Sonos แบรนด์เครื่องเสียงและลำโพงชื่อดัง ยื่นฟ้องกูเกิลข้อหาขโมยทรัพย์สินทางปัญญาด้านลำโพงอัจฉริยะ หลังทำงานร่วมกับกูเกิล แล้วกูเกิลทำลำโพง Google Home ออกมาแข่งในภายหลัง

ความสัมพันธ์ของ Sonos กับกูเกิลเริ่มต้นในปี 2013 จากการที่กูเกิลนำบริการ Google Play Music มาอยู่บนลำโพงของ Sonos โดย Sonos แชร์เทคโนโลยีด้านลำโพงให้กูเกิลรับรู้ด้วย เพราะไม่คิดว่ากูเกิลจะลงมาทำลำโพงแข่งกับตัวเอง

แต่หลังจากกูเกิลนำ Google Home เข้าสู่ตลาด Sonos พบว่ากูเกิลละเมิดสิทธิบัตรของตัวเองหลายอย่าง เช่น การซิงก์ลำโพงไร้สาย และหลังจากพยายามเจรจาเรียกค่าเสียหายไม่เป็นผล จึงตัดสินใจยื่นฟ้องกูเกิลในที่สุด

มีผู้ใช้กล้องวงจรปิด Xiaomi Mijia Smart IP Security Camera เปิดดูภาพจากกล้องของตัวเอง แล้วพบว่าได้ภาพจากกล้องบ้านอื่นมาแทน

อาการจะเกิดเมื่อเชื่อมต่อแอพของ Xiaomi (Mi Home หรือ Mijia ในเวอร์ชันจีน) เข้ากับอุปกรณ์ของ Google/Nest (เช่น ดูภาพจากกล้องผ่านหน้าจออัจฉริยะ Nest Hub Max) อาการจะเห็นเป็นภาพล้ม ไม่ชัด และมีภาพจากกล้องตัวอื่นแทรกเข้ามา

ผู้ใช้เหล่านี้รายงานปัญหาเข้ามาในกระทู้ Reddit และล่าสุดกูเกิลยืนยันปัญหาแล้วว่ามาจากฝั่ง Xiaomi โดยมาตรการของกูเกิลคือปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Mi Home กับ Google Assistant ชั่วคราว จนกว่า Xiaomi จะแก้ปัญหาได้

Canalys บริษัทวิจัยตลาดปล่อยรายงานส่วนแบ่งการตลาดลำโพงอัจฉริยะไตรมาส 3 ปี 2019 ออกมา ทั้งตลาดเติบโตจากปีที่แล้ว 44% ส่งมอบไปทั้งหมด 28.6 ล้านชิ้น ที่น่าสนใจคือ Google จากเดิมที่เป็นเบอร์ 2 ของตลาด ตกลงไปเป็นที่ 4 แพ้ในแง่ส่วนแบ่งให้กับ Alibaba และ Baidu ที่ขายเฉพาะในจีน

Amazon ยังคงเป็นเบอร์ 1 เหนียวแน่นเช่นเดิม ส่งมอบไป 10.4 ล้านชิ้น ส่วนแบ่งตลาด 36.6% เพิ่มขึ้น 65.9% ส่วนใหญ่ได้มาจากวันลดราคา Prime Day ตามมาด้วย Alibaba และ Baidu ที่ 3.9 ล้านและ 3.7 ล้านชิ้น ส่วนแบ่ง 13.6% และ 13.1% ตามลำดับ โดย Alibaba เติบโต 77.6% และ Baidu โต 290.1% เขี่ยเบอร์ 2 เดิมอย่าง Google ลงมาที่ 4 ส่งมอบ 3.5 ล้านชิ้น ส่วนแบ่ง 12.3% เติบโตติดลบ 40.1%

Spotify ใจป้ำ ประกาศแจกลำโพงอัจฉริยะ Google Home Mini ให้กับลูกค้าพรีเมียมทั้งใหม่และเก่า ทั้งแบบบัญชีปกติและบัญชีแบบครอบครัว โดยมีเงื่อนไขเพียงว่าจนกว่าของจะหมดเท่านั้น

ปีที่แล้ว Spotify ก็เคยประกาศแจกลำโพง Google Home Mini แต่เฉพาะกับลูกค้าบัญชีพรีเมียมแบบครอบครัวเท่านั้น

แนวทางการแจกลำโพงอัจฉริยะของ Spotify อาจมีจุดประสงค์เพื่อจูงใจให้คนสมัครบัญชีแบบพรีเมียม (ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ของ Spotify ในระยะยาว) แต่ในอีกทางก็ช่วยผลักดันการใช้ลำโพงอัจฉริยะในบ้านเรือนเช่นกัน

