หลังจากที่ไม่สามารถใช้งาน WhatsApp ที่ประเทศบราซิลได้เป็นเวลา 48 ชั่วโมงเต็ม ส่งผลให้ Telegram มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 5.7 ล้านคน
ในตลาดโลก WhatsApp มีผู้ใช้งานอยู่ทั้งหมด 900 ล้านคน และ Telegram มีผู้ใช้งานอยู่ 62 ล้านคน แต่ Telegram เปิดตัวได้เพียง 2 ปี เมื่อเทียบกับ WhatsApp เปิดตัวแล้วมา 7 ปี โดย Facebook เป็นเจ้าของในตอนนี้อยู่
Telegram บอกอีกว่าเมื่อมีผู้ใช้งานใหม่ประมาณ 1,500,000 คน ทำให้ระบบส่ง SMS มีปัญหากันไปเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็กลับมาทำงานได้ตามปกติ
Facebook ประกาศเปลี่ยนตัวเล่นวิดีโอบนเว็บจาก Flash มาเป็น HTML5 ทั้งหมดแล้ว (ทั้งในหน้าเพจและ news feed)
Facebook อธิบายว่าการเปลี่ยนมาใช้ HTML5 ที่เป็นเทคโนโลยีเว็บทั้งหมด ช่วยให้กระบวนการพัฒนาเดินหน้ารวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งรองรับฟีเจอร์ด้าน accessibility ได้เต็มรูปแบบ เพราะตัวเล่นวิดีโอเป็นเนื้อเดียวกับเว็บ ต่างจาก Flash ที่มีสถานะเป็นปลั๊กอินฝังในเว็บ อย่างไรก็ตาม การเล่นวิดีโอผ่าน HTML5 ก็มีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ของเบราว์เซอร์แต่ละตัว และปัญหาประสิทธิภาพบนเบราว์เซอร์รุ่นเก่าๆ ซึ่งทีมงานจะหาวิธีแก้ไขต่อไป
Facebook จะยังรองรับ Flash ต่อไป แต่จะเน้นเฉพาะเกม Flash เพียงอย่างเดียวแล้ว
ศาลบราซิลมีคำสั่งให้บล็อคการเข้าถึง WhatsApp ทั่วประเทศ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เริ่มต้นตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 17 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยศาลระบุว่ามีบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายหนึ่ง ร้องเรียนว่า WhatsApp มีการให้บริการโทรด้วยเสียงฟรี ซึ่งผิดกฎหมายของประเทศบราซิล ที่รัฐบาลต้องตรวจสอบการสนทนาผ่านเสียงได้ อีกทั้งการให้บริการฟรีของ WhatsApp ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทโทรคมนาคมด้วย
ศาลระบุว่าได้มีการร้องขอตรวจสอบไปที่ WhatsApp ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา จึงมีคำสั่งให้บล็อก WhatsApp เป็นเวลา 48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่าทำไม WhatsApp จึงไม่ตอบโต้ และทำไมศาลจึงบล็อกการใช้งานแค่จำกัดช่วงเวลา
หลังจากที่ Facebook เปิดตัวฟังก์ชั่น Instant Articles ให้ผู้ใช้อ่านข่าวหรือบทความขนาดยาวแบบจัดหน้าสวยๆ จากสื่อรายต่างๆ ได้ผ่านตัวแอพเอง และเปิดใช้ในไทยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีแต่อุปกรณ์ระบบ iOS ได้ใช้ก่อน ล่าสุด Android สามารถใช้งานได้แล้ว และในข่าวเดียวกัน ก็เผยตัวเลขกว่า 350 สื่อทั่วโลกเป็นพาร์ทเนอร์แชร์คอนเทนต์ของตัวเองบนความสามารถนี้แล้ว ของไทยก็ยังมียอดสื่อเท่าตามข่าวก่อนหน้านี้ครับ
