อาจไม่ใช่ข่าวดีนักสำหรับ Samsung ที่พยายามแก้ไขปัญหาของ Galaxy Note 7 อยู่ในเวลานี้ เมื่อ 3 สายการบินหลักของออสเตรเลียคือ Qantas, Jetstar (สายการบินต้นทุนต่ำ บริษัทลูกของ Qantas) และ Virgin Australia ประกาศห้ามผู้โดยสารใช้หรือชาร์จ Galaxy Note 7 ขณะทำการบิน
ดูเหมือนว่ากรณีของ Galaxy Note 7 ระเบิด กำลังสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างมากกว่าการยุติจำหน่ายชั่วคราวและการเรียกคืนเครื่อง เมื่อทางองค์กรควบคุมการบินกลาง (FAA) ของสหรัฐฯ ยอมรับกับเว็บไซต์ข่าว Gizmodo ว่ากำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแบน Galaxy Note 7 ห้ามขึ้นเครื่องบินโดยสาร
ถนนคนเดิน เป็นกิจกรรมซึ่งจัดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ โดยแต่ละพื้นที่นั้นย่อมมีเอกลักษณ์การจัดงานที่แตกต่างกันไป เราจึงสร้าง Application Kondern ซึ่งรวบรวมข้อมูลการจัดงานถนนคนเดินโดยสังเขป เพื่อให้ท่านตรวจสอบและเตรียมตัวเพื่อการท่องเที่ยวในงานถนนคนเดินของท่าน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสายการบิน ANA เกิดเหตุระบบล่มขนานใหญ่ นานถึง 4 ชั่วโมง 40 นาที ทำให้ผู้โดยสารติดค้างสนามบินจำนวนนับหมื่นราย ตอนนี้ทางสายการบินก็ออกมาชี้แจงสาเหตุ ระบุว่าเกิดจากสวิตช์เน็ตเวิร์คตัวหนึ่งที่เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลเสียหาย
วันนี้ที่สนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระบบเช็คอินผู้โดยสารของสายการบิน All Nippon Airways หรือ ANA เกิดปัญหาขัดข้อง จนทำให้สายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศจำนวนกว่า 120 เที่ยวบิน กระทบต่อผู้โดยสารมากกว่า 16,000 คน
รายงานข่าวระบุว่าปัญหาของระบบคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 8.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยทำให้ระบบอื่นๆ อย่างเช่นระบบสำรองที่นั่งและจำหน่ายตั๋วโดยสารไม่สามารถทำงานตามไปด้วย กระทบเป็นวงกว้างทั่วญี่ปุ่น และยังมีผลกระทบกับสนามบินอีกหลายแห่งตามไปด้วย โดยระบบกลับมาใช้งานได้อีกครั้งตอน 11.30 น. แต่ระบบจำหน่ายตั๋วยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งทางสายการบินออกมาขอโทษลูกค้าและรับปากจะเร่งสอบสวนหาสาเหตุต่อไป
สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ แต่อยากได้ตั๋วถูกในช่วงที่สายการบินไม่ได้แจกโปรโมชั่น อาจจะไม่ต้องรอนานอีกต่อไป เพราะปัจจุบัน เราสามารถดูราคาของตั๋วเครื่องบินจากทุกสายการบินได้ภายในคลิ๊กเดียว ก่อนเข้าไปจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกบนเว็บไซต์สายการบินที่ให้ราคาตั๋วที่ถูกที่สุดได้ด้วยตนเอง ซึ่งช่วยให้ประหยัดทั้งเงินและเวลา แถมไม่ต้องนั่งหน้าคอมเป็นชั่วโมงๆ เพราะเดี๋ยวนี้นอกจากบนเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอปใช้งานแสนง่าย ให้โหลดมาใช้เตือนความจำ ไม่ให้พลาดแจ้งเตือนเจ้าของมือถือ เมื่อราคาตั๋วเครื่องบินถูกลงได้เสมอ นามว่า Jetradar
IBM และเครือโรงแรม Hilton ประกาศเปิดตัวหุ่นยนต์ Connie หุ่นยนต์ทำหน้าที่ต้อนรับแขก (concierge) ของโรงแรมที่ใช้เทคโนโลยี Watson เป็นเบื้องหลัง