แน่นอนว่าโปรโมชั่นดีๆ แบบนี้มีเฉพาะกับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น (เก็บไว้เขียนบรรทัดสุดท้าย)

Google เปิดตัวลำโพงอัจฉริยะขนาดเล็ก Nest Mini (ชื่อเดิม Google Home Mini) รุ่นใหม่ ดีไซน์ยังคงเดิม แต่ปรับปรุงภายในใหม่ โดยเฉพาะระบบเสียงถูกปรับปรุงด้วยซอฟต์แวร์ให้เล่นเสียงได้ทุกย่านเสียง รวมถึงมีการปรับปรุงเบสให้แน่นและชัดกว่าเดิม 2 เท่า

ตัว Nest Mini ใหม่เองก็รองรับการปรับเสียงให้ดังขึ้นหรือเบาลงตามสภาพแวดล้อมด้วย ขณะที่การสั่งงานด้วย Google Assistant ก็จะไวมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีชิปประมวลผล Machine Learning ในตัว มีพลังประมวลผลที่ 1 TeraOPS ช่วยให้การประมวลผลเกิดขึ้นได้เลยที่ตัวฮาร์ดแวร์ ไม่ต้องส่งกลับไปถึงเซิร์ฟเวอร์

Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Stream Transfer สำหรับย้ายการเล่นเพลงหรือแคสต์วิดีโอไปย้ายลำโพงหรือ Chormecast เครื่องอื่นภายในบ้านที่มีหลายอุปกรณ์ในหลายห้อง

ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ทั้งผ่าน Google Assistant หรือควบคุมผ่านแอป Google Home แล้วเลือกที่ปุ่มแคสต์ เลือกอุปกรณ์หรือกลุ่มอุปกรณ์ที่จะให้เพลงหรือพ็อดคาสต์ไปเล่น

ที่มา - Google Blog

เป็นที่รู้จักกันว่าในตลาดลำโพงอัจฉริยะ Amazon Echo เป็นเบอร์ 1 ในตลาดมาตลอด ตามมาด้วย Google Home ทว่าล่าสุดบัลลังก์ Google ถูกสั่นคลอนด้วย Baidu จากจีนแล้ว เมื่อรายงานไตรมาสที่ผ่านมาจาก Canalys เผยว่า Baidu มียอดส่งมอบ 4.5 ล้านชิ้น ส่วนแบ่งตลาด 17.3% เติบโตจากปีที่แล้ว 3,700%

เบอร์ 1 อย่าง Amazon Echo มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 25.4% เติบโต 61.1% สวนทางกับเบอร์ 3 อย่าง Google ที่ส่วนแบ่งเหลือ 16.7% เติบโตลดลง -19.8% ส่วนอีก 2 อันดับที่เหลือในท็อป 5 เป็นแบรนด์จีนคือ Alibaba ส่วนแบ่ง 15.8% โต 38.8% และ Xiaomi 10.8% โต 37.5%

เว็บ 9to5Google อ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เผยว่ากูเกิลเตรียมออก Google Home Mini รุ่นที่สอง ต่อจากรุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2017 โดยจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อแบรนด์ว่า Nest Mini ตามยุทธศาสตร์ใหม่ที่กูเกิลประกาศว่าอุปกรณ์ลำโพงจะเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ Nest แทน

ข้อมูลสเป็กที่มีรายงานนั้นบอกว่า Nest Mini ขนาดอาจเท่ากับหรือใหญ่กว่า Google Home Mini รุ่นแรกเล็กน้อย ส่วนคุณภาพเสียงมีการปรับปรุงที่ดีขึ้นมาก และอาจแถมตัวติดตั้งสำหรับแขวนบนฝาผนังด้วย ที่น่าสนใจคือจะมีช่องต่อสัญญาณเสียง 3.5 มม. สำหรับสาย aux แบบ Amazon Echo Dot ด้วย รวมทั้งอาจมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว

กูเกิลเริ่มผลิตฮาร์ดแวร์ของตัวเองมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้งมือถือ Google Pixel และลำโพงอัจฉริยะ Google Home ภายใต้ชื่อแบรนด์ "Made by Google"

ล่าสุดกูเกิลเผยว่า ภายในปี 2022 บริษัทให้สัญญาว่าผลิตภัณฑ์ Made by Google ทั้งหมดจะมีมีวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบ และจะเพิ่มวัสดุรีไซเคิลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และภายในปี 2020 การจัดส่งจะไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นอากาศ

