รวมข่าว Twitter (X) มีอะไรอัปเดตใหม่บ้าง
หลังจากที่ Recep Tayyip Erdoğan นายกรัฐมนตรีของตุรกีสั่งบล็อคการเข้าถึงเว็บไซต์ของ Twitter จากในประเทศตุรกีทั้งหมด ตอนนี้ได้เกิดกระแสต่อต้านมาตรการดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด ดังที่ปรากฎว่าแม้จะมีคำสั่งห้ามบริการ Twitter แล้ว ยังคงมีข้อความทวีตถูกส่งจากผู้ใช้ในประเทศตุรกีสูงถึง 1.2 ล้านข้อความ เล็ดรอดผ่านช่องทางต่างๆ
หลังจากเปิดตัวมาได้เกือบครบ 1 ปี แอพ Twitter #music บริการติดตามและค้นหาเพลงซึ่งไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้ว ก็ประกาศจะปิดตัวลงในวันที่ 18 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีของแอพนี้พอดี ส่วนแอพใน App Store จะถอดออกในวันนี้
บัญชี @TwitterMusic ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงสาเหตุ แต่บอกเพียงทาง Twitter จะปรับปรุงและพัฒนาการค้นหาเพลงยอดนิยมโดยอ้างอิงข้อมูลใน Twitter ที่ดีกว่านี้ครับ
ที่มา: Gigaom
ทางการตุรกีได้ทำการบล็อคการใช้งาน Twitter ของประชาชนในประเทศตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี Recep Tayyip Erdoğan ซึ่งจำนวนผู้ใช้งาน Twitter ที่ได้รับผลกระทบมีประมาณ 10 ล้านคน
"เราจะกำจัด Twitter" คือคำประกาศกร้าวของ Erdoğan ในระหว่างการรณรงค์เลือกตั้งที่เมือง Bursa ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของตุรกี โดยเขายังกล่าวอีกว่า "ผมไม่สนว่าประชาคมโลกจะพูดอย่างไร, ทุกคนจะต้องประจักษ์ถึงพลังของสาธารณรัฐตุรกี"
หน้า Timeline ของ Twitter มีความเป็นมัลติมีเดียมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่รองรับการแสดงภาพและวิดีโอจาก Vine ตั้งแต่ปีที่แล้ว คราวนี้เป็นวิดีโอที่อัพโหลดขึ้น Twitter ตรงๆ โดยไม่ต้องผ่าน Vine ครับ
ตอนนี้ Twitter ยังเปิดฟีเจอร์นี้ให้เฉพาะบัญชีของแบรนด์ดังๆ บางรายเท่านั้น (เช่น NBA) โดยผู้บริหารของ Twitter ระบุว่าต้องการให้วิดีโอบน Timeline รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (native) กับข้อความทวีต เพื่อให้คนเข้าถึงวิดีโอได้ง่ายที่สุด (ต่างไปจากสมัยก่อนที่เราต้องใช้วิธีแปะลิงก์ YouTube หรือ Vimeo ซึ่งต้องคลิกหลายทีกว่าจะได้ดูวิดีโอ)
ผู้ใช้บางส่วนพบว่าเพื่อเข้าแอพทวิตเตอร์บนแอนดรอยด์ จะมีฟีเจอร์ "Fave People" หรือติดดาวให้กับคนที่เรากดติดตาม โดยทวีตของคนที่เรากดติดดาวนั้นจะแสดงไอคอนดาวสีเหลืองในไทม์ไลน์ และเมื่อพวกเขาทวีตก็จะมีแจ้งเตือนขึ้นมาด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่าฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้จริงหรือไม่ และต่างจากระบบ List ยังไง ก็ต้องรอดูกันต่อไป
ที่้มา - TechCrunch
