ก่อนหน้านี้ Amazon ออกคำสั่งให้พนักงานทุกคนกลับเข้ามาทำงานในสำนักงาน 5 วันต่อสัปดาห์ มีผลตั้งแต่ 2 มกราคมปีหน้า แต่คำสั่งดังกล่าวถูกเบรกแล้วในสำนักงานหลายแห่ง เนื่องจากไม่มีโต๊ะนั่งรองรับกับพนักงาน
รายงานบอกว่าพนักงานในสำนักงาน Amazon ที่แอตแลนตา, ฮิวสตัน, แนชวิลล์ และนิวยอร์ก ได้รับการแจ้งจากบริษัทว่าพวกเขาสามารถทำงานแบบไฮบริดได้ต่อไป จนกว่าพื้นที่สำนักงานจะถูกจัดการเรียบร้อย ซึ่งอาจขยายไปถึงเดือนพฤษภาคม
Andy Jassy ซีอีโอ Amazon กล่าวว่าในการประชุมพนักงาน All-hands เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับคำสั่งให้พนักงานทุกคนกลับมาทำงานที่สำนักงาน 5 วันต่อสัปดาห์ มีผลในปีหน้า ว่ามีพนักงานหลายคนตั้งสมมติฐานหลายอย่างที่อยู่เบื้องหลังคำสั่งนี้ เพราะมองว่าเป็นประกาศที่เข้มงวดกว่าบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น
เขายืนยันว่าคำสั่งนี้ ไม่ใช่วิธีการปลดพนักงานออกแบบทางอ้อม และ Amazon ก็ไม่ได้ทำข้อตกลงพิเศษกับทางเมืองซีแอตเทิลเพื่อให้มีคนเดินทางเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น การตัดสินใจนี้ไม่ใช่เรื่องการลดค่าใช้จ่าย แต่เป็นการมุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งขึ้น
Matt Garman ซีอีโอ AWS หรือ Amazon Web Services กล่าวในการประชุมพนักงาน All-hands เกี่ยวกับคำสั่งที่ Amazon ระบุให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในสำนักงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 2 มกราคม 2025 เป็นต้นไป ว่าหากพนักงานคนไหนไม่เห็นด้วยกับกฎระเบียบใหม่นี้ ก็สามารถไปลาออกได้
CNBC อ้างถึงบันทึกการประชุมที่ได้รับมา ซึ่ง Garman อธิบายประเด็นนี้เพิ่มเติมว่า ถ้าพนักงานไม่โอเคกับเงื่อนไข และไม่ต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ก็ให้ไปทำงานที่บริษัทอื่นรอบ ๆ แทน เพราะที่ Amazon ต้องการให้ทุกคนได้ทำงานร่วมกัน เป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมสำคัญ และเป็นวัฒนธรรมขององค์กร
Andy Jassy ซีอีโอ Amazon ทำบันทึกข้อความแจ้งพนักงานทุกคนให้กลับมาทำงานในสำนักงาน 5 วันต่อสัปดาห์ มีผลตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2025 ซึ่งจะเริ่มใช้ข้อบังคับใหม่ จากปัจจุบัน Amazon ให้พนักงานต้องเข้าสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
Amazon บอกว่าข้อบังคับใหม่นี้มีผลกับพนักงานสำนักงานทั้งหมด ยกเว้นกรณีฉุกเฉินเป็นพิเศษ หรือกรณียกเว้นที่ได้รับการอนุมัติจากหัวหน้าระดับ S-team (ที่ขึ้นตรงกับซีอีโอ) เท่านั้น
Carl Pei ซีอีโอของ Nothing ส่งอีเมลแจ้งพนักงานทุกคน และเขานำข้อความนี้มาเผยแพร่ใน LinkedIn ด้วย เกี่ยวกับการเข้ามาทำงานในสำนักงาน โดยบอกว่าพนักงานทั้งหมดประมาณ 450 คน จะต้องเข้ามาทำงานในสำนักงานที่ลอนดอน 5 วันต่อสัปดาห์ หากใครไม่สามารถรับเงื่อนไขนี้ได้ ก็ให้ลาออกไปหางานที่อื่น
Eric Schmidt อดีตซีอีโอและประธานกูเกิล ได้ร่วมงานเสวนาที่จัดโดย Stanford University ซึ่งมีการบันทึกวิดีโอเผยแพร่ออกมาด้วย โดยตอนหนึ่ง Schmidt ตอบคำถามเกี่ยวกับการแข่งขันด้าน AI ระหว่างกูเกิลกับ OpenAI
