YouTube ทำเวิร์คชอปอบรมปัญหาข่าวปลอมในชื่อว่า Internet Citizens program เน้นกลุ่มวัยรุ่นในประเทศอังกฤษโดยมีเป้าหมายคือ ให้วัยรุ่นสามารถแยกแยะข่าวปลอม ข่าวโคมลอย และ Hate Speech ได้

เวิร์คชอปนี้จัดขึ้นไปแล้วในวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมาที่ลิเวอร์พูล แต่มีแผนจะจัดขึ้นอีกเรื่อยๆ ตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ งาน Internet Citizens program จัดขึ้นโดยกลุ่มอดีตยูทูบเบอร์ ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับวัยรุ่น การศึกษา และความหลากหลายโดยเฉพาะ

YouTube ยังคงมีปัญหากับประเภทเนื้อหาบนแพลตฟอร์มตัวเองอยู่ นอกจากปัญหาเนื้อหารุนแรงจนแบรนด์ถอนโฆษณาแล้วยังมีปัญหาเรื่องฟีเจอร์ Restricted Mode

ผลกระทบจากแบรนด์บอยคอต YouTube ไม่ลงโฆษณา ส่งผลรายได้บรรดายูทูบเบอร์หดหาย ส่งผลกระทบกันถ้วนหน้าทั้งคนทำเนื้อหาการเมืองไปจนถึงเนื้อหาตลกขำขัน แม้แต่ PewDiePie บล็อกเกอร์บนยูทูบที่ดังที่สุดยังได้รับผลกระทบ

PewDiePie โพสต์วิดีโอใหม่วันนี้ เขาบอกว่าจากนโยบายการจัดการโฆษณาใหม่บนยูทูบทำให้เขาเสียรายได้ โดยหนึ่งในสามของวิดีโอทั้งหมดของเขาถูกถอนโฆษณาออกไป เขาจำเป็นต้องแก้ไขเนื้อหาใหม่ เพื่อให้รายได้กลับมาเหมือนเดิม

ปัญหาแบรนด์ใหญ่ๆ แสดงความไม่พอใจที่ YouTube นำโฆษณาไปแสดงบนวิดีโอที่เนื้อหารุนแรงกำลังทำให้จนกระทั่งเริ่มกระทบต่อรายได้ ตอนนี้ YouTube ก็ออกมาตรการเบื้องต้นด้วยการปิดโฆษณาสำหรับช่องวิดีโอที่มียอดชมรวมน้อยกว่า 10,000 วิว

ก่อนหน้านี้กระบวนการแสดงโฆษณาเป็นระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด ซอฟต์แวร์ของ YouTube จะเลือกให้เองว่าจะแสดงโฆษณาใดบนวิดีโอใดบ้าง การสร้างข้อกำหนดช่องที่ต้องมี 10,000 วิวจะจำกัดวิดิโอที่ได้รับโฆษณาลง และในอนาคตกระบวนการรีวิววิดิโอด้วยคนหรือซอฟต์แวร์ที่วิเคราะห์ระดับลึกได้ก็น่าจะง่ายลงมาก

หลังจาก YouTube เจอปัญหาแบรนด์โฆษณาทยอยบอยคอต ไม่ลงโฆษณาเพราะไม่อยากให้แบนเนอร์ของตนไปปรากฏบนคลิปที่มีเนื้อหาสนับสนุนก่อการร้าย ล่าสุดบรรดายูทูบเบอร์บ่นกันเป็นแถวว่าได้รับผลกระทบเต็มๆ เพราะรายได้หดหายไป เรียกได้ว่า YouTube ตอนนี้โดนบีบจากสองปัจจัยสำคัญบนแพลตฟอร์มเลยทีเดียว

จากการบอยคอต มีแบรนด์ระดับท็อปกว่า 300 แบรนด์ที่ถอนโฆษณา มีการคาดการณ์กันว่า YouTube เสียรายได้เป็นล้านดอลลาร์ต่อวันในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา Google เจรจากับแบรนด์ได้ข้อสรุปว่า แบรนด์จะไม่นำโฆษณาลงคู่กับคลิปที่เนื้อหามีความรุนแรงทางการใช้ภาษา เพศ มีคำหยาบคาย เนื้อหามีความโศกเศร้า มีประเด็นขัดแย้ง และเป็นประเด็นอ่อนไหวในสังคม