เว็บไซต์ TechCrunch รายงานข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ของ Twitter ที่กำลังทดสอบในวงปิด ฟีเจอร์นี้ชื่อว่า Fave People หรือ "บุคคลโปรด" รูปแบบมันจะคล้ายกับฟีเจอร์ List ของ Twitter ในปัจจุบัน ซึ่งจะแยกเป็น Timeline พิเศษที่มีเฉพาะข้อความทวีตจากคนที่เราสนใจเท่านั้น
ฟีเจอร์นี้จะเป็นแท็บใหม่ที่อยู่ระหว่างแท็บ Home/Discover ในปัจจุบัน โดยเราสามารถ "ใส่ดาว" (favorite) บุคคลที่เราติดตามอยู่ได้ (ปัจจุบันเราใส่ดาวได้เฉพาะกับข้อความ)
คาดว่า Twitter ต้องการแก้ปัญหาความยุ่งยากของฟีเจอร์ List ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักและใช้ไม่เป็น โดยนำแนวคิดเรื่องการ "ใส่ดาว" เข้ามาช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายขึ้น
Dick Costolo กำลังเตรียมเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลและนักวิชาการของจีน โดยจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะ “เรียนรู้อุตสาหกรรมไอที และวัฒนธรรมของประเทศจีน” และเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่เขาต้องการพูดคุยด้วยเป็นตัวแทนจากเขตเศรษฐกิจพิเศษเซี่ยงไฮ้
ในการประชุมรัฐสภาเป็นเวลา 10 วันนั้น ได้มีข้อห้ามหนึ่งที่ระบุไว้ว่า ห้ามใช้โทรศัพท์ในการส่งข้อความหรือโทรในระหว่างการประชุม ห้ามเล่นเกมรวมถึงห้ามใช้ Weibo และ WeChat ทำการถ่ายทอดสดการประชุมใดๆ ทั้งสิ้น
มาตรการเรื่องการห้ามใช้โทรศัพท์เพื่อความบันเทิงในรัฐสภานั้นไม่ได้เกิดขึ้นในจีนที่แรก ในปี 2012 รัฐมนตรีของอินเดียก็ถูกให้ลาออกหลังจากพบว่ามีการดูสื่อลามกผ่านโทรศัพท์ระหว่างการประชุมในสภา และในฮ่องกงก็มีการปรับมาตรการหลังจากพบว่ามีคนแอบดูรูปนางแบบชุดชั้นในเช่นกัน
น่าสนใจว่าในประเทศไทยจะมีมาตรการแบบนี้ออกมาใช้กับเขาบ้างไหมนะ
ที่มา - The Register
MetroTwit แอพสำหรับใช้งานทวิตเตอร์บน Windows 8 (มีทั้งแบบ Metro/Desktop) ประกาศยุติโครงการอย่างถาวรแล้ว เนื่องจากปัญหาเรื่องข้อจำกัด API (access token limit) ที่ส่งผลกระทบกับแอพทวิตเตอร์หลายตัวมาก่อนหน้านี้ (ข่าวเก่า Carbon, Falcon Pro, Tweetro, Tweetbot)
MetroTwit จะปิดไม่ให้ดาวน์โหลดแอพเวอร์ชันเดสก์ท็อป และดึงแอพ Metro ลงจาก Windows Store ทันที เพื่อรักษาจำนวนโควต้า token ที่มีอยู่เอาไว้สำหรับผู้ใช้เดิม
ในเดือนมกราคม Naoki Hiroshima ผู้มีเจ้าของชื่อทวิตเตอร์สวยงามนามว่า @N ถูกแฮกเกอร์ทำการขโมยบัญชีด้วยการใช้ช่องโหว่ทางการกรอกข้อมูลใน PayPal และเข้าไปทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเว็บไซต์ใน GoDaddy จนสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของ @N ได้ในที่สุด เมื่อ Naoki Hiroshima ทราบเรื่อง ได้ทำการเขียนบล็อกเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวและพยายามติดต่อ Twitter เพื่อขอชื่อบัญชีคืน แต่ Twitter ก็ไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ จนมีข่าวล่าสุดว่าได้คืนชื่อนี้ให้แก่ Naoki Hiroshima เป็นที่เรียบร้อย
