หลายๆ คนคงคุ้นกับ notification ของ Facebook อยู่แล้ว กับตัวเลขแดงๆ ที่โผล่ขึ้นมาบนลูกโลกเวลามีใครมาโพสต์, มาคอมเมนต์, มาไลค์ หรือมามีปฏิสัมพันธ์อะไรกับเรา แต่แค่แจ้งเตือนด้วยตัวเลขอาจจะไม่พอ เพราะ Facebook เริ่มทดสอบแจ้งเตือนด้วยเสียงแล้ว (ดูคลิปประกอบได้ท้ายข่าว)
ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้งานโดยถ้วนทั่ว แต่ถ้าใครไม่ต้องการให้มีการแจ้งเตือนด้วยเสียงใดๆ ก็สามารถไปตั้งค่าปิดเสียงกันไว้ก่อนได้ที่ Notification Settings
ที่มา - VentureBeat
Facebook ทดสอบฟีเจอร์ที่เป็นลักษณะ threaded comments (ก็คือตอบคอมเมนต์แทนที่จะตอบโพสต์ตามปกตินั่นเอง ใครงงให้ลองดูคอมเมนต์ของ Blognone ได้) โดย Facebook ออกมายืนยันแล้วว่ากำลังทดสอบระบบคอมเมนต์ในลักษณะนี้จริงๆ แต่ทดสอบในเพจจำนวนจำกัดเท่านั้น
เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะมีหลายๆ ครั้งที่ประเด็นต่างๆ ในคอมเมนต์เป็นประเด็นที่น่าสนใจ แต่การจะนำคอมเมนต์แต่ละอันมารวมเป็นประเด็นนั้นเป็นเรื่องยากเพราะระบบของ Facebook ไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ การมี threaded comments จะช่วยทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามประเด็นต่างๆ ในคอมเมนต์ได้ง่ายขึ้น
หน้า Friendship เป็นฟีเจอร์ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ เพื่อให้เราดูความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเพื่อน หรือระหว่างเพื่อนกับเพื่อนได้ ซึ่งล่าสุดเฟซบุ๊กได้ปรับหน้า Friendship นี้ให้เป็นรูปไทม์ไลน์แล้ว
Facebook บน iOS ออกอัพเดตเวอร์ชัน 5.1 วันนี้ โดยมีคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มเข้ามาดังนี้ครับ
ที่มา: The Next Web
หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานไปก่อนหน้านี้ว่ามือถือเฟซบุ๊กโดยเอชทีซีถูกเลื่อนกำหนดเปิดตัวจากปลายปี 2012 เป็นกลางปี 2013 ล่าสุดเว็บไซต์ Pocket-lint เปิดเผยว่ามือถือเฟซบุ๊กกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยข้อมูลจากแหล่งข่าวของ Pocket-lint และข้อมูล benchmark ที่หลุดออกมาแสดงให้เห็นว่าเอชทีซีจะเป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ให้ มีชื่อ Opera UL และมีสเปคดังนี้
มีกลุ่มแฮกเกอร์ค้นพบว่าหากค้นหาด้วยคำว่า "inurl:bcode=[*]+n_m=[*] site:facebook.com." ในกูเกิล จะเกิดผลการค้นหาเป็นลิงก์ที่เชื่อมไปยังบัญชีของเฟซบุ๊กรายบุคคล และบางลิงก์เป็นลิงก์ชั่วคราวที่สามารถเข้าบัญชีเฟซบุ๊กของผู้นั้นได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่านแต่อย่างใด
Facebook เริ่มแสดงพลังของความเป็น search engine มากขึ้น ล่าสุดประกาศว่าหน้าศูนย์รวมแอพ App Center (ข่าวเก่าเรื่อง App Center) มีระบบค้นหาแอพแล้ว
ระบบค้นหาแอพช่วยให้ผู้ใช้เจอแอพที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และนักพัฒนาแอพย่อมได้ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นไปด้วย แต่ถ้ายังไม่พอใจ Facebook ยังมีระบบจ่ายเงินเพื่อซื้อผลการค้นหาในอันดับต้นๆ (sponsored results) ลักษณะเดียวกับ Google AdWords อีกด้วย
ถึงแม้ตอนนี้ระบบจ่ายเงินเพื่อโฆษณาในผลการค้นหาของ Facebook ยังจำกัดอยู่ในหน้า App Center แต่หลายคนน่าจะพอเดากันได้ว่า มันคงขยายตัวมาสู่ระบบค้นหาหลักของ Facebook ในไม่ช้า
