Facebook ประกาศเตรียมดำเนินการโยงสายเคเบิ้ลใต้ทะเลจากสิงคโปร์ ไปยังอินโดนีเซีย เกาะกวม และสหรัฐอเมริกา โดยเป็นการร่วมมือกับ Google และผู้ให้บริการโทรคมนาคมเจ้าอื่นในภูมิภาค เพื่อขยายความสามารถในการส่งข้อมูลระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับทวีปอเมริกาเหนือ เพิ่มจากเส้นทางเดิมในแถบฮ่องกงและญี่ปุ่น
Facebook ระบุว่าสายเคเบิ้ลสองเส้นชื่อ Bifrost กับ Echo จะเป็นสายเคเบิ้ลสองเส้นแรกที่ลากผ่านเส้นทางใหม่ในทะเลชวา และจะเพิ่มความจุในการส่งข้อมูลข้ามทะเลแปซิฟิก (trans-pacific) ได้ราว 70% ซึ่งบ้านเราก็น่าจะได้รับอานิสงค์จากการเชื่อมต่อนี้ด้วย เช่นแบนด์วิธอินเทอร์เน็ตที่ส่งข้อมูลข้ามทะเลได้มากขึ้น ดูสตรีมมิ่งจากฝั่งสหรัฐได้ไวขึ้น หรือเล่นเกมออนไลน์เซิฟเวอร์สหรัฐได้โดยมี Ping น้อยลง
GlobalData บริษัทวิเคราะห์ด้านการตลาด เผยตัวเลข Top 5 บริษัทที่เข้าซื้อหรือควบรวมบริษัท AI ในช่วงปี 2016-2020 ที่ผ่านมา พบว่า Apple เข้าซื้อบริษัท AI อื่นมากที่สุด 5 ปีติดต่อกัน ตามมาด้วย Accenture, Google, Microsoft และ Facebook
Facebook รายงานผลการค้นพบแฮกเกอร์ชาวจีนที่ใช้แพลตฟอร์มในการพยายามแฮกบัญชีและกระจายมัลแวร์ทางอินเทอร์เน็ต โดยกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มชาวอุยกูร์ในต่างแดน
กลุ่มแฮกเกอร์นี้ ในวงการความปลอดภัยจะรู้จักในชื่อว่า Earth Empusa, Evil Eye หรือ White PoisonCarp จะใช้แพลตฟอร์มของตัวเองกระจายมัลแวร์และแฮกบัญชีผู้ใช้บนอินเทอร์เน็ต กลุ่มเป้าหมายคือชาวอุยกูร์ในต่างประเทศที่เป็นนักกิจกรรม นักข่าว ทั้งในสหรัฐฯ, ตุรกี, ซีเรีย, ออสเตรเลีย และแคนาดา
Facebook ประกาศจัดงาน F8 งานสัมมนานักพัฒนาของบริษัทอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 2 มิถุนายน โดยจัดในชื่อว่า F8 Refresh เป็นรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19
จากการแถลงเปิดตัว Reels ในประเทศไทย ทั้ง Facebook และ Instagram ยังเพิ่มฟีเจอร์การใช้เพลงแบบถูกลิขสิทธิ์ทั้งเพลงไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เปิดตัวในต่างประเทศมาสักพักแล้ว
ใช้สติกเกอร์เพลงใน Stories ทั้งบน Facebook และ Instagram, เพิ่มเนื้อเพลงในภาพและวิดีโอ Stories ทั้ง Facebook และ Instagram และ ใส่เพลงลงในโปรไฟล์ Facebook ได้ ความยาวสูงสุด 90 วินาที โดยในอนาคต นอกจากกดฟังได้แล้ว จะสามารถกดเพื่อให้ระบบนำไปฟังเพลงต่อบน Apple Music ได้ด้วย
Facebook เตรียมพัฒนากำไลข้อมือ (wristband) ที่จะอ่านคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ ที่ถูกส่งจากสมองไปยังแขน เพื่อนำไปใช้ควบคุม UI หรือฟังก์ชั่นอื่นๆ ในระบบ Augmented Reality ของแว่น AR ที่ยังไม่วางจำหน่าย โดยใช้การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือแค่เพียงความคิดเท่านั้น ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการซื้อกิจการ CTRL-labs ในปี 2019 ซึ่งพัฒนาเทคโนโลยี wristband อ่านคลื่นสมองมาก่อนหน้านี้
Andrew “Boz” Bosworth รองประธาน Facebook Reality Labs ยืนยันว่ากำไลนี้ไม่สามารถอ่านความคิดในสมองของผู้ใช้แบบละเอียดได้ แต่จะทำงานเหมือนเป็นคีย์บอร์ดที่สั่งการด้วย motor input หรือสัญญาณจากสมองที่สั่งให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหว แล้วแปลงไปเป็นคำสั่ง และจะตัดปัญหาการพิมพ์ผิดออกไปอย่างสิ้นเชิง