ชื่อของหุ่นยนต์ตั้งตามชื่อ Conrad Hilton ผู้ก่อตั้งโรงแรมเครือ Hilton โดยจะทำหน้าที่ร่วมกับพนักงานในการให้ความช่วยเหลือแขกเข้าพัก รวมไปถึงคำร้องของจากแขกต่างๆ (เช่น จองห้องอาหาร จองทัวร์) ระบบเบื้องหลังเป็น Watson และใช้เอนจินของบริษัท WayBlazer ที่พัฒนาอยู่บนฐานของ Watson อีกทีหนึ่งในการให้คำแนะนำกับแขกที่เข้าพัก
ตอนนี้ทดลองใช้เฉพาะที่โรงแรม Hilton McLean มลรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา โดยยังไม่ระบุว่ามีแผนจะใช้ในที่อื่นหรือไม่
วงการท่องเที่ยวออนไลน์มาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อกูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์ Google Destinations ระบบค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวครบวงจรได้จาก Google Search
วิธีการใช้งานคือพิมพ์คำค้นเกี่ยวกับท่องเที่ยวลงใน Google Search บนมือถือ แล้วพ่วงคำว่า "destinations" ลงไป ระบบจะแสดงข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาที่เหมาะสม ราคาโดยประมาณ เราสามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม เช่น แผนการท่องเที่ยวตัวอย่าง ราคาโรงแรม ค่าใช้จ่ายทั้งทริปตามจำนวนวันที่เราต้องการ รวมถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว ที่คนน่าจะน้อยที่สุด เป็นต้น
TakeMeTour เป็นสตาร์ตอัพด้านการท่องเที่ยวของไทยที่กำลังมาแรงอีกราย บริษัทนี้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย dtac Accelerate Batch 3 รูปแบบคือเป็นตลาดกลางสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในการหาไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง (ในแถบเอเชียเองก็มี Triip.me ของเวียดนาม ที่ทำแบบเดียวกัน)
Blognone มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณอมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์ (ต้า หรือ ทาโร่) ผู้ก่อตั้ง TakeMeTour เกี่ยวกับที่มาที่ไปของบริษัท โมเดลธุรกิจ และแผนการในอนาคต น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจสตาร์ตอัพในสายท่องเที่ยวครับ
สัปดาห์นี้ผมมีโอกาสไปร่วมงาน Digi.travel Thailand 2015 งานสัมมนาด้านเทคโนโลยีกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของบ้านเรา
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็เหมือนกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เผชิญความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่อง sharing economy ที่ธุรกิจโรงแรมตื่นตัวกันมาก แต่ก็ยังรวมถึงบริการอื่นๆ เช่น การจองไกด์ การทำการตลาดออนไลน์ ฯลฯ ด้วย
วิทยาการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แต่เนื้อหาหลายส่วนก็เกี่ยวข้องกับประเทศไทยครับ
NUA Robotics บริษัทด้านหุ่นยนต์ของอิสราเอล ประกาศเปิดตัวกระเป๋าเดินทางต้นแบบที่มีชื่อว่า Bluesmart ซึ่งเป็นกระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ ที่สามารถติดตามเจ้าของไปได้ในทุกที่ด้วยตัวของมันเอง
