Western Digital เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ความจุดสูง ภายใต้แบรนด์ของบริษัทลูก HGST รุ่น Ultrastar He12 ความจุ 12TB และเตรียมออกรุ่น 14TB ตามมาในอนาคต
ฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้เป็นภาคต่อของ HelioSeal ฮาร์ดดิสก์อัดก๊าซฮีเลียมความจุ 10TB ที่เคยเปิดตัวไปแล้ว แต่พัฒนาให้มีความจุมากขึ้น เทคนิคที่นำมาใช้เพิ่มความจุคือเพิ่มจำนวนจานหมุนเป็น 8 จาน เมื่อความหนาแน่นแนวตั้งเพิ่มขึ้น ก็ส่งผลให้อัดความจุได้เพิ่มขึ้น ส่วนก๊าซฮีเลียมก็ช่วยให้จานหมุนโดยมีแรงเสียดทานน้อยลงกว่าอากาศทั่วไป
Western Digital ยักษ์ใหญ่ในวงการฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูล เปิดตัวหน่วยความจำแบบ Solid State Drive 2 รุ่น ได้แก่ WD Blue SSD และ WD Green SSD พร้อมกับ WD SSD Dashboard ซอฟต์แวร์สำหรับดูสถานะของไดร์ฟ, อุณหภูมิ, พื้นที่คงเหลือ และอื่นๆ
ที่งาน Photokina 2016 เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี Western Digital โดยแบรนด์ลูก SanDisk ประกาศแสดงและสาธิตการ์ดหน่วยความจำแบบ SDXC ความจุ 1 TB เป็นครั้งแรก และใบแรกของโลก
การ์ด SDXC ความจุ 1 TB ถือเป็นรุ่นต่อของ SanDisk Extreme PRO SDXC UHS-I ขนาด 512 GB ที่บริษัทเปิดตัวไปเมื่อสองปีที่แล้ว โดยตัวแทนของบริษัทระบุว่าการ์ดตัวนี้จะรองรับการบันทึกภาพและวิดีโอที่ความละเอียดสูง รวมถึงงานประเภท virtual reality และสื่อบันเทิงอื่นๆ ที่มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของ Western Digital ว่าสามารถเพิ่มความจุได้เป็นสองเท่า โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบ (form factor)
ยังไม่มีระบุว่าจะผลิตจริงหรือวางจำหน่ายเมื่อใด
เราคงรู้กันดีว่าเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่บริษัทผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รู้ตัวเรื่องนี้กันแค่ไหน และมีแผนปรับตัวอย่างไร
Western Digital บริษัทผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ที่สุดของโลก มีแผนรับมือเรื่องนี้ไว้แล้ว ในระยะสั้น บริษัทแสดงให้เห็นผ่านการซื้อ SanDisk เพื่อขยายมายังตลาดหน่วยความจำแบบแฟลช แต่ในระยะยาว WD ต้องการไปไกลกว่าการเป็นผู้ขายฮาร์ดแวร์สตอเรจ แต่ไปให้ถึงการวางโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลในอนาคตด้วย
Toshiba และ Western Digital แล้ว เตรียมลงทุนครั้งใหญ่แบบต่อเนื่องภายใน 3 ปีนับจากนี้ เพื่อขยายธุรกิจการผลิตหน่วยความจำแบบแฟลช โดยมูลค่าการลงทุนนั้นสูงถึง 1.7 ล้านล้านเยน (ประมาณ 0.6 ล้านล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ Toshiba ได้ร่วมลงทุนกับ SanDisk อยู่ก่อนแล้วในการสร้างและดำเนินงานโรงงานในเมือง Yokkaichi จังหวัด Mie และเมื่อ SanDisk ถูก Western Digital ซื้อกิจการไปจนควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง Western Digital ก็ยังคงสนใจที่จะร่วมมือกับ Toshiba ในการลงทุนขยายโรงงานการผลิตต่อไปอีก
