GSMA (Global System for Mobile Communications) องค์กรกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสารคาดว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็นผู้นำด้านโครงข่าย 5G ภายในปี 2025 ด้วยจำนวนผู้ใช้ราว 600 ล้านคน นับเป็นส่วนแบ่งราว 40% ของจำนวนผู้ใข้ทั่วโลก
Sihan Bo Chen หัวหน้าของ GSMA ของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้กล่าวกับสำนักข่าว China Xinhua ว่า ปริมาณผู้ใช้ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มจาก 1.4 พันล้านคนเป็น 1.6 พันล้านคนในปี 2025 โดยปริมาณผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากแผนผลักดันของเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงคลื่น 5G ได้ในราคาที่ถูกลง
หลังการประกาศแบนและกดดันนานาชาติว่า Huawei เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงผ่านอุปกรณ์ 5G มีเพียงไม่กี่ประเทศในยุโรปนำโดยเยอรมนี ที่ออกมาค้านท่าทีของสหรัฐอย่างเนือง ๆ ทั้งเรียกหาหลักฐานด้วย จนสหรัฐต้องขู่ผ่านกระบวนการทางการทูต
ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนเยอรมนีจะไม่ได้สนใจคำขู่ของสหรัฐ ล่าสุดเตรียมผ่านกฎหมายที่ว่าด้วยการสร้างโครงข่าย 5G ในประเทศ ซึ่งไม่มีการห้ามหรือแบรนด์ผู้ผลิตค่ายไหนทั้งสิ้น Steffen Seibert โฆษกรัฐบาลระบุว่ารัฐบาลเยอรมนีไม่ต้องการตีตนไปก่อนไข้และสั่งแบนผู้ผลิตหรือองค์กรไหนก็ตาม
Honor นั้นครองใจแฟนคลับคนที่ชอบสมาร์ทโฟนช่วงราคาหมื่นต้นไม่เกินสองหมื่นบาทได้ดี และ Honor V20 ก็เป็นอีกรุ่นที่คนให้ความสนใจพอควรทีเดียว และตอนนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ประจำค่ายว่าจะมี Honor V30, V30 Pro เปิดตัวปลายเดือนตุลาคมนี้ และจะมีรุ่นที่รองรับ 5G ด้วย
ดีไซน์หน้าจอ ทาง NotebookCheck อ้างว่าหน้าจอของรุ่น Honor V30 Pro จะเป็น OLED ขอบโค้งและกล้องหน้าคู่คล้ายกับ Samsung Galaxy S10+ แต่ดีไซน์กล้องหลังได้จาก Huawei Mate 20 Pro และติดตั้งเลนส์ถ่ายภาพมาให้ 4 เลนส์ ส่วน Honor V30 จะได้หน้าจอ LCD กล้องหน้าเดี่ยวและกล้องหลัง 3 ตัวเท่านั้นและจัดเรียงกล้องเป็นแนวตั้งแทน สำหรับสเปคที่คาดว่าจะแชร์ร่วมกันทั้งสองรุ่นจะมีดังนี้:
Nikkei Asian Review อ้างแหล่งข่าวจากวงการอิเล็กทรอนิกส์ไต้หวัน ว่ากูเกิลกำลังทดสอบ Pixel 4 รุ่น 5G อยู่ด้วย นอกเหนือจากรุ่น LTE ตามปกติอยู่แล้ว ตามข่าวบอกว่ามันจะใช้ชิป Snapdragon 855 ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่ากูเกิลจะประกาศ Pixel 4 5G ในงานแถลงข่าวสัปดาห์หน้า 15 ตุลาคม ด้วยหรือไม่ หรืออาจเลือกเปิดตัวช่วงต้นปีหน้า พร้อมกับ Pixel 4a ซึ่งน่าจะเป็นรอบการเปิดตัวช่วงต้นปีเหมือน Pixel 3a
