ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยโฆษณาตัวล่าสุด โชว์ให้เห็นว่า PC มี Blu-ray ติดมากับเครื่องแต่แรกอยู่แล้วและสามารถเล่นหนัง Blu-ray ได้ ในขณะที่แมคไม่รู้ว่า Blu-ray คืออะไร และตื่นตะลึงกับความคมชัดของหนังเรื่อง Avatar บน Blu-ray
ชมวีดีโอได้หลังเบรคครับ
ที่มา - 9 to 5 Mac
ช่วงนี้ทีวีต่อเน็ตได้กำลังมาแรง นอกจาก Apple TV และ Google TV แล้ว เรายังมี DivX TV
แนวคิดของ DivX จะคล้ายกับ Google TV ครับ คือเป็นซอฟต์แวร์ที่ครอบลงบนทีวีหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่อกับทีวี เพื่อให้ดูทีวีออนไลน์ และคลิปวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตได้ หน้าตาเป็นอย่างไรดูกันเองตามคลิปท้ายข่าว สำหรับอุปกรณ์ชิ้นแรกที่รองรับ DivX TV คือเครื่องเล่น Blu-ray ของ LG ที่ขายในสหรัฐ โดย DivX TV มากับเฟิร์มแวร์อัพเดตเลย
จุดอ่อนของ DivX TV คงเป็นรายการที่ยังไม่โดดเด่นนัก เพราะเป็นรายการทั่วไปที่ดูได้ผ่านอินเทอร์เน็ตปกติอยู่แล้ว แต่ก็น่าสนใจว่าการมาของ DivX TV เป็น "สัญญาณ" ว่าตลาดทีวีต่อเน็ตนั้นมาแรงจริงๆ
Stephen McGill ผู้อำนวยการฝ่าย Xbox ของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Xbox360Achivements ในหลายประเด็น แต่ที่เป็นข่าวคือความเห็นของเขาต่อ Blu-ray
ผู้สัมภาษณ์ถาม McGill ว่าข้อจำกัดของแผ่นดีวีดีมีผลกระทบต่อคุณภาพของเกมบน Xbox หรือไม่ เขาตอบว่าในช่วงแรกมีคนวิจารณ์ไมโครซอฟท์กันมากว่าไม่ยอมใส่หัวอ่านแผ่นแบบใหม่เข้ามา แต่ตอนนี้กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าไมโครซอฟท์ตัดสินใจถูกต้อง การเลือกดีวีดีทำให้ตัวเครื่องมีราคาถูก
เขายังบอกว่าคนกำลังเมินแผ่น Blu-ray เพราะคนข้ามจากดีวีดีไปสู่การดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งเลย และไมโครซอฟท์ก็มีบริการสตรีมหนัง 1080p คุณภาพเดียวกับ Blu-ray แล้ว ไม่มีใครต้องการแผ่น Blu-ray อีก
จอร์จ ลูคัส ผู้สร้าง Star Wars ประกาศในงาน Celebration V ว่าภาพยนตร์ Star Wars ทั้งหกภาคจะวางขายในรูป Blu-ray แล้ว โดยวันวางจำหน่ายคือฤดูใบไม้ร่วงปี 2011
ภาพยนตร์ทั้งหกภาคจะวางขายพร้อมกันเป็นบ็อกซ์เซ็ต นอกจากจะเน้นคุณภาพของภาพและเสียงสำหรับ Blu-ray แล้ว ยังมีฟีเจอร์พิเศษอีกมาก รวมถึงฉากที่ถูกตัดไปในภาค Return of the Jedi ด้วย สำหรับภาพยนตร์ 3 ภาคแรกจะเป็น special edition ที่ฉายในปี 1997 ไม่ใช่เวอร์ชันต้นฉบับ
ลูคัสให้สัมภาษณ์ว่าเขาอยากทำแผ่นเวอร์ชัน Blu-ray มานานแล้ว แต่ต้องรอให้ตลาดพร้อม ผู้ชมจำนวนมากพอมีอุปกรณ์สำหรับชม Blu-ray ด้วย
วันที่ 30 กรกฏาคมนี้ บริษัทชาร์ป (ญี่ปุ่น) จะเปิดตัวแผ่น Blu-ray ขนาดความจุ 100GB ซึ่งตามข่าว แผ่น Blu-ray นี้จะมีชั้นบันทึกข้อมูลถึง 3 ชั้น (triple-layer)
แผ่นดิสก์ซึ่งมีรหัสว่า VR-100BR1 นี้เป็นแผ่นรุ่นแรกที่รองรับมาตรฐานแผ่น Blu-ray ใหม่ที่เรียกว่า BDXL ซึ่งประมาณราคาของตัวแผ่นไว้ที่ 5,000 เยน (ประมาณ 1,900 บาท)
ผู้ใช้แมคจำนวนไม่น้อยเรียกร้องให้แอปเปิลใส่ Blu-ray มาในเครื่องแมคอินทอช ซึ่งท่าทีของสตีฟ จ็อบส์ ได้ปฏิเสธเรื่องนี้มาตลอด (ดูข่าวเก่า สตีฟ จ็อบส์แนะนำ "ใช้ยูทูปแทนบลูเรย์บนแมค"!)