BuzzFeed รายงาน Facebook กำลังพัฒนา Instagram สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี พ่อแม่ควบคุมการเล่นได้ Vishal Shah รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Instagram ระบุผ่านกระดานข้อความที่ส่งกันภายในว่า Instagram สำหรับเด็กจะโฟกัสที่ 2 สิ่ง คือ เร่งสร้างความเป็นส่วนตัวสำหรับเด็ก เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยเมื่อใช้งาน และ สร้าง Instagram ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กที่มาใช้งานครั้งแรก
เฟซบุ๊กประกาศรองรับการล็อกอินขั้นตอนที่สองด้วยกุญแจ FIDO บนโทรศัพท์มือถือ จากเดิมที่ใช้งานบนเว็บมาตั้งแต่ปี 2017
เฟซบุ๊กรองรับการล็อกอินขั้นตอนที่สองต่อจากรหัสผ่านทั้งหมด 4 วิธี ได้แก่ แอปล็อกอิน (เช่น Google Authenticator, Microsoft Authenticator), กุญแจ FIDO หรือ Security Key, ข้อความ SMS, รหัสผ่านกู้คืนบัญชี เป็นรหัสตายตัวจดใส่กระดาษไว้ใช้งานภายหลัง แต่ที่ผ่านมาการล็อกอินบนโทรศัพท์มือถือนั้นไม่รองรับกุญแจ FIDO
การใช้กุญแจ FIDO บนโทรศัพท์มือถือมีหลายรูปแบบทั้งการเสียบ USB เหมือนเดสก์ทอป, แตะ NFC, และเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth โดยแอปเฟซบุ๊กรองรับทั้งหมดทั้งบน iOS และแอนดรอยด์
Facebook เตรียมปรับปรุงนโยบายสำหรับ Facebook Groups โดยเฉพาะกลุ่มและสมาชิกที่ทำผิดกฎแพลตฟอร์มบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การเผยแพร่ความเกลียดชัง โดยเป็นการลงโทษทั้งกลุ่มและสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มด้วย
Facebook ประกาศทำแพลตฟอร์มสำหรับ "นักเขียนอิสระ" (independent writers) ตอนนี้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ระบุว่าจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างเว็บไซต์และจดหหมายข่าว ที่เชื่อมโยงกับ Facebook Pages และ Facebook Groups อย่างแนบแน่น
นักเขียนจะสามารถทำเงินจากงานเขียนได้ผ่านระบบสมาชิก (subscription) และสร้างฐานแฟนๆ ผ่าน Facebook Groups ด้วย บริการตัวนี้จะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยเริ่มจากในสหรัฐก่อน
ช่วงหลังๆ เริ่มมีแพลตฟอร์มด้านงานเขียนสำหรับนักเขียนอิสระเกิดขึ้นมาหลายตัว ที่ดังๆ ก็อย่าง Medium ที่เราคุ้นเคยกัน หรือ Substack บริการสร้างจดหมายข่าวแบบเสียเงินเป็นสมาชิก ที่กำลังมาแรงเช่นกัน
News Corp บริษัทกลุ่มสื่อรายใหญ่ในออสเตรเลียประกาศบรรลุข้อตกลงกับ Facebook ได้เงินลงทุนมาเพื่อทำเนื้อหาข่าวลงแพลตฟอร์มข่าวหรือ Facebook News เป็นข้อตกลงระยะเวลาสามปี นอกจากสื่อในกลุ่ม News Corp แล้ว ยังมีสื่อสิ่งพิมพ์ของออสเตรเลียร่วมทำข้อตกลงด้วยคือ news.com.au, The Daily Telegraph, Herald Sun, The Courier-Mail
เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2020 คณะกรรมการการค้าของสหรัฐ หรือ Federal Trade Commission (FTC) ยื่นฟ้อง Facebook ในข้อหาผูกขาดตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์ค ขอให้ศาลสั่งแยก WhatsApp และ Instagram ออกมาเป็นอีกบริษัท
วันนี้ Facebook ตอบโต้ด้วยการยื่นคำร้องต่อศาลให้ถอนคดีนี้ โดยเสนอเหตุผลหักล้าง FTC ในหลายประเด็น เช่น FTC ไม่สามารถแสดงหลักฐานว่า Facebook ขึ้นราคาหรือจำกัดปริมาณสินค้า, ไม่มีหลักฐานว่าการซื้อ WhatsApp และ Instagram เป็นการทำลายการแข่งขันจริง เป็นต้น
Facebook ประกาศแบนโฆษณาการเมืองไปตั้งแต่จบการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 เริ่มระงับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. ปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลป้องกันข่าวปลอมเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง และขยายเวลาแบนออกไปอีกเมื่อเกิดเหตุการณ์บุกรัฐสภา 6 ม.ค. ล่าสุด Facebook จะกลับมารับโฆษณาการเมืองอีกครั้ง เริ่ม 4 มีนาคมนี้