AT&T, Verizon, Johnson & Johnson และบริษัทรายใหญ่อื่นๆ ในสหรัฐฯทยอยถอนโฆษณาออกจาก YouTube เหตุเพราะบน YouTube มีคลิปวิดีโอสุดโต่งและหัวรุนแรงมากเกินไป

AT&T ให้เหตุผลว่าที่ต้องถอดเพราะไม่อยากให้โฆษณาของเราปรากฏควบคู่ไปพร้อมกับคลิปวิดีโอสุดโต่งรุนแรงที่สนับสนุนการก่อการร้ายและความเกลียดชัง จนกว่า Google จะแก้ปัญหาอย่างจริงจังและไม่ทำให้คอนเทนต์รุนแรงมาปรากฏบนแพลตฟอร์มอีก ด้าน Sanette Chao ฝ่ายการตลาดของ Verizon บอกเหตุผลว่า ได้รับแจ้งว่าโฆษณาของเราไปปรากฏบนเว็บไซต์ที่เราไม่ได้รับอนุญาต จึงระงับโฆษณาและดำเนินการสอบสวน

บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกทั้งในสหรัฐและอังกฤษ รวมกันนับร้อยบริษัท ประกาศบอยค็อตยกเลิกการโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Google และบน YouTube โดยบางบริษัทยกเลิกโฆษณาทุกแพลตฟอร์มทั่วโลก บางบริษัทยกเลิกเฉพาะบางแพลตฟอร์มในบางประเทศเท่านั้น

สาเหตุสำคัญของการบอยคอตมาจากโฆษณาของบริษัทเหล่านั้น ไปปรากฎอยู่บนวิดีโอและเว็บไซต์ที่ส่งเสริมการก่อการร้ายจากกลุ่ม IS และความรุนแรงจากกลุ่ม Ku Klux Klan กลุ่มต่อต้านคนผิวสีหัวรุนแรงในสหรัฐ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่พูดไปในทางเดียวกันว่า ที่ผ่านมา Google ไม่ค่อยจริงจังกับการจัดการเว็บไซต์และคอนเทนท์เหล่านี้พอสมควร

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ YouTube เปิดฟีเจอร์ถ่ายทอดสดผ่านแอพบนมือถือให้ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 10,000 คนใช้งานกันไปแล้ว ล่าสุดก็เปิดให้ช่องที่มีผู้ติดตามไม่ถึง 10,000 คนได้ใช้งานแล้วเช่นกัน

ตอนนี้ผู้ใช้ทุกคนสามารถถ่ายทอดสดด้วยแอพ YouTube บนมือถือได้ทันที วิธีใช้งานให้แตะที่ปุ่มบันทึกมุมขวาล่างของหน้าแรก จากนั้นเลือก GO LIVE ตั้งชื่อเรื่องในการถ่ายทอดสดและตั้งว่าให้ใครเข้าถึงการถ่ายทอดสดครั้งนี้บ้าง นอกจากนี้สามารถตั้งว่าให้มีการแชทหรือไม่ รวมไปถึงตั้งค่าจำกัดอายุของผู้ใช้ที่เข้ามาดูได้ เมื่อกด LIVE แอพจะแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ติดตามว่าช่องของคุณกำลังถ่ายทอดสดอีกด้วย

ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานแล้วบนแอพ YouTube ทั้ง iOS และ Android

ที่มา : Android Police

FACEIT คือหนึ่งในแพล็ตฟอร์มและผู้จัดการแข่งขัน eSport ผ่านระบบออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งผู้จัดทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ หลายรายก็เลือกใช้ FACEIT เป็นผู้จัดการแข่งขันรอบคัดเลือกแบบออนไลน์ของตัวเอง

