หลังจากที่เว็บเบราว์เซอร์หลักทั้ง 4 ค่ายต่างผ่านชุดทดสอบ ACID2 กันหมด การพัฒนาชุดทดสอบเวอร์ชันใหม่ ACID3 ก็เริ่มต้นขึ้น โดย ACID2 ที่เน้นทดสอบด้าน CSS แต่ใน ACID3 จะหันมาทดสอบ ECMAScript (JavaScript) และ DOM level 3 แทน

ชุดทดสอบ ACID3 ยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ก็เปิดให้คนทั่วไปได้ลองเล่นแล้ว (ที่นี่) ผมใช้ Firefox 3 Nightly ได้มา 63% แต่ดูจากความเห็นใน Slashdot บอกว่าคะแนนสูงสุดตอนนี้คือ Opera 9.5 อยู่ที่ 65% ครับ น่าเสียดายว่า ACID3 ไม่มีหน้ายิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เสียแล้ว กลายเป็นกล่องสีธรรมดาแทน

ถึงแม้ว่าในสมรภูมิแผ่นดิสก์จะฟาดฟันกันแทบตาย แต่ทั้งโตชิบาและโซนี่ก็เป็นพันธมิตรปลุกปั้นซีพียู​ Cell ที่ใช้ใน PS3 มาด้วยกัน (ยังมีอีกรายคือไอบีเอ็ม) ถ้าไปดูข่าวเก่าในหมวด Cell จะเห็นว่าไอบีเอ็มเองก็เริ่มนำ Cell มาใช้ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์และเมนเฟรมบ้างแล้ว คำถามก็คือโตชิบาทำอะไรอยู่

หลังจากเลื่อนมาแล้วสองรอบ KDE 4.0 ตัวจริงก็ได้ฤกษ์ออกเสียที ถ้าเทียบกับ KDE 3.x แล้ว KDE 4.0 เปลี่ยนแปลงแทบทุกอย่างตั้งแต่รากฐานไปจนถึงชุดไอคอน (อ่านรายละเอียดในข่าวเก่า) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเยอะขนาดนี้ ทำให้ฟีเจอร์หลายอย่างในระดับผู้ใช้ (ไม่ใช่ระดับสถาปัตยกรรม) ยังไม่เทียบเท่า KDE 3.5.x ที่พัฒนามายาวนาน

ทางทีมงาน KDE เองก็ประกาศชัดว่า KDE 4.0 เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์ม "KDE 4" เท่านั้น สำหรับฟีเจอร์ที่ยังขาดไปจะเริ่มทยอยมาใน KDE 4.1

นิตยสาร Linux Magazine รวบรวมรายชื่อ 20 บริษัทโอเพนซอร์สที่น่าจับตามองในปีนี้

ผู้สื่อข่าวของ Gizmodo ได้สัมภาษณ์บิล เกตส์ ที่งาน CES ซึ่งมีหลายประเด็นทั้งความแตกต่างของแอปเปิลกับไมโครซอฟท์, ภาพลักษณ์ของเกตส์ที่เปลี่ยนไป และสิ่งที่เกตส์ "กังวล" ที่สุด

แต่คำถามสำคัญที่เป็นข่าวพาดหัวประจำวันนี้ (ตอนที่ผมเขียนถูก Digg ไปประมาณ 3,600 ครั้ง) คือคำถามว่า "ผลิตภัณฑ์อะไรในรอบห้าปีนี้ที่คุณอยากนำไปปรับปรุงใหม่" ซึ่งคำตอบของเกตส์ก็ตามนี้

Ask me after we ship the next version of Windows. Then I'll be more open to give you a blunt answer.