หากข่าวนี้เป็นจริง กูเกิลจะเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนสัญชาติอเมริกัน (ซึ่งเหลืออยู่ไม่เยอะนัก) รายแรกที่เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G เพราะฝั่งแอปเปิลคงต้องรอไปถึงเดือนกันยายน 2020 ในรอบของ iPhone 12 ของปีหน้าเลย
ขณะที่หลายค่ายพยายามส่งมือถือที่รองรับ 5G ลงตลาดอย่างเต็มที่ BlackBerry กลับเป็นค่ายเดียวที่จะยังไม่มีสมาร์ทโฟน 5G ของตัวเองในเร็ว ๆ นี้แน่นอน เมื่อ Stefan Streit ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัท TCL เจ้าของ BlackBerry กล่าวในงานอีเว้นท์ CCS Insight Predictions ที่ลอนดอนว่าเขายังไม่เห็นว่า 5G จำเป็นสำหรับ BlackBerry ในตอนนี้
สำหรับ BlackBerry ที่ทางบริษัทมองว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับทำงานมากกว่าใช้เพื่อความบันเทิงนั้น ยังไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นเพราะ 4G ในตอนนี้ก็รับส่งเมล์และข้อความได้เร็วอยู่แล้ว
ปัจจุบัน เทคโนโลยี 5G กำลังอยู่ในความสนใจในการทดสอบด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งรถยนต์, รถไฟใต้ดิน หรือรถไฟธรรมดาว่า 5G จะสามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาหรือไม่
ล่าสุด NTT Docomo บริษัทโทรคมนาคมของญี่ปุ่นประกาศความสำเร็จในการทดลองสัญญาณ 5G แบบ stress test กับการใช้งานบนรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นของญี่ปุ่น ซึ่งจากผลการทดลองพบว่าสำเร็จไปได้ด้วยดี
การทดสอบนี้ NTT Docomo ได้เลือกใช้รถไฟชินคันเซ็นความเร็ว 283 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กับสัญญาณ 5G ที่ส่งข้อมูลสูงสุดที่ความเร็ว 1Gbps และด้วยระยะทางที่ไกลทำให้รถไฟต้องผ่านสถานีฐานจำนวนมาก แต่จากผลการทดสอบพบว่าสามารถใช้งานส่งข้อมูลวิดีโอ 8K รวมถึงสตรีมมิ่งวิดีโอแบบไลฟ์ที่ 4K ได้อย่างไม่มีปัญญา
Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอใหญ่ Huawei เปิดเผยว่าบริษัทเริ่มผลิตสถานีฐาน 5G แล้วแม้จะไม่มีชิ้นส่วนจากสหรัฐจากคำสั่งแบนของประธานาธิบดีก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าตังแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป บริษัทจะสามารถผลิตสถานีฐานได้เฉลี่ย 5,000 สถานีต่อเดือน ส่วนปีหน้าทั้งปีคาดว่าน่าจะผลิตได้ 1.5 ล้านสถานี
ผู้ก่อตั้ง Huawei บอกว่าบริษัททดสอบเรื่องต่าง ๆ มาตั้งแต่สิงหาคมและกันยายน ขณะที่ยอดจำนวนผลิตปีนี้น่าจะอยู่ที่ 600,000 สถานี โดยก่อนหน้านี้ Ren ออกมาบอกว่ายินดีให้พาร์ทเนอร์ตะวันตกเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ทั้งหมดด้วย
ที่มา - ITNews
หนึ่งในเทคโนโลยีที่งานสัมมนา Blognone Tomorrow 2019 ให้ความสำคัญคือ 5G ที่เป็นโอกาสสำคัญของการเติบโตในเทคโนโลยีอื่นๆ มากมายเช่น IoT, ระบบ Smart City, Smart Transportation และการดูแลรักษาความปลอดภัยต่างๆ