อนึ่ง Naoki Hiroshima กล่าวว่า ชื่อ @N นี้ เคยมีคนมาทำการขอซื้อด้วยมูลค่า 50,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ราวๆ 1,600,000 บาท
ปีที่แล้วทวีต Four More Years ของ Barack Obama กลายเป็นทวีตที่มีคน Retweet มากที่สุด และ ณ บัดนี้ ทวีตของ Ellen ในงาน Oscar กลายเป็นทวีตที่มีคน Retweet มากที่สุดโดยตอนนี้มีจำนวน Retweet เกินล้านเข้าไปแล้ว (แหล่งข่าวบอกว่าชนะ Obama ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง)
งานนี้ก็กล่าวได้คำเดียวว่าสถิติมีไว้ทำลายจริงๆ
ที่มา - Mashable
ด้วยข้อความกว่า 500 ล้านทวีตต่อวัน ทำให้ทวิตเตอร์เป็นเครือข่ายสังคมที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องสนุกสนานอย่างการเล่นเวฟสวัสดีปีใหม่ ไปจนถึงเรื่องจริงจังอย่างการติดตามการแพร่ระบาดของไข้หวัด
อย่างไรก็ตาม การนำข้อมูลเหล่านี้ออกมาใช้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักวิจัยภายนอก ด้วยนโยบายจำกัดการเรียกดูข้อความล่าสุดไว้เพียง 3,200 ทวีตต่อบัญชี นักวิจัยที่ต้องการข้อความมากกว่านั้น ต้องไล่เก็บทวีตเป็นระยะๆ เอง
หน่วยโฆษณาของ Twitter นั้นมีไม่มาก อย่างที่เราจะเห็นได้คือ การโปรโมตทวีต, โปรโมตเทรนด์ และล่าสุดคือโปรโมตบัญชีในผลการค้นหา โดยเมื่อผู้ใช้ค้นหาทวีตหรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าว Twitter ก็จะมีแนะนำบัญชีดังกล่าวในผลการค้นหาด้วย
ที่มา - Twitter Blog
เมื่อวาน เราเห็นวิวาทะกลางทวิตเตอร์ระหว่างโนเกีย-โซนี่กันไปแล้ว พอมาวันนี้ ก็ถึงทีของคู่ชกสมน้ำสมเนื้อในปีที่แล้วอย่างซัมซุง-เอชทีซี ที่ลั่นวิวาทะกันกลางทวิตเตอร์เพื่อเรียกเสียงเชียร์จากผู้ใช้ของทั้งสองฝ่าย เพียงแต่คู่นี้ ดูเหมือนจะกัดแรงและหนักพอสมควร
อ่านหัวข้อแล้วอย่าเพิ่งจินตนาการไปไกลนะครับ 555+
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า โซนี่เปิดตัว Xperia Z2 ไปเมื่อตอนบ่ายๆ (ช่วงเช้าที่บาร์เซโลนา) โดยเจ้านี่มีสโลแกนประจำตัวว่า "the world's best camera and camcorder in a waterproof smartphone" (สุดยอดกล้องถ่ายรูปและกล้องวิดีโอระดับโลกในสมาร์ทโฟนกันน้ำ) ซึ่งก็สื่อถึงฟังก์ชันกล้องถ่ายรูปแบบจัดเต็มของ Xperia Z2 นั่นเอง
Twitter ประกาศเพิ่ม 50 ตำแหน่งใหม่ให้ระบบ Trends โดยแบ่งเป็นประเทศใหม่ 20 ประเทศ และเมืองใหม่ 30 เมือง โดยในรายชื่อตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้มีประเทศไทยและกรุงเทพมหานครรวมอยู่ด้วยครับ
สำหรับรายชื่อตำแหน่งใหม่ทั้งหมดสามารถดูได้ที่ท้ายข่าวครับ
ที่มา - Twitter Blogs