ล่าสุดมีคนส่งเมลไปถามจ็อบส์อีกรอบ ซึ่งเขาตอบคล้ายๆ เดิมว่า Blu-ray ซึ่งเป็นทายาทของซีดี จะถูกโค่นโดยการดาวน์โหลดผ่านเน็ต
แต่ผู้ส่งเมลคนนี้ตอบจ็อบส์กลับไปว่า การดาวน์โหลดผ่านเน็ตอาจชนะในระยะยาว แต่ในระยะกลาง Blu-ray ก็มีประโยชน์หลายอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น คุณภาพของภาพ หรือการนำมาใช้เป็นสื่อแบ็คอัพข้อมูล
ขณะที่คอมพิวเตอร์รุ่นบางเบาดูจะบุกตลาดมาเรื่อยๆ สิ่งที่หายไปคือออปติคอลไดรฟ์ที่เป็นของอย่างแรกๆ ที่ถูกถอดออกยกเว้นว่าใครจะมีเงินถุงเงินถังไปซื้อ ThinkPad X301 มาเล่น ช่องว่างนี้ทำให้ Hitachi-LG พัฒนา HyDrive เพื่อรวมเอา SSD และ DVD/DVD-Writer/Blu-ray เข้ามาเป็นชุดเดียวกัน ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการประกอบเครื่องลงไป
HyDrive รุ่นแรกที่ออกมาจะมาพร้อมกับ DVD-ROM และ SSD ขนาด 32GB หรือ 64GB เท่านั้น และยังมีความหนาถึง 12.5 มิลลิเมตรซึ่งทำให้มันใส่ลงไปในช่อง DVD ของเครื่องทั่วไปไม่ได้ แต่ผู้ผลิตสัญญาว่ารุ่นต่อๆ ไปจะบางลงเหลือ 9.5 มิลลิเมตรตามมาตรฐาน โดยในรุ่นแรกนี้จะมุ่งตลาดไปที่ HTPC ที่ต้องการขนาดเครื่อเล็กๆ เสียก่อน
ภาพยนตร์เรื่อง Avatar ทำลายสถิติยอดขาย Blu-ray ตามคาด นอกจากเป็นภาพยนตร์ Blu-ray ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว (ต้นข่าวไม่ได้ให้จำนวนยอดขายเอาไว้) ยังทำสถิติสัดส่วนยอดขาย Blu-ray ต่อดีวีดีสูงสุดด้วย โดย 49% ของแผ่นหนัง Avatar ที่ขายได้ เป็นแผ่นคู่ Blu-ray/DVD ส่วนที่เหลือเป็นแผ่นดีวีดี
แชมป์เก่าเฉพาะของ Blu-ray คือ The Dark Knight ซึ่งมียอดขายสัปดาห์แรกประมาณ 60% ของ Avatar ที่ขายได้ในสัปดาห์แรก
อย่างไรก็ตาม ถ้ารวมยอดขายแผ่นหนังทั้งหมด (ไม่สนใจว่าเป็น Blu-ray หรือดีวีดี) ในสัปดาห์แรกถือว่า Avatar อยู่อันดับ 7 แชมป์คือ Finding Nemo
ที่มา - Nielsen
แม้ว่าสงครามแผ่นดิสก์จะสิ้นสุดด้วยชัยชนะของ Blu-ray แต่ Blu-ray ก็ยังมีราคาแพง หายาก และยังไม่มีเครื่องมือเขียนแผ่น Blu-ray ในราคาถูกออกมาให้ใช้งาน ดังนั้นผู้ที่มี Blu-ray ไว้ในครอบครองก็จะลำบากหน่อยถ้าต้องการทำสำเนาเก็บไว้ (ยกเว้นจะแปลงเป็นไฟล์แทน)
โครงการ x264 ซึ่งทำเกี่ยวกับวิดีโอแบบโอเพนซอร์ส ได้แก้ปัญหานี้โดยการแปลงแผ่น Blu-ray ไปเป็นแผ่น DVD แทน ซึ่งสามารถนำไปใส่เครื่องเล่น Blu-ray และมองเห็นเป็นแผ่น Blu-ray เสียด้วย ใช้ได้กับทั้ง DVD-5 และ DVD-9 โดยแก้ปัญหาเรื่องความจุที่ต่างกันด้วยการแปลง codec ของ x264 เอง