หลังมีข่าวว่า Western Digital บริษัทด้านสตอเรจรายใหญ่ของโลกประกาศเข้าซื้อ SanDisk ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุดการซื้อครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังกระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมาให้การรับรอง โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีมูลค่าถึง 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 670,000 ล้านบาท
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เนื่องจาก Western Digital ต้องการเสริมทัพในส่วนธุรกิจ non-volatile memory (NVM) โดยการดำเนินธุรกิจของ SanDisk ในเบื้องต้นจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ชื่อไทยฟังดูเหมือนซอสปรุงรส แต่เป็นเรื่องจริงจัง Western Digital เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำหรับกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ ใช้ฉลากสีทองครับ มาในมิติ 3.5 นิ้ว ต่อกับระบบด้วยพอร์ต SATA (6Gb/s) กับแคช 128MB จานหมุน 7,200 รอบต่อนาที ประกัน 5 ปี และมีค่า MTBF ที่ 2.5 ล้านชั่วโมง มีความจุลูกละ 4, 6 และ 8TB ตามลำดับ
The Register คาดการณ์ว่าไดรฟ์รุ่น 4TB จะใส่จาน 1TB 4 จานภายใน, 6TB มาแบบ 1.5TB 4 จาน, และรุ่น 8TB ใช้ดีไซน์เดียวกับไดรฟ์ HGST 8TB ที่ใส่ก๊าซฮีเลียม และมีจาน 1.142TB ซ้อนกัน 7 จานครับ ด้านราคา Anandtech ระบุว่าอยู่ที่ 309, 499 และ 629 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ
ที่มา - WD, The Register, Anandtech
Western Digital ฉลองวัน Pi (เดือน 3 วันที่ 14) ด้วยการเปิดตัว PiDrive สำหรับ Raspberry Pi โดยเฉพาะ ตัวไดรฟ์มีความจุ 314GB (เป็นค่า Pi อีกเช่นกัน)
ตัว PiDrive พัฒนามาจากดิสก์ 500GB ความพิเศษของมันคือการออกแบบให้ความต้องการพลังงานตรงกับความสามารถในการจ่ายไฟของ Raspberry Pi ทางด้านซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ทาง WD ออกซอฟต์แวร์ BerryBoot for WD PiDrive มาให้ด้วย
บริษัทให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์อย่าง Backblaze เผยข้อมูลในรายงาน "Hard Drive Reliability Review for 2015" ว่า มีจำนวนฮาร์ดดิสก์ในศูนย์ข้อมูลอยู่กว่า 56,000 ตัว แยกเป็น 18 รุ่นจากหลากหลายยี่ห้อ ล้วนแต่เป็นฮาร์ดดิสก์ระดับใช้งานทั่วไป และมีการเก็บข้อมูลอัตราการพังของแต่ละรุ่นไว้ด้วย
ซึ่งเมื่อกาง Failure Rate แยกตามยี่ห้อฮาร์ดดิสก์ที่ใช้งานตั้งแต่ เดือนเมษายน 2013 จนถึงธันวาคม 2015 พบว่าฮาร์ดดิสก์จาก WD จำนวน 1,681 ลูก มีอัตราเสียสูงสุดคือที่ 7% รองลงมาเป็น Seagate ในขณะที่อัตราเสียน้อยสุดคือ HGST ครับ
ที่มา - Backblaze
แม้ว่า Western Digital จะประกาศเข้าซื้อ Hitachi GST (Hitachi Global Storage Technologies) บริษัทลูกผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของ Hitachi จนสำเร็จเรียบร้อยไปตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2012 ด้วยมูลค่า 4,800 ล้านเหรียญ แต่จนถึงบัดนี้ทั้งสองแบรนด์ก็ยังบริหารงาน และทำตลาดแยกกันในบางประเทศ โดยเฉพาะในจีน
ล่าสุดวันนี้ได้ประกาศคำตัดสินจากกระทรวงพาณิชย์ของจีนหรือ MOFCOM ที่ขัดขวางการรวมบริษัทมามากกว่า 3 ปีได้อนุญาตให้ทั้งสองบริษัทควบรวมกันได้อย่างสมบูรณ์แล้ว แต่การทำตลาดในจีนจะยังขายแยกต่อไปอีก 2 ปีนับจากวันที่ประกาศออกมา รวมถึงมีการปรับตำแหน่งผู้บริหารจำนวนหนึ่ง หลักๆ คือการโยกผู้บริหารจาก Hitachi GST มาบริหารในส่วนของ Western Digital แทน