ล่าสุด Youtube ได้ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในวงการ eSport ด้วยการจับมือกับ FACEIT เซ็นสัญญาเป็นผู้สตรีมมิงถ่ายทอดสด Esports Championship Series (ECS) ลีคการแข่งขันเกม CS:GO ของ FACEIT แต่เพียงผู้เดียวโดยจะเริ่มถ่ายทอดสดครั้งแรกใน Season 3 ซึ่งจะเริ่มแข่งกันในวันที่ 25 มีนาคม 2017

YouTube ประกาศว่า จะปิดการใช้งานฟีเจอร์ Annotations Editor ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมเป็นต้นไป คือผู้ใช้จะไม่สามารถใส่ Annotations ลงในวิดีโอหรือแก้ไขได้แล้ว จะลบได้เท่านั้น ส่วน Annotations ที่ใส่ไว้แล้วก็จะยังคงอยู่ต่อไปเฉพาะบนเดสก์ท็อป

YouTube ให้เหตุผลว่าการปิดการใช้งาน Annotations Editor เนื่องมาจาก End Screens และ Cards มีการใช้งานสูงขึ้นมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา ในขณะที่ Annotations ที่ใช้งานได้เฉพาะบนเดสก์ท็อปนั้นมีผู้ใช้ลดลง 70%

นอกจากนี้ YouTube ก็ได้ปรับปรุง Cards โดยเพิ่มฟีเจอร์ให้ลิงก์ไปยังวิดีโอที่อยู่ในเพลย์ลิสต์ได้ ส่วน End Screens ก็สามารถนำเข้าจากวิดีโออื่น รวมถึงใช้งาน smart elements ได้ด้วย

ปีที่แล้ว Sundar Pichai ซีอีโอของ Google เปิดเผยว่าได้ตั้งศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพให้กับพนักงานขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า Area 120 นั้น ล่าสุดก็มีผลงานชิ้นแรกออกมาเป็นที่เรียบร้อย เป็นแอพบน iPhone ชื่อ Uptime

Uptime เป็นแอพดูคลิปบน YouTube ที่ชวนผู้อื่นมาดูคลิปกับเราได้ โดยฟีเจอร์ของแอพคือการบอกว่าใครเข้ามาดูคลิปอยู่กับเราบ้าง ซึ่งบริเวณขอบจอจะมี avatar ของผู้ใช้ที่กำลังดูคลิปพร้อมกับเราอยู่บนเส้นเวลา นอกจากนั้นสามารถพิมพ์ข้อความ, ส่งสติกเกอร์, กดถูกใจและวาดเส้นแสดง reaction ระหว่างรับชมได้

วันนี้ 9 มีนาคม 2017 YouTube ประเทศไทยจัดงาน YouTube Summit 2017 ประกาศรางวัล Ads Leaderboard หรือแบรนด์ที่ทำคอนเทนต์โฆษณาลง YouTube แล้วมียอดรับชมสูงสุด พร้อมทั้งให้รางวัล Gold Button แก่ 32 ช่อง YouTube ที่มีคนติดตามเกินล้านคนในปี 2016 ที่ผ่านมา

กูเกิลเปิดตัวบริการ YouTube TV ดูช่องทีวีและเคเบิลทีวีสดๆ จากกว่า 40 สถานีในสหรัฐ (เช่น ABC, CBS, FOX, NBC, ESPN) ได้ผ่าน YouTube โดยตรง และใช้งานได้ผ่านทุกช่องทางที่เข้าถึง YouTube ได้ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต พีซี หรือต่อขึ้นทีวีผ่าน Chromecast

YouTube TV ยังมีบริการบันทึกรายการทีวีเก็บไว้บนคลาวด์ (Cloud DVR) เก็บรายการที่ชอบไว้ดูภายหลังได้แบบไม่จำกัดพื้นที่ และเข้าถึงรายการ YouTube Red Originals ที่เป็นรายการพรีเมียมของกูเกิลเองอีกด้วย