เฟซบุ๊กรายงานถึงเครือข่ายบัญชีที่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน. ของไทย โพสเนื้อหาสนับสนุนกองทัพ, สนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์, เรียกร้องความสงบ, รายงานข้อมูล COVID-19, โจมตีกลุ่มแบ่งแยกดินแดน โดยไม่ได้เปิดเผยว่าบัญชีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐ
ทางเฟซบุ๊กลบบัญชีเฟซบุ๊ก 77 บัญชี, 72 เพจ, 18 กลุ่ม และยังมีอินสตาแกรมอีก 18 บัญชี รวมมีผู้ติดตามทุกช่องทาง 703,000 บัญชี ผู้ร่วมกลุ่มกว่าแสนราย และคนติดตามอินสตาแกรม 2,500 คน มีการใช้เงินโฆษณาไปทั้งหมดประมาณ 10,000 บาท
เพจเหล่านี้ไม่เปิดเผยตัวตนว่าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐ และมักโพสเนื้อหาลงหลายๆ เพจและช่วยกันทำให้ดูเหมือนเพจได้รับความนิยม
Facebook ออกแคมเปญใหม่ในชื่อ Good Ideas Deserve to be Found หรือไอเดียดี ๆ ควรถูกค้นพบ มีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ของโฆษณาแบบปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalized Ad) ว่าช่วยให้ผู้ใช้งานได้ค้นพบธุรกิจหรือบริการ ที่เขาชื่นชอบและได้ร่วมสนับสนุนธุรกิจเหล่านั้น
แคมเปญนี้เป็นการต่อสู้กับระหว่าง Facebook กับแอปเปิลรอบล่าสุด ในประเด็นการปรับค่าความเป็นส่วนตัวบน iOS 14 ที่ส่งผลต่อการทำโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (Target Ad) ซึ่งก่อนหน้านี้ Facebook ย้ำว่ากระทบกับธุรกิจขนาดเล็ก
หลังกองทัพของเมียนมา (ตะมะดอว์) ถูกทั่วโลกประนามและยึดทรัพย์สินไปจนถึงห้ามเดินทาง ล่าสุด Facebook ออกมาประกาศท่าทีคล้ายกันคือสั่งแบนทุกแอคเคาท์ ทุกกิจกรรมของกองทัพบนแพลตฟอร์มทั้ง Facebook และ Instagram รวมถึงสื่อและโฆษณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
Facebook บอกว่าปฏิบัติกับกองทัพเมียนมาบนมาตรฐานเดียวกันกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น แต่กรณีนี้มีข้อพิจารณาเพิ่มเติมจากข้อมูลของหน่วยงานอิสระที่ดูแลด้านการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีเมียนมาของสหประชาชาติเมื่อปี 2019 (UN Fact-Finding Mission on Myanmar) และหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights) พบว่า
ออสเตรเลีย ผ่านกฎหมายบังคับเฟซบุ๊ก, กูเกิลจ่ายเงินผู้ผลิตเนื้อหารวมถึงสำนักข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีชื่อกฎหมายว่า News Media and Digital Platforms Mandatory Bargaining Code โดยเป็นการผ่านกฎหมายหนึ่งวัน หลังรัฐบาลประกาศปรับกฎหมายให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น
การยอมผ่อนปรนของรัฐบาลทำให้เฟซบุ๊กยอมกู้คืนการมองเห็นและแชร์ข่าวให้แก่ผู้ใช้งานออสเตรเลีย ซึ่งเฟซบุ๊กทำไปเพื่อตอบโต้กฎหมายดังกล่าว
จากประเด็นเฟซบุ๊กตอบโต้กฎหมายใหม่ออสเตรเลียด้วยการบล็อกการมองเห็นและแชร์ข่าวแก่ผู้ใช้งานในประเทศ ล่าสุด เฟซบุ๊กบอกจะกู้การมองเห็นให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะได้เจรจากับรัฐบาลออสเตรเลียแล้วและได้ผลที่น่าพอใจ โดยรัฐบาลยอมปรับกฎหมายและรับฟังข้อกังวลของแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น
เฟซบุ๊กเปิดตัวโครงการ 'Love & Lock' Facebook Privacy Cafe - Virtual Edition ส่งเสริมความเป็นส่วนตัว โดยโครงการนี้เป็นเว็บการตูนที่วาดโดย Sundae Kids นักวาดภาพประกอบชาวไทยอธิบายถึงกระบวนการของระบบรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของเฟซบุ๊ก