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Facebook ออกมายอมรับปัญหาเรื่องนโยบายการใช้ชื่อจริง และสัญญาว่าจะปรับปรุงระบบของตัวเองในเดือนธันวาคม วันนี้ Facebook ทำตามสัญญาแล้ว โดยแบ่งการปรับปรุงออกเป็น 2 ส่วน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางตำรวจของมาเลเซียได้บุกจับกุมตัวชายวัย 37 ปีคนหนึ่ง สืบเนื่องจากชายคนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความโจมตีราชวงศ์ของสุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ลงบน Facebook หลายข้อความ
ตำรวจได้ดำเนินการบุกจับกุมหลังได้รับรายงานว่าชายคนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความมุ่งร้ายต่อสุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ โดยข้อความดังกล่าวแสดงออกถึงความไม่พอใจการตัดสินใจของสุลต่านที่สั่งให้แบนบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่กำลังจะมาถึงนี้
ชายคนดังกล่าวจะถูกควบคุมตัวไว้ 4 วันในระหว่างถูกสอบสวน โดยทางตำรวจได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเขาด้วย หากชายคนนี้ถูกดำเนินคดีและผิดจริง เขาอาจต้องติดคุกนานถึง 18 เดือน หรืออาจโดนโทษปรับเงินสูงสุด 20,000 ริงกิต (ประมาณ 167,000 บาท)
Facebook เตรียมยกเลิกฟีเจอร์การซิงก์ภาพแบบอัตโนมัติจากโทรศัพท์ โดยรูปภาพที่ผู้ใช้เคยอัพโหลดไว้แบบอัตโนมัติจะถูกย้ายไปไว้ในแอพ Moments ทั้งหมด
แต่เดิมนั้นหากผู้ใช้ตั้งค่าให้อุปกรณ์ทำการอัพโหลดรูปอัตโนมัติสู่ Facebook ผู้ใช้จะพบรูปภาพเหล่านั้นถูกจัดเอาไว้เป็นอัลบั้มหนึ่งในบัญชีของตนเอง แต่นับจากวันที่ 10 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป Facebook จะยกเลิกฟีเจอร์นี้ และย้ายรูปภาพทั้งหมดที่เคยจัดไว้เป็นอัลบั้มนี้ไปไว้ในแอพแบ่งปันรูปภาพที่ชื่อ Moments แทน หรือหากไม่ต้องการใช้งาน Moments ก็สามารถสั่งลบรูปภาพทั้งหมดในอัลบั้มดังกล่าว หรือจะเลือกดาวน์โหลดรูปภาพทั้งหมดสู่คอมพิวเตอร์ในรูปแบบของไฟล์ zip ได้เช่นกัน
สำนักงานของ Facebook ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Hamburg ประเทศเยอรมนี ถูกคนกลุ่มหนึ่งขว้างปาสิ่งของและทุบกระจก รวมทั้งพ่นสีสเปรย์ใส่เมื่อช่วงคืนวันอาทิตย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าการทุบทำลายกระจก พร้อมพ่นสีสเปรย์เป็นข้อความว่า "Facebook Dislike" บนผนังหน้าทางเข้าอาคาร เป็นฝีมือของกลุ่มคนราว 15 - 20 คน ซึ่งอำพรางตัวตนด้วยการสวมใส่ชุดดำพร้อมเสื้อแบบมีที่คลุมศีรษะ โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหากลุ่มผู้กระทำความผิด
ด้านโฆษกของ Facebook ออกมายืนยันว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยทาง Facebook ยังไม่สามารถออกความเห็นในขณะนี้ได้ว่าผู้ลงมือมีเหตุจูงใจมาจากเรื่องใด
Facebook มองรางวัลเกมแห่งปี 2015 (2015 Games of the Year) ที่อยู่บน Facebook หรือเชื่อมต่อกับระบบของ Facebook
เกมที่ชนะเลิศประจำปี 2015 คือ Clash of Kings เกมวางแผนจากบริษัท ELEX ของประเทศจีน เริ่มต้นจากเกมบนอุปกรณ์พกพายอดฮิตในจีน แต่ภายหลังพัฒนาเกมเวอร์ชันเว็บบน Facebook.com เพื่อขยายสู่ตลาดโลกด้วย ปัจจุบันมียอดผู้เล่นสูงถึง 50 ล้านคน