เว็บไซต์ข่าว TechCrunch รายงานว่า Western Digital หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายสำคัญของโลก ประกาศเข้าซื้อกิจการ SanDisk ด้วยมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.7 แสนล้านบาท) โดย Western Digital ต้องจ่ายเงินคิดเป็นหุ้นละ 86.50 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3 พันบาทต่อหุ้น) ซึ่งมากกว่าราคาตลาดที่ปิดทำการเมื่อวานถึง 15%
Western Digital (WD) เปิดตัวอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบติดตั้งภายนอก (external harddisk) My Book Pro เป็นรุ่นที่ความเร็วสูงที่สุดของทาง WD
ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ภายในเป็นแบบหมุนที่ 7,200 รอบต่อนาที สามารถคอนฟิก RAID ได้ทั้ง RAID 0, RAID 1, และ JBOD ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดที่ 435MB/s รองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 2 และ USB 3.0
รับประกัน 3 ปี ราคาเริ่มต้น 24,900 บาทสำหรับรุ่น 6TB, 37,900 บาทสำหรับรุ่น 8TB, และ 42,900 บาทสำหรับรุ่น 12TB
เห็นราคาแล้วรู้สึกปกติ
บริษัทสำรองข้อมูลออนไลน์ Backblaze ที่สั่งซื้อฮาร์ดดิสก์เป็นจำนวนมาก เคยเปิดเผยสถิติความทนทานของฮาร์ดดิสก์ปี 2013 มาก่อนแล้ว ผลคือ Hitachi (ปัจจุบันคือ HGST ในเครือ Western Digital) นำมาเป็นอันดับหนึ่ง
ปีนี้ Backblaze นำสถิติของปี 2014 มาเผยแพร่อีกรอบ โดยมีฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดเกือบ 40,000 ตัว ผลคือฮาร์ดดิสก์ของ HGST ยังนำมาเป็นอันดับหนึ่งในแง่ความทนทาน ตามด้วย Western Digital และ Seagate รั้งท้าย
แม้ราคาของ SSD ในปัจจุบันจะจับต้องได้มากกว่าแต่ก่อนแล้ว แต่ปัญหาเรื่องความจุจำกัดก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะในระดับ TB ที่ราคาเรียกได้ว่าแพงระยับจนผู้ใช้ที่ต้องการความจุมากๆ ยังคงต้องพึ่งพาฮาร์ดดิสก์กันต่อไป แต่ในอนาคตปัญหานี้อาจเบาบางลง หลังจาก Western Digital เพิ่งออกมาโชว์ตัวฮาร์ดดิสก์รุ่นต้นแบบขนาด 3.5" ทำความเร็วได้ใกล้เคียง SSD ในความจุระดับ 4TB มาแล้ว
ฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่นี้ยังไม่มีชื่อ โดยภายในเป็นการรวมฮาร์ดดิสก์ความจุ 4TB เข้ากับ SSD ความจุ 128GB และใช้อินเทอร์เฟซ PCIe 2.0 x2 ผ่าน SATA Express โดยความเร็วของดิสก์ลูกนี้อยู่ที่ประมาณ 550 MB/s และ 1GB/s เมื่อต่อ RAID 0 และยังเป็น SATA3 ซึ่งใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว
Western Digital (WD) เข้าซื้อ Skyera บริษัทผู้พัฒนา SSD สำหรับศูนย์ข้อมูล และกลุ่มเมฆสำหรับฝั่งองค์กร โดยไม่เปิดเผยว่าเป็นมูลค่าเท่าไร
หลังการเข้าซื้อเสร็จสิ้น Skyera จะถูกควบรวมเข้ากับ HGST บริษัทลูกของ WD ที่ดูแลฝั่งองค์กร เพื่อมาเสริมแกร่งในการบุกตลาดศูนย์ข้อมูลให้มากขึ้นด้วยสิทธิบัตร และทีมวิศวกรจาก Skyera
เมื่อช่วงต้นปี เดือนมีนาคม WD เพิ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนใน Skyera มูลค่ากว่า 51 ล้านเหรียญ โดยในตอนนั้นระบุว่าเป็นการลงทุนร่วมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน จนมาจบที่การเข้าซื้อในครั้งนี้
