Apple เปลี่ยนการหน้า Search ของ App Store บน iOS 6 จากแบบ list มาเป็นแบบ Chomp ซึ่งเป็นแอพค้นหาแอพ (คล้าย ๆ AppShopper) ที่ถูก Apple ซื้อเมื่อต้นปี
การแสดงผลแบบ Chomp มีภาพ thumbnail เพื่อความสะดวกในการเลือกแอพ โดยใน iPhone จะเปลี่ยนเป็น swipe ซ้าย-ขวาแทนแบบเดิมที่ scroll ขึ้น-ลง ส่วน iPad จะเปลี่ยนเป็น scroll ขึ้น-ลงแทนแบบเดิมที่ swipe ซ้าย-ขวา
ที่มา: MacRumors
ในงานสัมมนา Casual Connect 2012 เมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัทวิจัยตลาดด้านแอพโดยเฉพาะ App Annie ได้นำเสนอผลการศึกษาในหัวข้อ Mobile App Stores Economy ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจในตลาดแอพบนมือถือหลายประเด็นครับ
บริษัท Adeven ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาดโมบายและตรวจสอบป้ายโฆษณาสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยว่าจากการติดตามยอดดาวน์โหลดแอพ คะแนนจากการรีวิว และการจัดอันดับในภาพรวมของ Apple App Store พบว่าแอพราว 4 แสนแอพจากทั้งหมด 5 แสนกว่าแอพบนสโตร์นั้นไม่เคยได้รับการดาวน์โหลดและไม่เคยได้รับการจัดอันดับเลยซักครั้ง
ซีอีโอของบริษัทผู้ทำการสำรวจ Christian Henschel กล่าวว่า มีแอพเพียงไม่กี่พันแอพที่ได้รับการดาวน์โหลดอยู่ต่อเนื่อง ปัญหานี้เกิดมาจากระบบปิดของ Apple เองที่สร้างความยุ่งยากในการค้นหาแอพ ส่งผลให้ผู้ใช้เลือกแอพที่อยู่ในรายชื่อแอพติดอันดับเท่านั้น ซึ่งแอพที่ติดอันดับเหล่านั้นก็มักมาจากบริษัทเพียงไม่กี่รายที่มีเงินทำตลาดให้แอพของตนขึ้นมาอยู่ในอันดับได้
ในงานเปิดตัว iOS 6 แอปเปิลบอกไว้ว่าจะมีการยกเครื่อง App Store ใหม่ ซึ่งคนที่ใช้รุ่น beta จะเริ่มเห็นความแตกต่างกับรุ่นเก่าบ้างแล้ว ล่าสุดมีผู้ใช้ชื่อว่า varmanj ไปโพสต์ใน Reddit ว่า iOS 6 beta 3 ที่เพิ่งปล่อยมาจะไม่ถามรหัสผ่านเวลาดาวน์โหลดแอพฟรีแล้ว
นอกจากแอพฟรีที่ไม่ถามรหัสผ่าน การอัพเดตแอพก็เลิกถามรหัสผ่านเช่นกัน จากเดิมที่ถามแทบทุกครั้ง (และรหัสผ่านก็ไม่ได้ให้ตั้งกันง่ายๆ)
ต่อไปก็ไม่ต้องใช้ PasswordPilot กันแล้ว...