รางวัลอื่นๆ ได้แก่ Clash of Clans รับรางวัลเกมที่ใช้ประโยชน์จาก Instagram ยอดเยี่ยม, Metal Gear Solid V: The Phantom Pain รับรางวัลแคมเปญโฆษณายอดเยี่ยม, League of Legends รับรางวัลเพจเกมยอดเยี่ยม
เฟซบุ๊กเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ Big Sur ที่เน้นการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ สร้างจาก Tesla Accelerated Computing Platform โดยออกแบบให้ติดตั้งการ์ด NVIDIA Tesla M40 ได้ถึง 8 ใบ
ตัวเครื่องถูกออกแบบให้จัดการได้ง่าย ชิ้นส่วนทั้งหมดสามารถถอดได้โดยไม่ต้องใช้ไขควง ยกเว้นเพียงฮีตซิงก์ซีพียูเท่านั้น ตัวฮาร์ดดิสก์สามารถถอดได้จากหน้าเครื่อง และชิ้นส่วนที่สามารถสัมผัสได้โดยตรงจะแสดงไว้ด้วยสีเขียว Pantone 375 C เหมือนกันในทุกเครื่องของเฟซบุ๊ก
เฟซบุ๊กเตรียมจะเปิดรายละเอียดการออกแบบ Big Sur เข้าไว้ในโครงการ Open Compute Project เร็วๆ นี้
ที่มา - Facebook
Facebook ปรับปรุงการแสดงผล News Feed ในกรณีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำ เช่น เครือข่าย 2G และ สถานที่ที่อินเทอร์เน็ตมีปัญหาอย่างรถไฟใต้ดินหรือสถานที่คนเยอะๆ แย่งกันใช้เน็ต
การเปลี่ยนแปลงมี 2 ส่วนดังนี้
ที่มา - Facebook Code
ประเด็นการยกเลิกรองรับใบรับรองดิจิตอลที่ตรวจสอบด้วย SHA-1 นับเป็นการย้ายมาตรฐานความปลอดภัยขนานใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลกอินเทอร์เน็ต ภายในปีหน้าเว็บต่างๆ ทั่วโลกจะถูกกดดันให้ต้องรองรับ SHA-2 เช่น SHA-256 ขึ้นไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเว็บเบราว์เซอร์จะเริ่มเตือนว่าไม่ปลอดภัยโดยไม่มีทางออกอื่น (ตอนนี้ยังมีทางออกเช่นขอใบรับรองที่อายุสั้นๆ ได้)
แต่ Alex Stamos จากเฟซบุ๊ก และ CloudFlare ก็ออกมาชี้ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ว่าเว็บขนาดใหญ่ยังมีปัญหาเพราะผู้ใช้จำนวนถึง 3-7% ในแต่ละประเทศยังใช้เบราว์เซอร์ที่ไม่รองรับ SHA-2 อยู่
Facebook สรุปเหตุการณ์สำคัญในรอบปี 2015 ภายใต้หัวข้อ Year in Review ซึ่งได้ 10 เหตุการณ์สำคัญของโลกดังนี้
Facebook ได้ปิดหน้าเว็บของ Creative Labs แผนกที่เปิดโอกาสให้พนักงานพัฒนาแอพบนมือถือในรูปแบบสตาร์ทอัพ ส่งผลให้แอพหลายตัวที่เป็นผลิตผลจาก Creative Labs อาทิ Slingshot, Rooms และ Riffs ถูกถอดออกจาก App Store และ Google Play ด้วย
โฆษกของ Facebook ยืนยันว่าแอพดังกล่าวถูกถอดออกจาก Store จริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดสาเหตุ บอกเพียงว่าฟีเจอร์ของแอพเหล่านี้ถูกนำมารวมในแอพหลัก Facebook แล้ว
อย่างไรก็ตามแอพที่อยู่ในสถานะการทดลองอื่นอย่าง Paper หรือแอพในเครือ Instagram อย่าง Hyperlapse กับ Layouts นั้นยังไม่ถูกถอดออกไปแต่อย่างใด
ฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้การแชร์รูปและวิดีโอดูมีสีสันมากขึ้นก็คือ
ฟีเจอร์ Live Video ยังใช้ได้เฉพาะผู้ใช้ใน US ส่วน Collages ผู้ใช้ไอโฟนสามารถใช้ได้แล้ว ส่วนผู้ใช้ Android จะใช้ได้ในปีหน้า
ที่มา - Facebook Newsroom
ข่าว Mark Zuckerberg ได้ลูกสาวแล้ว, ประกาศยกหุ้น Facebook เกือบทั้งหมดให้การกุศล ได้รับความสนใจอย่างสูง พร้อมกับคำถามและข้อสงสัยเรื่องรูปแบบการยกหุ้นของ Zuckerberg ว่าเป็นการหนีภาษีหรือไม่
