มีคนไปค้นพบข้อมูลบน LinkedIn ของ Richard DeVaul ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ คอมพิวเตอร์พกพา และคอมพิวเตอร์แนวใหม่อื่นๆ ว่าเขาย้ายไปทำงานกับแอปเปิลแล้วในตำแหน่ง Senior Prototype Engineer
Richard DeVaul จบปริญญาเอกจาก MIT วิทยานิพนธ์ของเขาคือ The Memory Glasses แว่นตาที่ใส่แล้วช่วยให้ความจำดีขึ้น เขายังก่อตั้งกลุ่ม MIThril ซึ่งสนใจด้านคอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ และภายหลังมาเปิดบริษัท AWare Technologies ซึ่งทำชุดที่ช่วยตรวจวัดประสิทธิภาพของร่างกาย มีลูกค้าเป็นฝ่ายทหารและนักกีฬาโอลิมปิก เป็นต้น
กูเกิลออก Chrome 4.0 ได้ไม่ทันไร ก็เพิ่มฟีเจอร์จาก Chrome รุ่นทดสอบ มายัง Chrome รุ่นเสถียรแล้ว
Chrome รุ่นนี้นับเลขเป็น 4.1 (เลขเต็มๆ คือ 4.1.249.1036) มีฟีเจอร์ใหญ่ที่เพิ่มเข้ามาสองประการ
เราคงเดากันได้ไม่ยากว่า การใช้บริการย่อ URL ให้สั้นลงหรือ URL shortener จะทำให้เข้าเว็บได้ช้าลง เพราะต้อง redirect ก่อนหนึ่งรอบ คำถามคือมันช้าแค่ไหน
มีบริษัทชื่อ WatchMouse ได้ทดสอบบริการ URL สั้นที่คนใช้กันเยอะๆ จำนวน 14 ชื่อ ผลออกมาว่าบริการ URL สั้นหลายอันเข้าขั้นแย่ ที่ห่วยสุดคือ fb.me ของ Facebook ซึ่งทำให้เราเสียเวลาเพิ่มถึงเกือบ 2,300 มิลลิวินาที (2.3 วินาที) บริการที่เป็นแชมป์คือ goo.gl และ youtu.be ของกูเกิล ใช้เวลาประมาณ 300 มิลลิวินาที
หลาย ๆ คนในเมืองไทยเวลาซื้อสินค้าแอปเปิลแล้วมักจะโดนพนักงานขายในร้านแนะนำให้ซื้อพวกอุปกรณ์เสริมประเภทฟิล์มกันรอยเป็นประจำ แต่ดูเหมือนว่าในร้าน Apple Store เองจากนี้จะไม่มีฟิล์มกันรอยให้เห็นอีกแล้ว
โดยการแบนอุปกรณ์เสริมประเภทฟิล์มกันรอยของสินค้าแอปเปิลทั้งหลายตั้งแต่ iPhone, iPod และคอมพิวเตอร์แมคนั้นได้มีมาระยะหนึ่งแล้ว โดยการแบนนี้รวมไปถึงสินค้าประเภทเคสที่มีการรวมฟิล์มกันรอยเข้าไปในกล่องด่้วย
สำหรับเหตุผลนั้นน่าจะเป็นไปได้ว่าแอปเปิลต้องการเปลี่ยนความคิดที่ว่าสินค้าของแอปเปิลเป็นสินค้าที่เปราะ และเป็นรอยง่าย ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่น่าเป็นไปได้คือยอดการคืนสินค้าที่สูงที่เกิดจากการที่ลูกค้านำฟิล์มไปติดเองแล้วมีฟองอากาศติดอยู่ระหว่างจอภาพกับฟิล์ม
หลังจากที่ Kohjinsha เงียบหายไปจากวงการเน็ตบุ๊คพอสมควร ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวเน็ตบุ๊คตัวใหม่ที่มีดีไซน์ที่น่ารักถูกใจเด็กน้อย วัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงานที่ยังนิยมชมชอบในความน่ารักอยู่ ด้วยการนำเจ้าหมี Rilakkuma มาดีไซน์เป็นเน็ตบุ๊คสุดน่ารักอีกครั้ง (ครั้งก่อน) ที่มีสเปคค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียวดังนี้
นับเป็นเวลา 10 ปีแล้วที่ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยวินโดวส์ 2000 ออกมาวางตลาด และในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้จะสิ้นสุดช่วงเวลาสนับสนุนเสริมของวินโดวส์ 2000 นั่นหมายความว่าหลังจากวันที่ดังกล่าว ไมโครซอฟท์จะไม่ทำการออกแพตช์สำหรับรูรั่วหรือข้อผิดพลาดต่างๆ อีกต่อไป
ในทำนองเดียวกัน ไมโครซอฟท์ยังได้ออกประกาศเตือนว่าวินโดวส์วิสต้าที่ไม่ได้ติดตั้งเซอร์วิสแพ็คนั้นจะหมดช่วงระยะเวลาสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน และวินโดวส์ XP ที่ติดตั้งเซอร์วิสแพ็ค 2 ในวันที่ 13 กรกฎาคม ส่งผลทำให้จะไม่มีแพตช์สำหรับรุ่นดังกล่าวออกมาอีกต่อไป อย่างไรก็ดีผู้ใช้สามารถติดตั้งเซอร์วิสแพ็ค 1 สำหรับ Vista หรือ เซอร์วิสแพ็ค 3 สำหรับวินโดวส์เอ็กซ์พีเพื่อรับสิทธิในการสนับสนุนต่อไปได้
PayPal บริษัทลูกของ eBay ได้ประกาศขยายกิจการในเอเชียแปซิฟิกอีกเท่าตัว โดยจะเพิ่มจำนวนพนักงานจาก 1,000 คนในปัจจุบัน เป็น 2,000 คนภายในปีนี้
PayPal มีสำนักงานใหญ่ระดับนานาชาติอยู่ที่สิงคโปร์ พนักงานที่รับเพิ่มจะถูกส่งไปประจำที่ออสเตรเลีย, จีน, ฮ่องกง, อินเดีย, ญี่ปุ่น และไต้หวัน เฉพาะที่สิงคโปร์แห่งเดียว รับเพิ่มอีก 100 คน
เหตุที่ PayPal เตรียมรุกคืบในตลาดเอเชียอย่างหนัก เป็นเพราะรายได้ประจำปี 2009 ของ PayPal ในเอเชียเพิ่มจากปี 2008 ถึง 38% คาดว่าบริษัทคงจะเห็นอนาคตที่สดใสรออยู่ในซีกโลกตะวันออก
หลังจาก ICANN องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ดูแลโดเมนเนม ได้เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบให้จด Generic Top-level Domain (gTLD = TLD ที่ไม่ใช่รหัสประเทศ) ได้ง่ายขึ้นในปี 2008 ก็มีองค์กรหลายแห่งสนใจจด gTLD ของตัวเอง และรายล่าสุดคือ Canon
Canon ได้ประกาศบนเว็บไซต์ของตัวเองว่าจะยื่นขอจด .canon โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับ canon.com ของเดิม ทางบริษัทคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการนี้ได้ภายในครึ่งหลังของปี 2011
ต่อไปคงมี ixus.canon, eos.canon, powershot.canon, inkjet.canon เผลอๆ อาจมีถึง paula.canon
ที่มา - Canon
Samsung ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Samsung i5700 หรือ Galaxy Spica ได้รับการอัพเกรดเป็น Andriod 2.1 แล้วตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2553 โดยที่ผู้ใช้สามารถอัพเกรดได้ผ่านทางโปรแกรม PC Studio 7 ครับ
อ่านคำประกาศอย่างเป็นทางการได้จากลิงค์ที่มาครับ
ที่มา - Engadget
ปล. ผมไม่มีเครื่องรุ่นนี้ แต่บอกน้องที่ออฟฟิศแล้วว่ามีตัวอัพเกรดออกมา ถ้ายังไงอาจจะลองยืมมารีวิวตัวที่อัพเกรดแล้วดูนะครับ
มีผู้ใช้ Facebook จำนวนหนึ่งรายงานว่าในหน้า profile ของพวกเขา มีลิงก์เกี่ยวกับ QR Code (บาร์โค้ดสองมิติ) เพิ่มเข้ามา
ลิงก์ทั้งสองคือ "View QR Barcode" และ "Generate Status QR Barcode" แม้ว่ามันยังใช้งานไม่ได้ และตอนนี้ถูกเอาออกไปแล้ว แต่มันก็บอกให้เรารู้ว่า Facebook มีแผนจะทำ QR Code ทั้งของ profile และของ status รวมไปถึงบอกให้เรารู้ว่า Facebook เริ่มจริงจังกับตลาดมือถือมากขึ้นด้วย
ภาพประกอบดูได้ตามลิงก์
ที่มา - TechCrunch
หลังจากที่มีแอพลิเคชันจำนวนหนึ่ง อ้างว่าสามารถแสดงได้ว่าใครกำลังเข้ามาดูหน้าประวัติของผู้ใช้อยู่ ทาง Facebook ก็ได้เขียนในหน้า (page) ของตนเองบนเว็บไซต์ว่าอย่าเชื่อแอพลิเคชันเหล่านี้ โดยมันทำงานไม่ได้จริง และทาง Facebook กำลังจัดการกับเหล่าแอพลิเคชันที่อ้างว่าทำได้
แอพลิเคชันที่ถูกระงับไปแล้วมี "Stalker Check" กับ "Who has visited my profile"
แอพลิเคชันเหล่านี้พยายามทำให้มีผู้ใช้มากๆ ซึ่งจะทำให้สามารถหารายได้จากการขายโฆษณาได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะมีลิงก์ที่มีไวรัสหรือซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์อื่นๆ ได้
Philip Newton ผู้บริหารของซัมซุงประเทศออสเตรเลีย กล่าวในงาน Samsung Forum ที่สิงคโปร์ว่า ซัมซุงกำลังพัฒนา Slate PC อยู่เช่นกัน
เขาพูดถึง iPad ว่าเป็นรูปแบบของคอมพิวเตอร์ที่มีอนาคต แต่มันขาดพลังประมวลผล และการเชื่อมต่อ (ต้นฉบับใช้ว่า connectivity ผมไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไรกันแน่) และเขายกตัวอย่างว่า Atom มีพลังประมวลผลสูงกว่า ARM ที่ iPad ใช้
Emmanuele Silanesu ผู้บริหารอีกคนของซัมซุงบอกว่า Slate PC จะออกวางขายในครึ่งหลังของปีนี้ และเขาบอกว่ามันจะกลายเป็น "อุปกรณ์หลัก" (primary device) ของผู้ใช้เลย
ที่มา - APC
ตัวแทนของกูเกิลได้แจ้งว่ามีโปรแกรมใน Android Market ทั้งหมดเกิน 30,000 ตัวแล้ว
ตัวเลขนี้ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับ iPhone App Store ที่มีโปรแกรมถึง 140,000 ตัว (ข้อมูลเดือนมกราคม 2010) แต่ความน่าสนใจอยู่ที่อัตราการเติบโตของ Android Market ครับ เพราะเมื่อสามเดือนก่อน มันเพิ่งมีโปรแกรมเพียง 16,000 ตัวเท่านั้น
สถิติของเว็บไซต์ AndroLib บอกว่า สัดส่วนของโปรแกรมฟรีกับโปรแกรมจ่ายเงินคือ 2:1
ที่มา - MobileCrunch
ท่าทางว่าไมโครซอฟท์จะเอาจริงเอาจังกับ Windows Phone 7 Series มาก ถึงขนาดว่าตอนนี้ใน Windows Update หมวด Optional ได้มี Zune ให้ลงได้ทันทีแล้ว
จากข่าวที่ออกมา Windows Phone 7 Series ได้มีความผูกพันธ์กับ Zune Desktop มากในแง่ของการ Sync มัลติมีเดียทั้งภาพ เสียงและวีดีโอ
ที่มา: ขออภัยครับ ทั้ง Bing & Google แล้วหาไม่ได้เลย ข่าวนี้มาจากที่ผมเจอครับเครื่องตัวเอง (Windows 7 Professional x64) ภาพด้านในเลยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Windows Phone 7 จากงาน MIX 2010
ทีมงานของไมโครซอฟท์ได้ตอบคำถามบนเวทีว่า "Windows Phone 7 จะไม่มีระบบคลิปบอร์ด" (แปลว่าไม่มี Copy & Paste) อันนี้คงเป็นประเด็นถกเถียงไปอีกพักใหญ่เหมือนกับ iPhone - Engadget
ไมโครซอฟท์เผยรายละเอียดตัวโครงร่างล่าสุดของ IE9 ออกมาวันนี้พร้อมๆ กับเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ทดสอบและทดลองใช้เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาที่ IE9 Demos