Schmidt บอกว่าปัญหาหนึ่งของกูเกิลคือการให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือแบบรีโมทได้ และกูเกิลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าการเอาชนะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมสตาร์ทอัปจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ผลมากกว่า เพราะพวกเขาทำงานกันหนัก
Business Insider อ้างเอกสารภายในของ Dell แจ้งพนักงานในสหรัฐอเมริกาที่ระบุการทำงานเป็นแบบไฮบริด ว่าบริษัทจะเริ่มตรวจสอบการเข้ามาทำงานในสำนักงาน โดยดูจากข้อมูลบัตรพนักงานเข้าออกพื้นที่สำนักงาน และพนักงานสามารถเข้าไปดูข้อมูลของตนได้ในระบบฝ่ายบุคคล
ในหน้าแสดงข้อมูลการเข้าสำนักงานนั้น จะมีสัญลักษณ์ประกอบเป็นสีทั้งน้ำเงิน เขียว เหลือง และแดง เพื่อบอกสถานะจำนวนการเข้ามาทำงานในสำนักงาน โดยสีเหลืองบ่งบอกว่าเข้ามาทำงานในสำนักงานอยู่บ้าง และสีแดงบอกว่าเข้ามาทำงานในสำนักงานน้อยมาก เป็นต้น ซึ่งข้อมูลนี้ระบุว่าจะนำมาใช้ประกอบการประเมินผลงานและผลตอบแทนด้วย
สำนักข่าว Reuters รายงานปัญหาที่เกิดขึ้นในสำนักงานใหญ่กูเกิลที่ Mountain View ซึ่งมีอาคารใหม่ Bay View ที่เพิ่งเปิดใช้งาน โดยพนักงานจำนวนมากพบปัญหา Wi-Fi ไม่สามารถใช้งานได้ดี ในหลายกรณีพนักงานต้องลากสายแลน หรือใช้โทรศัพท์เป็นฮอตสปอตแทนเลย
ตัวแทนของกูเกิลยืนยันปัญหานี้ โดยบอกว่าบริษัทกำลังปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยคาดว่าจะดีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
มีรายงานว่าในบางกรณี ผู้จัดการทีมได้แนะนำให้พนักงานออกไปนั่งทำงานด้านนอกพื้นที่อาคาร หรือไปนั่งทำงานบริเวณคาเฟ่ เนื่องจากมีสัญญาณ Wi-Fi แรงกว่า หรือบางรายก็ได้แล็ปท็อปเครื่องใหม่ที่มีชิป Wi-Fi รุ่นใหม่กว่าเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวไปเลย
หลังจาก Broadcom เข้าซื้อกิจการ VMware เสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่า Broadcom ก็เริ่มการปรับโครงสร้างองค์กรของ VMware ทันที โดยเบื้องต้นจะมีการปลดพนักงานรวมประมาณ 2,000 คน แบ่งเป็นกลุ่มพนักงานในสำนักงานที่แคลิฟอร์เนียที่ถูกปลดออกทันที 1,267 คน และอีกประมาณ 600 คน ในสำนักงานสาขาอื่น
Hock Tan ซีอีโอ Broadcom ยังประกาศแผนงานถัดไปในการรวม VMware เข้ากับ Broadcom โดยคาดว่าจะมีการปลดพนักงานเพิ่มเติม เน้นฝ่ายที่ลักษณะงานซ้ำซ้อนกับ Broadcom และกลุ่มที่เป็นสำนักงานย่อยขนาดเล็ก Broadcom ยังเตรียมย้ายสำนักงานใหญ่บริษัทไปอยู่เมือง Palo Alto ที่สำนักงานใหญ่ VMware ตั้งอยู่ด้วย
David Baszucki ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Roblox ประกาศปรับวิธีการทำงานมีผลกับพนักงานในองค์กร โดยพนักงานกลุ่มที่ทำงานแบบรีโมท จะต้องเริ่มเข้ามาทำงานในสำนักงานใหญ่ในเมือง San Mateo มีผลตั้งแต่ฤดูร้อนปีหน้า
Business Insider อ้างข้อมูลจากอีเมลภายใน Meta ที่ส่งถึงพนักงานทุกคนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัพเดตข้อกำหนดการกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงาน (Return to Office) ระบุว่าการเข้ามาทำงานในสำนักงาน เป็นข้อบังคับสำหรับพนักงานทุกคนที่ไม่ได้เป็นพนักงานรีโมทแบบเต็มเวลา โดยพนักงานต้องเข้ามาในพื้นที่สำนักงานเป็นเวลาส่วนใหญ่ของแต่ละสัปดาห์ ซึ่งนับรวมถึงการออกไปพบปะลูกค้าด้วย
