YouTube ประกาศความร่วมมือกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ถ่ายทอดสดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่ลอนดอนผ่านอินเทอร์เน็ต
การถ่ายทอดครั้งนี้จะอยู่ที่ช่องของ IOC บน YouTube (http://youtube.com/olympic) มีสตรีมสดคุณภาพระดับ HD จำนวน 10 ช่องสัญญาณ สลับกันถ่ายกีฬาชนิดต่างๆ พร้อมกับเสียงบรรยายภาษาอังกฤษ และมีช่องสรุปข่าว Olympic News Channel ตลอด 24 ชั่วโมงอีก 1 ช่อง (รวม 11 ช่อง)
ประเทศที่รับชมได้คือประเทศที่ไม่มีคู่สัญญาถ่ายทอดโอลิมปิกแบบดิจิทัลกับ IOC (ดังนั้น IOC จะถ่ายทอดเองผ่านเน็ต) จำนวน 64 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วยนะครับ
โอลิมปิก 2012 จะเริ่มเปิดการแข่งขันวันที่ 27 กรกฎาคมนี้
ข่าวน่าสนใจของวงการทีวีบนอินเทอร์เน็ตครับ เพราะบริษัท Revision3 ที่ทำธุรกิจทีวีออนไลน์อย่างจริงจัง (ก่อตั้งโดยทีมของ Kevin Rose ผู้ก่อตั้ง Digg) ประกาศขายกิจการให้กับช่องสารคดี Discovery Channel แล้ว
Discovery Communications เป็นบริษัทแม่ของ Discovery Channel ซื้อกิจการ Revision3 โดยไม่เปิดเผยมูลค่า (คาดว่าอยู่ราว 30-40 ล้านดอลลาร์) ทีมบริหารเดิมของ Revision3 จะยังทำงานต่อไปโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ที่งานสัมมนาของผู้ผลิตรายการทีวี National Association of Broadcasters (NAB) 2012 ไมโครซอฟท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Windows Azure นั่นคือ Windows Azure Media Services หรือ "กลุ่มเมฆ" สำหรับงานด้านวิดีโอออนไลน์
Windows Azure Media Services คือการนำแพลตฟอร์มด้านวิดีโอของไมโครซอฟท์ เช่น การเข้ารหัสไฟล์, แปลงไฟล์, DRM, การถ่ายทอดสดวิดีโออย่าง HTTP Live Streaming และ Smooth Streaming ฯลฯ ที่เดิมทีผู้ให้บริการวิดีโอต้องทำเองทั้งหมด (ผ่านเครื่องมือของไมโครซอฟท์อย่าง Expression Encoder หรือ IIS Media Services) ขึ้นไปไว้บนกลุ่มเมฆ Azure ของไมโครซอฟท์
จุดสิ้นสุดของยุคซีดีรอมอาจใกล้เข้ามาเต็มที ล่าสุดยักษ์ค้าปลีกออนไลน์อย่าง Amazon เริ่มโครงการ Music Trade-In โดยลูกค้าสามารถนำซีดีเพลงเก่าๆ ส่งไปรษณีย์ไปยัง Amazon แล้วจะได้บัตรของขวัญของ Amazon กลับมาใช้งาน
บัตรของขวัญของ Amazon สามารถนำไปซื้อสินค้าต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ตามสะดวก ซึ่งกรณีรวมถึงการซื้อซีดีเพลงแผ่นอื่น หรือจะซื้อเพลงแบบ MP3 ในระบบของ Amazon ก็ได้เช่นกัน
ซีดีเพลงที่สามารถนำไปแลกได้ ต้องเป็นซีดีตามรายชื่อที่ Amazon กำหนดเท่านั้น การตีมูลค่าว่าจะแลกได้เท่าไรเป็นสิทธิของ Amazon และค่าส่งไปรษณีย์ทางบริษัทจะออกให้ครับ
ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งนี้ นอกจากจะมีการขายหนังสือของค่ายต่างๆ ตามพิธีแล้ว ยังมีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม e-book ออนไลน์อีกหนึ่งแห่งด้วยในชื่อ bookmoby (เข้าใจว่าก่อนหน้านี้มี ookbee เจ้าเดียว)
มารู้จักกับ bookmoby กันก่อน... bookmoby นั้นคือร้านขายหนังสือออนไลน์ที่ค่ายหนังสือ นักเขียน และผู้อ่านสามารถพูดคุยกันภายในสังคมนี้ได้ โดยคำว่า moby ในชื่อนั้นมาจากคำว่า My Own Book Yard หมายถึงพื้นที่หนังสือของคุณเอง
หลังจากปล่อยให้แอปเปิลรุกตลาดหนังสือเรียน เปิดตัว iBooks 2 ที่เน้นสื่อการเรียนการสอนแบบอิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่เต็มรูปแบบ มาวันนี้อเมซอนเริ่มไล่ตามในตลาดหนังสือเรียนบ้าง
โซนีเพิ่งเปลี่ยนตัวซีอีโอเป็น Kaz Hirai ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้น
งาน SXSW (South by Southwest) ของสหรัฐอเมริกาที่จัดขึ้นในช่วงนี้ ไม่ได้มีแต่เรื่องไอทีอย่างที่เป็นข่าวบ่อยๆ แถวนี้ แต่ประกอบด้วยงานย่อยๆ ของหลายวงการ ทั้งดนตรี ภาพยนตร์ และสื่ออินเตอร์แอคทีฟ (ซึ่งข่าวไอทีจะอยู่ในหมวดนี้)
งานฝั่งดนตรี SXSW Music ถือเป็นงานดนตรีที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของสหรัฐอเมริกา และมีศิลปินเข้าร่วมมากมายทั้งที่ดังและไม่ดัง ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 2005 คือผู้จัดงาน SXSW ก็แจกเพลงของศิลปินที่มาร่วมงานให้ฟรีๆ ต่อสาธารณะด้วย
ความนิยมในอีบุ๊กดูจะเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับสำนักพิมพ์ต่างๆ อย่างมาก นอกจากความนิยมในฝั่งผู้อ่านทั่วไปแล้ว ห้องสมุดใหม่ๆ ก็เริ่มสั่งหนังสือเป็นอีบุ๊กแทนด้วย โดยจะซื้อหนังสือในราคาที่แพงกว่าปรกติเพื่อให้สมาชิกห้องสมุดสามารถยืมออกไปได้ แต่สำนักพิมพ์ขนาดใหญ่อย่าง Random House ก็ตัดสินใจขึ้นลิขสิทธิ์ในหนังสือเหล่านี้เกือบเท่าตัว
ราคาหนังสือที่ห้องสมุดต้องจ่ายให้กับ Random House นั้นจะแบ่งเป็นหนังสือใหม่ อยู่ในช่วง 65-85 ดอลลาร์ หนังสือเก่าที่ออกฉบับปกอ่อนแล้วจะเหลือ 25-50 ดอลลาร์ ส่วนหนังสือเด็กนั้นจะอยู่ในช่วง 35-85 ดอลลาร์สำหรับหนังสือใหม่ และ 25-45 ดอลลาร์สำหรับหนังสือเก่า
นอกจาก Adobe จะเปิดตัว Digital Publishing Suite และ Digital Marketing Suite แล้ว ยังมีโครงการใหญ่งานใหม่อีก 1 อย่างคือ Project Primetime ซึ่งเป็นโซลูชันวิดีโอครบวงจรสำหรับผู้ผลิตเนื้อหาวิดีโอที่ต้องการบุกโลกดิจิทัล
หลังจากพ่ายแพ้ในตลาด Flash ตอนนี้ Adobe ก็หันไปหาตลาดใหม่นั่นคือตลาดเนื้อหาดิจิตอลที่น่าจะมากินตลาดสิ่งพิมพ์ที่ทำรายได้ให้ Adobe อยู่เป็นกอบเป็นกำในทุกวันนี้ โดยบุกทั้งตลาด eBook และตลาดโฆษณาไปพร้อมๆ กัน
ตลาด eBook นั้นสินค้าใหม่คือ Digital Publishing Suite มันคือการจัดจุด Adobe InDesign รวมมากับชุดเครื่องมือ Folio Producer ที่ช่วยสร้างหนังสือแบบไฟล์ .folio