เว็บไซต์ Love & Lock: Facebook Privacy Café Virtual Edition จะเปิดให้เข้าชมตลอดเดือน และหากชมเนื้อหาจนครบแล้วและตอบคำถามครบถ้วนจะได้รับโค้ดเพื่อไปรับชานมไข่มุกจากร้าน Cha Bar ที่สาขาลิโด้ คอนเนคท์ ภายในวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์นี้
ประเด็นใหญ่ระหว่างเฟซบุ๊กและออสเตรเลียยังไม่จบ หลังเฟซบุ๊กตอบโต้กฎใหม่ด้วยการปิดกั้นคนออสเตรเลียจากการมองเห็นและแชร์ข่าว ส่งผลให้ทราฟิกเว็บข่าวหดตัวลง และผลกระทบที่สำคัญอีกอย่างคือ คนออสเตรเลียไม่สามารถติดตามข่าวสารจากเพจหน่วยงานราชการบนเฟซบุ๊กได้
ล่าสุด Reuters รายงานว่า นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย Scott Morrison บอกว่าตอนนี้มีการเจรจากับเฟซบุ๊กเพิ่มเติม และมีท่าทีว่าจะกลับมาเป็นมิตรกันอีกครั้ง ด้านรัฐนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Josh Frydenberg บอกว่าเขาได้พูดคุยกับ Mark Zuckerberg และคาดว่าจะมีการเจรจาเพิ่มเติมในช่วงสุดสัปดาห์
WhatsApp ประกาศข้อตกลงการใช้งานใหม่ที่ต้องแชร์ข้อมูลให้ Facebook ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2021 เป็นต้นไป ในตอนแรก WhatsApp บอกว่าถ้าไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ก็จะใช้งาน WhatsApp ต่อไม่ได้ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด
TechCrunch มีข้อมูลเพิ่มเติมจากอีเมลที่ WhatsApp แจ้งไปยังพาร์ทเนอร์ ระบุว่า WhatsApp จะแจ้งผู้ใช้งานเป็นระยะให้ยอมรับข้อตกลงใหม่ แต่หากผู้ใช้งานไม่ยอมรับ หลังวันที่ 15 พฤษภาคม ก็จะยังรับสายเข้าโทรเสียง และรับการแจ้งเตือนได้ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง (WhatsApp บอกว่าไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น) แต่จะไม่สามารถอ่านหรือส่งข้อความในแอปได้
ต่อเนื่องจากข่าว Facebook ลดการแพร่กระจายโพสต์จากเพจของกองทัพพม่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุดวันนี้ (21 ก.พ.) เพจหลักของกองทัพพม่าคือ Tatmadaw True News Information Team Page ถูกลบแล้ว เนื่องจากทำผิดกฎเรื่องความรุนแรงของเฟซบุ๊กหลายครั้ง
The Verge ติดตาม กรณีเฟซบุ๊กบล็อคการเข้าถึงเนื้อหาจากสื่อออสเตรเลียตามกฎหมายใหม่ พบว่ายอดดาวน์โหลดแอพข่าวในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแทน
จากสถิติของ App Annie ประจำวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2021 แอพที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือ ABC News ของบริษัทกระจายเสียงแห่งออสเตรเลีย Australian Broadcasting Corporation (คล้ายๆ กับ BBC ของอังกฤษหรือ ThaiPBS ของบ้านเรา) ที่ครองอันดับหนึ่งของยอดดาวน์โหลด Play Store และอันดับสองของ App Store ในออสเตรเลีย
นอกจากนี้ แอพอีกตัวคือ 9Now ของ Nine Network (ทีวีช่อง 9 ของออสเตรเลีย) ก็ตามขึ้นมาในอันดับ 9 ของ Play Store
WhatsApp ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงการใช้งานใหม่ ที่เลื่อนวันมีผลออกไปเป็น 15 พฤษภาคมนี้ โดยจะแสดงป้ายประกาศในแอป WhatsApp เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้ใช้งาน ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ WhatsApp ไม่ได้เปลี่ยนข้อตกลงในการใช้งาน ที่ต้องแชร์ข้อมูลให้กับ Facebook แต่บอกว่าจะอธิบายเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานต้องกดยอมรับภายในวันที่กำหนด มิฉะนั้นจะใช้งาน WhatsApp ต่อไปไม่ได้
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ WhatsApp พูดถึงได้แก่ ข้อมูลการสนทนาจะเข้ารหัส WhatsApp ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ และ WhatsApp จะไม่แชร์ข้อมูลนี้รวมทั้งรายชื่อผู้ติดต่อ (Contact) ให้กับ Facebook