บริการ YouTube TV คิดค่าบริการรายเดือน 35 ดอลลาร์ จ่ายแล้วใช้งานได้ 6 บัญชี (เช่น เผื่อใช้กันในครอบครัว แต่ละคนอยากดูกันคนละอย่าง) และสามารถรับชมได้สูงสุด 3 สตรีมพร้อมกัน ตอนนี้ YouTube TV ยังเปิดบริการเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น

YouTube ได้ประกาศลงบล็อกว่า ล่าสุดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้ที่ดูวิดีโอบน YouTube จากทั่วโลกรวมกันครบ 1 พันล้านชั่วโมงต่อวันแล้ว ซึ่งการได้เข้าถึงยอดพันล้านในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างหนึ่งของ YouTube เลยทีเดียว

นอกจากการฉลองยอดชั่วโมงการรับชมแล้ว YouTube กล่าวว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน บริการจะเน้นสนใจระยะเวลาที่ผู้ใช้ดูวิดีโอมากกว่า เพื่อให้เข้าใจอย่างแท้จริงว่าผู้ใช้นั้นเพลิดเพลินกับอะไร ซึ่ง YouTube เชื่อว่าการโฟกัสในลักษณะนี้จะช่วยให้ตัวบริการเป็นพื้นที่ที่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างสรรค์วิดีโอ และแฟน ๆ ผู้ติดตามวิดีโอให้มากขึ้น

ที่มา - YouTube

หลังสัปดาห์ที่แล้วเกิดกระแสในสื่อและโลกโซเชียลมีเดียตะวันตก ถึงประเด็นที่ Wall Street Journal รายงานว่า PewDiePie นักแคสต์เกมอันดับต้นๆ บน YouTube มีแนวคิดสนับสนุนลัทธินาซีและต่อต้านชาวยิว จนเจ้าตัวออกมาขอโทษ พร้อมตัดพ้อและโจมตี WSJ ว่าทำให้เขาเป็นผู้ร้าย

ล่าสุด PewDiePie ทำคลิปแคสต์เกม Sniper Elite 4 เพื่อตอบโต้พร้อมเสียดสีประเด็นข้างต้นเชิงอีกครั้ง ด้วยการย้อนเวลาไปไล่ยิงทหารนาซีและฮิตเลอร์ (ภายในเกม)

หลัง YouTube เปิดตัวฟีเจอร์ซับไตเติบ (หรือที่ YouTube เรียกว่า caption) ตั้งแต่ปี 2006 ก่อนจะเพิ่มระบบ automatic caption ในปี 2009 ผ่านมา 8 ปีวันนี้ YouTube มีวิดีโอที่มีซับไตเติลอัตโนมัติมากกว่ากว่า 1 พันล้านวิดีโอแล้ว

YouTube นั้นมีโฆษณาหลากหลายรูปแบบ และรูปแบบหนึ่งในนั้นที่หลายคนไม่พึงประสงค์นักคือโฆษณาแบบ 30 วินาทีที่กดข้ามไม่ได้ ซึ่งล่าสุด Google เตรียมจะหยุดการโฆษณาในรูปแบบนี้แล้ว

โฆษกของ Google กล่าวว่า ทางบริษัทตัดสินใจจะหยุดการโฆษณารูปแบบ 30 วินาทีกดข้ามไม่ได้ในปี 2018 และจะเน้นไปที่ฟอร์แมตโฆษณาที่ยอมรับด้วยกันทั้งฝั่งผู้ใช้และฝั่งผู้โฆษณา

ส่วนความเห็นของฝั่งนักโฆษณาโดย Callum McCahon จาก Born Social กล่าวว่านี่เป็นสิ่งที่ YouTube จ่ายออกไปเพื่อทำให้ผู้ใช้ยังคงรับชม YouTube ต่อไป ตัวเขาให้ความเห็นว่าเป็นสัญญาณว่า YouTube กำลังกังวล Facebook เพราะว่าวิดีโอเป็นส่วนสำคัญในโร้ดแมปของ Facebook และตอนนี้วิดีโอของ Facebook น่าดึงดูดสำหรับแบรนด์มากกว่า