ต่อจากกรณี App Store รั่ว แฮกเกอร์รัสเซียพบช่องโหว่กดซื้อแอพโดยไม่จ่ายเงิน ทางแอปเปิลก็ออกมาประกาศปิดรูรั่วนี้ด้วยวิธีการชั่วคราวแล้ว และให้ข้อมูลว่าใน iOS 6 จะแก้ปัญหานี้อย่างถาวร - ZDNet
อย่างไรก็ตาม แฮ็กเกอร์คนเดิมคือ Alexei Borodin ก็ยังสามารถเจาะเข้ามาได้อีกครั้งด้วยวิธีใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถกดซื้อ in-app purchase ได้แบบไม่ต้องจ่ายเงินจริง วิธีการที่เขาใช้จะลัดกระบวนการออกใบเสร็จของ App Store ออกไป รายละเอียดอ่านตามที่มาครับ
แฮกเกอร์ชาวรัสเซีย Alexey Borodin (ZonD80) ได้เผยแพร่วิธีการของเขาซึ่งอ้างว่าเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกดซื้อแอพที่ต้องซื้อได้โดยไม่เสียเงิน และสามารถทำได้โดยไม่ต้องเจลเบรคอุปกรณ์ใดๆ เพียงแค่เปลี่ยนการตั้งค่าเล็กน้อยเท่านั้น โดยแอพดังกล่าวนั้นเป็น in-app คือเป็นของที่อยู่ในแอพอีกที (เช่นการซื้อของจากเกม)
สำหรับวิธีการคร่าวๆ คือการติดตั้งใบรับรองสองใบและการเปลี่ยนค่า DNS เพื่อให้เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางโดยตัวกลางนี้ก็จะส่งค่า (ที่ถูกแก้ไขแล้ว) กลับไปยัง App Store ตัวจริงเพื่อหลอกว่าได้สั่งซื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากมีผู้ใช้อัพเดตแอพแล้วมีปัญหา จากปัญหา FairPlay DRM ที่ตัวเซิร์ฟเวอร์ของ App Store ทำงานพลาดใส่โค้ด DRM ผิด จึงทำให้แอพปิดตัวทันทีที่ใช้งาน แต่ทำให้ผู้ใช้บางคนถึงกับลดคะแนนรีวิวเหลือเพียงหนึ่งดาว เพราะคิดว่าอัพเดตแอพแล้วเจ๊ง
ล่าสุดแอปเปิลออกมาเคลื่อนไหวกับประเด็นนี้แล้วด้วยการลบคะแนน และคอมเมนท์ที่มาจากแอพที่มีปัญหาออกเพื่อความเป็นธรรมของนักพัฒนา และบอกว่าแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว สำหรับผู้ที่ดาวน์โหลดไปแล้วใช้ไม่ได้ ให้ลบออกแล้วลงใหม่ก็เป็นอันเรียบร้อย
ที่มา - The Next Web
Business Insider ได้สัมภาษณ์พิเศษ Mike Lee อดีตวิศวกรอาวุโสแผนกนักพัฒนาสัมพันธ์ โดยมีงานหลักคือตรวจสอบแอพที่นักพัฒนาจากทั่วโลกส่งเข้ามาก่อนนำขึ้น Store เขาเผยว่างานที่ทำนั้นไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนคิดเลย
Lee เริ่มต้นเล่าว่าแผนกตรวจสอบแอพในความคิดคนทั่วไป คือแผนกใหญ่มีพนักงานประจำอยู่ในอินเดียเป็นร้อยคนเพื่อคอยตรวจสอบแอพแต่ละวัน แต่ความจริงแล้วมันเป็นแค่แผนกเล็กมากๆ ในสำนักงานใหญ่แอปเปิล และทุกคนในทีมก็ล้วนมีงานล้นมือมาก โดยทุกวันพวกเขาต้องคอยตรวจสอบแอพที่ส่งกันเข้ามามหาศาลซึ่งส่วนใหญ่จัดเป็นแอพขยะ แต่ก็ต้องตรวจสอบกันอย่างรอบคอบเพราะบางครั้งพวกเขาก็พลาดมองข้ามแอพชั้นดีไป
มีรายงานจากนักพัฒนาแอพบน iOS และ Mac ว่าพวกเขาได้รับอีเมลรายงานปัญหาจากผู้ใช้งานที่อัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดว่าแอพเหล่านั้นไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ถึงแม้จะลบแอพและลงใหม่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ โดย Marco Arment นักพัฒนาแอพ Instapaper ได้ระบุว่าเขาก็พบปัญหานี้เช่นเดียวกันเมื่อโหลดแอพผ่าน App Store โดยหลังตรวจสอบก็ได้ข้อสรุปว่าไบนารี่ไฟล์ที่ได้จาก App Store นั้นมีปัญหาจากการเข้ารหัสไฟล์ โดยเมื่อเขาอีเมลแจ้งทาง App Store แล้วในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา การโหลดแอพใหม่ก็ได้ไฟล์ที่เป็นปกติ จึงเป็นไปได้ว่าทาง App Store ได้แก้ไขโดยใส่ไฟล์ที่ถูกต้องลงไป ซึ่งนักพัฒนาของ GoodReader เองก็