สำนักข่าวเมืองนอกเลยตีความว่าเกตส์ตอบว่า Vista ห่วยแบบอ้อมๆ นั่นเอง (พูดตรงๆ ลูกน้องเสียกำลังใจหมด) ดูคลิปทั้งหมดได้ตามลิงก์ข้างล่าง

ซอฟต์แวร์สำหรับอ่าน feed ชื่อดังบนแมคอย่าง NetNewsWire ประกาศแจกฟรีแล้ว (เดิมขาย 30 เหรียญ)

บริษัท NewsGator ผู้พัฒนา ได้ประกาศว่าซอฟต์แวร์ฝั่งไคลเอนต์ของบริษัทเกือบทุกตัวจะเปลี่ยนมาแจกฟรี นอกจาก NetNewsWire บนแมคก็ยังมี Feed Damon สำหรับวินโดวส์, NewsGator Go สำหรับมือถือ และ NewsGator Inbox ซึ่งเป็นปลั๊กอินสำหรับ Outlook อีกด้วย โดย NewsGator หวังว่าการแจกซอฟต์แวร์ฝั่งไคลเอนต์ฟรี จะสร้างชื่อให้บริษัทและส่งผลให้ขายซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ได้มากขึ้น

สำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อซอฟต์แวร์ไปภายใน 30 วันก่อน บริษัทจะคืนเงินให้

ตัวแทนจาก Google, Facebook และ Plaxo (บริการแชร์สมุดที่อยู่ระหว่าง social network) ได้ประกาศร่วมโครงการ DataPortability Workgroup ซึ่งมีเป้าหมายจะสร้างชุดมาตรฐานกลางสำหรับข้อมูลใน social network หรือเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานข้ามกันได้

บนเว็บไซต์ของ DataPortability บอกว่าจะไม่พัฒนามาตรฐานใหม่ แต่จะใช้มาตรฐานเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าง OpenID, RSS, OPML, Microformats มาพัฒนาต่อ และรวมเข้าเป็นชุดเดียวกัน ซึ่งจะต่างออกไปจากโครงการ OpenSocial (ข่าวเก่า) ซึ่งเป็นการสร้าง API กลางระหว่าง social network

ช่วงนี้งาน CES จัดที่ลาสเวกัส หลายบริษัททยอยใช้เวทีนี้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กันชุดใหญ่

ของ Yahoo! ได้ดำเนินรอยตามแอปเปิลและกูเกิล โดยเปิดตัว SDK สำหรับมือถือกับเค้าบ้าง เพียงแต่ที่ต่างออกไปคือไม่ใช่ SDK เฉพาะรุ่นเหมือนแอปเปิล หรือระบบปฏิบัติการแบบกูเกิล แต่เป็นแพลตฟอร์มที่รันบนระบบปฏิบัติการของมือถือที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้วอีกชั้น

ถ้าใครยังจำกันได้ เมื่อกลางปีที่แล้ว Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia ได้เผยแผนการทำ search engine โดยใช้เทคโนโลยีวิกิ (ผู้ใช้ช่วยกันแก้ไขผลการค้นหา) ในชื่อ Wikia Search และหายเงียบไปครึ่งปี

ตอนนี้ Wikia Search เวอร์ชันอัลฟ่าออกมาให้ลองเล่นแล้ว ยังทำอะไรไม่ได้มากนัก ผมเห็น Michael Arrington แห่ง Techcrunch รีวิวเสียย่ำแย่ (Wikia Search Is A Complete Letdown) เลยอยากรู้จนต้องลอง สุดท้ายได้มินิรีวิวสั้นๆ ออกมาให้ดูกัน

ข่าวนี้ประกาศตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ขอเขียนสรุปทีเดียวตอนจบดีลเลยนะครับ

ค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง EA เข้าซื้อกิจการของ VG Holding Corp ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสตูอิโออย่าง BioWare และ Pandemic โดยจ่ายเป็นเงินสดจำนวน 620 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนผู้บริหารของทั้งสองค่ายก็ยังคงดูแลงานเดิมต่อไป แถมพ่วงด้วยตำแหน่งรองประธานของ EA ด้วย

การซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ EA ได้เฟรนไชส์เกมเพิ่มเข้ามาถึง 10 ตระกูล สำหรับ BioWare มีเกมดังๆ อย่างซีรีย์ Baldur's Gate, Neverwinter Nights และล่าสุด Mass Effect

ที่มา - Gamasutra

จากข่าวเก่าว่า Warner Bros. เปลี่ยนมาขายภาพยนตร์เป็น Blu-ray เพียงอย่างเดียว (จากเดิมที่ขายทั้งสองฟอร์แมต) ทำให้นักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสัญญาณของจุดจบ HD DVD

ผู้บริหารของโตชิบาจึงต้องรีบออกมาแถลงด่วนในงาน CES ที่ลาสเวกัสว่า "HD DVD ยังคงเป็นฟอร์แมตที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดีที่สุด" อย่างไรก็ตามทางผู้บริหารโตชิบาก็ยอมรับว่าการตัดสินใจของ Warner ทำให้เขาแปลกใจมาก ส่วนรองประธานฝ่ายการตลาดของโตชิบาอเมริกาเล่าว่าการประกาศตัวของ Warner ก่อนงาน CES ไม่กี่วัน ทำให้เธอต้องวุ่นวายกับการแก้ข่าว นอกจากนี้ กลุ่ม HD DVD Promotion Group ยังได้ยกเลิกการประชุมในงาน CES อีกด้วย

เมื่อช่วงสิ้นปี Matthew Szulik ซีอีโอของ Red Hat ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 1999 ได้ลาออก และเปลี่ยนตัวซีอีโอเป็น Jim Whitehurst ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารของ Delta Airlines มาก่อน การเปลี่ยนผู้บริหารครั้งนี้ทำให้วงการไอทีตั้งคำถามว่า ซีอีโอที่มีพื้นฐานจากธุรกิจสายการบินจะนำ Red Hat ไปทางไหน ล่าสุด News.com มีสัมภาษณ์ครับ

คำถามแรกที่ Whitehurst ตอบก็ได้ใจมาก News.com ถามว่าคุณมีเพลงอะไรใน iPod บ้าง ซึ่งคำตอบคือเขาไม่มี iPod (หรือ Zune) ด้วยเหตุผลว่ามันฟังเพลงฟอร์แมต Ogg Vorbis ไม่ได้

จากข่าว Warner Music ยอมขายเพลงไร้ DRM แล้ว เมื่อปลายปี ทุกคนคงเดากันได้ว่าค่ายยักษ์ค่ายสุดท้ายอย่าง Sony BMG นั้นต้องดำเนินรอยตามแน่ ขึ้นกับว่าเมื่อไรเท่านั้น

ข้ามปีมาไม่ทันไร BusinessWeek ก็มีรายงานจากวงในของ Sony BMG แล้วว่าบริษัทเตรียมขายเพลง "อย่างน้อยส่วนหนึ่ง" เป็นแบบไร้ DRM ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และมีข่าวออกมาว่า Sony BMG ยังจะเข้าร่วมแคมเปญแจกเพลงฟรี 1 พันล้านเพลงร่วมกับเป๊บซี่และ Amazon ในช่วงการแข่งขันซูเปอร์โบล์วเดือนกุมภาพันธ์นี้ด้วยเช่นเดียวกับ Warner ในข่าวที่แล้ว

ตัวแทนของ Sony BMG ยังไม่ให้รายละเอียดใดๆ ส่วนโฆษกของ Amazon บอกให้รอดูในการแถลงข่าว

โครงการ Jython (เขียน syntax ด้วยภาษาไพธอน แต่แปลงออกมาเป็น Bytecode ของจาวา) สามารถใช้เฟรมเวิร์กสำหรับพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันอย่าง Django ได้แล้ว (สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Python/Django เทียบได้กับ Ruby/Rails)

สำหรับตอนนี้ขั้นตอนยังยุ่งยากเล็กน้อย คือต้องใช้ทั้ง Jython และ Django เวอร์ชันใหม่ล่าสุดจาก SVN และลงแพตช์อีก 2 ตัว (คาดว่าในอนาคตแพตช์นี้จะเข้า Django) ปัจจุบันยังสนับสนุนแค่ PostgreSQL ส่วน MySQL เห็นว่ามี experimental backend แล้ว แต่ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณอันดีว่าอีกไม่นาน Django บน Jython จะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์

หลังจากเปิดตัว Silverlight มาได้เกือบปี ไมโครซอฟท์ได้ออกแบบเว็บไซต์ใหม่ (เฉพาะส่วน Download Center) ด้วย Silverlight และเปิดให้บุคคลภายนอกลองทดสอบแล้ว ใครสนใจก็เข้าไปลองได้ที่นี่