VRT NWS องค์กรข่าวในเบลเยี่ยมเผยว่าได้ฟังข้อมูลการสนทนาระหว่างคนกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant เป็นหลักพันไฟล์ โดยได้รับมาจาก subcontractor ของ Google อีกที และยังยืนยันด้วยว่ามีข้อมูลอ่อนไหวด้วย ทำให้สังคมสงสัยว่าข้อมูลการสนทนาพวกนี้มีพนักงานหรือคนใน Google เข้าถึงได้ด้วยหรือ และข้อมูลที่พนักงานได้ฟังมีอะไรบ้าง

ตรงตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ว่ากูเกิลจะผนวกแบรนด์ Nest เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์สายฮาร์ดแวร์ ในงาน Google I/O 2019 รอบนี้ กูเกิลก็ประกาศว่าจะรวมสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฮม ทั้งแบรนด์ Google Home และ Nest เข้าด้วยกันเป็นแบรนด์ใหม่ Google Nest

สินค้าเดิมในแบรนด์ Nest จะถูกรีแบรนด์เป็น Google Nest, บัญชีผู้ใช้ Nest จะย้ายมาใช้ Google Accounts, แอพ Nest จะอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนถูกผนวกเข้ากับแอพของกูเกิลในอนาคต, โครงการ Works with Nest สำหรับนักพัฒนา จะถูกยุบรวมกับ Works with Google Assistant

ผู้บริหารของ Alphabet ตอบคำถามในงานแถลงผลประกอบการ Q1/2019 ยอมรับว่ายอดขายของสมาร์ทโฟน Pixel ตกลงจากปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการแข่งขันที่สูงมากของตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมียม ซึ่งมีการลดราคาเรียกลูกค้ากันอย่างมาก

Ruth Porat ซีเอฟโอของ Alphabet ยังบอกว่าตลาดอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่เชื่อมต่อกับ Google Assistant ยังไปได้ดี โดยเฉพาะ Google Home Hub และ Google Home Mini

ส่วน Sundar Pichai ซีอีโอก็ยืนยันว่าบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ Pixel, Nest, Home ต่อไปเช่นเดิม เขายังคาดการณ์ว่าตลาดฮาร์ดแวร์จะน่าสนใจขึ้นจากเทคโนโลยี 5G และมือถือจอพับได้ ซึ่ง Android จะเป็นส่วนสำคัญของความเคลื่อนไหวนี้

Google และ Amazon ประกาศพร้อมๆ กันว่าผู้ใช้งานลำโพงอัจฉริยะ Google Home และ Amazon Echo สามารถฟังเพลงสตรีมมิ่งจากแพลตฟอร์มของบริษัทได้ฟรีไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้บริการสตรีมมิ่งรายเดือนเพิ่มถ้าไม่อยากจ่าย

กล่าวคือ ผู้ใช้ Google Home ฟังเพลงจาก YouTube Music ส่วนผู้ใช้ลำโพง Amazon Echo ก็ฟังเพลงจาก Amazon Music ได้ฟรีเช่นกัน แต่มีโฆษณาทั้งคู่ และยังไม่สามารถควบคุมเพลงได้เหมือนเวอร์ชั่นเสียเงิน ดังนั้นเมื่อผู้ใช้ใช้งานจึงสามารถเลือกเพลงได้เป็นชนิดเท่านั้น เช่น เพลงป๊อบ เพลงลาติน เพลงดังตอนนี้ เป็นต้น

มีผู้อ่าน MacRumors รายงานว่า เขาพบในแอป Google Home บน iOS ว่ามีตัวเลือกบริการฟังเพลงที่รองรับ ปรากฏชื่อ Apple Music รวมอยู่ด้วย แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ตอนนี้

ในแอป Google Home เวอร์ชันก่อนหน้านี้ก็เคยปรากฏชื่อ Apple Music มาแล้ว แต่ระบุเปิดให้ใช้งานได้จำกัด และใช้ได้กับอุปกรณ์ iOS เท่านั้น ซึ่งก็แปลว่าน่าจะสามารถใช้งานได้เร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้คาดว่าการใช้งาน Apple Music บนอุปกรณ์ Google Home จะเหมือนกับการใช้งานผ่าน Amazon Echo ที่รองรับไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

Google Assistant เพิ่มความสามารถใหม่ Assistant's Interpreter mode แปลภาษาและการสนทนายาวๆ ได้แบบเรียลไทม์ เริ่มใช้งานได้ในอุปกรณ์หน้าจออัจฉริยะที่รองรับ Google Assistant