หลังจากทวิตเตอร์ยืนยันว่าจะพัฒนาแอพบน Windows 8 ทางเว็บไซต์ VentureBeat ได้สอบถามเฟซบุ๊กถึงแอพอย่างเป็นทางการบน Windows 8 และได้รับคำตอบที่น่าประหลาดใจจากผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์การ Meredith Chin กลับมาว่า "บริษัทพัฒนาแอพบน iOS และ Android เท่านั้น ส่วนอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ Windows 8 นั้นให้ไปถามไมโครซอฟท์เอง" เมื่อ VentureBeat ขอคำยืนยันว่าเฟซบุ๊กไม่มีแผนจะทำแอพบน Windows 8 หรือไม่ ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
มีผู้ใช้บางคนพบว่า ในหน้าไทม์ไลน์จากเดิมที่มี 2 คอลัมน์ที่ใช้โชว์โพสต์ทั้งซ้ายและขวา ถูกลดให้เหลือคอลัมน์เดียวที่เอาไว้โชว์โพสต์ ส่วนคอลัมน์ขวาจะเป็นเรื่องอื่นๆ (โชว์จำนวนเพื่อน, สถานที่ที่เช็กอิน และแอพ Open Graph)
ในเบื้องต้น Facebook ยืนยันแล้วว่าได้มีการทำการทดสอบอยู่จริง และจะมีผู้ใช้เพียงบางส่วนที่ได้เห็นไทม์ไลน์ในลักษณะนี้
ที่มา - Inside Facebook
ไม่เพียงแต่กูเกิลที่ต้องเลื่อนงานแถลงข่าว Android เพราะเฮอริเคน Sandy ถล่มชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ แต่งานไอทีอื่นๆ ที่จัดแถวนิวยอร์กต่างก็ต้องเลื่อนกันถ้วนหน้า
งานใหญ่ที่ประกาศเลื่อนแล้วได้แก่ งานแถลงข่าวของ Facebook เกี่ยวกับระบบของขวัญ (ข่าวเก่า), D: Dive Into Mobile งานสัมมนาด้านอุปกรณ์มือถือของ AllThingsD นอกจากนี้ยังมีงานเล็กๆ อีกหลายงานที่ประกาศเลื่อนด้วยเช่นกัน
คนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะไม่มีคนแย่งแถลงข่าวแข่ง คือไมโครซอฟท์ที่จะจัดงานเปิดตัว Windows Phone 8 คืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งไม่กระทบเลยเพราะจัดงานที่ซานฟรานซิสโกนั่นเอง
ข่าวนี้สำหรับผู้พัฒนาแอพบน Facebook เป็นหลักนะครับ ก่อนหน้านี้ไม่นาน Facebook เพิ่งเปิด Notifications API ให้ "แอพ" สามารถสื่อสารไปยัง "ผู้ใช้" ของตัวเองได้ผ่านระบบแจ้งเตือนของ Facebook เอง
เวลาผ่านมาพอสมควร มีแอพใช้ API ตัวนี้กันไม่น้อย และ Facebook ก็รับทราบสถิติการใช้งานในหลายมิติ ล่าสุดบริษัทเลยออกมาประกาศเงื่อนไขเพิ่มเติมของ Notifications API ดังนี้
วันนี้เห็นอันดับของ facebook.com ใน alexa เป็นอันดับหนึ่ง รู้สึกแปลกใจว่า google เสียแชมป์แล้วเหรอนี่ เลยเข้าไปดูสถิติ Traffic Rank ของสองเวปนี้ใน alexa.com เปรียบเทียบกันดูพบว่า ย้อนหลังที่ผ่านมา 3 เดือน
สองเวปนี้สลับกันขึ้นลงอันดับหนึ่ง อันดับสองถี่เหมือนกัน แล้วพอมาดูที่ Pageviews %, Pageviews/User, Bounce %, Time on Site, Search % คะแนนของ facebook.com ก็ดูดีที่เดียว แต่ถ้าดูโดยรวม google เขายังมีโดเมนค้นหาย่อยอีกหลายโดเมน ถ้าเอามารวมๆกันก็น่าจะยังเป็นแชมป์อยู่แหละครับ
ที่มา - Alexa
Facebook ประกาศข่าวว่ากระบวนการซื้อกิจการ Instagram เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยมูลค่าของการซื้อกิจการประกอบด้วย
เมื่อตีหุ้นออกเป็นมูลค่าตามราคาตลาดจะอยู่ที่ 715 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าตัวเลขเดิมที่ประเมินค่าไว้ 1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากหุ้นของ Facebook มูลค่าลดลงมากในช่วงหลัง (แต่ก็มีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นในอนาคต และมูลค่ารวมอาจสูงขึ้นกว่านี้ได้)
ที่มา - The Next Web