ในงาน Blognone Tomorrow ได้ คุณยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS มาเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีโทรคมนาคมจากยุคที่ 4 (4G) ไปยุคที่ 5 (5G) ซึ่งไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงในแง่ความเร็วของการรับส่งข้อมูล แต่ยังมีเรื่องของความหน่วงที่ต่ำ ซึ่งจะมีช่วยให้เกิดการใช้งานอุปกรณ์ IoT และ Edge Computing ในหลากหลายรูปแบบ
ท่ามกลางกระแสการโจมตีจากประเทศตะวันตกที่เกรงว่า Huawei อาจเข้าถึง backdoor ของอุปกรณ์โครงข่ายและอุปกรณ์ 5G ที่ขายให้กับประเทศตะวันตก จนนำไปสู่การแบนต่าง ๆ นานา ล่าสุดดูเหมือน Huawei จะได้ทางออกนี้แล้ว
Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Huawei ให้สัมภาษณ์กับ The Economist บอกว่า Huawei พร้อมจะแบ่งปันเทคโนโลยี 5G ทุกอย่าง ไม่ว่าจะสิทธิบัตร, โค้ด, พิมพ์เขียวไปจนถึง know-how ในการผลิตกับพาร์ทเนอร์ โดยจ่ายแค่ค่าธรรมเนียมแรกเข้าครั้งเดียว
Huawei อาจเป็นผู้ผลิต SoC รายแรกที่ออก SoC รองรับ 5G ในตัว แต่ฝั่งของเจ้าตลาด Qualcomm ก็ไม่ยอมแพ้ ออกมาประกาศแผนการออก Snapdragon 5G ที่มาเป็นชุดคือ Snapdragon ซีรีส์ 8, 7, 6 เลย แปลว่าเราจะได้เห็นมือถือระดับกลางๆ รองรับ 5G กันอย่างถ้วนหน้าในปี 2020
Qualcomm มีชิปโมเด็ม X50 ที่รองรับ 5G วางขายมาแล้วตั้งแต่ต้นปี 2019 แต่การใช้งานต้องเป็นชิปแยกกับตัว SoC อีกทีหนึ่ง ส่วนแผนการออก Snapdragon ที่รองรับ 5G ในตัวมีดังนี้
เป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ โดยแอปเปิลได้ประกาศเตรียมเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของธุรกิจชิปโมเด็มจากอินเทลอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งผลจากดีลดังกล่าว พนักงานอินเทลส่วนนี้ราว 2,200 คน จะย้ายไปทำงานที่แอปเปิล
ทั้งนี้ในรายละเอียดของข้อตกลงหลังการเข้าซื้อเสร็จสิ้น แอปเปิลจะได้ทั้งสิทธิบัตร เครื่องจักร และอาคารสถานที่อีกด้วย มูลค่าของดีลนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากต้องรอหน่วยงานกำกับดูแลอนุมัติดีลดังกล่าว
Intel ประกาศความพ่ายแพ้และถอดนตัวในธุรกิจชิป 5G ในสมาร์ทโฟน และก็มีข่าวลือจาก Wall Street Journal ว่าแอปเปิลเคยสนใจซื้อกิจการส่วนนี้จาก Intel ก่อนที่ดีลนี้จะล่มไปเพราะแอปเปิลยอมความกับ Qualcomm เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม Wall Street Journal รายงานอ้างอิงคนวงในอีกครั้งว่าแอปเปิลยังไม่ได้หันหัวเรือไปไหนและยังสนใจในธุรกิจชิป 5G ของ Intel อยู่ ล่าสุดก็กลับมาเจรจาอีกครั้งและค่อนข้างรุดหน้าไปมากด้วย และคาดว่าดีลนี้น่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า หากไม่มีอะไรผิดพลาดหรือล่มไปอีกรอบ มูลค่าเบื้องต้นไม่น่าจะน้อยกว่า 1 พันล้านเหรียญ ครอบคลุมทั้งสิทธิบัตรและพนักงานของ Intel