โดยสิ่งที่เป็นแกนหลักของระบบนั้น ดูเหมือนจะถูกยกเครื่องใหม่ต่างจากหนก่อนๆ ที่ยังเหลือของเก่ามาทุกครั้งแต่หนนี้เหมือนจะตาสว่าง รู้จักยกเครื่องไม่สืบทอดมรดกแบบครั้งก่อนๆ โดยพอสรุปดังนี้
ตอนที่ iPhone เครื่องแรกออกวางขาย มันใช้เวลา 74 วันในการขายให้ได้ 1 ล้านเครื่อง
ถ้าให้เวลา 74 วันเท่ากัน Motorola Droid ขายได้เท่าไร? คำตอบคือ 1.05 ล้านเครื่องครับ
ตัวเลขนี้ประมาณการณ์โดยบริษัทวิจัย Flurry ซึ่งได้สถิติมาจากแอพพลิเคชันบน iPhone/Droid แล้วใช้สูตรคำนวณออกมา ทาง Flurry ได้ให้คำอธิบายที่ Droid ขายดีกว่า iPhone ไว้สามข้อ
ขยายความเพิ่มจาก ตอบทุกสิ่งที่คุณอยากรู้ เกี่ยวกับ Windows Phone 7 จากงาน MIX 2010
นอกจากมือถือต้นแบบของ Samsung แล้ว ในงาน MIX 2010 ไมโครซอฟท์ยังได้โชว์มือถือต้นแบบอีกสองตัว จาก LG และ ASUS ครับ
นอกจากภาพสามภาพแล้ว ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับมือถือทั้งสามตัวนี้ ที่เรารู้มีแต่สเปกขั้นต่ำของมือถือที่จะเป็น Windows Phone 7 Series เท่านั้น เช่น ต้องมีกล้อง 5MP พร้อมแฟลช มีแรมอย่างน้อย 256MB เป็นต้น
ที่มา - Engadget
ผ่านไปแล้วเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลังจากที่ Microsoft ทำการเปิดตัว Windows Phone 7 Series ขึ้น พร้อมกับทิ้งกระแสคำถามหลายๆ อย่างไว้ให้เรารู้สึกค้างคา ในวันนี้ Gizmodo รายงานสดจากงาน Microsoft MIX 2010 โดยเฉพาะ เพื่อมาตอบคำถามที่ยังคงเป็นปริศนาหลายๆ อย่างให้แก่ท่านผู้ชมได้รับชม
จากตัวเลขเว็บที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองไทยนั้น Facebook ก็แซง Hi5 ได้เป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม โดยยอดสมาชิกของ Hi5 จากทั่วโลกปัจจุบันมีอยู่ 47 ล้านคน ลดลงจากปีที่แล้วถึง 22% ซึ่งนอกจากเรื่องของการใช้งานที่ Hi5 ดูจะด้อยกว่าแล้ว (หลายคนมีไว้เม้นอย่างเดียว) อีกส่วนที่ต้องยอมรับคือโปรแกรมเสริมที่มีมาให้ใช้นั้น มีจำนวนและความน่าสนใจด้อยกว่า Facebook มากโดยเฉพาะเกมส์
ล่าสุด Hi5 ได้ประกาศปรับนโยบายของตัวเองใหม่โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
ถ้าปีที่แล้วเป็นปีทองของ Twitter เค้าคาดการณ์กันว่าปี 2010 นี้จะเป็นปีทองของบริการที่เรียกว่า location-based service (LBS) เพราะเทร็นด์เริ่มพุ่งขึ้นในลักษณะเดียวกับ Facebook และ Twitter ที่โตมาก่อนหน้า
ตามนิยามแบบกว้างๆ แล้ว LBS จะเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่มีเรื่องพิกัดและตำแหน่งมาเกี่ยวข้อง เช่น กูเกิลบอก ได้ว่า สินค้าที่ค้นหามีในร้านแถวบ้านหรือไม่? แต่ LBS ที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงนี้คือกลุ่มที่เรียกว่า location-based social network หรือการเอา social network มาผสมกับ location-based นั่นเอง