สำหรับใช้ขายหนังสือผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง iPad, Android, และ Kindle Fire รวมถึงการกระจายสื่อภายในองค์กรเองด้วย โดยผ่านทาง Adobe Content Viewer ที่สามารถสร้างแอพพลิเคชั่นอ่านหนังสือในแบรนด์ของเจ้าของหนังสือเองได้
เว็บไซต์ CNET รายงานข่าววงในว่าผู้บริหารของกูเกิลไม่พอใจกับบริการ Google Music ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลว่ายอดขายเพลงและยอดผู้ใช้น้อยกว่าที่คาด
ปัญหาของ Google Music คงเกิดเพราะเปิดตัวเสร็จแล้วก็เงียบๆ ไป ไม่ทำกิจกรรมการตลาด-ประชาสัมพันธ์เท่าใดนัก ซึ่งผู้บริหารของกูเกิลก็บอกกับค่ายเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์ว่ากูเกิลจะรีบแก้ปัญหานี้ ก่อนที่ค่ายเพลงบางค่ายอาจจะเห็นว่ารายได้น้อยจนไม่ต่อสัญญา
ข้อมูลจากผู้บริหารกูเกิลบอกว่า Google Music จะถูกนำมาเน้นอีกครั้ง หลังกูเกิลปรับยุทธศาสตร์ฮาร์ดแวร์ของตัวเอง (หลังจากซื้อ Motorola) เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะกูเกิลตั้งใจจะต่อสู้กับแอปเปิลด้วยผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์หลากหลายประเภท
โครงการที่กูเกิลทำทิ้งไว้ 2 อย่างที่ดูไม่เกี่ยวข้องกัน เริ่มต่อจิ๊กซอออกมาให้เห็นแผนการที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พานาโซนิคได้ประกาศยุติการผลิตเครื่องบันทึกและเล่นเทป VHS ซึ่งขายต่อเนื่องมาประมาณ 35 ปีแล้ว อันเนื่องมาจากปัจจุบันการถ่ายทอดออกอากาศก็เป็นดิจิตอลทั้งหมด รวมทั้งสื่ออื่นๆ เช่นดีวีดีหรือบลูเรย์ ได้รับความนิยมจนเป็นมาตรฐานไปแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เทป VHS ที่มีความละเอียดต่ำในการบันทึกภาพอีกต่อไป โดยหลังจากนี้จะไปเน้นในผลิตภัณฑ์ตัวอื่นอย่างเครื่องบันทึกดีวีดีและฮาร์ดดิสก์ และเครื่องเล่นบลูเรย์แทน
ใครที่ยังเก็บอะไรเป็นเทปอยู่ อาจจะถึงเวลาต้องรีบเปลี่ยนให้ไปอยู่ในรูปแบบดิจิตอลให้หมดแล้วล่ะ
ที่มา: MSN Sankei News
ค่ายหนัง Warner Bros. จะเปลี่ยนเงื่อนไขของภาพยนตร์ที่ฉายทางโรง จะถูกส่งมายังร้านเช่าหนังอย่าง Blockbuster, Redbox และ Netflix ช้ากว่าที่เคย จากเดิมที่ต้องรอให้แผ่นวางขายไปแล้ว 28 วัน จึงจะเปิดให้เช่าได้ ตอนนี้ตัวเลขเปลี่ยนมาเป็น 56 วัน
เหตุผลก็ตรงไปตรงมาครับ Warner Bros. ต้องการเพิ่มยอดขายแผ่นดีวีดีนั่นเอง
เงื่อนไขใหม่นี้ทำให้บริษัทเช่าหนังไม่พอใจ และมีข่าวว่า Coinstar ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ Redbox กำลังเจรจากับ Warner Bros. ใหม่
ที่มา - AllThingsD