Ericsson ได้เปิดเผยรายงานวิจัยผู้บริโภคฉบับล่าสุดเกี่ยวกับ 5G โดยภาพรวมทั่วโลก Ericsson ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ 5G จะเร็วกว่า 2G ไป 3G หรือ 3G ไป 4G มาก เพราะผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องลงทุนโครงข่ายใหม่ทั้งหมด สามารถปรับปรุงโครงข่ายเดิมในการบริการได้ โดยการใช้งาน 5G (adoption) จะเร็วกว่า 4G ถึง 2 เท่าภายใต้กรอบเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้สมาร์ทโฟนจะยังคงเป็นอุปกรณ์ที่สร้างทราฟฟิคบนเครือข่ายมากที่สุดเช่นเดิม ใกล้เคียงกับปัจจุบันที่ราว 90% และคาดว่าน่าจะถึง 95% ภายใน 2024 เพราะถึงแม้ 5G จะรองรับอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฮมหรือ IoT ซึ่งมีจำนวนมาก แต่อุปกรณ์เหล่านี้ส่งข้อมูลทีละน้อยมากๆ
AIS เริ่มทดสอบเครือข่าย 5G ในภาคใต้ โดยใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ตามนโยบายของ กสทช. ที่ต้องการผลักดันพื้นที่หาดใหญ่เป็นสมาร์ทซิตี้
เครือข่ายที่ทดสอบใช้ความถี่ 28GHz โดยทดลองใช้งานใน 3 use cases คือ
เดือนที่แล้ว ปธน. สหรัฐออกคำสั่งบริหาร ห้ามใช้อุปกรณ์สื่อสารที่อาจเป็นภัยความมั่นคง ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายหลักคือจีน ล่าสุด Wall Street Journal รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่ารัฐบาลกำลังพิจารณา บังคับให้อุปกรณ์ 5G ที่จะใช้งานในประเทศทั้งหมดต้องไม่ถูกผลิตในจีนด้วย
Wall Street Journal ระบุว่ารัฐบาลได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม ว่าสามารถพัฒนาและเข้ามาผลิตในสหรัฐเข้ามาได้หรือไม่ ขณะที่แนวคิดนี้ผุดขึ้นมาในฐานะส่วนหนึ่งของกระบวนการร่างกฎระเบียบและไกด์ไลน์ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งประธานาธิบดีภายใน 150 วัน อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ยังไม่ใช่แนวคิดอย่างเป็นทางการและเพิ่งเริ่มพูดคุยเท่านั้น
ตามที่ กสทช. ได้ประกาศจัดสรรคลื่นความถี่ 700MHz โดยเป็นเงื่อนไขสำหรับ 3 บริษัทที่ประมูลได้คลื่น 900MHz ที่ได้ยื่นเรื่องขอยืดการชำระค่าบริการคลื่นออกไปเป็นระยะเวลา 10 ปี ล่าสุดทั้ง 3 บริษัทคือ เอไอเอส (แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค), ดีแทค (ดีแทค ไตรเน็ต) และทรู มูฟ เอช (ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น) ได้ขอเข้ารับการจัดสรรคลื่น 700MHz กันทั้ง 3 ค่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นตามแผนเปิดให้บริการ 5G ของ กสทช.
