หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์เผยบทความที่อธิบายที่มาที่ไปของการที่ไมโครซอฟท์ทำแท็บเล็ตของตัวเองในชื่อ Surface โดยกล่าวว่าเกิดจากบริษัทฯ และผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ไม่สามารถต่อกรกับ iPad ของแอปเปิลได้ เนื่องด้วยหลายสาเหตุด้วยกัน โดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ได้รวบรวมและวิเคราะห์ไว้ ดังนี้

Costin Raiu ผู้เชี่ยวชาญด้านมัลแวร์จาก Kaspersky ประกาศการค้นพบผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาว่า มัลแวร์ Flame ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นั้นใช้ Windows Update ในการแพร่กระจาย โดยใช้โมดูล Gadget พร้อมกับมีโปรแกรมชื่อ "WuSetupV.exe" เป็นตัวมัลแวร์จริงๆ ที่ถูกติดตั้ง และจะมีการแพร่กระจายผ่านทางเน็ตเวิร์คภายในโดยมีการสร้างเซิฟเวอร์จำลองชื่อ "MSHOME-F3BE293C" ด้วย

หลังจากนั้นทาง Symantec ได้เผยการวิจัยวิธีการที่ Flame ใช้ในการแพร่กระจายเบื้องต้นซึ่งมันยังใช้ฟีเจอร์
Web Proxy Auto-Discovery Protocol (WPAD) ของ Internet Explorer ร่วมกับ Windows Update ในการแพร่กระจายด้วย

แฮกเกอร์ที่ใช้นามแฝงว่า Carnal0wnage ได้เผยแพร่วิธีการแฮกเครื่องที่ใช้ Windows 7, Windows Server 2008 R2 หรือกระทั่ง Windows 8 Consumer Preview ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ได้โดยใช้ช่องโหว่ของฟังก์ชัน Sticky Keys ที่มากับระบบปฎิบัติการเอง ซึ่งเมื่อทำสำเร็จผู้ใช้จะสามารถรันโปรแกรมใดก็ได้โดยการเรียกผ่าน Command Prompt ถึงแม้เครื่องจะค้างอยู่ที่หน้าจอ login screen ก็ตาม (Windows 8 Consumer Preview ก็ยังมีช่องโหว่นี้)

หลังจากเปิดตัว GitHub for Mac จนมีเลขรุ่นถึง 1.2 คราวนี้ก็ถึงคิวผู้ใช้ Windows ที่จะได้เล่นบ้างครับ

ตัวแอพรองรับตั้งแต่ Windows XP ไปจนถึง Windows 8 (แต่จะใช้ Metro UI เหมือนกันทั้งหมด) โดยไม่จำกัดว่าต้องใช้ repository จาก GitHub เท่านั้น ถ้าสนใจก็ดาวน์โหลดได้เลยที่ github:windows ส่วนถ้าใครยังสงสัยว่ามันคืออะไร ก็สามารถเข้ามาชมพรีวิวในข่าวได้ครับ

และที่หน้าเว็บก็มีการปรับปรุงรับงานนี้อีกเล็กน้อย โดยเมื่อเข้าไปสำรวจ repository หน้าเว็บด้วย Windows จะมีคำสั่ง Clone in Windows ขึ้นมาให้เลือกครับ

ที่มา: GitHub Blog

ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ระบบปฏิบัติการสำหรับเซิร์ฟเวอร์รุ่นถัดไปที่ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อ Windows Server 8 จะใช้ชื่อทำตลาดว่า Windows Server 2012 แทน

จากชื่อทุกคนก็พอเดาได้ว่ามันจะออกภายในปีนี้ ซึ่งไมโครซอฟท์เองก็พูดชัดแล้วว่าจะออกในปีนี้เช่นกัน

OnLive Desktop เป็นบริการให้เช่าใช้งานวินโดวส์ด้วยการรีโมตเข้าไปวินโดวส์จริงๆ แต่ปรากฏว่าไมโครซอฟท์ออกมาเตือนว่าการใช้ Windows 7 ให้บริการเช่นนี้ผิดไลเซนส์ของไมโครซอฟท์ มาวันนี้ผู้ใช้พบว่า OnLive Desktop เปลี่ยนไปใช้ Windows Server 2008 แล้วเงียบๆ

