Windows
มีข่าวแว่วว่าไมโครซอฟท์กำลังจะเปิดตัวโอเอส Windows สำหรับทำงานบนซีพียูของ ARM เป็นครั้งแรกในงาน Consumer Electronics Show (CES 2011) ที่จะจัดในวันที่ 6-9 มกราคม 2554 ที่ Las Vegas โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ tablet หรือ smartphone เป็นหลัก
ผมมองว่าโอเอสตัวใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ไมโครซอฟท์สร้าง tablet ของตัวเองเข้าแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตและโทรศัพท์ของค่าย Apple (iOS) และ Google (Android) ได้มากขึ้นครับ โดยชิป ARM ที่ผลิตโดยบริษัท Qualcomm, Texas Instrument และ Samsung ปัจจุบันถูกติดตั้งอยู่ในสมาร์ทโฟนหลายรุ่นรวมถึงเครื่อง iPad ที่หลายท่านๆ ได้เป็นเจ้าของแล้ว
สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าววงในจากไมโครซอฟท์ว่า บริษัทจะเปิดตัว Windows ที่ทำงานบนสถาปัตยกรรม ARM ในงาน CES 2011 เดือนมกราคมนี้
ตามข่าวไม่ได้ระบุว่าเป็น Windows 7 หรือไม่ บอกเพียงแค่ว่ามันถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ เช่น แท็บเล็ตและอุปกรณ์พกพาต่างๆ และ Windows รุ่นนี้จะยังทำงานบนซีพียู x86 ได้เช่นกัน
ที่มา - Bloomberg
ไมโครซอฟท์พบช่องโหว่ใหม่ ที่ทำให้วินโดวส์ของท่านสามารถถูกสวมรอยเพื่อเข้าควบคุมการใช้งาน ถ้าหากคุณไปเปิดการทำงานไฟล์น่าสงสัยที่ถูกส่งมาจากผู้ประสงค์ร้าย
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 ไมโครซอฟท์รายงานว่า หากเครื่องถูกแก้ไขค่าบางค่าในระบบซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของ User Account Control (UAC) จะทำให้เครื่องของท่านสามารถถูกควบคุมจากภายนอกได้
หลังจากที่ iPad และแท็บเล็ตอื่นๆ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค และมีแนวโน้มว่าจะมาแทนเน็ตบุ๊ค ทำให้ Acer ผู้ผลิตเน็ตบุ๊ครายใหญ่ทนอยู่เฉยไม่ได้ ต้องขอเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
Acer จะเปิดตัวแท็บเล็ตอย่างน้อยสามรุ่นในปีหน้า โดยจะเปิดตัวรุ่นแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows (ต้นฉบับไม่ได้ระบุว่าเป็น Windows รุ่นไหน) มีหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว และจะเปิดตัวอีกสองรุ่นในเดือนเมษายน สองรุ่นนี้จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android มีหน้าจอสองขนาด คือ 7 และ 10.1 นิ้ว
ทาง Acer ยังไม่ได้ประกาศชื่อแท็บเล็ตใหม่นี้ รวมทั้งยังไม่ได้ประกาศราคาด้วย
วันที่ 20 พ.ย. (ตามเวลาสหรัฐฯ) ระบบปฏิบัติการ Windows ที่ปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) 9 ใน 10 เครื่อง และเซิร์ฟเวอร์ราวร้อยละ 70 ใช้งาน ก็ได้มีอายุครบ 25 ปีแล้ว เราลองมาย้อนประวัติศาสตร์ของ Windows และมองไปถึงก้าวถัดไปของ Windows ในโลกของการประมวลผลบนกลุ่มเมฆกัน
ไมโครซอฟท์เปิดตัวระบบปฏิบัติการตระกูล Windows Small Business Server (SBS) จับกลุ่มเป้าหมายตามชื่อคือธุรกิจและองค์กรขนาดเล็ก ปรับแต่งให้มีฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วนสำหรับองค์กรเล็กๆ เช่น การแบ็คอัพ อีเมล ปฏิทิน เว็บไซต์ภายใน ฯลฯ สำหรับรุ่น 2011 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยคือ
คุณ Michael Dell ได้กล่าวในอีเวนต์แห่งหนึ่งที่ฮ่องกงว่า เดลล์ได้รับเสียงตอบรับจากเหล่านักพัฒนา [ของบริษัท] ว่าพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟนบนแพลตฟอร์ม Windows นั้นง่ายกว่าบนแพลตฟอร์ม Android
นอกจากนั้น เขายังเผยว่าจะเปิดตัวแท็บเล็ตหลากรุ่นในปีหน้า และยังมีแผนจะซื้อบริษัทที่ทำด้านโซลูชันการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ (cloud computing) อีกด้วย แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างไร