วันนี้ Zuckerberg ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้วว่าองค์กร Chan Zuckerberg Initiative มีสภาพนิติบุคคลเป็น Limited Liability Company (LLC) หรือ "บริษัทจำกัด" ที่อาจไม่หวังผลกำไร ซึ่งต้องเสียภาษีเหมือนบริษัทปกติ (Corporation)
Instant Articles เป็นฟีเจอร์ของ Facebook ที่ช่วยให้เราอ่านบทความตามลิงก์ได้อย่างรวดเร็วบนอุปกรณ์พกพา โดยแสดงผลเนื้อหาตามฟอร์แมตของ Facebook แทนการโหลดหน้าเว็บโดยตรง (เทคโนโลยีอิงจาก RSS)
ฟีเจอร์นี้เปิดตัวในสหรัฐตั้งแต่กลางปี วันนี้เปิดตัวในไทยแล้ว โดยลิงก์จากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก จะแสดงผลแบบ Instant Articles บนแอพมือถือแทนการโหลดเว็บ ส่วนสำนักข่าวอื่นที่เข้าร่วมโครงการได้แก่ ไทยรัฐ, เดลินิวส์, มติชน, ข่าวสด, ประชาชาติ ธุรกิจ, เนชั่น ทีวี, ผู้จัดการออนไลน์, Kapook จะเปิดบริการในเร็วๆ นี้
ปกติแล้ว Facebook มี Page Plugin ให้เจ้าของเพจสามารถฝัง widget ของเพจบนเว็บไซต์ของตัวเองได้ สิ่งที่ปลั๊กอินตัวนี้ทำได้คือปุ่มไลค์เพจ และแสดง news feed ของเพจบนหน้าเว็บไซต์
แต่คราวนี้ Facebook เพิ่มความสามารถใหม่ให้ Page Plugin เปิดให้คนเข้าเว็บสามารถแชทคุยกับเพจได้จากปลั๊กอิน โดยไม่ต้องเข้ามาส่งข้อความในเพจเลย ฟีเจอร์นี้ย่อมช่วยให้เพจของร้านค้าต่างๆ สามารถรับการติดต่อจากลูกค้าได้ง่ายกว่าเดิม (จะแสดงในแท็บชื่อ Messages ตามภาพ)
จากที่เราทราบกันดีว่า Mark Zuckerberg กำลังจะได้ลูกสาว วันนี้ลูกสาวคลอดแล้ว ใช้ชื่อว่า Max
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น ในฐานะที่มีลูก เขาประกาศยกหุ้น Facebook สัดส่วน 99% ที่ถือครองอยู่ (มูลค่าประมาณ 45 พันล้านดอลลาร์) ให้กับ Chan Zuckerberg Initiative หน่วยงานการกุศลของเขาและภรรยา โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถของมนุษย์ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมโลกที่ลูกสาวของเขาจะเติบโตขึ้นมา
สิ่งที่ Mark และภรรยา Priscilla สนใจเป็นเรื่องการศึกษาโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง ตอนนี้เขาและภรรยากำลังทดลองการเรียนการสอนรูปแบบใหม่อยู่ ส่วนรายละเอียดของโครงการจะประกาศเพิ่มเติมในอนาคตเมื่อชีวิตครอบครัวเริ่มลงตัวแล้ว
ไม่แน่ใจว่าปัญหาเหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติในประเทศบราซิลนั้นแรงขนาดไหน แต่มีแคมเปญหนึ่งของ Criola group องค์กรไม่แสวงผลกำไรในบราซิล ที่ดูแลเรื่องการต่อต้านการเหยียดผู้หญิงผิวสีในประเทศบราซิล นำคอมเมนต์ในโลกออนไลน์ (ตามภาพคือมีทั้ง Twitter และ Facebook) ที่มีลักษณะก้าวร้าวเชิงเหยียดเชื้อชาติ มาพรินต์ทำเป็นป้ายบิลบอร์ดใหญ่ในละแวกที่เจ้าของคอมเมนต์นั้นอาศัยอยู่ โดยใช้เทคนิค location tag ซึ่งมีหลายป้ายแล้วทั่วบราซิล
Kobe Bryant นักบาสเก็ตบอลคนดังแห่งทีม Los Angeles Lakers เจ้าของแชมป์ NBA ห้าสมัย ประกาศเลิกเล่นบาสเก็ตบอลอาชีพหลังจบฤดูกาลนี้ ผ่านช่องทางโซเชียลทั้ง Twitter และ Facebook