ผู้ใช้นั้นแทบไม่เห็นความแตกต่างอะไรเลยในการเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีบ้างแค่หน้า About ของโปรแกรมต่างๆ เช่น Notepad นั้นเปลี่ยนไป กับคีย์บอร์ดที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเท่านั้น

ที่มา - OnLive Fans

โดยปกติแล้วหากเราตัดสินใจขายต่อมือถือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เก็บข้อมูลส่วนตัวของเราไว้ หลายๆ คนคงไม่ประมาทที่จะลบข้อมูลเหล่านั้นทิ้งเสีย อาจใช้วิธีลบเองทีละจุด หรือในมือถือบางรุ่นจะมีตัวเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการล้างข้อมูลเหล่านี้ให้

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญจาก McAfee ได้ทำการทดลองและพบว่าอุปกรณ์ในแพลตฟอร์ม Windows 7, iOS และ BlackBerry สามารถล้างข้อมูลต่างๆ ได้อย่างหมดจด ซึ่งหากจะขายต่อก็นับว่าวางใจได้ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องทำตามวิธีการที่ผู้ผลิตแนะนำจึงจะปลอดภัย ส่วนรายที่ไม่น่าวางใจคือ Android และ Windows XP ที่แม้จะล้างข้อมูลและการตั้งค่าตามวิธีของผู้ผลิตแล้ว ก็ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเลขที่บัญชีธนาคาร, หมายเลขประกันสังคม ฯลฯ

หลังจากบริษัท BlueStacks ได้ปล่อย runtime สำหรับรันแอพฯ สำหรับ Android บน Windows ชื่อ BlueStacks App Player รุ่นแอลฟาไปเมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว ล่าสุดบริษัทฯ ก็ได้เปิดให้ดาวน์โหลด BlueStacks App Player รุ่นเบต้า ซึ่งมาพร้อมกับแอพฯ Android หลายพันกว่าแอพฯ ที่เรียกได้ทันที

รุ่นเบต้านี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี Layercake ที่บริษัทคิดค้นขึ้นมาเอง เทคโนโลยีนี้ช่วยให้แอพฯ Android ซึ่งได้รับการเขียนขึ้นเพื่อสถาปัตยกรรม ARM สามารถรันบนสถาปัตยกรรม x86 ได้ และทำให้แอพฯ สามารถเรียกใช้ฟังก์ชันเร่งการประมวลผลกราฟิกในระดับฮาร์ดแวร์ (hardware graphics acceleration) ได้ด้วย

ไมโครซอฟท์ออกมาเตือนช่องโหว่ร้ายแรงหมายเลข MS12-020 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Remote Desktop Protocol (RDP) โดยมีผลต่อวินโดวส์ทุกรุ่น (ตั้งแต่ XP SP3 รวมถึง Windows Server 2003 เป็นต้นมา)

ช่องโหว่ตัวนี้ถูกจัดระดับความรุนแรงเป็น Critical โดยทางทฤษฎีแล้ว แฮ็กเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลผ่านช่องโหว่ตัวนี้ได้เลย (กรณีที่เปิด RDP เอาไว้ ซึ่งค่า default คือไม่เปิด) ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยังไม่พบโค้ดที่อาศัยช่องโหว่นี้ แต่ก็เตือนให้ผู้ใช้ทุกคนอัพเดตกันโดยด่วน

ช่วงนี้ไมโครซอฟท์จัดหนักระบบปฏิบัติการทุกระดับชั้น เริ่มตั้งแต่ Windows 8 Consumer Preview ตามด้วย Windows Server 8 Beta คราวนี้เป็นคิวของรุ่นเล็ก Windows Embedded กันบ้าง

นอกจาก Windows 8 Consumer Preview (ซึ่งเทียบได้กับ Beta) ไมโครซอฟท์ก็ออก Windows Server 8 Beta มาให้ทดสอบเช่นกัน (ฟีเจอร์ใหม่ของ Windows Server 8 อ่านได้ที่ Windows Server "8" Beta Overview)

ปัญหาอย่างหนึ่งของ Windows 7 คือไมโครซอฟท์ซอยรุ่นย่อย (edition) เยอะมากถึง 7 รุ่น (แถมต้องคูณ 2 ถ้านับแยก 32/64 บิต) ทำให้ผู้ใช้สับสนไม่น้อย

ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการว่า Windows 8 จะแก้ปัญหานี้อย่างไร แต่ข้อมูลที่ HP เผลอโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของตัวเอง ระบุรุ่นย่อยของ Windows 8 ไว้ดังนี้