ที่มา - Tech Report
HGST บริษัทลูกของ Western Digital (หน่วยธุรกิจฮาร์ดดิสก์ Hitachi เดิม) เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ขนาด 10TB รุ่นแรกของโลก โดยจะเน้นตลาดองค์กรที่ต้องการเก็บข้อมูลระยะยาว ไม่ถูกเรียกใช้บ่อยๆ (cold storage) และชูจุดขายด้านราคาต่อความจุที่ถูกมากๆ
Western Digital ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ประกาศเพิ่มสายการผลิตอีกหนึ่งสายสำหรับ internal hard disk โดยใช้ชื่อว่า WD Purple ตามแบบฉบับของบริษัทที่ตั้งชื่อตามสีต่างๆ ซึ่งสีนี้ก็เป็นสีที่ 5 แล้ว โดยจะเน้นการทำงานสำหรับการบันทึกภาพกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และได้เผยแพร่ข้อมูลของฮาร์ดดิสก์ตัวนี้บนเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงของวิดีโอโปรโมทบนช่องใน YouTube ของบริษัทด้วย
สำหรับข้อมูลของฮาร์ดดิสก์ตัวนี้นั้น ในเว็บไซต่ได้ให้รายละเอียดดังนี้:
ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์อย่าง Western Digital มีเซิร์ฟเวอร์ในบ้าน My Cloud และ My Cloud EX4 ขณะที่ในจีน บริการคลาวด์เก็บข้อมูล Baidu Yun มีผู้ใช้กว่าหนึ่งร้อยล้านคน วันนี้ทั้งสองบริษัทก็ร่วมมือกันพัฒนาสินค้าให้ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น
ความร่วมมือนี้ทำให้ผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์ My Cloud และควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นบน Android และ iOS สามารถเข้าดูไฟล์ใน Baidu Yun และย้ายไฟล์ไปมาระหว่างเซิร์ฟเวอร์ในบ้านและคลาวด์ได้
แนวทางคลาวด์แบบไฮบริดได้รับความนิยมในระดับองค์กรมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะองค์กรจำนวนมากมีข้อมูลที่ไม่สามารถนำขึ้นไปใช้งานบนคลาวด์แบบสาธารณะได้ ตอนนี้แนวทางนี้ก็ํเริ่มถูกนำมาใช้งานสำหรับผู้ใช้ตามบ้านในจีนแล้วครับ
แนวทาง SSD + HDD เป็นแนวทางที่ผู้ผลิตใช้กันมากในช่วงหลัง แม้หลายครั้งผลทดสอบประสิทธิภาพจะไม่น่าประทับใจนัก แต่ Western Digital ใช้แนวทางใหม่ใน WD Black2 คือเป็น SSD + HDD โดยให้ระบบปฎิบัติการมองดิสก์ทั้งสองลูกแยกจากกัน แต่ยังใช้ช่องฮาร์ดดิสก์เพียงช่องเดียว ทำให้สามารถอัพเกรดเครื่องได้ง่าย
เมื่อติดตั้งครั้งแรก WD Black2 จะเป็น SSD ขนาด 120 GB เพียงลูกเดียว แล้วต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ Dual Drive ที่ติดมาด้วยเสียก่อน (รองรับเฉพาะวินโดวส์) เมื่อรีบูตจึงมองเห็น HDD ขนาด 1 TB ขึ้นมาอีกลูก
แนวทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัพเกรดโน้ตบุ๊กแต่ไม่ต้องการซื้อเครื่องใหม่ ขณะเดียวก็อยากได้ทั้งพื้นที่เก็บข้อมูลมากๆ แบบ HDD และความเร็วสูงแบบ SSD ไปพร้อมกัน
ราคา 299 ดอลลาร์
เมื่อวานนี้ WD ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าที่ใช้ external drive บนแมค เพื่อเตือนว่าอาจเกิดปัญหาข้อมูลสูญหายได้หากอัพเกรดโอเอสเป็น Mavericks โดย WD ได้บอกทางแก้เอาไว้ชั่วคราวคือ ให้ทำการลบโปรแกรม WD Drive Manager, WD Raid Manager และ WD SmartWare ออกจากเครื่องก่อนการอัพเกรด แต่ถ้าหากอัพเกรดไปแล้วก็ให้ทำการลบโปรแกรมเหล่านี้ออกทันทีและรีสตาร์ทเครื่อง หรือแนะนำให้เลื่อนการอัพเกรดโอเอสเป็น Mavericks ออกไป และระหว่างนี้ WD จะทำการแก้ไขโปรแกรมและออกอัพเดทใหม่ต่อไป