ในการใช้งานให้พูด Hey Google, be my Thai interpreter จากนั้นก็จะได้ยินเสียบบี๊บ และ Google Assistant จะบอกให้เริ่มพูด เมื่อพูดจบ ระบบจะส่งเสียง บี๊บ อีกครั้ง และพูดแปลเป็นภาษาไทยให้ พร้อมกับข้อความแปลปรากฏบนหน้าจอด้วย โดย Assistant's Interpreter mode รองรับการแปล 27 ภาษา

Google เริ่มจริงจังและตั้งแผนกฮาร์ดแวร์แยกมาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งถึงแม้จะตั้งไม่นานและรายได้ของฮาร์ดแวร์ยังไม่ถูกแยกออกมาในรายงานงบประมาณ เพราะถูกจัดอยู่ในกลุ่มอื่นๆ (others revenue) ที่รวมกับธุรกิจคลาวด์และ Play Store แต่นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets คาดการณ์ว่ารายได้ของฮาร์ดแวร์ก็ไปได้สวยกว่าที่เห็น

RBC คาดการณ์ว่ารายได้รวมของฮาร์ดแวร์ปีนี้ของ Google จะอยู่ที่ราว 8.8 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วจาก 5.3 พันล้านอยู่ราว 65% กำไรปีนี้อยู่ที่ 2.99 พันล้าน เพิ่มขึ้น 55% โดยรายได้และกำไรที่เยอะที่สุดมาจากกลุ่ม Pixel และ Google Home ตามมาด้วย Nest และ Chromecast

Home Alone เป็นภาพยนตร์ปี 1990 ที่โด่งดังไปทั่วโลก และประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่รายได้ เนื้อเรื่อง (สำหรับคนที่เกิดไม่ทัน) คือเด็กชายอายุ 8 ขวบต้องอยู่บ้านเพียงลำพังในคืนวันคริสต์มาส และเอาชนะโจรที่มาปล้นบ้านด้วยการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านให้เป็นประโยชน์

เวลาผ่านมา 28 ปี กูเกิลนำ Macaulay Culkin ดารานำของเรื่องกลับมาแสดงภาพยนตร์โฆษณาล้อเลียน Home Alone อีกครั้ง แต่รอบนี้ใช้ชื่อว่า Home Alone Again ซึ่งเป็นการโฆษณาฟีเจอร์ของลำโพง Google Home

โฆษณาชิ้นนี้แสดงให้เห็นฟีเจอร์ของอุปกรณ์ตระกูล Google Home (ซึ่งมาครบทั้ง Google Home, Home Mini, Home Hub) ทั้งการให้ข้อมูลทั่วไป, การดูภาพจากกล้องหน้าบ้านผ่านจอ Home Hub และการสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

ตัวละครมิกกี้เมาส์ที่เป็นที่รักของคนทั่วโลก มีอายุครบ 90 ปี Google จึงทำแท่นตั้ง Google Home Mini ที่เป็นปกคอเสื้อสีแดงของมิกกี้เมาส์ พร้อมหูหนู ให้ความรู้สึกเป็นมิกกี้เมาส์จริงๆ

ตัวแท่นวางสั่งซื้ออนไลน์ได้ในราคา 19.95 ดอลลาร์

Google Home รองรับการซิงก์เพลง ออดิโอบุ๊คหรือพ็อดคาสต์หลายๆ ตัวพร้อมกันนานแล้ว ล่าสุด Chromecast ก็เข้ามาร่วมวงความสามารถนี้ด้วย ทำให้สามารถเปิดเพลงพร้อมกันทั้งบ้าน ได้ทั้งบนทีวีและลำโพงอัจฉริยะ

ขณะที่ Google Home Hub เองก็เตรียมจะได้ความสามารถเดียวกันนี้ในเร็วๆ นี้ ขณะที่การสั่งซิงก์เพลงสามารถทำได้ผ่านแอป Google Home บนสมาร์ทโฟนเช่นเดิม

ที่มา - Venturebeat

Canalys รายงานยอดส่งมอบลำโพงอัจฉริยะทั่วโลกประจำไตรมาส 3 ออกมาปรากฎว่าเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วถึง 137% โดย Amazon กลับขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของตลาดได้อีกครั้ง หลัง Google ครองส่วนแบ่งไปมากสุด 2 ไตรมาสที่ผ่านมา

ไตรมาสที่ผ่านมา Amazon ส่งมอบไปทั้งหมด 6.3 ล้านชิ้น ส่วนแบ่ง 31.9% ตามมาด้วย Google ที่ 5.9 ล้านชิ้น ส่วนแบ่ง 29.8% ส่วนเบอร์ 3 และ 4 ยังคงเป็น Alibaba และ Xiaomi ที่ 11.1% และ 9.7% ตามลำดับ Canalys ระบุด้วยว่าไตรมาสที่ผ่านมา Baidu กระโดดลงมาเล่นในตลาดนี้และพร้อมชนกับ Alibaba และ Xiaomi แล้ว ขณะที่ขนาดของตลาดจีนและสหรัฐรวมกันกินส่วนแบ่งไปถึง 70% ทั่วทั้งโลก

เก็บตกรายละเอียดหลังเปิดตัว Google Home Hub หน้าจออัจฉริยะ (Smart Display) แบรนด์ของกูเกิลเอง

Ars Technica มีประเด็นน่าสนใจจากการพูดคุยกับวิศวกรของกูเกิล ว่า Home Hub ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Things (Android เวอร์ชัน IoT) เหมือนกับ Smart Display ตัวอื่นๆ ของพาร์ทเนอร์กูเกิล เช่น Lenovo Smart Display, LG, JBL

กูเกิลอัพเดตแอพ Google Home พร้อมการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ Google Home Hub โดยเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ของแอพ Google Home ให้สามารถควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้จากหน้าจอเดียว

หน้าตาของแอพ Google Home ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด หน้าจอหลักของแอพกลายเป็นรายการอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่เชื่อมต่อกับ Google Assistant พร้อมคำสั่งควบคุมที่สำคัญของอุปกรณ์นั้นๆ เช่น ปิดเปิดไฟ เล่นเพลงผ่านลำโพง

แอพ Google Home ยังถูกออกแบบมาเป็นแอพสำหรับควบคุมบ้านในช่วงที่เราออกนอกบ้าน สามารถติดตามสถานะต่างๆ ได้ และมีระบบจัดการผู้ใช้ที่อยู่ในบ้านเดียวกัน สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างทัดเทียมกัน

แอพปล่อยอัพเดตแล้วทั้งเวอร์ชัน Android และ iOS

หลัง Facebook เปิดตัวหน้าจออัจฉริยะ Portal ได้เพียงสองวัน Google ก็เปิดตัว Google Home รุ่นใหม่ออกมาคือ Google Home Hub หน้าจออัจฉริยะสีหวาน ที่มาพร้อมฟีเจอร์เด่นคือแยกเสียงคนในบ้าน และมอบประสบการณ์ใช้งานที่เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละคนโดยแยกแยะเอาจากเสียงได้ และไม่มีกล้องติดมากับตัวฮาร์ดแวร์

Walmart เชนร้านค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกา ได้แจ้งผู้ผลิตสินค้ากลุ่ม Smart Home เพื่อจำหน่ายภายในร้าน โดยระบุข้อกำหนดว่าสินค้านั้นต้องรองรับการทำงานร่วมกับ Google Home เสมอ ส่วนการทำงานร่วมกับ Alexa ของ Amazon จะได้หรือไม่ก็ไม่บังคับ แต่หากรองรับ Alexa ด้วย ก็ให้ติดฉลากการรองรับ ไว้ที่ด้านข้างหรือด้านหลังกล่องผลิตภัณฑ์เท่านั้น

ผู้ผลิตสินค้าหลายรายยืนยันว่า Walmart แจ้งข้อกำหนดนี้จริง แถมผู้ผลิตบางรายบอกว่า Walmart ยังแนะนำว่าจะดีมาก หากบริการนั้นไม่ได้รันอยู่บน AWS

กูเกิลประกาศเพิ่มสีใหม่ให้กับ Google Home Mini นั่นคือโทนสีฟ้า ซึ่งกูเกิลใช้ชื่อเรียกสีสำหรับ Google Home Mini อันนี้ว่าสีน้ำทะเล (Aqua)

ผ้าทอที่ใช้เป็นวัสดุเดียวกับ 3 สีของ Google Home Mini ที่มีขายในช่วงเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ สีส้ม Coral, สีเทา Chalk และดำ Charcoal ส่วนคุณสมบัติการใช้งานก็เหมือนเดิมทุกประการ

Isabelle Olsson หัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของ Google Home บอกว่า สีฟ้า Aqua นี้ให้ความรู้สึกเย็น ซึ่งเป็นการให้โทนสีที่ตรงข้ามกับส้ม Coral อีกทั้ง Google Home ก็กลายมาเป็นของตกแต่งในบ้าน จึงควรเพิ่มตัวเลือกสีที่หลากหลายให้ตรงความต้องการลูกค้ามากขึ้น