จากข่าว ดิสนีย์ยกเลิกสัญญากับ PewDiePie เหตุโพสต์วิดีโอสนับสนุนนาซีและต่อต้านชาวยิว และ YouTube ยกเลิก Scare PewDiePie ซีซัน 2 พร้อมถอดออกจากสมาชิกโฆษณาพรีเมียม ล่าสุด PewDiePie ออกมาขอโทษแล้ว

PewDiePie บอกว่า เขาขอโทษสำหรับสิ่งที่พูดออกไป ยอมรับว่าคำพูดของเขาทำให้คนโกรธ และมุกตลกของเขาก็ข้ามขอบเขตเกินไป ถึงเวลาที่ต้องพิจารณาตัวเองว่ายังไม่มีประสบการณ์มากพอ แนนอนว่าเขาเคยทำพลาดมาก่อน และประสบการณ์จะทำให้เขาเติบโต

ขณะเดียวกัน PewDiePie ก็ตัดพ้อด้วยว่า สื่อ (Wall Street Journal) ทำให้เขาดูเป็นผู้ร้าย มันดูไม่ยุติธรรมกับเขาเท่าไหร่ เพราะสื่อเอาเฉพาะส่วนเดียวไปตีแผ่ ไม่ได้มองดูภาพรวม ถ้ามุกตลกของเขามีคนจำนวนมากไม่ชอบ เขาก็ยอมรับ แต่ปฏิกิริยาสังคมดูมากเกินไปหน่อยสำหรับเขา ถ้าไม่ชอบมุกตลกของเขา ต้องเรียกเขาว่าเป็นฟาสซิสต์เลยหรือ สิ่งนี้มันช่วยอะไรใครได้หรือไม่

Google ได้เปิดตัว YouTube Kids มาครบ 2 ปีแล้ว และตอนนี้ก็มีผู้ชมบนแอพแบบแอคทีฟในแต่ละสัปดาห์อยู่ที่ 8 ล้านคน และมียอดการชมวิดีโอทั้งหมดรวมแล้ว 30,000 ล้านครั้ง ซึ่งวิดีโอใน YouTube Kids ก็มีหลากหลาย ตั้งแต่สอน DIY, สอนภาษา, สอนวิทยาศาสตร์, ความบันเทิงสำหรับเด็ก ฯลฯ

ในโอกาสนี้ YouTube จึงได้ประกาศเปิดตัวคอนเทนต์เฉพาะของตัวเองลง YouTube Red ซึ่งเป็นทีมภายใต้การนำของ Susanne Daniels โดยเป็นซีรีย์ที่สร้างเพื่อ YouTube Kids โดยเฉพาะ จะเริ่มฉายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ได้แก่

สืบเนื่องจากกรณีที่ PewDiePie โพสต์คลิปเชิงสนับสนุนนาซีและต่อต้านชาวยิว จนถูกบริษัทลูกของดิสนีย์ยกเลิกสัญญา ล่าสุดมีท่าทีออกมาจาก YouTube แล้ว ด้วยการยกเลิกโครงการทำรายการ Scare PewDiePie ซีซัน 2 ซึ่งเป็นออริจินัลคอนเทนท์ที่ทำขึ้นบน YouTube Red

Scare PewDiePie เป็นออริจินัลคอนเทนท์แรกๆ ที่ประกาศขึ้นมาพร้อมๆ กับการเปิดตัว YouTube Red ที่ได้ Skybound Entertainment ผู้สร้าง The Walking Dead และ Robert Kirkman หนึ่งในทีมสร้างซีรีย์ซอมบี้มาช่วยดูแลเบื้องหลังและกำกับ ก่อนจะประกาศสร้างซีซัน 2 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

Maker Studios บริษัทจัดทำสื่อบันเทิงบน YouTube มีแชนแนลในเครือกว่า 1,000 แชนแนล และเป็นบริษัทลูกของดิสนีย์ ประกาศยกเลิกสัญญากับ Felix Kjellberg หรือ PewDiePie นักแคสต์เกมชื่อดัง หลังเจ้าตัวโพสต์คลิปต่อต้านชาวยิวและเชิงสนับสนุนนาซี จนทำให้ PewDiePie ได้รับการชื่นชมจากเว็บไซต์ที่มีอุดมการณ์ Neo-Nazi