หลังจากที่เปิดตัวได้ไม่ถึงสองวัน วันนี้ Google Chrome ได้กลายเป็นแอพฟรีอันดับหนึ่งบน App Store ของอุปกรณ์ iOS ทั้งในส่วนของแอพไอโฟน และแอพไอแพ็ด และยังได้รับคะแนนรีวิวเฉลี่ยที่ 4.5 จากจำนวนรีวิวทั้งหมด 3,500 ชิ้น
ที่น่าสนใจคือ Chrome ไม่ได้รับความสนใจจากทีมงาน App Store ของแอปเปิลเป็นพิเศษแต่อย่างใด จนถึงเวลานี้ Chrome ยังไม่ได้ถูกเลือกเป็นแอพ New หรือ Noteworthy ซึ่งจะได้รับพื้นที่พิเศษบนหน้าแรกของ App Store
ที่มา - 9to5Google
อยู่ดีๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา แอปเปิลก็ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าได้เปิดให้ผู้ใช้ดาว์โหลด Cut the Rope: Experiments ซึ่งเมื่อเข้าไปที่หน้าแอพสโตรก็จะเห็นหัวข้อโปรโมชั่น "App of the Week" อยู่
ถึงแม้แอปเปิลจะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่คาดกันว่าบริษัทจะเปิดให้ดาวน์โหลดแอพฯ ได้ฟรีเป็นประจำเหมือน Amazon Appstore ใครต้องการติดตามโปรโมชั่นนี้ ก็ให้แท็ก #FreeAppoftheWeek ครับ
ที่มา: @App Store ผ่าน PhoneArena
มีนักพัฒนาแอพลิเคชั่นบน iOS ได้เข้าไปร้องเรียนในเวปบอร์ดของ Dropbox ว่าทาง Apple ได้ปลดแอพของตนเองออกด้วยเหตุผลที่ว่าแอพนั้นมีการ "ส่งผู้ใช้ไปซื้อบริการจากภายนอก" (sending user to an additional purchase) ซึ่งผิดกฎการใช้บริการ App Store ของ Apple
ข่าวดียังมีมาต่อเนื่องโดยล่าสุด Instagram ได้ทวีตประกาศว่าแอพ Instagram สำหรับ iOS ได้ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 แอพฟรียอดนิยมบน App Store แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แอพนี้ออกมาตั้งแต่ปลายปี 2010 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นผลพวงมาจากการประกาศเข้าซื้อกิจการของ Facebook นั่นเอง ทั้งนี้อันดับดังกล่าวเป็นเฉพาะส่วน App Store อเมริกานะครับ เพราะในไทยยังไม่ติดอันดับแต่อย่างใด
เรื่องนี้เริ่มจาก Cult of Mac เขียนบทความโดยพูดถึงแอพซึ่งโหลดมาใช้งานได้ฟรีตัวหนึ่งใน App Store ที่มีชื่อว่า Girls Around Me ซึ่งเป็นแอพที่แสดงพิกัดของสาวๆ ที่อยู่โดยรอบบริเวณตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้งาน โดยเราสามารถกดเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมทั้งชื่อ รูปภาพ และอื่นๆ ของสาวแต่ละคนที่เพิ่งเช็กอินในสถานที่ใกล้ตัวเรา ในทางกลับกันผู้ใช้งานผู้หญิงก็สามารถตั้งค่าเริ่มต้นเพื่อค้นหาพิกัดหนุ่มๆ รอบตัวได้เหมือนกัน คำอธิบายการใช้งานของแอพดังกล่าวบน App Store ระบุว่า
แอพนี้ใช้งานง่ายมาก แค่ค้นหาสาวหรือหนุ่มบนแผนที่ที่คุณอยู่ จากนั้นก็ดูว่าใครกำลังเช็กอินอยู่ที่ไหนบ้างในค่ำคืนนี้ ดูอัลบั้มภาพของพวกเขาเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา หรือแชร์คนที่คุณสนใจผ่าน Facebook ก็ย่อมได้