ท่ามกลางประเด็นสงครามการค้าและสงครามเย็นด้านเทคโนโลยีที่กำลังร้อนแรงระหว่างจีนและสหรัฐ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน ได้เดินทางไปเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการเพื่อสานสัมพันธ์ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
การพูดคุยระหว่าง สี จิ้นผิงและวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดข้อตกลงในระดับระหว่างรัฐเท่านั้น แต่บริษัทจากทั้งสองชาติก็มีการพูดคุยและลงนามในข้อตกลงระหว่างกันนอกรอบด้วย โดยหนึ่งในนั้นคือข้อตกลงระหว่าง Huawei และ MTC โอเปอเรเตอร์ของรัสเซีย เพื่อให้ Huawei เข้ามาพัฒนาและวางโครงข่ายเทคโนโลยี 5G ในรัสเซีย โดย MTC แถลงว่าภายใต้ความร่วมมือนี้ น่าจะทำให้บริษัทสามารถเริ่มทดสอบ 5G ในช่วงปี 2019-2020 ได้
หลังรัฐบาลจีนให้ใบอนุญาตผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อการทดสอบ 5G ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศได้ออกใบอนุญาตสำหรับให้บริการ 5G เต็มรูปแบบกับผู้ให้บริการทั้ง 4 รายในประเทศจีนแล้ว โดยกระทรวงประกาศว่าจีนเข้าสู่ยุค 5G อย่างเป็นทางการ
ผู้ให้บริการทั้ง 4 รายได้แก่ China Telecom, China Mobile, China Unicom และ China Broadcasting Network ขณะที่ประกาศบนเว็บของกระทรวงระบุด้วยว่า เปิดให้บริษัทต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา 5G ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโครงข่าย, การใช้งานไปจนถึงการโปรโมท เป็นต้น
MediaTek เปิดตัวชิปโมเด็ม 5G ของตัวเองคือ Helio M70 5G รองรับความเร็วดาวน์โหลด 4.7 Gbps และความเร็วอัพโหลด 2.5 Gbps อีกทั้งยังสามารถรองรับเครือข่ายรุ่นเก่าย้อนไปได้ถึงยุค 2G
ชิปโมเด็ม MediaTek Helio M70 5G จะถูกนำไปใช้ใน SoC ตัวใหม่ของ MediaTek ที่ยังไม่ประกาศชื่อรุ่น แต่จะใช้สถาปัตยกรรม ARM Cortex-A77 ตัวใหม่ล่าสุด พร้อมจีพียู Mali-G77 ด้วย
SoC 5G ของ MediaTek จะใช้กระบวนการผลิต 7 นาโนเมตร FinFET, มีชิปช่วยประมวลผล AI, รองรับกล้องความละเอียดสูงสุด 80MP ด้วย
SoC ตัวนี้จะเริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2019 และอุปกรณ์มือถือจะเริ่มวางขายจริงในไตรมาสแรกของปี 2020
ที่งาน Tencent Global Digital Ecosystem Summit ซึ่งจัดขึ้นที่ยูนนาน Pony Ma ซีอีโอ Tencent ได้ให้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และ จีนในตอนนี้ จากการอ้างอิงจากสำนักข่าวท้องถิ่น 36kr เขาให้ความเห็นว่า ก็ต้องคอยจับตาดูต่อว่า สงครามการค้ารอบนี้ จะกลายเป็นสงครามเทคโนโลยี หรือการกีดกันทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่หรือไม่
ซึ่ง Ma ระบุว่า การจะแก้ปัญหานี้ได้ จีนต้องผลิตนวัตกรรมของตัวเอง และต้องลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญๆ เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิทัลของจีน มีรากฐานที่มั่นคง
กระทรวงการสื่อสารของญี่ปุ่นเตรียมเพิ่มจำนวนหลักในหมายเลขโทรศัพท์ของประเทศ จากเดิมมีอยู่ 11 หลัก เป็น 14 หลัก โดยใช้วิธีเพิ่มเลขนำหน้า 020 เข้าไป ทำให้รองรับเลขหมายเพิ่มได้อีก 10,000 ล้านเลขหมาย ทางการญี่ปุ่นคาดว่า 5G และการขยายตัวของ Internet of Things (IoT) จะทำให้ความต้องการหมายเลขโทรศัพท์ในอนาคตเพิ่มสูงขึ้นอีก