ก่อนหน้านี้ Meta ออกกฎการทำงานในสำนักงานแบบไฮบริด ระบุว่าต้องเข้าสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
ข่าวบริษัทสายเทคโนโลยีกำหนดให้พนักงานกลับเข้าทำงานในสำนักงานสลับกับทำงานจากที่บ้าน ตามแนวทางการทำงานแบบไฮบริด อาจเป็นเรื่องปกติแล้วตอนนี้ แต่กรณีนี้ก็เป็นประเด็นได้เพราะบริษัทที่ว่าคือ Zoom
ข้อมูลจาก Business Insider ระบุว่า Zoom ได้แจ้งพนักงานที่พักอาศัยในระยะ 50 ไมล์ จากสำนักงานใหญ่ ให้กลับเข้ามาทำงานที่สำนักงาน 2 วันต่อสัปดาห์ โดย Zoom ให้เหตุผลว่าแนวทางทำงานแบบไฮบริดเป็นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพ เพราะพนักงานจะได้พบปะเจอหน้ากัน
กูเกิลออกอีเมลแจ้งยังพนักงานทุกคน เกี่ยวกับข้อกำหนดใหม่ของการเข้ามาทำงานในสำนักงาน ซึ่งปัจจุบันกูเกิลอนุญาตให้ทำงานแบบไฮบริด ต้องเข้าสำนักงานประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ โดยบอกว่าหากพนักงานต้องการทำงานแบบรีโมทเต็มเวลา จะต้องขอและได้รับอนุญาตยกเว้นเป็นพิเศษเฉพาะกรณีเท่านั้น
Fiona Cicconi หัวหน้าฝ่าย People ของกูเกิลชี้แจงว่าจากการสำรวจ พนักงานที่เข้าทำงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ในสำนักงาน พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับเพื่อนพนักงานด้วยกันมากกว่า ทำให้เกิดทีมเวิร์กที่ดีขึ้น ถึงแม้บางคนไม่เชื่อเรื่องการสร้างบทสนทนาระหว่างเดินในสำนักงาน แต่คงไม่มีคำถามว่าการทำงานด้วยกันในสถานที่เดียวกัน ย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า
Meta เริ่มแจ้งพนักงานทั้งหมดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการทำงานแบบรีโมท โดยกำหนดให้พนักงานต้องเข้าทำงานในสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มีผลในเดือนกันยายนเป็นต้นไป โดยข้อกำหนดนี้ไม่มีผลกับพนักงานที่ถูกกำหนดให้ทำงานแบบรีโมทตั้งแต่แรก
Meta บอกว่าการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดนี้เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้ดี รักษาความสัมพันธ์ และส่งเสริมวัฒนกรรมองค์กร
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI กล่าวในงานสัมมนาที่จัดโดย Stripe พูดถึงการทำงานแบบรีโมท โดยเขาคิดว่าถ้าองค์กรยังเป็นสตาร์ทอัพ ก็ควรให้พนักงานทำงานด้วยกันในสำนักงานมากกว่าทำงานแบบรีโมท
Altman บอกในประเด็นนี้ว่า ที่ผ่านมาอุตสาหกรรม Tech ผิดพลาดที่อนุญาตให้พนักงานทำงานรีโมทแบบเต็มเวลาได้ บริษัทแบบสตาร์ทอัพจึงบอกว่าพนักงานไม่ต้องมาทำงานที่สำนักงานเลยก็ได้ ส่งผลให้สตาร์ทอัพนั้นสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ เขามองว่าตอนนี้เทคโนโลยียังไม่ดีมากพอที่จะให้พนักงานทำงานรีโมทเต็มเวลาตลอดไปได้ และย้ำว่าโดยเฉพาะบริษัทที่เป็นสตาร์ทอัพ