มีผู้อ่านในเว็บไซต์ 9to5Mac ได้ส่งอีเมลไปถามคุณสตีฟ จ็อบส์ว่ามีแผนจะเพิ่มบลูเรย์ไดร์ฟลงเครื่องแมคหรือไม่ แต่ผู้ถามได้อีเมลตอบกลับสั้นๆ ว่า "ตอนนี้ยูทูปรองรับวีดีโอแบบ HD แล้ว" (YouTube now supports HD video)!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณสตีฟคอมเมนต์เกี่ยวกับการไม่มีบลูเรย์ไดร์ฟในแมค เมื่อสองปีก่อนเขากล่าวว่าบลูเรย์คือ "bag of hurt" โดยให้เหตุผลว่าไลเซนส์ของเทคโนโลยีบลูเรย์ค่อนข้างซับซ้อน และแอปเปิลกำลังรออยู่ว่าเมื่อไรมันจะนิ่งเสียทีและบลูเรย์จะได้รับความนิยมในท้องตลาด
ที่มา: Neowin.net
ทุกวันนี้เราคงจะรู้จักกับมาตรฐาน Blu-ray กันมากขึ้น ถึงแม้มันจะยังไม่มาแทน DVD เต็มตัว แต่ตอนนี้ Blu-ray นั้นก็ขยับมาตรฐานใหม่ให้จุได้มากกว่าเดิมแล้วครับ
ความจุ 25GB ต่อเลเยอร์ของแผ่น Blu-ray ดูเหมือนจะยังไม่พอสำหรับโซนี่และพานาโซนิก เมื่อทั้งคู่ได้ง่วนอยู่กับการค้นคว้าหาวิธีที่จะทำให้ความจุของหนึ่งเลเยอร์บนแผ่น Blu-ray นั้นมากขึ้นไปอีก โดยวิธีการที่เพิ่มความจุในครั้งนี้นั้นใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Maximum Likelihood Sequence Estimation evaluation index หรือชื่อย่อ i-MLSE (ใส่ "i" ไว้ให้เท่ห์ไม่แพ้ใคร) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการคาดเดาอัตราการผิดพลาดของการอ่านแผ่น On-the-fly
แม้ว่าจะชนะศึกฟอร์แมตแผ่นดิสก์ไปแล้ว และยอดขายเครื่องเล่น Blu-ray ก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในตลาดพีซี ไดร์ฟอ่าน Blu-ray ยังมีส่วนแบ่งแค่ 3.6% ในปีนี้
บริษัทวิจัย iSuppli คาดการณ์ว่าในปี 2013 ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นแค่ 16.3% เท่านั้น พีซีวางขายใหม่จะยังใช้ไดร์ฟดีวีดีเป็นหลักเช่นเดิม ในช่วง 5 ปีหน้า สาเหตุที่ Blu-ray ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่มีจุดขายที่ดึงดูดพอ เมื่อรวมกับต้นทุนการผลิตที่แพงและภาพยนตร์แบบ Blu-ray ที่ยังมีไม่เยอะนัก ยิ่งทำให้คนไม่มีเหตุผลที่จะต้องซื้อไดร์ฟ Blu-ray เข้าไปอีก
ที่มา - Computer World
มีข่าวลือว่าแอปเปิลนั้นเตรียมที่จะเปิดตัวโปรแกรม iTunes 9 ที่สนับสนุนการเขียนแผ่น Blu-ray ครับ
โดยต้นตอนั้นมาจากเว็บ Boy Genius Report ที่ได้ข่าวมาจากแหล่งขาวที่น่าเชื่อถือได้ว่าโปรแกรม iTunes รุ่นต่อไปนั้นจะสนับสนุนการเขียนแผ่นแบบ Blu-ray ซึ่งคาดว่าน่าจะออกพร้อมกับ iMac ตัวใหม่ที่มีไดรว์เขียน Blu-ray ด้วย นอกจากนี้ iTunes 9 นี้จะยังสามารถทำการจัดเรียงหน้าจอหลักของโปรแกรมบน iPhone ได้ และสนับสนุน twitter, facebook และ Last.fm อีกด้วย (แหล่งข่าวไม่ได้บอกว่าสนับสนุนอย่างไร)