แน่นอนว่าการจะเข้าชมเว็บไซต์นี้ต้องติดตั้ง Silverlight 1.0 เสียก่อน ปัจจุบันมีเฉพาะเวอร์ชันวินโดวส์และแมคอินทอชเท่านั้น (รายละเอียด) สำหรับผู้ใช้ลินุกซ์คงต้องฝากลองว่า Moonlight (ข่าวเก่า) ใช้ได้หรือเปล่า ผมลองบน Firefox 3 nightly ก็ยังไม่สนับสนุนครับ

ต่อเนื่องจากข่าวเก่า ล่าสุดนิตยสาร EGM และเว็บไซต์ในเครือคือ 1Up.com ซึ่งได้สิทธิ์สัมภาษณ์และทำข่าวเกม Street Fighter IV แบบ exclusive ได้โชว์วิดีโอของตัวเกม Street Fighter IV แล้ว โดยเป็นการต่อสู้ระหว่างริวกับเคน ในฉากตลาดเมืองจีนของชุนลี (YouTube เวอร์ชันตัดมาเฉพาะส่วนของภาพในเกม)

จากวิดีโอจะเห็นว่า Street Fighter IV ใช้กราฟิกแบบ 3D เรนเดอร์ให้เป็นเซลเฉดนิดๆ แต่รูปแบบการเล่นยังเป็น 2D แบบดั้งเดิม การเปลี่ยนแปลงกราฟิกแบบนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งในหมู่แฟนเกมเป็นอย่างมาก มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้าน

มีข่าวลือหนาหูว่าในงาน CES 2008 ที่ลาสเวกัสอาทิตย์หน้า (เริ่ม 7 มกราคม) โซนี่จะเปิดตัวโปรแกรม Skype เวอร์ชัน PSP อย่างเป็นทางการ

ตอนนี้ในเว็บไซต์ของโซนี่สำหรับงาน CES ได้เอ่ยถึงคำว่า Skype แล้ว โดยถือเป็นฟีเจอร์หนึ่งของ PSP (คลิกที่รูปจอยแล้วเลือก PSP)

Call friends, talk trash to fellow gamers or catch up with acquaintances via Skype for PSP system.

นอกจากนี้ยังมีคนตาดีไปเจอข้อความ "Make calls with Skype." อยู่ในเฟรมหนึ่งของวิดีโอโปรโมท PSP อีกด้วย (ดูรูปได้ตามลิงก์)

ที่มา - Engadget

Mary Lou Jepsen ซึ่งเป็น CTO และลูกจ้างหมายเลขหนึ่งของโครงการ OLPC ได้ลาออกมาตั้งบริษัทเองแล้ว โดยเธอหวังว่าจะนำเทคโนโลยีที่คิดค้นสำหรับ OLPC มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ เธอใบ้ไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทใหม่ว่ากำลังคิดถึง "แล็ปท็อปราคา 50 ยูโร" (สองพันกว่าบาท) อยู่

สวัสดีปี 2008 นะครับ ก่อนเริ่มทำงานวันแรกในปีใหม่ เรามาย้อนดูว่าปี 2007 ที่ผ่านมาวงการไอทีทั้งไทยและเทศมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีผลกระทบกับชีวิตเรามากน้อยแค่ไหน

ผมใช้วิธีย้อนไปอ่านข่าวเก่าๆ ใน Blognone ตลอดทั้งปีประมาณ 1800 ข่าว ซึ่งถ้าแบ่งตามการจัดหน้าปัจจุบัน หน้าละ 15 ข่าวก็ได้ 120 หน้าพอดี (โหดมาก) ได้รายละเอียดมาดังต่อไปนี้

Lifehacker รวบรวม 10 ผลิตภัณฑ์/บริการของกูเกิลที่ไม่นิยมเท่า Gmail หรือ Google Reader

นิตยสาร Forbes ยกให้ Nvidia เป็นบริษัทยอดเยี่ยมประจำปีนี้ ด้วยเหตุผลทั้งด้านการเงินและความสำคัญของการ์ดจอต่อวงการคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน

ตอนนี้ Nvidia ครองตลาดการ์ดจอบนเดสก์ท็อปด้วยส่วนแบ่ง 62% เพิ่มขึ้นจาก 57% ในปีที่แล้ว ส่วนรายรับเพิ่มขึ้น 33% และกำไรเพิ่ม 50% ถ้านับเฉพาะช่วงที่ Nvidia เข้าตลาดหุ้นในปี 1999 เป็นต้นมา ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 2100% ซึ่งสูงกว่าแอปเปิลในช่วงเวลาเดียวกันเสียอีก

ท้ายปีก็มีการประกาศรางวัลจากแต่ละสำนักพิมพ์กันเช่นเคย อันนี้เป็นรางวัลเกมยอดเยี่ยมจาก GameSpot (อ่านของปีที่แล้วเทียบ)

รางวัลใหญ่

• Game of the Year: Super Mario Galaxy
• DS: The Legend of Zelda: Phantom Hourglass
• PSP: Puzzle Quest: Challenge of the Warlords
• PS2: God of War II
• Xbox 360: Call of Duty 4: Modern Warfare
• PS3: Call of Duty 4: Modern Warfare
• Wii: Super Mario Galaxy
• PC: Crysis

รางวัลอื่นๆ

Nintendo DS ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมที่ขายดีติดอันดับหนึ่งมาเกือบตลอดตั้งแต่วางขาย นับยอดขายตลอดชีพในประเทศญี่ปุ่นรวมกัน (ทั้งแบบธรรมดาและ Lite) ตอนนี้แซงแชมป์เก่าอย่าง PlayStation 2 ไปเรียบร้อยแล้ว (ผมตรวจสอบข้อมูลจาก Video Game Chartz นับถึง 23 ธันวาคม 2007 นั้น DS ยังตามอยู่นิดๆ ด้วยจำนวน 21 ต่อ 22 ล้านเครื่องปัดเศษทิ้ง คาดว่าถ้าเอาสัปดาห์สุดท้ายของปีมารวม ยอดอาจเปลี่ยนแปลง)

ถ้าใครยังจำกันได้ อดีตเบราว์เซอร์เจ้าตลาดอย่าง Netscape ซึ่งถูก AOL ซื้อไป ได้ถูกยุบไปหลัง Netscape 7.0 (ซึ่งเป็นเวอร์ชันแปลงร่างของ Mozilla Suite 1.0) ก่อนที่ AOL จะฟื้นแบรนด์ Netscape มาอีกครั้งในเวอร์ชัน 8.0 โดยจ้างทีมพัฒนาภายนอก ซึ่งเวอร์ชันล่าสุดคือ 9.0 ที่เพิ่งออกไปในปีนี้

แต่ล่าสุดทาง AOL ได้ประกาศหยุดพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ใต้ยี่ห้อ Netscape อีกครั้งแล้ว โดยระยะเวลาสนับสนุน Netscape 9.0 จะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์​ 2008 นี้ ส่วนเว็บพอร์ทัล Netscape.com และบริการอื่นๆ จะยังให้บริการต่อไป

จากที่ปล่อยให้คู่แข่งอย่าง EMI และ Universal เป็นผู้นำในการขายเพลงแบบไม่มี DRM มานาน ตอนนี้ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Music ก็หันมาร่วมขบวนโดยขายเพลงของตัวเองแบบไร้ DRM บนร้านออนไลน์ของ Amazon

Amazon MP3 มีแผนจะแจกเพลงฟรีเพื่อโปรโมทธุรกิจในช่วงการแข่งขันซูเปอร์โบล์วเดือนมกราคมนี้ นักวิเคราะห์จึงมองว่า Warner ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้้ Warner ตัดสินใจขายเพลงแบบไร้ DRM ในที่สุด อย่างไรก็ตาม Warner ยังไม่ได้แถลงว่าจะขายเพลงบนเว็บไซต์อื่นๆ (โดยเฉพาะ iTunes Store) ด้วยหรือไม่

การกลับลำของ Warner ครั้งนี้ทำให้ Sony BMG กลายเป็นค่ายเพลงบิ๊กโฟร์ค่ายสุดท้ายที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับ DRM