หลังจากปล่อยให้แพลตฟอร์มเกมคู่แข่งอื่นๆ ทำเกมแบบ DLC (หรือ downloadable content เกมที่ซื้อฉากหรือตัวละครเพิ่มจากเวอร์ชันปกติได้) กันมานาน พี่ใหญ่อย่างนินเทนโดก็ขยับมาลุยตลาดนี้บ้างแล้ว
เกมแรกที่จะมีระบบเนื้อหาแบบ DLC คือเกม Fire Emblem บนเครื่อง Nintendo 3DS โดยจะเริ่มเดือนมีนาคมปีหน้า และราคาของ DLC จะอยู่ในหลัก "ร้อยเยน"
นินเทนโดยังให้ข้อมูลด้วยว่าเครื่อง Wii U จะรองรับเกมที่มี DLC ด้วยเช่นกันครับ รายละเอียดคงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา - Joystiq
เทรลเลอร์ตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight Rises ภาคสุดท้ายของแบตแมนยุคใหม่ สร้างสถิติเป็นเทรลเลอร์ที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดบนเว็บไซต์เทรลเลอร์หนัง iTunes ของแอปเปิล ด้วยยอดดาวน์โหลด 12.5 ล้านครั้งใน 24 ชั่วโมงแรกที่ปล่อยออกมา
สถิติ 12.5 ล้านครั้งนี้ชนะสถิติเดิมของภาพยนตร์ The Avenger ที่ทำได้ 10 ล้านครั้งใน 24 ชั่วโมง หนังจะฉายวันที่ 20 กรกฎาคม 2012
ที่ต้องย้ำอีกนิดคือตัวเลขนี้ยังไม่รวมการดูบนเว็บไซต์อื่นๆ โดยเฉพาะ YouTube ที่ไม่มีคลิปอย่างเป็นทางการของผู้สร้าง (เพราะมีสัญญากับ iTunes) แต่มีคลิปที่คนอื่นดาวน์โหลดจาก iTunes แล้วอัพขึ้น YouTube อีกจำนวนมาก
การแข่งขันกีฬานัดสำคัญๆ มักเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้ชมทางโทรทัศน์เยอะเป็นอันดับต้นๆ และเป็นทรัพย์สินอันมีค่าที่สถานีโทรทัศน์ต้องรักษาเอาไว้ยิ่งชีพ เพื่อสร้างรายได้จากค่าโฆษณาสูงลิ่วของตัวเอง
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมเราจึงไม่สามารถดูถ่ายทอดสดกีฬาเหล่านี้ได้บนอินเทอร์เน็ต (ไม่นับดูแบบละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ) แต่ล่าสุดเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลง เจ้าของลิขสิทธิ์กีฬาเองก็ต้องเริ่มปรับตัวเช่นกัน
ผู้อ่าน Blognone คงติดตามข่าวเกี่ยวกับยอดขายอันร้อนแรงของ Call of Duty: Modern Warfare 3 กันมาโดยตลอด (ดูข่าวเก่าหมวด Call of Duty ประกอบ)
สถิติอย่างเป็นทางการของเกมดังเกมนี้คือ สามารถสร้างรายได้แตะ 1 พันล้านดอลลาร์ได้ในเวลาเพียง 16 วัน ถ้ามองว่ามันเป็น "สื่อบันเทิง" เช่นเดียวกับภาพยนตร์และเพลง ก็แปลว่ามันสามารถโค่นแชมป์เก่าคือภาพยนตร์เรื่อง Avatar ซึ่งครองสถิติ 1 พันล้านใน 17 วันได้สำเร็จ (ส่วนสถิติของภาค Black Ops ใช้เวลา 2 เดือนทำเงิน 1 พันล้านดอลลาร์)
ยอดผู้เล่นเกม Modern Warfare 3 ตอนนี้รวมๆ กันประมาณ 30 ล้านคน ส่วนสมาชิกบริการออนไลน์ Call of Duty Elite แตะหลัก 6 ล้านคนแล้ว
Amazon ประกาศอันดับหนังสือขายดี (นับทั้งฉบับกระดาษและอีบุ๊กรวมกัน) ประจำปี 2011 แชมป์เดาไม่ยาก เป็นของ Steve Jobs โดย Walter Isaacson ตามความคาดหมาย