หลังจากประกาศงบไตรมาสสาม ไปไม่นาน เมื่อเฟซบุ๊กได้แสดงให้เห็นว่ามีการทุ่มเทพัฒนาและสามารถสร้างรายได้จากมือถือได้จริงๆ ราคาหุ้นก็เริ่มสูงขึ้นมาทันที โดยหุ้นของเฟซบุ๊กในตอนนี้ราคาขึ้นมาจากเดิมราวๆ 22 เปอร์เซ็นต์
หลังเฟซบุ๊กเข้าสู่ตลาดหุ้นก็มีปัญหากับตลาดหุ้นมาโดยตลอด จากการถูกกล่าวหาว่าปิดบังความเสี่ยงต่อนักลงทุน ทำให้นักลงทุนไม่ได้รับข้อมูลครบถ้วน แต่รายงานไตรมาสที่สามก็แสดงให้เห็นว่าเฟซบุ๊กยังเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งอยู่
รายงานไตรมาสนี้ระบุว่ารายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,262 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 954 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว แต่ผลรวมกลับขาดทุน 59 ล้านดอลลาร์จากที่กำไร 414 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
กำไรขาดทุนยังไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับบริษัทที่เติบโตสูงๆ เช่นนี้ อัตราการเติบโตในส่วนของโฆษณานั้นดีมาก เพิ่มเป็น 1,090 ล้านดอลลาร์ หรือเติบโต 43% จากปีที่แล้ว ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจ่ายเงิน (ซึ่งมักใช้ซื้อของในเกม) ลดลง 9%
Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดระหว่างพูดที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดว่าถ้าหาก Facebook ไปไม่รอดขึ้นมา น่าจะได้เห็นเขาทำงานที่ Microsoft ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้น เพราะหลังจากใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการปลุกปั้น Facebook ให้มีผู้ใช้เกินล้านรายได้ ก็เป็นช่วงที่ Facebook อยู่ในขาขึ้นทันที แต่ถึงกระนั้น Zuckerberg ก็ยังบอกว่าเขายังคงนับถือ Microsoft อยู่เสมอ (และอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมสองบริษัทนี้ถึงมีอะไรร่วมกันบ่อยๆ)
Facebook ออก SDK สำหรับการพัฒนาแอพบน Android ให้ใช้ความสามารถต่างๆ ของ Facebook ได้ง่ายขึ้น โดยนับรุ่นเป็น 3.0 Beta
ของใหม่ที่สำคัญคือ native UI control หรือพูดเป็นภาษา Android ก็คือ fragments และ views แบบกึ่งสำเร็จรูปที่ Facebook เตรียมมาให้แอพเรียกใช้งานได้เลย ไม่ต้องเขียนเอง
ผู้ใช้ Facebook บางคนรายงานว่าพบแถบเปอร์เซ็นต์การเติมข้อมูลในหน้าประวัติส่วนตัวของตัวเอง และในช่องของที่อยู่ Facebook ก็ถามมาให้เลยว่า เราอาศัยอยู่ที่นี่ใช่หรือเปล่า (ลองดูภาพได้ในท้ายข่าว)
ทั้งนี้ LinkedIn และ Google+ ก็ใช้วิธีทำแถบเปอร์เซ็นต์มาบอกว่าเรากรอกข้อมูลส่วนตัวได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้วเช่นกัน แต่ในกรณีของ Facebook นั้น อาจจะมีเจตนาให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบ เพื่อนำข้อมูลเราไปจำแนกตามกลุ่มเป้าหมายเพื่อการโฆษณาก็เป็นได้
Facebook เวอร์ชันสำหรับอุปกรณ์พกพาปรับเปลี่ยนหน้าตาพื้นที่โฆษณาแอพพลิเคชันเสียใหม่ พร้อมทั้งเพิ่มข้อมูล rating จากผู้ใช้งานคนอื่น รวมถึงจำนวนเพื่อนที่ใช้แอพพลิเคชันนั้นๆ
จากเดิมพื้นที่สำหรับโฆษณาแอพพลิเคชันของ Facebook บนสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็น tile ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในหน้าแสดงข่าวของผู้ใช้งานพร้อมลิงก์ไปยังหน้าดาวน์โหลด จะแสดงภาพเฉพาะไอคอน และคำบรรยายเกี่ยวกับแอพพลิเคชันแบบสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบระบบดังกล่าวแล้ว Facebook พบว่าการโฆษณาแบบดังกล่าวยังไม่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจนัก เนื่องจากผู้ใช้หลายรายมักเกิดความลังเลในการเลือกดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน และผู้ใช้หลายคนอาจไม่ได้ให้ความสนใจในตัวโฆษณาเลยด้วยซ้ำ