ที่มา - Mac Rumors
Western Digital หรือ WD กำลังเป็นบริษัทล่าสุดที่เข้ามาผลิตอุปกรณ์ Google/Android TV โดยบริษัทยังไม่ประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่ก็เริ่มรับสมัครผู้เชี่ยวชาญ Android เข้ามาพัฒนา "กล่องเซ็ตท็อป" ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้ว
ในรายละเอียดของตำแหน่งงานระบุว่ากล่องเซ็ตท็อปของ WD จะมีบริการแบบพรีเมียม มีแอพที่ออกแบบมาสำหรับหน้าจอทีวี รองรับการเล่นมัลติมีเดียข้ามเครือข่าย LAN/WAN และรองรับหน้าจอที่สอง (2nd screen) ในตัว
ก่อนหน้านี้ WD เองก็มีผลิตภัณฑ์ตระกูล WD TV ที่เป็นกล่องเซ็ตท็อปสำหรับเชื่อมต่อทีวีอยู่แล้ว การผันตัวมาใช้ Google TV จึงน่าติดตามไม่น้อย
ที่มา - GigaOm
ด้วยขนาดของโน้ตบุ๊กที่นับวันยิ่งบางลงเรื่อยๆ อุปกรณ์ภายในก็ต้องบางตาม และเป็น WD ที่ชิงเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ ขนาด 2.5" รุ่นใหม่ที่ขยับความบางลงไปที่ 5 มม. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
WD บอกว่าฮาร์ดดิสก์ 5 มม. ความจุอยู่ที่ 500GB และบางพอที่จะใส่ได้กับโน้ตบุ๊กบางสุดในตลาดปัจจุบัน (น่าจะหมายถึงอัลตร้าบุ๊กด้วย)
WD ประกาศคู่ค้าสองรายที่จะใช้ฮาร์ดดิสก์บางตัวใหม่นี้แล้วคือ Acer และ ASUS แต่ยังไม่ได้ระบุเวลาคร่าวๆ ของโน้ตบุ๊กตัวใหม่ที่จะออกมาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ครับ
ที่มา - Engadget
Western Digital หนึ่งในผู้นำทางด้านฮาร์ดดิสก์และ set-top TV (หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Western Digital ทำธุรกิจนี้) ได้ก้าวเข้าสู่สมรภูมิเราเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ถึงมาช้าก็ตามเหอะ) โดยส่งรุ่นบุกเบิก 3 ตระกูลแรก ได้แก่ N900, N750, N600 ซึ่งทั้ง 3 ตระกูลชูจุดเด่นของเทคโนโลยี FasTrack ที่สามารถเร่งความเร็วอินเทอร์เน็ตให้เร็วขึ้นได้ เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Western Digital
ตอนที่แอปเปิลเริ่มใช้งาน Thunderbolt ใหม่ๆ ยังมีแค่ Lacie ที่ผลิตไดร์ฟภายนอกออกมารองรับ แต่ตอนนี้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็เริ่มเข้ามาในตลาดนี้ เริ่มจาก Western Digital ที่ปล่อย My Book Thunderbolt Duo ขนาด 6TB
ภายในมีดิสก์สองลูก สามารถเลือกได้ว่าจะทำ RAID 0 หรือ 1 แล้วแต่ความต้องการขนาดพื้นที่กับความมั่นใจ ส่วนราคา 699 ยูโร หรือ 28,000 บาท งานนี้ต้องเงินถุงเงินถังกันสักหน่อย แลกกับความแรง
ที่มา - The Register
Western Digital และโตชิบาได้ประกาศการตกลงซื้อขายกันวันนี้ โดยโตชิบาจะได้รับเครื่องมือ และทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5 นิ้ว แลกกับโรงงาน, ที่ดิน, เครื่องจักร และพนักงาน ที่โตชิบาใช้ผลิตฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว
ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติ โดยทั้งสองบริษัทคาดการณ์ว่ากระบวนการณ์ทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้