อันดับสองเป็นของหนังสือ Bossypants โดย Tina Fey พิธีกรรายการทีวีชื่อดัง และอันดับสามเป็นชีวประวัติเช่นกันคือ A Stolen Life โดย Jaycee Dugard
ที่น่าสนใจที่สุดคืออันดับสี่เป็นหนังสือที่ขายแบบอีบุ๊กบนแพลตฟอร์ม Kindle เท่านั้น เป็นนิยายชื่อ Mill River Recluse โดย Darcie Chan
อันดับที่เหลือดูได้จาก Amazon: The Best-Selling Books of 2011
Vivid Entertainment บริษัทผู้ผลิต 'หนังสำหรับผู้ใหญ่' รายใหญ่ ประกาศทำแอพลง Google TV แล้ว โดยถือเป็นแอพ 'สำหรับผู้ใหญ่' ตัวแรกที่ออกแบบมาสำหรับทีวียุคใหม่
แอพ Vivid เขียนด้วย HTML5 และสามารถเข้าถึงได้จากเบราว์เซอร์ของ Google TV โดยตรง (ไม่มีให้ดาวน์โหลดใน Android Market) ความสามารถของแอพก็ตรงไปตรงมาครับ เอาไว้ดู 'หนังสำหรับผู้ใหญ่' แต่ก็จำกัดเฉพาะสมาชิกแบบเสียเงินของ Vivid เท่านั้น
Steven Hirsch ผู้ร่วมก่อตั้ง Vivid ให้สัมภาษณ์ว่า แอพตัวนี้เป็นจิ๊กซอหนึ่งในยุทธศาสตร์ 'available everywhere' หรือการขยายเนื้อหาของบริษัทให้ดูได้บนอุปกรณ์ทุกชนิด
วิดีโอสาธิตการทำงานของแอพตัวนี้ ดูได้จากเว็บของ Vivid ตามลิงก์
ข่าวนี้ต้องย้อนกลับไปอ่านข่าวเก่า ค่ายหนัง-ไอทีเปิดตัว "ระบบจัดการสิทธิ์" หนังและเพลง UltraViolet ก่อนนะครับ
ตอนนี้คงชัดเจนแล้วว่าตลาดทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีอนาคตที่สดใส และมีผู้เล่นหลายรายพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตทีวีเอง (อย่าง Samsung/Sony/LG) หรือฝั่งไอทีคือ Apple TV/Google TV แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีใครประสบความสำเร็จอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมากนัก
ความขัดแย้งเรื่อง Flash ระหว่างแอปเปิลกับ Adobe คงจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายหลัง เนื่องจาก iOS มีฐานผู้ใช้มากจน Adobe ต้องยอมง้อ และถึงแม้ว่า iOS จะยังไม่ยอมรับ Flash แต่นั่นอาจไม่ใช่ปัญหาแล้ว
Adobe ออก Flash Media Server (ซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมวิดีโอไปยัง Flash) รุ่นใหม่ล่าสุด 4.5 ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือมันสามารถสตรีมวิดีโอไปยัง iPad/iPhone ได้โดยไม่ต้องมี Flash ติดตั้งเอาไว้ (เข้าใจว่าสตรีมผ่าน HTML5 แทน)
ที่งาน IFA บริษัท BitTorrent จับมือ Vestel ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติตุรกี ออกทีวีเครื่องแรกของโลกที่โหลดบิตได้ และแปะตรา BitTorrent Certified
ทีวีรุ่นนี้ของ Vestel จะรองรับการแชร์ไฟล์มัลติมีเดียจากอุปกรณ์อื่นๆ มาฉายขึ้นจอทีวี รวมถึงการดาวน์โหลดเนื้อหาผ่าน BitTorrent อย่างถูกกฎหมาย (บริษัท BitTorrent เริ่มเซ็นสัญญากับเจ้าของเนื้อหาจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ยังเป็นรายเล็กๆ)