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ ผ่าน Engadget
หมายเหตุ: ข้อความใน [] เสริมโดยผู้เขียนข่าวลง Blognone
ผ่านหนึ่งปีหลังการวางจำหน่าย Windows 7 ทางไมโครซอฟท์ยังปิดปากเงียบเกี่ยวกับวินโดวส์รุ่นถัดไป ซึ่งอันนี้เป็นนโยบายของ Steven Sinofsky ประธานฝ่ายวินโดวส์ เพราะกลัวซ้ำรอย Vista ที่พูดเยอะแล้วออกโปรแกรมไม่ได้ตามนั้น
แต่ในการฉลอง Windows 7 ครบหนึ่งปี ไมโครซอฟท์ประเทศเนเธอร์แลนด์ก็เผลอหลุดว่า Windows 8 กำลังพัฒนาอยู่ และต้องรออีกสองปีจึงจะเสร็จ (ซึ่งคาดว่าหมายถึงปี 2011)
ส่วนทีม Windows Server เคยบอกก่อนแล้วว่ารุ่นหน้าจะออกปี 2012 ตามปกติแล้ว Windows Server จะออกหลังรุ่นเดสก์ท็อปเล็กน้อยอยู่แล้ว
ที่มา - CNET
วันนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows สำหรับยานยนต์ "Windows Embedded Automotive 7" เวอร์ชันล่าสุดนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูด TellMe และเทคโนโลยี Silverlight ไมโครซอฟท์ยังกล่าวด้วยว่า Windows Embedded Automotive 7 และ Windows Embedded Compact 7 นั้นใช้หลายคอมโพเนนท์ร่วมกัน อาทิ เฟรมเวิร์ก Silverlight สำหรับ Windows Embedded UI
ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะบอกว่าผู้ผลิตรถยนต์สามารถนำแพลตฟอร์มใหม่ไปใช้ได้ทันที แต่ในความเป็นจริงมันก็จะต้องได้รับการปรับแต่งลงรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 18 ถึง 24 เดือน
ที่งานสัมมนา International Security Solutions Europe (ISSE) ในกรุงเบอร์ลิน คุณ Scott Charney ผู้บริหารอาวุโสของไมโครซอฟท์เสนอหนทางที่เป็นไปได้ในการจัดการกับบอทเน็ตและมัลแวร์อื่นๆ โดยดูแลพีซีที่ป่วยเหมือนที่สังคมดูแลคนป่วย
Windows HomeGroup เป็นระบบแชร์ไฟล์แบบใหม่ของ Windows 7 ซึ่งช่วยให้เครื่องที่เป็น Windows 7 สื่อสารกันเองได้สะดวกมาก (อ่านที่ผมเคยเขียนไว้ใน รีวิว Windows 7 ตอนที่ 6 คนที่เคยใช้คงยืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
เว็บไซต์ Ars Technica มีบทความลงรายละเอียดเชิงลึกของ HomeGroup คัดมาเฉพาะบางส่วน
คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะได้ยินข่าวว่าแอปเปิลจะทำ FaceTime สำหรับ OS X โดยเว็บ Mac4Ever ได้รายงานว่า ขณะนี้แอปเปิลกำลังนำความสามารถดังกล่าวใส่ในโปรแกรม iChat รุ่นใหม่ในชุดโปรแกรม iLife'11 ที่กำลังจะวางตลาดเร็วๆ นี้
แต่ว่าที่น่าประหลาดใจก็คือในข่าวดังกล่าวระบุว่าแอปเปิลจะทำ FaceTime ลงวินโดวส์ด้วย แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า FaceTime ในวินโดวส์จะอยู่ในรูปแบบใด ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งแอปเปิลทำ iChat + FaceTime สำหรับวินโดวส์เลย หรือว่าแค่ทำให้ FaceTime ใช้ได้กับบริการ Video Chat ของคนอื่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน
Cyberduck โปรแกรม FTP ชื่อดังบนแมคอินทอช ออกรุ่นใหม่ 3.6 ซึ่งเพิ่มฟีเจอร์ต่อเชื่อมกับ Google Storage และรองรับ file versioning สำหรับการเก็บข้อมูลบน Amazon S3 (รายละเอียดอ่านใน changelog)
แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ Cyberduck กำลังถูกพอร์ทไปทำงานบนวินโดวส์ โดยทางทีมพัฒนาบอกว่ามีความสามารถเท่ากับเวอร์ชันแมคทุกประการ แต่ใช้ส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เป็น native ของวินโดวส์แทน ตอนนี้ยังอยู่ในสถานะ private beta ใช้ได้กับ XP, Vista และ Windows 7