ภายหลังจากที่ Facebook เผยว่ากำลังทดสอบปุ่ม 'Want' เพื่อติดให้กับรูปภาพสินค้าและบริการ ล่าสุด Facebook ก็โดนฟ้องร้องจากบริษัท CVG-SAB ผู้พัฒนาเว็บ wantbutton.com ทันที ฐานสร้างความสับสนให้แก่กลุ่มลูกค้าเดิมของตนเอง
ตามคำฟ้องของ CVG-SAB อ้างว่าปุ่ม 'Want' ของ Facebook ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและแชร์รายการสิ่งที่ต้องการ รวมทั้งการเข้าถึงเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้โดยตรงเมื่อกดปุ่มนี้ ก่อให้เกิดความสับสนแก่ผู้ใช้บริการ wantbutton.com ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปลายปี 2010 ซึ่งมีฟังก์ชันแบบเดียวกัน
หลังจากลือมานานว่า Facebook จะเพิ่มปุ่ม 'Want' ให้กับสินค้าและบริการ ล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วว่าจริง โดยพร้อมกันนี้ทาง Facebook ยังทดสอบปุ่ม 'Collect' และปุ่ม 'Like' (แบบใหม่) ซึ่งทั้งหมดนี้จะเห็นได้โดยผู้ใช้บางส่วนเท่านั้น
เป็นข่าวสั้นๆ ที่เจอมาด้วยตัวเองครับ
Facebook เริ่มเปลี่ยนอีโมติคอนในคอมเมนต์บนโพสต์เป็นรูปภาพเมื่อเราพิมพ์เป็นข้อความ (แบบเดียวกับเมื่อส่งข้อความใน Messages) โดยขณะนี้ยังมีผลเฉพาะส่วนที่เป็นคอมเมนต์ (ยังไม่มีผลในส่วนของ Status Update) และเปลี่ยนข้อความที่เป็นอีโมติคอนในโพสต์เก่าๆ ให้กลายเป็นรูปภาพอีกด้วย
เท่าที่ผมลองดูคิดว่าน่าจะมีผลกับผู้ใช้ทุกๆ คนแล้ว ถ้าใครได้แล้วก็รบกวนแจ้งด้วยนะครับ
ก่อนหน้านี้ Mark Zuckerberg ได้ออกมายอมรับว่าการทำแอพ Facebook บนมือถือเป็น HTML5 เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ โดยในวันนั้น Zuckerberg ก็ได้บอกให้ผู้ใช้ Android รอแอพ Facebook เวอร์ชัน native ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
วันนี้ Engadget รายงานว่าแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ Facebook เวอร์ชัน native สำหรับ Android อยู่ในช่วงการทดสอบขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และอีกไม่นานซอฟต์แวร์ดังกล่าวก็จะพร้อมให้คนทั่วไปดาวน์โหลดไปใช้ได้
ที่มา - Engadget
ต่อเนื่องจากข่าว [Facebook มีผู้ใช้ครบ 1,000 ล้านรายแล้ว](http://www.blognone.com/node/36768) Mark Zuckerberg ยังเผยโฆษณาตัวแรกของ Facebook ในชื่อ "The Things That Connect Us"
โฆษณาความยาว 90 วินาทีของ Facebook ตัวนี้เปรียบโซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่นี้เหมือนกับสิ่งที่เชื่อมโยงผู้คนต่างๆ เข้าหากัน ใช้สำหรับทำอะไรร่วมกันอย่างเก้าอี้ ออด เครื่องบิน สะพาน ฯลฯ
โฆษณาชุดนี้สร้างโดยบริษัทอเจนซี่โฆษณา Wieden & Kennedy ผู้อยู่เบื้องหลังโฆษณาของแบรนด์ใหญ่ๆ เสมอมา (เอาที่หลายคนรู้จักก็อย่าง Just Do It ของ Nike) โดยผู้กำกับชาวเม็กซิกัน Alejandro Gonzalez Inarritu
ดูโฆษณาได้ท้ายข่าวครับ
Mark Zuckerberg ประกาศความสำเร็จของ Facebook ที่มีผู้ใช้ต่อเดือน (active user) ครบ 1,000 ล้านรายไปเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
สถิติอื่นที่น่าสนใจมีดังนี้
จำนวนผู้ใช้ผ่านมือถือ 600 ล้านราย
เส้นทางเดินของ Facebook ในโอกาสต่างๆ
25 ล้านคน - มกราคม 2006