จากข่าวเก่าในเรื่อง Twitter ทดสอบหน้าเว็บแบบใหม่ที่คล้าย Facebook ด้วยความบังเอิญหรืออะไรสักอย่างทำให้มีป๊อบอัพเด้งมาที่หน้าทวิตเตอร์ของผม กดไปกดมาก็เลยได้หน้าเว็บแบบใหม่มารีวิวครับ ดังนั้นก็เลยขอมาเขียนเป็นมินิรีวิวตัวแรกเลยแล้วกัน
หน้าหลัก
หน้าแรกแบบใหม่นี้จะเห็นว่ามีการเพิ่มขนาดของรูปโปรไฟล์และ cover image มีการเพิ่มรายละเอียดของผู้ใช้งานตรงส่วนของจำนวนรูปภาพและวีดิโอที่ถูกแชร์ ทำให้หน้าเว็บแบบใหม่นี้กินขนาดไปเกือบ 90% ของจอ
ทีมบรรณาธิการเว็บไซต์ Mashable ค้นพบโดยบังเอิญว่า Twitter กำลังทดสอบหน้าโพรไฟล์ที่ออกแบบใหม่อย่างเงียบๆ ซึ่งหน้าโพรไฟล์แบบนี้เน้นรูปภาพประจำตัวให้ใหญ่ขึ้น ตัดภาพพื้นหลังออก และมี cover image ลักษณะเดียวกับโพรไฟล์ของ Facebook หรือ Google+ (ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 1500x500)
ส่วนการแสดงข้อความทวีตนั้นจะไม่แสดงเรียงจากบนลงล่างเหมือนเดิม แต่จะแสดงในรูปแบบ card ลักษณะคล้ายกับ Pinterest แทน (คาดว่าต้องการเน้นรูปภาพให้เด่นเตะตามากขึ้น)
Twitter ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ คาดว่าอาจเป็นดีไซน์แบบหนึ่งในหลายๆ แบบที่บริษัทกำลังทดสอบกับผู้ใช้บางกลุ่มอยู่ครับ
ที่มา - Mashable
Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัทตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น มีรายได้ 243 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 116% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 9.77 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ไตรมาสก่อนหน้านี้ขาดทุน
จำนวนผู้ใช้งาน Twitter เป็นประจำทุกเดือนอยู่ที่ 241 ล้านคน เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน ส่วนผู้ใช้งานผ่านมือถือมี 184 ล้านคน คิดเป็น 76% ของผู้ใช้งานทั้งหมด สอดคล้องกับโครงสร้างรายได้ที่เป็นโฆษณาจากบนมือถือมากกว่า 75% ของรายได้โฆษณารวม
มีรายงานว่า Twitter กำลังจะเข้ามาร่วมวงกับตลาดอีคอมเมิร์ซแล้ว หลังจากเว็บไซต์ Re/code ไปพบกับเอกสาร และรูปภาพจากบริการของ Fancy ที่ระบุว่า Twitter กำลังจะเพิ่มปุ่ม Buy ให้ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ผ่าน Twitter เลย
จากภาพ และเอกสารที่หลุดมาฟีเจอร์ที่จะเพิ่มเข้ามาคือการเพิ่มปุ่ม Buy เข้าไปในทวีต กดทวีตแล้วขยายออกเพื่อบอกรายละเอียด และปุ่มสำหรับพาไปยังหน้ารายละเอียดการซื้อ (หรือแอพ) ซึ่งภายหลังได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากวงในเกี่ยวกับแผนการบุกตลาดอีคอมเมิร์ซของ Twitter ว่าข้อมูลนี้เป็นแผนที่ Fancy ทำมาเพื่อนำเสนอแก่ Twitter เท่านั้น ส่วน Twitter นั้นยังมีแผนไปติดต่อกับเจ้าอื่นๆ อยู่ด้วยในขณะนี้
ในบรรดาเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทวิตเตอร์น่าจะเป็นบริการที่นักลงทุนชอบที่สุดตัวหนึ่ง จากแนวทางการส่งข้อมูลตามเวลาเหมือนตลาดหุ้น ทวิตเตอร์เองก็รู้ ถึงกับออกเครื่องหมาย $ มาใช้กับหุ้นโดยเฉพาะ ซึ่งแข่งกับบริการ StockTwits ที่ทำงานบนทวิตเตอร์อีกที ตอนนี้บริษัทข้อมูลการเงินอย่าง Thomson Reuters Eikon ก็รวมเอาข้อมูลจากทวิตเตอร์เข้าไว้ในหน้าวิเคราะห์หุ้นอย่างจริงจังเรียบร้อยแล้ว
Eikon จะรวมทวีตจากทั้งทวิตเตอร์เองและ StockTwits มาถ่วงน้ำหนักความสำคัญและอารมณ์ของทวีตนั้นๆ จากกระบวนการปิดของ Reuters เอง แล้วแสดงแนวโน้มออกมาเป็นกราฟ
ประเด็นเรื่องสิทธิบัตรยังเป็นประเด็นสำคัญสำหรับโลกไอทีตะวันตก ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นข่าว IBM ขู่ Twitter จ่ายค่าใช้งานสิทธิบัตรก่อนจะโดนฟ้อง
ล่าสุดทั้งสองบริษัทตกลงกันได้แล้ว โดย Twitter ประกาศซื้อสิทธิบัตรจาก IBM จำนวนมากกว่า 900 รายการ และทั้งสองบริษัทจะเซ็นสัญญาความคุ้มครองด้านสิทธิบัตรระหว่างกัน (cross-licensing agreement)
Twitter ไม่ระบุจำนวนเงินที่จ่ายและประเภทของสิทธิบัตรที่ซื้อ แต่ก็ประกาศชัดว่าซื้อสิทธิบัตรไปใช้ป้องกันตัวจากการฟ้องร้อง ส่วน IBM (ที่เป็นบริษัทเจ้าของสิทธิบัตรจดใหม่มากที่สุดในอเมริกา 21 ปีซ้อน) ก็ถือโอกาสโม้ว่าสิทธิบัตรของตนมีเยอะและมีคุณค่าจนต้องมีคนมาขอซื้อเลยนะ
Twitter ประกาศอัพเดตแอพเวอร์ชันบน Android โดยมีฟีเจอร์ใหม่ 2 อย่างคือ
Twitter บอกว่าแอพเวอร์ชัน iPhone จะได้ฟีเจอร์แบบเดียวกันในเร็วๆ นี้
ที่มา - Twitter Blog
เว็บไซต์ Re/code และ TechCrunch รายงานข่าวจากแหล่งข่าวคนละแห่ง (แต่เรื่องเดียวกัน) ว่า Twitter เตรียมเปิดตัวบริการด้านอีคอมเมิร์ซในอนาคตอันใกล้
ข้อมูลเบื้องต้น คาดว่าบริการจะอยู่ในรูปการให้ร้านค้าหรือบริษัทต่างๆ มาเปิดหน้า store ของตัวเองในระบบของ Twitter (แต่ยังไม่ชัวร์ว่ารายการสินค้าจะถูกแสดงบน timeline ของผู้ใช้หรือไม่) โดยหน้า store จะเชื่อมโยงไปยังระบบอีคอมเมิร์ซของผู้ค้ารายนั้นอีกทอดหนึ่ง (Twitter จะไม่ทำระบบหลังบ้านให้)
ส่วนกระบวนการจ่ายเงินก็มีข่าวว่า Twitter กำลังคุยกับบริษัทด้านการจ่ายเงินออนไลน์หลายแห่ง ทั้ง Stripe และ PayPal แต่กลับไม่มี Square (อีกบริษัทของ Jack Dorsey หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Twitter) อยู่ด้วย
Twitter ออกมาแจ้งนักพัฒนาที่ดึงข้อมูลจาก Twitter API ทุกคนว่า บริษัทจะเลิกอนุญาตให้เชื่อมต่อเพื่อดึงข้อมูลแบบ HTTP plaintext และเปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อแบบ HTTPS (TLS/SSL) เพียงอย่างเดียว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2014 เป็นต้นไป
การบังคับใช้ SSL จะมีผลกับ URL ที่มาจากโดเมน api.twitter.com ทุกกรณี ครอบคลุมถึงการล็อกอินด้วย OAuth และการเรียก REST API ทุกตัวด้วย
เท่าที่ทราบมาแถวนี้มีคนเขียนเชื่อมข้อมูลกับ Twitter กันพอสมควร ใครยังไม่ทราบก็รีบแก้โค้ดกันด่วน
ที่มา - Twitter Dev