ไมโครซอฟท์เผยข้อมูลว่าจะขยายระยะเวลาสนับสนุน Windows ในระดับ extended support ออกไปเป็น 10 ปีหลังเปิดตัว (แปลว่าจะยังออก security update ให้)

เว็บไซต์ Gemind ได้ปล่อยภาพที่เชื่อว่าน่าจะเป็นหน้าเว็บไซต์ SkyDrive ในภาษาโปรตุเกสที่ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเผย (ภาพตัวอย่างท้ายข่าว) โดยในภาพนั้นจะเป็นหน้าเว็บ SkyDrive ที่มีการแจ้งให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน SkyDrive ไปติดตั้งบนวินโดวส์หรือ OS X ได้

นอกจากนี้แล้ว ในภาพยังเปิดเผยถึงค่าใช้จ่ายในการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลอีก 20GB, 50GB และ 100GB ในราคา 10 เหรียญต่อปี, 25 เหรียญต่อปี และ 50 เหรียญต่อปี ตามลำดับ จากเดิมที่มีให้ใช้ฟรีอยู่แล้ว 25GB ซึ่งผู้ใช้งานสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้

ที่มา - Engadget

หลังจากทางกลุ่ม Chronic-Dev ได้ปล่อย Untethered Jailbreak สำหรับระบบปฏิบัติการ Macintosh (ข่าวเก่า)

ไมโครซอฟท์เตือนนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน Windows Server ว่าใน Windows Server 8 การติดตั้ง GUI จะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเสมอไป โดย Windows Server 8 นั้นผู้ดูแลระบบมีสิทธิจะถอดชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ระบบ GUI, MMC, หรือ Internet Explorer ออกได้ตลอดเวลา

ไมโครซอฟท์เตรียมเส้นทางการพอร์ตแอพพลิเคชั่นด้วยการใส่ Minimal Server Interface ไว้ใน Windows Server 8 โดยหลักๆ แล้วมันคือ Windows Server แบบเดิมๆ ที่ไม่มี Internet Explorer หรือส่วนเสริมอื่นๆ ที่ใช้สำหรับเดสก์ทอป รวมไปถึงระบบมัลติมีเดียทั้งหมด เพื่อให้แอพพลิเคชั่นบนเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการ GUI นั้นยังทำงานต่อไปได้ แต่ระบบ snap-in ที่ใช้ผ่าน MMC.exe นั้นจะถูกแยกเป็นส่วนเสริมให้ผู้ดูแลระบบเลือกติดตั้งเอง

หลังจากปล่อยให้คนทั้งว๊าว ทั้งแฮคเจ้า Kinect บน Xbox 360 ไปจนจะครบปี ล่าสุดข่าวดีสำหรับคนที่รอ Kinect สำหรับ Windows ว่า Microsoft เตรียมวางขายแล้วในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

ข่าวสั้นแต่สำคัญครับ ไมโครซอฟท์ยืนยันต่อสาธารณะแล้วว่า Windows 8 รุ่น Public Beta จะปล่อยให้ดาวน์โหลดในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ส่วนจะเป็นวันไหนอย่างไร อันนี้ต้องรอดูอีกครั้ง

Windows 8 รุ่นที่ปล่อยออกมาในปัจจุบันเป็น Developer Preview ซึ่งมีคนดาวน์โหลดมากกว่า 3 ล้านครั้ง และตามธรรมเนียมของไมโครซอฟท์แล้ว หลังจากออกรุ่น Public Beta ก็น่าจะข้ามไปยังรุ่น RC เลย (ไม่มี Beta 2)

ที่มา - The Verge

TechCrunch รายงานว่า ขณะนี้เฟซบุ๊กกำลังเปิดให้มีการทดสอบโปรแกรม Messenger for Windows กับผู้ทดสอบในวงจำกัด โดยโปรแกรมไคลเอนต์นี้รองรับฟีเจอร์ Chat, Ticker feed และการแจ้งเตือน (notification)

ดูเหมือนเฟซบุ๊กคงกำลังมองหาโซลูชันที่จะให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการของตนจากคอมพิวเตอร์ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเปิดหน้าเว็บไว้ขณะใช้งาน หากดูจากยอดผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กผ่าน Windows Live Messenger รวมถึงโปรแกรมแชตผ่านเฟซบุ๊กจาก third-party ต่อวันที่สูงถึง 18 ล้านผู้ใช้แล้วโปรแกรม Messenger for Windows นี้คาดว่าจะได้รับความนิยม TechCrunch ยังระบุว่าโปรแกรมนี้พัฒนาโดยเฟซบุ๊กเองทั้งหมด ไม่ได้มีไมโครซอฟท์มาช่วยแต่อย่างไร

โปรแกรมดังกล่าวต้องการ Windows 7 เป็นอย่างน้อย หน้าตาโปรแกรมเชิญดูได้ที่ท้ายข่าว

เมื่อวานนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วคือ 25 ตุลาคม 2001 ไมโครซอฟท์ได้ออกระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นคือ Windows XP

ปัจจุบันแม้เวลาผ่านมาถึง 10 ปี และไมโครซอฟท์เองก็ออกวินโดวส์รุ่นใหม่กว่านั้นมาอีก 2 รุ่น แต่ XP ก็ยังได้รับความนิยมสูง และมีส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้เน็ตถึง 30% จากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เองก็พยายามจะจบวงจรชีวิตของ Windows XP อยู่หลายครั้ง แต่ก็ทนเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ไม่ไหว จนต้องต่ออายุมาหลายรอบ

หากใครยังจำกันได้ เมื่อหลายเดือนก่อนบริษัท BlueStacks ได้เผย Android Native Runtime บนแพลตฟอร์ม Windows ในที่สุดบริษัทก็ได้ปล่อย BlueStacks App Player เวอร์ชันแอลฟา สำหรับ Windows ให้ดาวน์โหลดได้แล้ว

Ubuntu One บริการซิงค์ไฟล์ของค่าย Canonical เคยออกรุ่นทดสอบบนวินโดวส์เมื่อหนึ่งปีก่อน วันนี้มันถูกปรับปรุงใหม่และออกตัวจริงแล้ว

การใช้งานโดยรวมคงไม่ต่างกับ Ubuntu One บนลินุกซ์ ใช้ได้กับ Windows XP/Vista/7 เนื้อที่เริ่มต้น 5GB สำหรับรุ่นฟรีครับ

นอกจากรุ่นบนวินโดวส์แล้ว Ubuntu One ยังมีรุ่น iOS/Android อีกด้วย (ดูหน้า Ubuntu One Download)

ระหว่างที่ไมโครซอฟท์กำลังเร่งให้นักพัฒนาช่วยกันสร้างแอพพลิเคชั่นบน Metro UI อย่างหนักเพื่อให้มีแอพพลิเคชั่นทันกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ก่อนที่จะเปิดตัว แต่ข่าวร้ายคือ แอพพลิเคชัั่นที่เป็น Metro UI นั้นจะไม่เปิดให้ผู้ซื้อนำไปติดตั้งกันได้เองแบบแอพพลิเคชั่นบนวินโดวส์เดิมๆ แล้ว แต่จะต้องเป็นนักพัฒนาหรือลูกค้าองค

ธรรมเนียมการฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์เพื่อติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่อาจถึงเวลาต้องล้มหายตายจาก เพราะเราสามารถสั่ง "Factory Reset" ให้ Windows 8 มีสถานะสะอาดสะอ้านเหมือนตอนติดตั้งใหม่ๆ โดยไม่ต้องล้างเครื่องหรือลงทับ

Windows 8 มีคำสั่งเพื่อการนี้มาให้ 2 อย่าง ทำงานที่ 2 ระดับความแรง (หน้าตาดูได้ตามลิงก์)

หลังจากเปิดตัว Windows 8 ไปเมื่อวานนี้ วันนี้ก็ถึงเวลาของฝั่งเซิร์ฟเวอร์และเครืองมือพัฒนากันบ้าง โดยไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวสินค้าอีกสามชุด คือ Windows Server 8, Visual Studio 11 (พร้อม .NET 4.5), และ Azure รุ่นใหม่

Windows Server 8

เซิร์ฟเวอร์รุ่นต่อไปจากฝั่งวินโดวส์ เน้นไปที่การทำ Virtualization และการเชื่อมต่อกับบริการแบบกลุ่มเมฆมากขึ้น โดยระบบ Virtualization รุ่นใหม่จะให้บริการกับผู้ใช้, คิดค่าบริการ, และเปิดให้ผู้ใช้จัดการเครื่องของตัวเองได้โดยไม่ต้องให้แอดมินเข้ามาจัดการ