มีการประเมินว่าหมายเลขโทรศัพท์ 11 หลักที่มีอยู่ปัจจุบัน น่าจะหมดภายในต้นปี 2022 จึงเสนอแผนนี้เข้ามาให้มีผลบังคับใช้ในภายปี 2021 ซึ่ง 3 ค่ายโทรศัพท์มือถือ NTT Docomo, KDDI และ SoftBank ได้ยอมรับข้อเสนอนี้แล้ว
Theresa May นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยื่นหนังสือไล่นาย Gavin Williamson ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม หลังถูกกล่าวหาว่าทำข้อมูลเกี่ยวกับแผนการพัฒนา 5G ของรัฐบาลโดย Huawei หลุดออกไป
ด้านนาย Williamson ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำข้อมูลดังกล่าวหลุดออกไป พร้อมสาบานด้วยลูกสาวของตนเอง เขาชี้ด้วยว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้เกิดจากความบาดหมางภายในคณะรัฐมนตรีและตนเองเป็นเหยื่อของศาลเตี้ย โดยก่อนหน้านี้ May ให้โอกาสเขาเลือกที่จะลาออกด้วยตัวเอง แต่เจ้าตัวปฏิเสธ เพราะเท่ากับเป็นการยอมรับข้อกล่าวหานี้
Huawei ตั้งเป้าจะท้าทายเจ้าตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิคส์ ไม่ใช่แค่ในตลาดสมาร์ทโฟน แต่ดูท่าทางจะรวมถึงทีวีและพีซีด้วย เมื่อล่าสุดประกาศว่าจะเป็นผู้ผลิตพีซีท็อป 5 ของโลกให้ได้ภายใน 3 ปี รวมถึงตั้งเป้าเปิดตัวทีวีที่รองรับ 5G ภายในปีนี้
Nikkei รายงานข้อมูลนี้อ้างอิงจากคนในของ Huawei โดยนอกจากทีวี 5G แล้วก็น่าจะมีทีวีความละเอียดระดับ 8K ด้วย ซึ่งการที่ Huawei จะลงมาเล่นในตลาดทีวีด้วยก็หนีไม่พ้นเหตุผลที่ต้องการขยายไลน์สินค้าคอมซูมเมอร์อิเล็กทรอนิคส์ของตัวเองให้ครอบคลุมมากที่สุด ถึงกระนั้นนักวิเคราะห์ยังคงตั้งคำถามถึงแบรนด์ Huawei ในไลน์สินค้ากลุ่มนี้อยู่ว่าจะแข็งแรงแค่ไหน
ข้อมูลนี้สืบเนื่องจากที่อินเทลประกาศถอนตัวจากธุรกิจชิปโมเด็ม 5G ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าแอปเปิลยอมยุติคดีความกับ Qualcomm เนื่องจากต้องการซัพพลายชิป 5G สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ โดย The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวระบุว่าแอปเปิลได้เคยเจรจาเพื่อขอซื้อกิจการ ส่วนธุรกิจชิปโมเด็ม 5G ของอินเทลตั้งแต่ปีที่แล้ว
รายงานบอกว่าทั้งสองฝ่ายมีการเจรจาหาข้อสรุปเป็นเวลานานหลายเดือน จนกระทั่งแอปเปิลมายุติคดีความกับ Qualcomm ได้ จึงไม่จำเป็นต้องซื้อกิจการจากอินเทลแล้ว และเมื่อแจ้งข้อมูลไป อินเทลจึงตัดสินใจประกาศถอนตัวจากธุรกิจชิป 5G นั่นเอง
Huawei ประกาศในงานประชุมนักวิเคราะห์ทางการเงิน Huawei Global Analyst Conference ถึงแผนการออกมือถือจอพับได้ Huawei Mate X ว่ายืนยันจะเปิดขายในเดือนกรกฎาคมนี้ ตรงตามที่เคยพูดไว้ในงานเปิดตัวว่าจะวางขายช่วงกลางปี
แผนการวางขาย Huawei Mate X ที่เป็นไปตามกำหนดเดิม บวกกับ Galaxy Fold ที่ประกาศเลื่อนวันวางขายออกไปไม่มีกำหนด จึงต้องรอดูกันว่าการเลื่อนของซัมซุงจะยังสามารถออกก่อน Mate X ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงได้หรือไม่
ในแผนการของ Huawei ยังระบุว่าจะมีมือถือ 5G วางขายอีกรุ่นหนึ่งในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งก็คาดกันว่าน่าจะเป็น Huawei Mate 30 รุ่นที่เป็น 5G นั่นเอง