ประเด็นที่ Android Market (หรือ Google Play ในปัจจุบัน) โดนวิจารณ์มาตลอดคือแอพเยอะจริงแต่ทำเงินต่อแอพไม่ได้เยอะมากนัก
ล่าสุดมีข้อมูลเชิงสถิติของบริษัทวิจัย Flurry เทียบรายได้ของ "แอพยอดฮิต" จากร้านขายแอพ 3 รายใหญ่คือ iTunes App Store, Amazon Appstore, Google Play ผลปรากฏว่า iTunes App Store ชนะตามคาด
แต่ที่เหนือความคาดหมายของหลายๆ คนคือ Amazon Appstore ทำรายได้น้อยกว่า iTunes App Store เพียงเล็กน้อย ในขณะที่ทั้งสองรายนี้ทิ้ง Google Play แบบไกลสุดกู่
ดูท่าแอปเปิลยังคงมีปัญหากับจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นกรณีของ App Store ที่ถูกกลุ่มนักเขียนชาวจีนร่วมกันฟ้องร้องเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านหยวน (ราว 240 ล้านบาท) หลังจากพบว่ามีหนังสือถูกขายแบบไร้ลิขสิทธิ์ใน App Store
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักเขียนชาวจีน 22 คนได้ร่วมกันก่อตั้งกลุ่มที่ชื่อว่าพันธมิตรเพื่อสิทธินักเขียนขึ้น และส่งจดหมายไปยังแอปเปิลเพื่อแจ้งว่าการจัดการหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์ใน App Store มีการดำเนินการที่ช้าเกินไป โดยกลุ่มดังกล่าวอ้างว่ามีหนังสือกว่า 95 เล่มที่ถูกเขียนโดยนักเขียนชื่อดังอย่าง Han Han, He Ma และ Nanpai Senshu ขายอยู่ใน App Store
แอปเปิลเปิดหน้านับถอยหลังสู่การดาวน์โหลดแอพครบสองหมื่นห้าพันล้านครั้งเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ประกาศว่าครบตามเป้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแอพที่ถูกดาวน์โหลดเป็นลำดับสองหมื่นห้าพันล้านได้แก่ Where's My Water Free เกมพัซเซิลขุดดินเชื่อมท
แอปเปิลเปลี่ยนหน้าแรกของเว็บไซต์ มีข้อความว่า A billion thanks. 25 times over. เพื่อฉลองที่ App Store มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 25,000 ล้านครั้งแล้ววันนี้ และเพื่อเป็นการฉลองยอดดาวน์โหลด 25,000 ล้านครั้งนี้แอปเปิลจะมอบ Gift Card มูลค่า $10,000 ให้กับผู้โชคดีหนึ่งคนด้วย (ตอนที่เขียนข่าวนี้ยังไม่ได้ประกาศผล)
สำหรับยอดดาวน์โหลด 25,000 ล้านครั้งนี้แอปเปิลใช้เวลาเกือบ 4 ปี นับตั้งแต่เปิดให้ใช้งาน App Store ครั้งแรก เมื่อ 10 กรกฎาคม 2008 เฉลี่ยแต่ละวันมีการดาวน์โหลดแอพฯ กว่า 18 ล้านครั้ง
หลังจากที่มีรายงานว่าแอปเปิลเตรียมจะถอดแอพ Evi โดย True Knowledge ออกจาก App Store เนื่องจาก Evi มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Siri มากเกินไปแล้วกลัวว่าลูกค้าจะสับสนระหว่างบริการสองอย่างนี้ ทำให้ยอดการดาวน์โหลด Evi พุ่งสูงขึ้นมาอย่างรวด
นอกจากการเปิดตัว Windwos Phone รุ่นใหม่ 3 รุ่นจาก 2 ยี่ห้อในงาน Mobile World Congress ได้แก่ Lumia 610 กับ Lumia 900 รุ่นวางจำหน่ายนอกสหรัฐฯ จากโนเกีย และ Orbit จาก ZTE แล้ว Joe Belfiore รองประธานที่ดูแลสายงาน Windows Phone ได้เปิดเผยผ่านเว็บบล็อกของบริษัทว่า ภายในสองเดือนข้างหน้าไมโครซอฟท์จะเปิด Windows Phone Marketplace ให้ลูกค้าในอีก 23 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย (รายชื่อประเทศทั้ง
เมื่อวานนี้เพิ่งมีข่าวแนะนำแอพ Evi ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเหมือน Siri แต่วันนี้มีข่าวที่ตรงข้ามกันแล้วโดย TechCrunch รายงานว่าบริษัท True Knowledge ผู้พัฒนาแอพ Evi กล่าวว่าบริษัทได้รับโทรศัพท์จากตัวแทนของทางแอปเปิลแจ้งว่า Evi จะถูกถอดออกจาก App Store ในเร็วๆ นี้
TechCrunch รายงานว่าแอปเปิลได้เข้าซื้อกิจการ Chomp ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเสิร์ชสำหรับหาแอพใน App Store และ Android Market โดยเฉพาะแล้ว การเข้าซื้อดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนการปรับรื้อโครงสร้าง App Store ครั้งใหญ่ของแอปเปิล ที่ปัจจุบันมีแอพมากกว่า 500,000 แอพแล้ว ซึ่งสร้างความยากลำบากมากขึ้นสำหรับนักพัฒนารายใหม่ๆ ที่จะผลักดันแอพให้แจ้งเกิดได้สำเร็จ
Chomp มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนรวม 5 ล้านดอลลาร์ และมีพนักงานราว 20 คน อย่างไรก็ตามตัวแทนของ Chomp ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในข่าวดังกล่าว
รายงานจาก TUAW กล่าวถึงเรื่องการที่มีแอพฯ ลอกเลียนมากผิดปกติใน App Store และกำลังส่งผลต่อนักพัฒนาแอพฯของ iOS เว็บไซต์ก็ได้นำแอพฯ ลอกเลียนเหล่านั้นมาพิสูจน์กับแอพฯ ต้นฉบับแล้วก็พบว่าทุกอย่างเหมือนกันหมดแม้กระทั่งโครงสร้างของโค้ด (ต่างกันแค่ชื่อ และผู้ผลิต)
แอพฯ ที่ถูกลอกเลียนนี้ใช้ PhoneGap ที่เป็นเฟรมเวิร์คสำหรับสร้างแอพฯ แบบข้ามแพลตฟอร์ม ตัวเฟรมเวิร์คนี้ไม่มีการเข้ารหัสส่วนโค้ดที่เป็นองค์ประกอบของหน้าตาโปรแกรม หรือกราฟิกต่างๆ ครับ
ที่มา - TUAW
เว็บไซต์ TechCrunch รายงานว่าแอปเปิลเริ่มลบแอพที่ทำตัวเลียนแบบแอพชื่อดัง ซึ่งสร้างความสับสนให้แก่ผู้ใช้
ตัวอย่างแอพกลุ่มนี้ได้แก่ Temple Jump (เลียนแบบ Temple Run), Tiny Birds (เลียนแบบ Tiny Wings), Numbers With Friends (เลียนแบบ Words With Friends)
ตัวบริษัทแอปเปิลเองไม่ได้ให้ข้อมูลในเรื่องนี้ แต่มีรายงานจากผู้พัฒนาแอพของแท้หลายตัวว่าแอพปลอมเหล่านี้ถูกถอดไปจาก App Store แล้ว
ก่อนหน้านี้ถึงแม้แอปเปิลจะมีมาตรการต่อสู้กับแอพมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ แต่ TechCrunch ก็ตั้งคำถามว่าด้วยปริมาณแอพเยอะขนาดนี้ แอปเปิล (รวมถึง Facebook/Android ที่มีระบบคล้ายๆ กัน) จะสามารถบริหารจัดการได้แค่ไหน และเรียกร้องให้แอปเปิลทำปุ่ม "รายงานแอพเลียนแบบ" ไว้ใน App Store สักที
บริษัทวิจัย Distimo ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการขายแอพบนมือถือโดยเฉพาะ ออกรายงานประจำปี 2011 รวบรวมสถิติในภาพรวมของการขายแอพบนมือถือตลอดทั้งปี (นับจาก ม.ค.-พ.ย.)
รายงานฉบับเต็มต้องซื้อ แต่รายงานฉบับย่อที่แจกให้ดาวน์โหลดฟรี (Distimo Publication) ก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจไม่น้อย นักพัฒนาแอพมือถือในบ้านเราสมควรดาวน์โหลดมาอ่านกันครับ
สถิติของ Distimo รวบรวมจากร้านขายแอพ 7 รายใหญ่ ได้แก่ App Store for iPhone, App Store for iPad, Amazon Appstore, BlackBerry App World, Android Market, Ovi Store และ Windows Phone 7 Marketplace โดยเน้นไปที่ตลาดแอพในสหรัฐเป็นหลัก