The Verge รายงานว่ากูเกิลรวมทีม Google Play Music และ YouTube Music เข้าด้วยกันแล้ว ถึงแม้ตัวบริการยังแยกจากกันดังเดิม แต่ก็น่าจะเป็นสัญญาณว่ากูเกิลพยายามรวมบริการ 2 ตัวนี้เข้าด้วยกันในอนาคต เหลือเป็นบริการเพลงของกูเกิลเพียงตัวเดียว

โฆษกของกูเกิลยืนยันข่าวนี้ โดยอธิบายสั้นๆ ว่ากูเกิลรวมทีมเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนาบริการด้านเพลงให้ดีที่สุด และตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในแง่ของผู้ใช้งาน

ปัจจุบัน ผู้ที่สมัคร YouTube Red แบบเสียเงิน สามารถใช้บริการแบบพรีเมียมทั้งสองตัวได้พร้อมกัน

YouTube ได้ขยายการใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมสองอย่าง ได้แก่ ฟีเจอร์การไลฟ์สตรีมผ่านอุปกรณ์พกพา และ Super Chat

ฟีเจอร์แรกคือการไลฟ์สตรีมผ่านอุปกรณ์พกพา YouTube ได้เริ่มเปิดให้ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 10,000 คนได้เริ่มใช้งานฟีเจอร์นี้แล้ว หลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นได้เปิดให้ใช้งานเพียงบางช่องเท่านั้น

การไลฟ์สตรีมผ่านอุปกรณ์พกพาของ YouTube สามารถทำได้ผ่านแอพ YouTube ทันทีโดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพเพิ่มเติม เพียงเปิดแอพและกดปุ่มถ่ายวิดีโอ ก็จะสามารถเข้าสู่การไลฟ์สตรีมได้ทันที โดยวิดีโอที่ทำการไลฟ์สตรีมจะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เหมือนกับวิดีโอ YouTube ปกติ เช่น สามารถค้นหาได้, เพิ่มไว้ในเพลย์ลิสต์ได้ ฯลฯ

YouTube ได้ออกอัพเดตแอพบน iOS โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์การควบคุมบน Apple Watch, หน้าจอล็อก และ Control Center ขณะกำลังส่งภาพขึ้นไปยัง Chromecast, สมาร์ททีวี, เกมคอนโซล หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในห้องนั่งเล่น โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงการควบคุมไม่ว่าจะเป็นเล่น, หยุดชั่วคราว, ย้อนกลับ, ถัดไป และปรับเสียงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเข้าไปที่แอพ

Google ประกาศว่าทางบริษัทจะทำโซลูชั่นด้านการโฆษณาบน YouTube ใหม่ ตั้งแต่ประกาศเปลี่ยนแปลงระบบการนับและประเมินผลของแคมเปญโฆษณาเพื่อให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบันที่อุปกรณ์พกพามียอดการใช้งาน YouTube สูงขึ้น โดยครึ่งหนึ่งของยอดการดูวิดีโอมาจากอุปกรณ์พกพา

สำหรับวิธีที่ Google จะใช้ในการประเมินผลแบบใหม่คือจะดูข้ามอุปกรณ์ จากเดิมที่จะดูเพียงอุปกรณ์เดียว เพื่อให้นักโฆษณาเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดขึ้นของแคมเปญบน YouTube และทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าแคมเปญสามารถสร้างผลตอบรับได้มากเท่าไร นอกจากนี้ทางบริษัทยังร่วมมือกับบริษัทที่ทำเครื่องมือด้านสถิติอย่าง comScore, DoubleVerify, IAS, MOAT และ Nielsen ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เอเจนซี่และนักโฆษณาสามารถวัดผลของแคมเปญได้ต่อไปโดยใช้เครื่องมือของบริษัทเหล่านี้