หลังจากแอปเปิลเปิดให้สั่งซื้อ iPad ล่วงหน้าไปเมื่อไม่กี่วันก่อน กระแสความต้องการ iPad ในช่วงแรกสูงมากถึง 25,000 เครื่องต่อชั่วโมง แต่หลังจากนั้นกลับมาอยู่ในหลัก 1,000 เครื่องต่อชั่วโมง รวมแล้ววันแรกมีคนสั่งประมาณ 152,000 เครื่อง
ผู้ประเมินจำนวนการสั่งซื้อคือ Daniel Tello นักวิเคราะห์และบล็อกเกอร์ชื่อดังชาวเวเนซุเอลา เขาบอกว่าครึ่งหนึ่งของยอดสั่งมหาศาลในวันแรกมาจาก "แฟนบอยที่ตื่นเต้นเกินไป" (pure overexcited fanboism) เขามองว่ายอดสั่งซื้อต่อจากนี้ก่อนถึงวันขายจริง 3 เมษายน จะอยู่ที่ประมาณ 30,000 เครื่องในวันธรรมดา และ 15,000 เครื่องในวันหยุดสุดสัปดาห์ รวมแล้วก่อนขายจริง น่าจะมียอดสั่งไม่เกิน 500,000 เครื่อง
แม้ว่าเมืองไทย BlackBerry จะยังเป็นของใหม่ และอยู่ในกระแสนิยม แต่ในสหรัฐนั้น BlackBerry มีมานานแล้ว และคนสหรัฐก็เริ่มเบื่อ BlackBerry กันแล้ว
ผลสำรวจจากบริษัท Crowd Science ซึ่งสำรวจเกี่ยวกับแบรนด์ของโทรศัพท์ที่ชอบเป็นอันดับสอง พบว่าผู้ใช้ BlackBerry 40% อยากเปลี่ยนไปใช้ iPhone และ 32% อยากใช้ Nexus One ตัวแทนของ Crowd Science ให้ความเห็นว่า นี่แสดงว่าความจงรักภักดีต่อแบรนด์ BlackBerry มีไม่มากเท่าไรนัก และอาจแสดงว่าแบรนด์ BlackBerry ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับ iPhone
ผู้ตอบแบบสอบถามมีทั้งหมด 1,140 คน ผู้ใช้ iPhone/Android มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ใกล้เคียงกันคือ 90% ไม่เปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น
ข่าวนี้ต่อจาก ทวิตเตอร์ เตรียมออกชุดพัฒนาให้เชื่อมต่อบริการโดยตรงมาต่อกรกับเฟสบุ๊ก
ที่งาน SXSW ทาง Twitter นำโดยซีอีโอ Evan Williams ประกาศตัว "@anywhere" ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์คที่ช่วยให้เว็บไซต์อื่นๆ นำ Twitter ไปใช้งานได้ แนวคิดของมันคือ สมมติถ้าผู้ชมกำลังอ่านเว็บอยู่ และต้องการดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องบน Twitter (เช่น สถานะล่าสุดของผู้เขียนบทความ) ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าเว็บของ Twitter สามารถดูข้อมูลเหล่านี้ได้จากเว็บเดิมได้เลย แม้ไม่เหมือนกับ Facebook Connect ซะทีเดียว แต่นี่คือการตอบโต้ Facebook Connect อย่างแน่นอน
ตัวอย่างการใช้งาน
หลังจาก Facebook แซง Yahoo! กลายเป็นเว็บอันดับสองของสหรัฐ ได้ไม่นาน เว็บไซต์นับสถิติอีกแห่งหนึ่งคือ HitWise (ในข่าวเดิมคือ Compete) รายงานว่า Facebook สามารถแซงกูเกิลในแง่จำนวนผู้เข้าชมได้แล้ว โดย Facebook มีส่วนแบ่งผู้ชม 7.07% ส่วนกูเกิลมี 7.03%
อย่างไรก็ตาม อันดับสามและสี่เป็นยาฮูทั้งคู่ อันดับสามคือ Yahoo! Mail 3.8% กับ Yahoo! หน้าหลัก 3.67% ซึ่งรวมกันแล้วยังมากกว่า Facebook และอาจจัดว่าเป็นอันดับหนึ่งได้
จากสถิติของอีกเจ้า ComScore บอกว่าอันดับหนึ่งยังเป็นกูเกิล ตามมาด้วยยาฮูและไมโครซอฟท์ ส่วน Facebook ยังเป็นอันดับสี่