แม้ว่าสงครามฟอร์แมตจะจบลงด้วยชัยชนะของ Blu-ray แต่ทว่าการกำเนิดของ CBHD ซึ่งเป็นแผ่นดิสก์ความจุสูงสายพันธ์จีนก็ทำหน้าที่เป็นคู่แข่งรายใหม่ที่ไม่เลวโดยล่าสุดนั้น มีส่วนแบ่งตลาดที่จีนเหนือกว่า Blu-ray ไปแล้ว
แม้ว่า CBHD จะเพิ่งวางขายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2009 แต่กลับมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Blu-ray ที่วางขายตั้งแต่กลางปีที่แล้วอยู่ถึงร้อยละ 3
น่าจับตามองจริง ๆ สำหรับฟอร์แมตนี้ อยากทราบจริง ๆ ว่าตอนนี้มีผู้นำเข้ามาขายในไทยบ้างรึยัง ?
ใครยังจำได้บ้างเมื่อสองปีที่แล้วเมื่อสงครามฟอร์แมตแผ่นหนังระหว่าง Blu-ray และ HD DVD โดย Blu-ray นั้นถูกพัฒนาและผลักดัน (อย่างแรง) โดยโซนี่ส่วน HD DVD โดยโตชิบา หลังจากที่แพ้สงครามมากว่าหนึ่งปีห้าเดือน ล่าสุดโตชิบาเลิกปล่อยเกียร์ว่างและจะเริ่มทำการผลิตเครื่องเล่น Blu-ray ในปีนี้แล้ว
แม้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ก็ตาม แต่สำหรับหลาย ๆ คนแล้วอาจจะเป็นเรื่องน่าขำเหมือนกันที่สุดท้ายผู้แพ้อย่างโตชิบาต้องทนกลืนน้ำลายตัวเองแล้วหันมาผลิต Blu-ray แทน
แต่หลัก ๆ แล้วธุรกิจก็คือธุรกิจ แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะ Blu-ray ได้ แต่หากความต้องการของตลาดมันมีอยู่ วิธีเดียวที่อาจจะกลับเข้าสู่ตลาดได้ก็หนีไม่พ้นการเข้ามาผลิตเครื่องเล่น Blu-ray นั่นเอง
ถือว่าเป็นข่าวดี สำหรับผู้ที่จดๆ จ้องๆ เจ้าเครื่องเล่น Blu-ray อยู่ เพราะราคาเครื่องเล่นได้ตกลงมากว่าครึ่ง และมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับเศรษฐกิจโลกในตอนนี้เลยทีเดียว
โดยมียอดขายเครื่องเล่น Blu-ray เพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และขายได้เป็นจำนวนกว่า 400,000 เครื่อง (ไม่รวม Playstation 3) ซึ่งเพิ่มจากเมื่อต้นปี 2008 ที่ขายได้ประมาณ 200,000 เครื่อง และมียอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยกลับตกลงอย่างมาก โดยราคาลดลงมาจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีราคาประมาณ $400 (ประมาณ 14,000 บาท) เหลือเพียง $261 (ประมาณ 9,000 บาท) ในช่วงต้นปี และคาดว่าจะลดลงไปถึง $214 (ประมาณ 7,500 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่มีการประเมิณว่าเหมาะสม ในเร็วๆนี้
ยอดขายแผ่นบลู-เรย์ (Blu-ray Disc หรือ BD) และเครื่องเล่นแผ่นบลู-เรย์ (Blu-ray Disc player หรือ BD player)ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคหลังเอาชนะในเรื่องฟอร์แมต กับ เอชดี ดีวีดี (HD DVD)สวนพิษเศรษฐกิจที่ทำเอาหลายวงการปั่นป่วน
ในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ CES 2009 ที่ลาสเวกัส ปรากฏว่าเทคโนโลยีเครื่องเล่นแผ่นบลู-เรย์ได้แพร่หลายเข้าไปในบรรดาเครื่องรับโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องเล่น ดีวีดี รุ่นใหม่ๆ เป็นจำนวนมาก หลังจากต้องต่อสู้ห้ำหั่นกับเทคโนโลยี เอชดี ดีวีดี และเอาชนะมาได้ประมาณปีกว่าแล้ว
มีรายงานข่าวว่า ยอดขายแผ่นบลู-เรย์ภาพยนตร์ ในสหรัฐเมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว หรือเกือบ 29 ล้านแผ่นในไตรมาสสุดท้ายของปี
บริษัท Pony Canyon ของญี่ปุ่นได้ประกาศข่าวว่าจะขายภาพยนตร์ซีรียส์เรื่องแรกที่ใช้แผ่นดิสก์ลูกผสม DVD/Blu-ray ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
ซีรียส์เรื่องนี้คือ Code Blue ซึ่งจะขายเป็น box set ในราคาทั้งชุด 36,540 เยน หรือประมาณ 14,000 บาท (แบบดีวีดีปกติขาย 23,940 เยน) ถึงจะค่อนข้างแพงเพราะว่าเป็นของใหม่ แต่ทความพิเศษของแผ่นชุดนี้ก็คือใช้ได้กับทั้งเครื่องเล่นดีวีดีทั่วไปและ Blu-ray
จากสถานการณ์เก่าๆ ของ Psystar บริษัทที่ออกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ Mac OSX ได้ ซึ่งเคยเป็นคดีความ และกำลังทำข้อตกลงกับแอปเปิลอยู่นั้น ตอนนี้ Psystar ได้เตรียมออกมาขายรุ่นใหม่แล้วครับ
เครื่องรุ่นที่ว่าจะมาพร้อมกับ Blu-ray และ nVidia 9800GT โดย Ruby Pedraza ผู้บริหารของ Psystar ให้เหตุผลว่า Blu-ray นั้นชนะสงครามฟอร์แมตอย่างเป็นทางการแล้ว และเป็นสื่อที่มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับปัจจุบันที่คอมพิวเตอร์ทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการไหนก็ตามควรจะมี
ถึงแม้จะฟาดฟันเอาชนะ HD DVD มาได้ แต่อนาคตของ Blu-ray กลับไม่สดใสนัก
ตัวเลขยอดขายภาพยนตร์จาก Nielsen VideoScan พบว่าในสัปดาห์เมื่อกลางเดือนกันยายน ส่วนแบ่งตลาดของ Blu-ray (เฉพาะของสัปดาห์นั้น) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 13.35% (ลงมาเหลือ 8% ของยอดขายรวม) และส่วนแบ่งตลาดของดีวีดีกลับเพิ่มขึ้น 0.15% แทน
ซีอีโอของ Netflix ธุรกิจให้เช่าแผ่นหนังรายใหญ่ของสหรัฐอธิบายว่า นอกจากปัจจัยเรื่องภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐแล้ว ปัจจัยเรื่องราคาของ Blu-ray (เครื่องเล่น+จอ+แผ่น) ก็ยังมีผลสูง เขาให้ข้อมูลว่าลูกค้าของ Netflix มีเพียงนิดเดียวเท่านั้นที่เช่า Blu-ray ส่วนกลุ่มลูกค้าที่มี HDTV อยู่แล้ว Blu-ray ก็เจอคู่แข่งคือการเช่าหรือขายหนังออนไลน์ ที่ถูกกว่าหรือบางครั้งฟรีเพราะมีโฆษณาสนับสนุน
ข่าวนี้สอดคล้องกับ นักวิเคราะห์คาด Blu-ray ยังไม่เกิดง่ายๆ เพียงแต่อันเก่าเป็นนักวิเคราะห์คาด อันนี้เป็นสำรวจความเห็นผู้บริโภค
บริษัทวิจัย ABI Research ได้สำรวจความเห็นผู้บริโภคจำนวน 1,000 ราย ซึ่งมากกว่าครึ่งระบุว่ายังไม่มีแผนจะซื้อเครื่องเล่น Blu-ray ในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วน 23% บอกว่าอาจจะซื้อ แต่ต้องรอถึงปี 2009
เหตุผลสำคัญมี 2 ข้อ คือ ข้อดีของ Blu-ray เหนือ DVD นั้นน้อยกว่า DVD เหนือ VHS มาก ส่วนอีกข้อคือราคา เพราะต้องซื้อยกเซ็ตทั้งเครื่องเล่น Blu-ray กับทีวีเครื่องใหม่
อย่างไรก็ตามการที่มี PS3 มาช่วย ก็ทำให้ตลาด Blu-ray นั้นขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ถึงแม้สงครามฟอร์แมตแผ่นดิสก์จะจบลงไปแล้วเมื่อต้นปี แต่เส้นทางของ Blu-ray ก็ยังไม่สดใสอย่างที่อยากเป็น เนื่องจากต้องเจอกับคู่แข่งอย่างดีวีดี และการดาวน์โหลดภาพยนตร์ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรง
รายงานของบริษัทวิเคราะห์ Bernstein & Co. ให้ข้อมูลว่ายอดขายของ Blu-ray นั้นช่วยให้ตลาดดีวีดีโตเพิ่มขึ้นเพียง 1% เท่านั้น ปัญหาสำคัญคือราคา ซึ่ง Blu-ray มีราคาเฉลี่ยต่อแผ่นสูงกว่าดีวีดี 11 ดอลลาร์ และราคาเครื่องที่หลัก 400 ดอลลาร์เทียบกับเครื่องเล่นดีวีดี 60 ดอลลาร์ แถมเมื่อเทียบความแตกต่างกับดีวีดีแล้ว Blu-ray ให้ประโยชน์เพิ่มมาไม่เยอะนัก เมื่อเทียบการเปลี่ยนแปลงจากวิดีโอเทปมาเป็นดีวีดี ความละเอียดที่เพิ่มสูงขึ้นจะเห็นผลชัดเจนเฉพาะกับหนังแอคชันเท่านั้น
มีข่าวจากหนังสือพิมพ์ภาษาจีนชื่อ Economic Daily News ว่าบริษัท Pegatron Technology ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ASUS ได้ชนะประมูลออเดอร์จากไมโครซอฟท์ให้ผลิต Xbox 360 รุ่นมีไดรฟ์ Blu-ray แล้ว และตัวเครื่องมีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสที่สามของปีนี้
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เคยออกไดรฟ์ HD DVD สำหรับ Xbox 360 แบบต่อภายนอก ส่วนไดรฟ์ภายในปัจจุบันเป็น DVD ธรรมดา
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อปีก่อนมีข่าวเรื่อง AACS (ระบบป้องกันการก็อปปี้ใน HD DVD และ Blu-ray) โดนแคร็กไปหลายรอบ ข่าวเก่า (รวมถึงการที่มีคนเอาคีย์ไปโพสต์ใน Digg และเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต) อย่างไรก็ตาม ฝั่ง Blu-ray นั้นยังมีระบบป้องกันการก็อปปี้อีกชั้น ซึ่งแผ่นดิสก์ที่มีระบบ BD+ เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายในช่วงไม่นานมานี้