ตัวกระเป๋าจะมีคุณสมบัติในการติดตามเจ้าของ ซึ่งตัวกระเป๋าจะมีกล้อง ตัวตรวจจับต่างๆ ซึ่งสามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้ โดยกระเป๋าจะติดตามเจ้าของไปทุกๆ ที่ โดยที่เจ้าของไม่ต้องลากกระเป๋าเองเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติเป็นแหล่งพลังงานสำรอง (power bank) สำหรับโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่างๆ การแจ้งเตือนการถูกขโมย การติดตามตำแหน่ง รวมไปถึงชั่งน้ำหนักได้ในตัวเอง เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ NUA Robotics คาดว่าจะนำออกสู่ตลาดได้ภายในหนึ่งปีนับจากนี้
Skyscanner เว็บค้นหาตั๋วเครื่องบิน-โรงแรมจากสกอตแลนด์ (ที่มีธุรกิจในประเทศไทยด้วย) ระดมทุนเพิ่มอีก 128 ล้านปอนด์ เพื่อเตรียมขยายธุรกิจในระดับนานาชาติให้มากขึ้น
Skyscanner ก่อตั้งในปี 2003 โดยเป็นเว็บแบบที่เรียกว่า online travel agency (OTA) แบบเดียวกับ Expedia หรือ Kayak ที่ผ่านมาบริษัทเคยได้เงินลงทุนจาก Sequoia และ SAP ส่วนการระดมทุนรอบล่าสุด ได้เงินจากกองทุนของรัฐบาลมาเลเซีย Khazanah Nasional Berhad และ Yahoo! Japan ทางบริษัทไม่เปิดเผยมูลค่าล่าสุดตามราคาหุ้น (valuation) แต่หนังสือพิมพ์ Financial Times รายงานข่าววงในว่าอยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ กลายเป็นบริษัทไอทีระดับ unicorn (มูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) ไปอีกราย
วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์ (DFAT) ของออสเตรเลีย Julie Bishop ออกมาประกาศบนเวทีงาน InnovationXchange ซึ่งเป็นเวทีของโครงการชื่อเดียวกันของอดีตผู้ว่านครนิวยอร์ก Michael Bloomberg ว่าทาง DFAT เตรียมที่จะทดลองใช้หนังสือเดินทางแบบคลาวด์ (Cloud Passport) ซึ่งในขณะนี้ได้เริ่มมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างนิวซีแลนด์แล้ว
ถ้าจำกันได้ เมื่อช่วงต้นปี Amazon เพิ่งเปิดบริการจองห้องพักในชื่อ Amazon Destination ซึ่งเปิดบริการไปแล้วกว่า 35 เมืองในสหรัฐฯ แต่ทว่า Amazon ตัดสินใจเลิกให้บริการดังกล่าวแล้วหลังจากเปิดมาเพียง 6 เดือนเศษ
Amazon Destination เป็นความพยายามที่จะเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยวอีกครั้ง หลังจากที่เคยมีดีลให้ลูกค้า Amazon Local ได้ส่วนลดค่าโรงแรมมาก่อน พร้อมกับสร้างสัมพันธ์กับเครือข่ายโรงแรมไปในตัว จนกระทั่งกลายมาเป็น Amazon Destination ที่ตั้งเป้าให้นักช็อปของ Amazon ได้มาหาที่เที่ยวช่วงสุดสัปดาห์กันด้วย ซึ่งแม้ว่าจะดูวิน-วินกันทั้งฝั่ง Amazon และโรงแรม แต่ท้ายที่สุด Amazon กลับเลือกที่จะเลิกให้บริการนี้แทน
ในตอนนี้บริษัทด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหันมาเริ่มใช้ 4D เป็นช่องทางในการโปรโมทเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยใช้งานผ่านแว่นตา VR เพื่อสร้างระบบ Teleporter ตู้ขนาดเท่าตู้โทรศัพท์ที่ทำให้ผู้ใส่เสมือนกับว่าสามารถไปที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะนั่งหรือเดินก็เหมือนอยู่ในที่แห่งนั้นจริงๆ
Tony Berger CEO ของ Relevent ทำการตลาดเชิงทดลองด้วยการใช้ VR และบริษัท Marriott ได้จ้างการตลาดของเขาเพื่อสร้างระบบ Teleporter ให้กับแคมเปญ Travel Brilliantly ในการโปรโมทโรงแรม ซึ่งในระดับของ 4D นั้น ไม่ใช่แค่ตากับหูที่จะรับรู้ได้ แต่ยังรับรู้ได้ถึงกลิ่น (ผ่านการเปิดตัวซิงก์กับกลิ่น) และพื้นดินที่สั่นสะเทือน (ผ่านสัญญาณการเคลื่อนไหวและแพลตฟอร์มจำลองเสียงก้อง) ซึ่งฮาร์ดแวร์ VR นั้นมีราคาถูก และพกพาได้ง่าย