Zoom ประกาศซื้อกิจการ Workvivo สตาร์ทอัพจากไอร์แลนด์ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสาร พัฒนาประสบการณ์ และสร้างความสัมพันธ์ของพนักงานภายในองค์กร โดยดีลดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยมูลค่าที่เข้าซื้อ
Kelly Steckelberg ซีเอฟโอของ Zoom พูดถึงดีลดังกล่าวว่า Zoom เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันของพนักงาน ในยุคของการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งการได้ Workvivo มาร่วมทีม ทำให้ร่วมพัฒนาประสบการณ์ ความผูกพันของพนักงานในองค์กรได้เพิ่มมากขึ้น โดยหลังดีลเสร็จสิ้น เครื่องมือของ Workvivo จะรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Zoom
Workvivo มีการเติบโตในระดับเปอร์เซ็นต์สามหลักตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีองค์กรที่เป็นลูกค้าหลายร้อยแห่งทั่วโลก
CNBC อ้างบันทึกจากการประชุมพนักงานของกูเกิลนำโดยซีอีโอ Sundar Pichai เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นสำคัญเรื่องนโยบายให้พนักงานสลับและแชร์โต๊ะทำงานกัน ซึ่งเริ่มที่ฝ่าย Google Cloud โดยมีพนักงานจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วย
Pichai ยืนยันแนวทางนี้ และบอกว่าพนักงานจำนวนหนึ่งให้ความเห็นว่าเวลามาสำนักงาน พวกเขาเห็นโต๊ะทำงานว่างจำนวนมาก เหมือนเป็นสำนักงานร้าง ซึ่งไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีนัก ตัวเลขที่เขาพบคือพนักงานส่วนใหญ่จะเข้าสำนักงานสัปดาห์ละ 2 วันเท่านั้น ค่าเช่าอาคารสำนักงานนั้นแพงมาก อัตราการใช้โต๊ะจึงต่ำเกินไปหากทุกคนมีโต๊ะทำงานประจำ เลยมาสู่แนวทางแชร์โต๊ะทำงานดังกล่าว
กูเกิลประกาศแนวทางลดค่าใช้จ่ายใหม่ โดยเริ่มต้นมีผลกับแผนก Google Cloud ที่อยู่ใน 5 สถานที่เช่น Kirkland, Sunnyvale, San Francisco ซึ่งพนักงานจะต้องแชร์โต๊ะทำงานร่วมกับพนักงานอีกหนึ่งคน ผ่านระบบจัดสรรตารางเข้าสำนักงาน เพื่อไม่ให้พนักงานสองคนนั้นมาทำงานที่สำนักงานในวันเดียวกัน
กูเกิลบอกว่ารูปแบบดังกล่าวจะรองรับทั้งการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งตอนนี้กำหนดให้พนักงาน Google Cloud ต้องเข้าสำนักงานอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ ส่วนวันอื่นสามารถทำงานจากที่บ้านได้ ขณะเดียวกันกูเกิลก็สามารถลดค่าใช้จ่ายจากพื้นที่สำนักงานลงได้ด้วย เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนในธุรกิจคลาวด์ที่มีการเติบโตสูงได้มากขึ้น
ไมโครซอฟท์เปิดตัวแอป Places ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft 365 ซึ่งอธิบายว่าเพื่อรองรับการทำงานยุคใหม่แบบไฮบริด ที่มีทั้งคนทำงานออนไลน์ และคนที่ทำงานในสำนักงาน
Microsoft Places ให้ทีมงานอัพเดตข้อมูลแต่ละคน ว่าวางแผนทำงานจากที่บ้าน ในที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นในวัน-เวลาใดบ้าง เพื่อให้พนักงานแต่ละคนสามารถบริหารจัดการเวลาที่เหมาะสม เช่น เวลานี้ควรเดินทางไปพบทีมงานที่ใด หรือควรออกจากบ้านเวลาใดเพื่อเลี่ยงการจราจร เป็นต้น
บริการนี้ยังสามารถรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โต๊ะทำงานที่ว่าง ห้องประชุมที่ว่าง ห้องประชุมที่ใกล้ที่สุดสำหรับการนัดหมาย ในภาพรวมองค์กรยังสามารถบริหารจัดการการใช้พื้นที่ได้ดีขึ้นอีกด้วย
