และ iPad ในปัจจุบันนั้นพึงพอใจได้ และไม่ใช่วิธีการใช้งานที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