ถ้าจำกันได้เมื่อปลายปีก่อน มีรายงานว่า Amazon เล็งเปิดบริการใหม่เพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยว ด้วยการเปิดให้จองทริป และโรงแรม ล่าสุดบริการดังกล่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อ Amazon Destinations โดยจะให้บริการในพื้นที่จำกัดของสหรัฐฯ ก่อนในช่วงแรก
ทุกวันนี้เราใช้ระบบการจองตั๋วเครื่องบินผ่านคอมพิวเตอร์เกือบหมดแล้ว แต่ก็ใช่ว่าการทำงานจะสมบูรณ์แบบเสมอไป เมื่อ Luxuo เว็บไซต์ข่าวไลฟ์สไตล์ อ้างรายงานข่าวสำนักข่าว AFP และนิตยสาร Forbes ว่า ระบบการจองตั๋วของสายการบิน Etihad สายการบินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำงานผิดพลาด ทำให้แสดงราคาตั๋วผิดไปจากความเป็นจริง เมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา
Amazon เตรียมรุกตลาดใหม่ในธุรกิจท่องเที่ยว เตรียมเปิดบริการให้จองโรงแรมที่พักตั้งแต่ต้นปีหน้า
เว็บข่าวด้านการท่องเที่ยว Skift รายงานว่า Amazon กำลังหารือกับโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งตามเมืองใหญ่ เพื่อเตรียมเปิดบริการ Amazon Travel ซึ่งเป็นบริการจองโรงแรมที่พัก ทั้งนี้ในรายงานยังระบุอีกว่า Amazon อาจเริ่มให้บริการนี้เบิกฤกษ์กันตั้งแต่วันปีใหม่เลยทีเดียว โดยจะประเดิมด้วยโรงแรมใน 3 เมืองของสหรัฐอเมริกา อันได้แก่ New York, Los Angeles และ Seattle บ้านเกิดของ Amazon
จากการสำรวจข้อมูลใน 28 ประเทศทั่วโลกของ Hotels.com พบว่านักท่องเที่ยวชาวไทย “ติดมือถือ” มากสุดในโลก ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย “ไม่ติดมือถือ” โดยจากข้อมูลเมื่อถามว่าคุณพร้อมที่จะสละการติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์มือถือระหว่างท่องเที่ยวหรือไม่ 85% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยระบุว่าไม่พร้อม ในขณะที่ชาวอินเดียเพียง 20% ระบุว่าไม่พร้อม
ในรายงานยังมีการจัดอับดับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบ “เล่าเรื่องเกินจริง” เกี่ยวกับประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเองกับคนรู้จัก หลังจากที่กลับมาบ้านแล้ว โดยนักท่องเที่ยวไทย 46% ชอบเอาประสบการณ์ตัวเองมาเล่าเกินจริง (อันดับ 1 คือประเทศจีนที่ 67%)
ข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ จากรายงานฉบับนี้มีตามนี้ครับ:
กรมรักษาความปลอดภัยการคมนาคมของสหรัฐฯ (TSA) ได้ออกมาประกาศว่าต่อไปนี้ผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องบินจากสนามบินบางแห่งในต่างประเทศ เพื่อที่จะบินเข้ามาในสหรัฐ จะต้องสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะนำติดขึ้นเครื่องมาด้วยสามารถใช้งานได้จริง
นั่นหมายความว่า หากอุปกรณ์ดังกล่าวไม่สามารถเปิดใช้งานได้ เช่น แบตเตอรี่หมด ผู้โดยสารคนนั้นอาจจะต้องโดนตรวจเพิ่มเติม หรือไม่ก็ต้องไม่นำอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้นเครื่องบิน
TSA อธิบายถึงเหตุผลของมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่นี้ว่า อุปกรณ์อย่างมือถือ แท็บเล็ต อาจจะถูกใช้เพื่อซ่อนวัตถุระเบิดได้ หลังจากที่เริ่มมีการตื่นตัวกันเรื่องกลุ่มกบฏ ISIS ในซีเรียและอิรัก