ตามปกติแล้ว นักกีฬามักใช้วิธีนั่งแถลงข่าวการอำลาวงการอย่างเป็นทางการ แต่กรณีของ Kobe กลับเลือกใช้การโพสต์ผ่านโซเชียลแทน (เขามีคนติดตามใน Twitter เกือบ 8 ล้านคน และแฟนเพจ Facebook มากกว่า 20 ล้านคน)
Kobe ใช้การโพสต์จดหมายอำลาแฟนๆ ในเว็บ playerstribu.ne แล้วแชร์ต่อบนโซเชียลอีกที ขณะที่เขียนข่าว เว็บล่มไปแล้วเรียบร้อย (สำเนาจดหมายอ่านได้จาก TechCrunch)
เมื่อปี 2011 นักบาสเก็ตบอลชื่อดังอีกคนคือ Shaquille O’Neal ก็เคยใช้ Twitter โพสต์อำลาวงการมาก่อนแล้ว
ที่มา - TechCrunch
จากข่าว Mark Zuckerberg ลางาน 2 เดือน เพื่อเลี้ยงลูกสาวที่กำลังจะคลอด ช่วยให้คนหันมาสนใจประเด็น "วันลาของพ่อ" สำหรับเด็กแรกเกิดมากขึ้นมาก
กรณีของ Facebook มีเงื่อนไขว่าให้พ่อลาหยุดได้สูงสุด 4 เดือน โดยที่ยังได้เงินเดือนอยู่ (Zuckerberg ใช้สิทธิ 2 เดือน) แต่เงื่อนไขนี้จำกัดเฉพาะพนักงานในสหรัฐเท่านั้น หลังจากข่าวการใช้สิทธิลาของซีอีโอ Zuckerberg ส่งผลให้บริษัทประกาศเงื่อนไข 4 เดือนกับพนักงานทุกคนทั่วโลก โดยไม่จำกัดเพศ และรวมถึงกรณีแต่งงานกับเพศเดียวกันที่รับบุตรบุญธรรมด้วย
บริษัทไอทีอื่นๆ ที่มีนโยบายแบบนี้คือ Netflix, Amazon, Microsoft
Facebook ออก SDK ให้ระบบปฏิบัติการ tvOS ของแอปเปิล เพื่อให้นักพัฒนาแอพสำหรับ Apple TV เรียกฟีเจอร์พื้นฐานของ Facebook ได้ดังนี้
จุดที่น่าสนใจคือ Facebook Login บนทีวี ไม่จำเป็นต้องใส่รหัสผ่านยาวๆ ด้วยรีโมท แต่ใช้วิธีป้อนโค้ดที่แสดงบนหน้าจอทีวีลงในแอพ Facebook บนสมาร์ทโฟนหรือบนพีซีแทน
ตัว SDK for tvOS ยังมีสถานะเป็นเบต้าครับ
ที่มา - Facebook Developers
ช่วงนี้หน้าวอลล์ Facebook ของเราอาจเห็นเพื่อนหลายคนเล่นแอพชื่อ Most Used Words ที่ช่วยวิเคราะห์ว่าเราพิมพ์คำไหนมากที่สุดเท่าที่ใช้งาน Facebook มา แอพตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วโลก มียอดแชร์มากกว่า 16 ล้านครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าแอพตัวนี้นำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ (ตามที่ขอตอนเรียกแอพครั้งแรกแต่คนมักไม่สนใจ) ไปขายต่อ ข้อมูลที่แอพดูดไปมีทั้งข้อมูลส่วนตัว รายชื่อเพื่อน รูปภาพ ประวัติการไลค์ หมายเลขไอพี และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เราใช้งาน
แอพตัวนี้เป็นผลงานของบริษัทเกาหลีใต้ชื่อ Vonvon.me ซึ่งทางบริษัทก็ออกมาตอบโต้ว่าไม่ได้นำข้อมูลไปขาย แม้ในเอกสารนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทจะระบุว่ามีสิทธินำข้อมูลบางส่วนไปใช้งานก็ตาม
dtac เป็นโอเปอเรเตอร์ไทยรายที่สอง (ถัดจาก TrueMove H) ที่ร่วมมือกับโครงการ Internet.org ของ Facebook ให้บริการ Free Basics อินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานฟรี
ปัจจุบัน dtac มีลูกค้าในระบบ 25 ล้านราย ในจำนวนนี้มีลูกค้าที่ใช้งานดาต้าน้อยและยังไม่มีประสบการณ์ใช้งานเลยรวมแล้ว 14 ล้านราย หรือคิดเป็น 56 % ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ต ความร่วมมือครั้งนี้ส่งผลให้ dtac จัดจุดบริการให้ครอบคลุมลูกค้า 4 ประเภท ได้แก่