24 สิงหาคม ค.ค. 1995 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของวงการไอที เพราะไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows 95 ระบบปฏิบัติการที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ "ยุคทอง" ของไมโครซอฟท์และพีซี มันคือวินโดวส์รุ่นแรกที่เป็นระบบปฏิบัติการเต็มขั้น, ระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิตที่มีมัลติทาสกิงเต็มรูปแบบ
ในงานเปิดตัวเอง ไมโครซอฟท์ก็ทุ่มทุนเปิดตัว Windows 95 อย่างยิ่งใหญ่ ฉากที่บิล เกตส์ กดปุ่ม Start ถือเป็นฉากสำคัญที่หนังสือประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์หลายเล่มนำมาใช้
ผู้ผลิตจอภาพจากสหรัฐ ViewSonic เคยออกแท็บเล็ตเมื่อนานมาแล้ว ใต้แบรนด์ ViewPad (ลองดู ViewPad 100 ใช้ Windows CE และ ViewPad 1000 ใช้ Windows 2000) ในยุคที่แท็บเล็ตกลับมาครองเมือง ViewSonic จึงตัดสินใจนำแบรนด์ ViewPad กลับมาอีกครั้ง
ตัวแรก ViewPad 7 หน้าจอ 7" ใช้ระบบปฏิบัติการ Android มีกล้องหน้าหลัง 3G/Wi-Fi/GPS/Bluetooth/Micro SD พร้อม ยังไม่มีข้อมูลราคาและวันวางจำหน่าย
จากที่ไมโครซอฟท์จะปล่อยตัว Beta ของ Internet Explorer 9 (หรือเรียกย่อๆว่า IE9) ออกมาในวันที่ 15 กันยายนนี้ โดยที่ผู้ใช้ IE9 จะต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Vista หรือ Windows 7 เท่านั้น (ไม่รองรับ Windows XP) และจะต้องถอนโปรแกรม IE รุ่นที่เก่ากว่าออกจากเครื่องก่อนที่จะลง IE9 ด้วย
คุณสมบัติสำคัญของ IE9 คือการรองรับ HTML5, Javascript Engine ที่ดีขึ้น และการนำ GPU มาใช้ในการประมวลผลเว็บให้เร็วขึ้นด้วย
(ผมคงไม่ต้องย้อนความถึงกรณีแท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ระเบิด จนส่งผลให้เกิดน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ เป็นข่าวดังที่หาอ่านกันเองได้)
ในการไต่สวนของรัฐบาลสหรัฐ นาย Michael Williams ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคุมทีมอิเล็กทรอนิกส์บนแท่นขุดเจาะ Deepwater Horizon ให้การว่าเหตุผลสำคัญคือระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยของแท่นขุดเจาะถูกสั่งปิด เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของเจ้าหน้าที่บนแท่นยามค่ำคืน
นอกจากนี้เขายังระบุว่า ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจสอบการขุดเจาะน้ำมันเกิดปัญหา "จอฟ้า" (ในข่าวใช้คำว่า "blue screen of death") ทำให้หัวเจาะไม่รู้สถานะที่เกิดขึ้นในบ่อน้ำมัน มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
คนอ่าน Blognone คงอัพเกรดไปใช้ Windows 7 กันเยอะแล้ว ก็ใกล้จะถึงรอบเวลาของการอัพเกรดใหญ่อีกครั้งด้วย Service Pack 1 (SP1) สำหรับ Windows 7 และ Windows Server 2008 R2
SP1 จะไม่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใดๆ เข้ามานอกจากการรวมแพตซ์ต่างๆ เข้าเป็นชุดเดียวกันเท่านั้น ทำใหสามารถเลือกจัดการแพตซ์ได้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าองค์กร
ที่มา - TechNet
ต่อเนื่องจาก [ข่าวรั่ว] ความสามารถใหม่ของ Windows 8 จากสไลด์ของไมโครซอฟท์ ยังมีข้อมูลรั่วอีกว่าไมโครซอฟท์ยังมี Windows Store หรือ App Store สำหรับ Windows 8 ที่ทำงานอยู่บนกลุ่มเมฆอยู่ในแผนอีกด้วย
จากรายละเอียดสรุปได้ว่า ผู้ใช้สามารถค้นหาแอพพลิเคชั่นจากภายในเครื่อง (local) หรือผ่านเว็บไซต์ สามารถดาวน์โหลด ติตตั้ง และเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่น รวมถึงฟีเจอร์ "follow me" ที่เก็บการตั้งค่าของแอพพลิเคชั่น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานจากอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง (เช่น เล่นเกมบนโน้ตบุ๊กแล้วมาเล่นต่อบนแท็บเล็ตได้อย่างต่อเนื่อง)
ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้พูดอะไรมากนักเกี่ยวกับ Windows 8 แต่ล่าสุดมีบล็อกเกอร์คนหนึ่งนำสไลด์ของไมโครซอฟท์ที่ "คาดว่า" โชว์ให้กับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ (OEM) ออกมาเผยแพร่
ข้อมูลในสไลด์
เราเห็นการเปรียบเทียบลักษณะนี้มาเยอะแล้ว แต่นี่อาจเป็นการเปรียบเทียบครั้งแรกที่มาจากฝั่งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Dell ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์
Dell ได้สร้างหน้าเว็บที่อธิบายประโยชน์ 10 ข้อของ Ubuntu เช่น ใช้ง่าย, ปลอดภัย, รองรับ social network ในตัว, มีโปรแกรมให้เลือกมากมาย ฯลฯ ก่อนจะปิดท้ายด้วยตารางเปรียบเทียบระหว่าง Windows กับ Ubuntu
ที่มา - OSNews
ไมโครซอฟท์ออกแพลตฟอร์มมือถือใหม่ (อีกแล้ว) คราวนี้มันเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือฝั่งธุรกิจ ใช้ชื่อว่า Windows Embedded Handheld
ระบบปฏิบัติการตัวนี้ถือเป็นพี่น้องของ Windows Embedded Compact ที่จับตลาดแท็บเล็ตองค์กร แต่กรณีของ Windows Embedded Handheld จับตลาดมือถือองค์กรแทน ทั้งสองตัวอยู่ในกลุ่มที่ไมโครซอฟท์เรียกว่า enterprise handheld devices ซึ่งเป็นคนละตลาดกับ Windows Phone ที่จับกลุ่มคอนซูเมอร์
Windows Embedded Compact รุ่นแรกจะพัฒนามาจาก Windows Mobile 6.5 โดยเครื่องจะวางขายภายในปีนี้ (เครื่องแรกคือ Motorola ES400) ส่วนรุ่นถัดไปจะพัฒนาต่อจาก Windows Phone 7 ออกปี 2011
ในงาน Computex ไมโครซอฟท์ได้โชว์ต้นแบบแท็บเล็ตที่ติดตั้ง Windows Embedded Compact 7 รุ่น CTP (Community Technology Preview) ซึ่งเป็นวินโดวส์รุ่นถัดจาก Windows Embedded CE ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานบนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะ อาทิ แท็บเล็ต เครื่องเล่นเพลงพกพา เป็นต้น
วินโดวส์ดังกล่าวจะสนับสนุนมัลติทัชและ gesture control เช่นเดียวกับ Windows Phone 7 นอกจากนั้น Internet Explorer จะได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่ และสนับสนุน Flash 10.1, Silverlight for Windows Embedded อีกด้วย
หลังจากมีข่าว กูเกิลห้ามพนักงานใช้วินโดวส์ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ไมโครซอฟท์ก็ออกมาตอบโต้ตามความคาดหมาย
Brandon LeBlanc พนักงานของไมโครซอฟท์ได้เขียนชี้แจงลงใน Windows Blog เขาบอกว่าข้อกล่าวหาว่า "วินโดวส์ไม่ปลอดภัย" นั้นไม่จริง โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของแฮกเกอร์บางคน และรายงานจากองค์กรบางแห่ง (เช่น Cisco) นอกจากนี้ยังยกประเด็นเรื่องมัลแวร์ของแมคที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาเทียบ
สุดท้ายเขายังยกกรณีของ มหาวิทยาลัยเลิกใช้ Gmail เหตุเพราะกลัวปัญหาความเป็นส่วนตัว มาเทียบให้เห็นว่ากูเกิลก็มีปัญหาเหมือนกัน
หนังสือพิมพ์ FT ของอังกฤษอ้างข้อมูลจากพนักงานกูเกิลว่า ตอนนี้กูเกิลกำลังพยายามลดการใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์กับคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรอยู่ โดยเหตุผลที่สำคัญคือการที่กูเกิลถูกแฮกจากจีนเมื่อปีที่แล้ว
ตอนนี้พนักงานเข้าใหม่ของกูเกิลสามารถเลือกได้ว่าจะใช้แมคหรือลินุกซ์ ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าพนักงานยังสามารถลงวินโดวส์ได้บนโน้ตบุ๊ก แต่ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะไม่สามารถลงได้แล้ว ถ้าพนักงานคนไหนอยากลงวินโดวส์จริงๆ ต้องทำเรื่องขออนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงเสียก่อน
นอกจากนี้ยังมีประเด็นว่า กูเกิลพยายามผลักดันให้พนักงานบางส่วนใช้ Chrome OS เพื่อทดสอบระบบด้วยเช่นกัน
ที่มา - FT