หลัง Apple แจ้งพนักงานอย่างเป็นทางการให้เริ่มกลับมาทำงานในสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นไป ตอนนี้ฝั่งพนักงานเองก็มีความเคลื่อนไหวเพื่อแสดงการคัดค้านนโยบายดังกล่าว
กลุ่มพนักงานที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า "Apple Together" เตรียมทำหนังสือคำร้องถึง Tim Cook นายใหญ่ของ Apple เพื่อคัดค้านนโยบายข้างต้นโดยให้เหตุผลว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นจะทำให้พวกเขารู้สึกสบายและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าตรงตามความต้องการของบริษัท โดยคำร้องนี้ถูกเตรียมขึ้นในนามของกลุ่มโดยไม่มีการระบุชื่อตัวตนของพนักงานเพื่อป้องกันการโดนเล่นงานจากบริษัท
Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่าแอปเปิลได้แจ้งพนักงานถึงแผนการให้กลับมาทำงานที่สำนักงานอีกครั้ง ให้เข้าสำนักงาน 3 วันต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนนี้
แอปเปิลกำหนดว่าพนักงานต้องเข้าทำงานที่สำนักงาน ทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ส่วนอีกหนึ่งวันให้แต่ละทีมกำหนดเองว่าจะเป็นวันใด โดยบอกว่ายังคงรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด
ถึงแม้หลายบริษัทเทคโนโลยีจะปรับรูปแบบการทำงานไปพอสมควรนับตั้่งแต่เกิดการระบาดของโควิด 19 แต่แอปเปิลส่งสัญญาณมาระยะหนึ่งแล้ว ว่าต้องการให้พนักงานทั้งหมดกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงาน จนเกิดเหตุการณ์หัวหน้าทีม Machine Learning ประกาศลาออกก่อนหน้านี้
WebEx ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Move to Mobile สำหรับการย้ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการประชุมจากเดสก์ท็อปไปยัง iPhone รวมทั้งรองรับใน CarPlay ด้วย
สถานการณ์ที่ยกตัวอย่างขึ้นมาเป็นแบบการทำงานไฮบริด เช่น เราเริ่มต้นการทำงานด้วยการประชุม WebEx จากที่บ้าน แต่ถึงเวลาต้องขับรถไปสำนักงาน เครื่องมือนี้จะช่วยย้ายการประชุมไปที่ iPhone และตัดการเชื่อมต่อจาก Mac ด้วยการสแกน QR Code จึงไม่มีสะดุด และเมื่อกำลังขับรถไปที่ทำงาน ก็สามารถใช้ CarPlay เปิดแอป WebEx เพื่อประชุมต่อได้เลยในโหมดเสียง และเมื่อถึงที่ทำงานก็สามารถสลับกลับมา WebEx ในอุปกรณ์อื่นได้อีกเช่นกัน
ชมตัวอย่างการใช้งานได้จากคลิปท้ายข่าว
ที่มา: WebEx
ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงการทำงานครั้งยิ่งใหญ่ แนวโน้มหลายองค์กรมีการเปลี่ยนแปลงการทำงาน มีแนวโน้มให้พนักงานทำงานแบบไฮบริด (Hybrid working) มากขึ้นเรื่อยๆ สู่การทำงานได้จากทุกที่หรือ Work from Anywhere ซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งระบบไอทีควรมีความพร้อมสนับสนุนองค์กรใน
การขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างราบรื่น เพื่อให้องค์กรสามารถใช้งาน Cloud และขับเคลื่อนธุรกิจองค์กรในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันได้อย่างสมบูรณ์ ระบบเครือข่ายและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยจึงสำคัญ