ต่อจากข่าว อยู่ในโลกเสมือนก็หนีโฆษณาไม่พ้น Oculus เริ่มแสดงโฆษณาแบบ VR แล้ว ปรากฏว่าแผนการของ Facebook สะดุดอย่างรวดเร็ว เพราะพาร์ทเนอร์รายแรกที่ร่วมทดสอบโฆษณาคือ บริษัท Resolution Games เจ้าของเกม Blaston ตัดสินใจไม่ไปต่อ
เหตุผลมาจากปฏิกิริยาของแฟนๆ เกมในทางลบอย่างมาก เข้าไปรุมถล่มในระบบรีวิวทั้งบน Oculus Store และ Steam กันอย่างล้นหลาม ผู้รีวิวให้เหตุผลว่าตอนที่ตัดสินใจซื้อเกมไม่มีโฆษณา แล้วจู่ๆ จะมาแทรกโฆษณาแบบนี้ได้อย่างไร
Facebook ซุ่มพัฒนาฟีเจอร์คุยเสียงแบบ Clubhouse มาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ล่าสุดเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อว่า Live Audio Rooms เริ่มเปิดใช้งานในสหรัฐฯและแคนาดา เปิดใช้งานเฉพาะบน iOS และเปิดเฉพาะบัญชีคนดังบางกลุ่มและ Facebook Groups บางกลุ่มที่จะสามารถเปิดห้องคุยได้
มหาวิทยาลัย National University of Singapore (NUS) และ Nanyang Technological University (NTU) ประกาศความร่วมมือกับเฟซบุ๊ก เปิดโครงการวิจัยการพัฒนาศูนย์ข้อมูลในเขตร้อน เพื่อให้ได้ศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง
โครงการวิจัยนี้มีมูลค่า 23 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยสร้างศูนย์ข้อมูลทดสอบการออกแบบระบบทำความเย็นเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยอาศัยระบบนำความร้อนด้วยของเหลว, การดึงความร้อนออกจากชิปโดยตรง, และพัฒนาเทคโนโลยีการดำเนินงานศูนย์ข้อมูล เช่นการนำปัญญาประดิษฐ์มาช่วยจัดการ
ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ใช้พลังงานรวมถึง 7% ของพลังงานรวมในประเทศ และอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลนับเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก
Facebook เตรียมเพิ่มความสามารถให้แอดมิน Groups จำกัดจำนวนโพสต์ และจำกัดจำนวนคอมเม้นท์ใต้โพสต์ได้ มีเป้าหมายเพื่อชะลอการสนทนาที่ไม่เป็นมิตรกับคนอ่าน หรือ toxic
ด้วยความสามารถใหม่นี้ แอดมิน และผู้คัดกรองเนื้อหาใน Groups จะมีอำนาจจำกัดจำนวนโพสต์และคอมเม้นท์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง Facebook ยังบอกด้วยว่าตอนนี้กำลังทดสอบระบบ conflict alerts แจ้งเตือนให้แอดมินรู้ว่าตอนนี้กำลังมีการสนทนาในเชิงปะทะกันอยู่ในกลุ่มด้วย
โมเดลธุรกิจของ Facebook ทั้งองค์กรคือการโฆษณา ทำให้ Oculus เป็นหน่วยธุรกิจล่าสุดที่หนีไม่พ้น ต้องเริ่มแสดงโฆษณาในโลก VR กันบ้างแล้ว
ผู้ใส่แว่น Oculus จะเริ่มเห็นการทดสอบโฆษณาในเกม VR โดยแสดงเป็นแบนเนอร์ในสภาพแวดล้อมเสมือน (สีเขียวในภาพตัวอย่าง) เมื่อเอาคอนโทรลเลอร์ชี้ไปที่แบนเนอร์ก็สามารถคลิกไปดูรายละเอียดได้ ตอนนี้เกมที่เริ่มทดสอบโฆษณาคือเกม Blaston และเกมอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง
Facebook ให้เหตุผลของการโฆษณาในโลก VR ว่าต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้นักพัฒนาเกม VR และเป็นการสนับสนุนโครงการ VR ของบริษัทในระยะยาวด้วย
Facebook เปิดตัว TextStyleBrush โครงการวิจัยด้าน AI ที่สามารถลอกเลียนรูปแบบตัวอักษร โดยใช้เพียงรูปภาพข้อความคำเดียว ทำให้สามารถสร้างข้อความอื่นจากแบบอักษรเดียวกันได้
การทำงานของ TextStyleBrush แบ่งเป็นสองส่วนคือการอ่านตัวอักษรที่อยู่ในภาพ input และการเรียนรู้รูปแบบตัวอักษรด้วยตนเองเพื่อลอกเลียนซ้ำ
รูปแบบตัวอักษรที่อยู่ในโครงการ มีทั้งตัวอักษรจากป้ายต่าง ๆ ไปจนถึงลายมือก็ทำได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสถานะโครงการนี้อยู่ในขั้นตอนวิจัย แต่ Facebook มองว่าเป็นโอกาสในการสร้างสรรค์ลูกเล่นใหม่ ๆ อย่างเช่นการทำเครื่องมือแปลภาษาบน AR
สัปดาห์ที่ผ่านมา Mark Zuckerberg และ Andrew Bosworth หัวหน้าฝ่าย AR/VR ของ Facebook ไลฟ์ตอบคำถามผ่าน Instagram โดยมีข้อมูลสำคัญคือยืนยันว่าบริษัทกำลังสร้าง OS ใหม่สำหรับงานด้าน AR/VR อยู่ในตอนนี้ ซึ่งเคยเป็นข่าวมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2019
ข้อมูลเท่าที่เปิดเผยคือ ระบบปฏิบัติการตัวนี้ถูกเรียกว่า "reality operating system" โดยบอกว่าต่างจาก OS ในปัจจุบันมาก ทั้งเรื่องอินพุตข้อมูล โมเดลการพัฒนาแอพ และการเชื่อมต่อระบบต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างแนบแน่น เพื่อให้ทำงานได้บนอุปกรณ์ขนาดเล็กมากๆ อย่างแว่น AR ได้โดยประหยัดทั้งพลังงานและความร้อน
กระแสหนึ่งในโซเชียลมีเดียตอนนี้คือการลงทุนในครีเอเตอร์ เพราะเป็นหนึ่งในแรงจูงใจให้คนใช้งานแพลตฟอร์ม และช่วยดึงเม็ดเงินโฆษณามายังแพลตฟอร์มด้วย ล่าสุด Instagram และ Facebook ประกาศทดสอบช่องทางทำเงินให้เหล่าครีเอเตอร์เพิ่มเติม
เริ่มจาก Instagram ทดสอบฟังก์ชั่นให้ครีเตอร์รับเงินค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำสินค้าในโพสต์ของตัวเองได้ โดยแบรนด์จะเป็นผู้ตั้งราคาคอมมิชชั่นไว้ก่อน เมื่อครีเอเตอร์แท็กผลิตภัณฑ์เหล่านั้นในโพสต์ พวกเขาจะได้รับค่าคอมมิชชันตามจำนวนยอดขายที่เกิดจากโพสต์ของพวกเขา โดย Instagram จะเริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้กับกลุ่มครีเอเตอร์จำนวนหนึ่งในสหรัฐฯ รวมถึงแบรนด์ใหญ่อย่าง Benefit, Kopari, MAC, Pat McGrath Labs และ Sephora
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก โพสต์ Facebook ก่อนการเริ่มงาน WWDC ของ Apple ไม่กี่ชั่วโมง เขาประกาศว่า Facebook มีนโยบาย ไม่ตัดส่วนแบ่งเงินรายได้จากครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มไปจนถึงปี 2023 ครอบคลุมครีเอเตอร์ที่ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ บน Facebook ไม่ว่าจะเป็นอีเว้นท์ออนไลน์, การสมัครสมาชิกรายเดือน, badges รวมถึงแพลตฟอร์มนักเขียนอินดี้ที่กำลังจะเปิดตัว
มาร์กบอกด้วยว่า เมื่อถึงเวลาที่ Facebook ต้องหักเปอร์เซนต์ จะไม่มากเท่าหัก 30% ที่ Apple ทำอยู่แน่นอน
จากข่าว Facebook ประกาศทำแพลตฟอร์มสำหรับ "นักเขียนอิสระ" แต่ยังไม่มีชื่อในขณะนั้น ล่าสุดเว็บไซต์ Recode รายงานว่า Facebook เตรียมจะเปิดตัวแล้วในชื่อว่า Bulletin เป็นจดหมายข่าวสารซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มแยกออกจาก Facebook เตรียมเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ มีทั้งแบบอ่านฟรี และเสียเงิน
คณะกรรมการยุโรป (European Commission หรือ EC) ร่วมกับคณะกรรมการแข่งขันของสหราชอาณาจักร (Competition and Markets Authority หรือ CMA) ประกาศสอบสวน Facebook ว่าใช้ข้อมูลโฆษณาในระบบตัวเอง เพื่อเอาเปรียบคู่แข่งในตลาดที่ทับซ้อนกันหรือไม่
กรณีของ EC สนใจตลาดลงประกาศซื้อขายของบุคคลรายย่อย (classified ads) ที่ Facebook มีบริการ Facebook Marketplace มาแข่งกับเว็บลงประกาศซื้อขายรายอื่นๆ แต่เว็บลงประกาศเหล่านี้ก็ซื้อโฆษณาผ่านบริการ Facebook ที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คเช่นกัน ทำให้ EC สนใจว่า Facebook นำข้อมูลโฆษณาเหล่านี้มาเรียนรู้พฤติกรรมของคู่แข่ง แล้วพัฒนาให้ Facebook Marketplace ได้เปรียบกว่าหรือไม่
แผนก Facebook Gaming ประกาศว่า Unit 2 Games จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน เพื่อต่อยอดจากบริการที่มีอยู่ตอนนี้คือ วิดีโอสตรีมมิ่งสำหรับแคสต์เกม และการสร้างเกมบนแพลตฟอร์มของ Facebook โดยมีเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์เกมแบบร่วมกัน
เทคโนโลยีของ Unit 2 Games ที่ทำให้ Facebook ดึงทีมงานเข้ามาคือ Crayta แพลตฟอร์มเครื่องมือสำหรับสร้างเกมบนคลาวด์ ซึ่งสร้างบน Unreal Engine 4 โดยสามารถร่วมมือกับคนอื่นได้ด้วย ซึ่งเดิมแพลตฟอร์มนี้มีเฉพาะบน Stadia
ในรายละเอียดของการซื้อกิจการนั้น Crayta จะยังคงพัฒนาอยู่ต่อไป จึงไม่มีผลกระทบกับเกมที่สร้างบนแพลตฟอร์มในตอนนี้
เดือนที่แล้ว คณะกรรมการ Oversight Board ที่เป็นคนนอก ตัดสินให้ Facebook แบนบัญชีของ Donald Trump ต่อไป จากกรณีโพสต์ยุยงให้เกิดความรุนแรงในการยึดรัฐสภาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม Oversight Board เสนอว่าการแบนควรมีระยะเวลาที่ชัดเจน ไม่ใช่แบนไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด
วันนี้ Facebook ออกมารับลูกแนวทางของ Oversight Board โดยประกาศนโยบายกำหนดระยะเวลาแบน 4 ระดับคือ 1 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี, 2 ปี ตามคำนวนครั้งของการทำผิดกฎ
Facebook เตรียมเปิดตัว Researcher API เปิดทางนักวิจัยศึกษาพฤติกรรมหรือสำรวจความคิดเห็นของคน กลุ่ม หรือเพจสาธารณะจากแพลตฟอร์ม Facebook ที่เปิดสาธารณะได้ง่ายขึ้น เตรียมเปิดตัวในปีนี้
โดย API ใหม่นี้ช่วยให้นักวิจัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้ามาศึกษากิจกรรมออนไลน์ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงข้อความโพสต์ของผู้ใช้งาน ซึ่ง Facebook ระบุว่าจะแสดงชื่อเป็น anonymous ซ่อน username เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว นักวิจัยยังสามารถเข้าถึงตัวชี้วัดผู้ติดตามและสถิติการมีส่วนร่วมสำหรับกลุ่ม เหตุการณ์ และเพจต่างๆ ได้ด้วย
จากกรณีโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งทรงอิทธิพลในโซเชียลมีเดียมาก แม้เนื้อหาจะขัดต่อหลักสิทธิพลเมืองและกฎแพลตฟอร์ม ก็ตาม Facebook เองก็เคยยืนกรานว่า ถ้อยคำของประธานาธิบดี คือสิ่งที่ประชาชนมีสิทธิ์รับรู้ และแพลตฟอร์มไม่มีสิทธิ์ปิดกั้น แต่เหตุการณ์บุกรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้โซเชียลมีเดียต้องกลับมาคิดใหม่ เพราะอิทธิพลของทรัมป์ส่งผลต่อโลกจริงมากกว่าที่คิด
ล่าสุด มีรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวภายใน Facebook 2 ราย ระบุว่า Facebook จะเปลี่ยนนโยบาย บังคับใช้กฎแพลตฟอร์มกับนักการเมืองด้วย โดยจะแถลงนโยบายต่อสังคมเร็วๆ นี้
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส แถลงว่าศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ในบัญชีผู้ใช้ Facebook แล้ว 8 บัญชีคือ
Facebook เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่จัดการกับผู้ที่มักเผยแพร่เนื้อหาผิดข้อเท็จจริง หรือนำไปสู่ความเข้าใจผิดไม่ว่าจะเป็นเรื่อง COVID-19 การเลือกตั้ง หรือเรื่องเกี่ยวกับ climate change
โดยผู้ใช้งานทั่วไปจะมองเห็นหน้าต่างแสดงการแจ้งเตือนหากกำลังจะกดไลค์เพจที่เผยแพร่ข้อมูลผิดบ่อย ผู้ใช้งานยังเลือกที่จะกดไลค์และติดตามเพจนั้นต่อได้หากต้องการ หรือกด learn more เพื่อดูตัวอย่างโพสต์ที่เผยแพร่ข้อมูลผิดได้
Instagram และ Facebook ประกาศแนวทางที่ชัดเจนหลังทดสอบมาหลายปี เกี่ยวกับการซ่อนจำนวน Like ในโพสต์ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกซ่อนจำนวน Like ได้เอง (opt-in) โดยผู้ที่เลือกจะไม่แสดงตัวเลขในโพสต์ว่ามีจำนวนคน Like เท่าใด
ทั้งนี้ Facebook เคยอธิบายสาเหตุของการซ่อนจำนวน Like ในงาน F8 เมื่อปี 2019 ว่าสามารถช่วยให้เจ้าของบัญชีลดความเครียดได้
ผู้ใช้งาน Instagram และ Facebook สามารถตั้งค่าให้ซ่อนจำนวน Like ที่เป็นสาธารณะได้ ทั้งกำหนดแบบรายโพสต์ หรือกำหนดให้มีผลกับทุกโพสต์ใน Settings โดยเริ่มมีผลแล้วตั้งแต่วันนี้สำหรับ Instagram ส่วน Facebook จะเริ่มใช้งานได้ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เฟซบุ๊กรายงานความสำเร็จในการสร้างปัญญาประดิษฐ์แปลงเสียงเป็นข้อความ (speech recognition) ในชื่อ wav2vec-U โดยมีจุดเด่นคือเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ฝึกแบบ unsupervised ที่เป็นการฝึกปัญญาประดิษฐ์โดบไม่ต้องการข้อมูลตัวอย่างโดยตรง
การสร้างปัญญาประดิษฐ์แปลงเสียงเป็นข้อความโดยปกติแล้วจะต้องใช้ชุดข้อมูลคู่กันระหว่างเสียงและข้อความที่แปลงไว้ก่อนหน้า (labeled data) เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์พยายามเลียนแบบ กระบวนการสร้างชุดข้อมูลนี้มีต้นทุนสูงที่ต้องแปลงข้อมูลเสียงเป็นข้อความนับพันชั่วโมง และในภาษาที่มีชุดข้อมูลอยู่น้อยก็สามารถฝึกปัญญาประดิษฐ์ได้ยาก
Hugo Barra ผู้ดูแลงานฝั่ง Oculus VR ของ Facebook และ Facebook Reality Labs ลาออกหลังทำงานมาสี่ปี การลาออกของ Barra เกิดขึ้นก่อน Facebook จะเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่ร่วมมือกับ Ray-Ban ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวในปีนี้ ส่วนการทำงานในอนาคต เขากำลังมองโอกาสสายสุขภาพ
WhatsApp เร่งกระบวนการให้คนกดยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่ที่จะมีผล 15 พ.ค. นี้ โดยค่อยๆ ดำเนินการไปทีละขั้นตอน เริ่มจาก ไม่สามารถเข้าถึงรายการแชทของตัวเองได้ แต่ยังกดรับโทรศัพท์, วิดีโอคอลได้ และยังกดที่แจ้งเตือนเพื่อตอบข้อความกลับได้
ถ้าผู้ใช้งานยังไม่กดยอมรับเงื่อนไข หลังจากนั้น WhatsApp จะปิดไม่ให้ผู้ใช้รับสายโทรเข้า, ข้อความเข้า ปิดการมองเห็นการแจ้งเตือน เรียกได้ว่าแทบทำอะไรกับ WhatsApp ไม่ได้เลย แม้ WhatsApp ยืนยันว่าจะไม่ลบบัญชีออกก็ตาม
อัยการจาก 40 รัฐในสหรัฐ ส่งจดหมายถึงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ให้หยุดพัฒนา Instagram สำหรับเด็ก อายุต่ำกว่า 13 ปี ด้วยเหตุผลว่า ที่ผ่านมา Facebook ล้มเหลวในการปกป้องเด็กๆ ให้มีสุขภาวะที่ดีบนแพลตฟอร์ม
Facebook ประกาศผ่านบัญชี Twitter ว่าจะเริ่มทดสอบแสดงข้อความเตือน กรณีผู้ใช้งานกดแชร์เนื้อหาแต่ยังไม่ได้เปิดเข้าไปอ่าน โดยข้อความจะแนะนำให้กดอ่านเนื้อหานั้นก่อนแชร์ แต่ก็มีตัวเลือกยืนยันให้แชร์หากต้องการ ซึ่งตัวแทนของ Facebook ระบุว่าการทดสอบนี้กำหนดไว้ที่ 6% ของกลุ่มผู้ใช้ Android ทั่วโลก
การแสดงข้อความเตือนการแชร์เนื้อหาที่ยังไม่ได้อ่านนี้ เหมือนกับที่ Twitter ทดสอบเมื่อปีที่แล้ว
ที่มา: @fbnewsroom ผ่าน The Verge
เฟซบุ๊กประกาศผลการประชุมของ Oversight Board ที่เฟซบุ๊กเคยให้อำนาจเป็นคนตัดสินใจว่าการแบนโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ โดย Oversight Board ยืนยันว่าจำเป็นเนื่องจากเหตุการณ์นอกจากที่เคยพบกันมาก (unprecedented circumstances)
อย่างไรก็ตาม Oversight Board วิจารณ์ว่าการแบนทรัมป์โดยไม่มีกำหนดเวลาเช่นนี้เป็นมาตรการที่คาดเดาไม่ได้ และไม่มีมาตรฐาน โดยขอให้เฟซบุ๊กปรับปรุงนโยบายเสียใหม่ แต่ระหว่างนี้ก็บัญชีของทรัมป์ก็จะถูกแบนต่อไป
ปีที่แล้ว มีคนไปเจอ Facebook ทดสอบใช้งาน Facebook Neighborhoods เป็นอีกฟีเจอร์แยกไว้รวมตัวคน ข่าวสารในละแวกเดียวกันกับที่อยู่อาศัย ล่าสุด Facebook ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เปิดทอดสอบ Neighborhoods ใน 4 เมืองในสหรัฐฯ (Charlotte, North Carolina; San Diego, California; Baton Rouge, Louisiana และ Newark, New Jersey) และแคนาดา
นอกจากนี้ Facebook ให้รายละเอียดเพิ่มว่า Neighborhoods จะเป็นอีกเซกชั่นแยก ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์แยกใน Neighborhoods ได้ โดยผู้ใช้งานต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป