Google Search บนมือถือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สามารถเลื่อนดูผลการค้นหาลงไปได้ยาวๆ โดยไม่ต้องกด See More เริ่มต้นเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สามารถใช้งานได้ทั้งแอป Search และเว็บบราวเซอร์บนมือถือ ให้ประสบการณ์การใช้งานคล้ายการเลื่อนหน้าจอดู Instagram และ TikTok
กูเกิลระบุด้วยว่า พฤติกรรมคนค้นหา กดดูผลการค้นหาสูงสุดที่ 4 หน้า ก่อนจะกดเข้าไปยังเว็บไซต์ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
Google Search เพิ่มเครื่องมือใหม่ในผลการค้นหา นั่นคือเครื่องมือช่วยตั้งสายกีตาร์ โดยเมื่อเสิร์ชคำว่า Google tuner จะแสดงเครื่องมือสำหรับตั้งสายกีตาร์ดังกล่าวขึ้นมาเลย
เครื่องมือนี้แสดงผลและใช้งานได้ ทั้งจากการค้นหาจากบนมือถือและบนเดสก์ท็อป ในการใช้งานต้องการเชื่อมต่อกับไมโครโฟนของอุปกรณ์เท่านั้น
ทั้งนี้แอปสำหรับช่วยตั้งสายกีตาร์ เป็นอีกหมวดแอปที่มีผู้ดาวน์โหลดมาใช้งานจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเครื่องมือที่แสดงในผลค้นหาของกูเกิลนั้น เป็นการทำงานเบื้องต้นเท่านั้น หากต้องการความละเอียดก็อาจต้องใช้งานแอปเฉพาะทางเพิ่มเติมนั่นเอง
ที่มา: Android Police
สำนักข่าว Bloomberg รายงานเนื้อหาเพิ่มเติมจากการไต่สวนคดีที่สหภาพยุโรป สั่งปรับกูเกิล 4,342 ล้านยูโรในปี 2018 ด้วยข้อหาผูกขาดทางการค้า Android ที่ระบุว่ากูเกิลบังคับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต้องลง Google Search และ Chrome โดยคราวนี้เป็นประเด็นเรื่องการผูกขาดเสิร์ชบน Android
ทนายความของกูเกิลให้ข้อมูลว่า มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่คำที่คนค้นหามากที่สุดบน Bing เสิร์ชเอ็นจินคู่แข่งของกูเกิลของไมโครซอฟท์ ก็เป็นคำว่า Google สะท้อนให้เห็นว่า การที่คนใช้กูเกิลเป็นเสิร์ชหลักนั้นเพราะพวกเขาเลือกเอง ไม่ใช่ถูกบังคับให้ใช้ ส่วนแบ่งการตลาดของเสิร์ชเอ็นจินของกูเกิลก็ยังสูงที่ระดับ 95% มาโดยตลอด
กูเกิลเพิ่ม dark mode ในแอป Google Search บน Android และ iOS ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุดกูเกิลประกาศว่าได้รองรับ dark mode สำหรับเสิร์ชบนเดสก์ทอปแล้วเช่นกัน โดยจะมีผลกับผู้ใช้ทุกคนในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
การเปิดใช้งาน dark mode บนเดสก์ทอป ให้ไปที่ Settings ด้านล่างขวาของจอ และเลือก Appearance จากนั้นเลือก Dark theme
กูเกิลบอกว่าจะเพิ่มปุ่มเปิดสลับโหมดการแสดงผลนี้อย่างรวดเร็วที่ด้านบนขวา โดยจะเพิ่มเข้ามาในอนาคต
ที่มา: 9to5Google
เป็นที่รู้กันมานานว่ากูเกิลได้จ่ายเงินให้แอปเปิล ด้วยจำนวนที่สูงในทุกปี เพื่อแลกกับการถูกกำหนดเป็นเสิร์ชค่าเริ่มต้นใน iPhone, iPad และ Mac แต่ไม่เคยมีตัวเลขออกมาเป็นทางการ อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์อยู่ทุกปี และปีนี้ก็คาดว่าอาจสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ (2019 ประเมินไว้เกือบหมื่นล้าน)
Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์จาก Bernstein ให้ข้อมูลว่าปี 2021 กูเกิลน่าจะจ่ายเงินให้แอปเปิลส่วนนี้ราว 15,000 ล้านดอลลาร์ และในปี 2022 ตัวเลขน่าจะอยู่ในช่วง 18,000-20,000 ล้านดอลลาร์ โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากรายได้ส่วน Services ของแอปเปิลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไปสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายสำหรับการเพิ่มทราฟิกให้เว็บกูเกิล (TAC - Traffic Acquisition Costs)
Google Search เพิ่มการแสดงผล About This Result หรือการให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ระบบใช้คำไหนที่เราพิมพ์ค้นหาไปสร้างผลการค้นหาบ้าง เป็นการให้ภาพรวมแก่ผู้ใช้งานเพิ่มเติมว่า ทำไมกูเกิลถึงแสดงผลการค้นหาให้เราแบบนี้
กูเกิลให้ลบประวัติการค้นหาบนมือถือได้ย้อนหลัง 15 นาที เริ่มใช้งานใน iOS ก่อนจะขยายไปยัง Android ต่อไป โดยปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถลบประวัติการค้นหาและกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตอัตโนมัติได้ 3,18,36 เดือน ทางเลือกในการลบ 15 นาทีช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องสลับไปค้นหาในโหมดไร้ตัวตนได้
เป็นบริการที่อยากให้มีในไทยบ้าง โดยเฉพาะช่วงเวลาลำบากแบบนี้ กูเกิลในสหรัฐฯ เปิดตัว Find Food Support เครื่องมือค้นหาแหล่งแจกจ่ายอาหารฟรีทั่วสหรัฐฯ โดยกูเกิลร่วมมือกับหน่วยงานไม่แสวงหากำไร No Kid Hungry และ FoodFinder รวมถึงกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ จัดทำแผนที่และเครื่องมือค้นหาขึ้น
Google Search จะเริ่มขึ้นป้ายเตือนสำหรับผลการค้นหาในประเด็นที่ "เปลี่ยนแปลงบ่อย" เช่น ประเด็นข่าวหรือสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่มีคำตอบหรือข้อมูลอย่างเป็นทางการ
ในตัวอย่างของกูเกิลเป็นเรื่อง คลิป UFO ที่เริ่มมีการพูดถึงในโซเชียล แต่ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการว่าจริงแค่ไหน
กูเกิลบอกว่าขึ้นป้ายนี้เพื่อแก้ปัญหาข่าวปลอมหรือข้อมูลผิดพลาด ซึ่งมักเกิดในข่าวด่วนหรือเหตุการณ์ด่วน ที่ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือขึ้นบนสื่อออนไลน์
การขึ้นป้ายจะเริ่มสำหรับผลการค้นหาเป็นภาษาอังกฤษ แสดงเฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาก่อน แล้วค่อยขยายไปยังภาษา-ภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป
ที่มา - Google
ปัจจุบัน Google มีเครื่องมือ Search Console เป็นบริการฟรีจาก Google ชื่อเดิมคือ Webmaster Tools ที่ช่วยตรวจสอบและติดตามเว็บไซต์ที่ปรากฏในผลการค้นหา
ล่าสุด Google เปิดตัว Search Console Insights ผสานความสามารถของ Search Console และ Google Analytics เข้ามาเสริมเพื่อให้ภาพรวมว่าเว็บไซต์ของผู้ใช้งานนั้นแสดงผลบน Google ได้ดีขนาดไหน และผลงานชิ้นไหนที่กำลังขึ้นเทรนด์ในขณะนี้
เนื่องในเดือน Pride Month หรือเดือนแห่งการแสดงออกความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ ซึ่งตรงกับเดือนมิถุนายนของทุกปี Google เพิ่มฟีเจอร์ให้เจ้าของธุรกิจ ห้างร้าน สามารถระบุรายละเอียดร้านค้าของเราใน Google Maps และ Google Search ได้ว่า มีห้องน้ำไร้เพศ ให้บุคคลข้ามเพศ หรือคนที่เป็น nonbinary เข้ามาใช้ได้
โดยข้อมูลห้องน้ำ จะแสดงในแท็บ About เป็นอีกฟีเจอร์เพิ่มเข้ามาจาก 3 ปีที่แล้ว ที่ธุรกิจสามารถระบุข้อมูลใน Google ได้ว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยกับบุคคลข้ามเพศ
เว็บไซต์ 9to5Google สังเกตเห็นปุ่มลัดใหม่ Google Search คือกด / ที่แป้นคีย์บอร์ดเพื่อพิมพ์คำค้นหาในช่อง Search ได้ทันทีโดยไม่ต้องเลื่อนเมาส์ไปจ่อ
ในตอนที่ผู้ใช้พิมพ์ค้นหา แล้วปรากฏผลลัพธ์การค้นหา ตรงด้านซ้ายล่างของหน้าจอ กูเกิลจะแสดงป้ายบอกว่าสามารถกด / เพื่อพิมพ์ค้นหาอีกครั้งได้ เมื่อกดแล้ว เคอร์เซอร์จะปรากฏที่ช่องค้นหาให้ทันที
หนึ่งในข่าวใหญ่ที่คนติดตามคือสถานการณ์เรือยักษ์ Ever Given ที่ติดคาคลองสุเอซ ส่งผลกระทบต่อเรือขนส่งสินค้าอื่นๆ ซึ่งกลับมาเดินเรือได้เป็นปกติแล้ว
ล่าสุด กูเกิลเพิ่มลูกเล่นใน Google Search หากค้นหาคำว่า Suez Canal หรือคลองสุเอซ และ Ever Given ชื่อเรือขนส่งสินค้าที่เป็นประเด็นอยู่นี้ กูเกิลจะแสดงแอนิเมชั่นเรือเล็กๆ ตรงผลการค้นหาให้ด้วย
Rand Fishkin ผู้ก่อตั้ง SparkToro เผยแพร่ผลการศึกษาจากข้อมูลของ SimilarWeb ในช่วงเดือนมกราคม-ธันวาคม ปี 2020 พบว่า 64.82% หรือเกือบ 2 ใน 3 ของการเสิร์ชกูเกิล (รวมเดสก์ท็อปและมือถือ) จบลงที่หน้าผลลัพธ์การค้นหาในเว็บกูเกิล และไม่มีการคลิกลิงก์ใด ๆ ต่อ ซึ่ง Fishkin เรียกสถานการณ์นี้ว่า Zero-Click สาเหตุนั้นอาจมาจากหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่มีผลก็คือตัวผลการค้นหาของกูเกิลเอง ซึ่งแสดงข้อมูลเบื้องต้นพื้นฐานไว้พอสมควรด้วยเช่นกัน จึงไม่จำเป็นต้องคลิกลิงก์ต่อ
มีข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ หากดู Zero-Click เฉพาะบนมือถือ ตัวเลขสูงถึง 77.22%, การคลิกลิงก์โฆษณาอยู่ที่ 1.59%
Google News มีการแสดงเนื้อหาแบบ Full Coverage หรือการแสดงข่าวจากหลายแหล่งข่าว แสดงข่าวท้องถิ่นของแต่ละคน วิดีโอ ไทม์ไลน์ข่าว หรือความเห็นจากคนในข่าวตามโซเชียลมีเดียด้วย
ล่าสุด กูเกิลนำการแสดงข่าวแบบ Full Coverage มาไว้ในช่องค้นหาตามปกติด้วย เริ่มต้นใช้งานในสหรัฐฯที่แสดงเนื้อหาข่าวเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะขยายภาษาและพื้นที่การใช้งานต่อไป
กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่บน Google Search เมื่อผู้ใช้ค้นหา จะมองเห็นเมนูไอคอนเป็นสามจุดเรียงลงมาปรากฏคู่กับผลการค้นหา สามารถกดเข้าไปดูได้ว่าที่มาของเนื้อหามาจากเว็บไซต์ใด พร้อมคำอธิบายสั้นๆ จากวิกิพีเดียหรือจากแหล่งที่มาอื่น โดยจะแสดงเป็นหน้าต่างป๊อบอัพขึ้นมาเกือบครึ่งหน้าจอ
ในหน้าต่างนั้นยังแสดงข้อมูลด้วยหากเนื้อหาที่กดขึ้นมาไม่ใช่โฆษณา และมีเมนูให้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบน Google Search เพิ่มเติมด้วย ฟีเจอร์ใหม่นี้จะเริ่มในสหรัฐอเมริกา บนเดสก์ท็อปและแอป Google บน Android
จากประเด็นกูเกิลขู่ออสเตรเลียจะเอาบริการค้นหาออก หากรัฐบาลผ่านกฎหมายจ่ายเงินให้สำนักข่าวจากการแสดงเนื้อหาข่าวบนแพลตฟอร์ม ล่าสุด Australian Financial Review (AFR) สื่อออสเตรเลียเผย ไมโครซอฟท์เสนอให้ออสเตรเลียใช้บริการค้นหาของไมโครซอฟท์ ถ้ากูเกิลจะถอดบริการค้นหาออกจากประเทศจริง ใน AFR ยังบอกด้วยว่า Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ พูดคุยเรื่องนี้กับ Scott Morrison นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเลยด้วย
นอกจาก Google ประกาศลงทุน และให้พื้นที่เป็นจุดฉีดวัคซีน COVID-19 แล้ว ยังบอกด้วยว่า จะเพิ่มฟีเจอร์ใน Google แสดงจุดฉีดวัคซีนใน Google Search และ Maps ในบางรัฐคือ แอริโซนา, ลุยเซียนา, มิสซิสซิปปีและเท็กซัส และจะเพิ่มพื้นที่อีกในอนาคต โดยจะแสดงรายละเอียด เช่น ต้องนัดหมายล่วงหน้า, มี drive-through เป็นต้น
กูเกิลเตรียมปรับดีไซน์ Google Search บนมือถือเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ ถ้าไม่เทียบกับของปัจจุบันแทบแยกไม่ออก)
การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือแสดงผลการค้นหาเต็มความกว้างจอ (edge-to-edge), เอาเงาสีเทาข้างหลังออกไปเพื่อให้หน้าเพจแบนราบและเรียบกว่าเดิม, ปรับฟอนต์ใหม่มาใช้ฟอนต์มาตรฐานของกูเกิล เหมือนกับ Android และ Gmail ปรับฟอนต์ให้ใหญ่ขึ้น อ่านง่ายขึ้น สีเข้มขึ้น, ใช้ขอบโค้งมนมากขึ้น (ได้แรงบันดาลใจจากโลโก้กูเกิลเอง) และใช้สีไฮไลท์ส่วนสำคัญมากขึ้น
หน้าผลการค้นหาแบบใหม่จะมีผลในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เว็บไซต์ Search Engine Roundtable ไปเจอว่า Google ทดสอบแสดงผลวิดีโอสั้นจาก TikTok และ Instagram ในผลการค้นหาบนมือถือ เมื่อคลิกเข้าไปดูจะได้ชมเนื้อหาในเวอร์ชั่นเว็บ ไม่ใช่ตัวแอปพลิเคชั่นโดยตรง ถือเป็นการตรึงคนให้อยู่บน Google ได้นานๆ
Google ร่วมมือกับ ModiFace และ Perfect Corp บริษัททำ AR เกี่ยวกับความสวยความงาม ทำฟีเจอร์ลองเครื่องสำอางได้บน Google Search ด้วยกล้องถ่ายรูปเซลฟี่ ลองสีลิปสติกหรืออายชาโดว์ที่เข้ากับตัวเองได้
ฟีเจอร์นี้ยังจำกัดเฉพาะเครื่องสำอางบางแบรนด์ คือ L’Oreal (เจ้าของ ModiFace), MAC Cosmetics, Black Opal และ Charlotte Tilbury เมื่อค้นหาเครื่องสำอางในแบรนด์ดังกล่าว ผู้ใช้งานจะมองเห็นเฉดสี และปุ่ม Try On ให้เปิดกล้องเพื่อเทสต์สีได้
แอปพลิเคชั่นต่างๆ ของ Google บนมือถือมีการใช้งาน dark mode หลายแอปแล้ว แต่บนเดสก์ทอปยังไม่แพร่หลายมากนัก ล่าสุด มีผู้ใช้งาน Reddit โพสต์ภาพหน้าจอค้นหา Google บนเดสก์ทอป เป็น dark mode เป็นสีเทาเข้ม และตัวอักษรเป็นสีขาวผสมเทานิดๆ ให้ดูอ่านง่าย โดยโลโก้ Google เปลี่ยนเป็นสีขาวแทนที่จะเป็นหลากสีเหมือนเดิม ส่วนไอคอนไมโครโฟนยังเป็นหลากสีเหมือนเดิม ดูรูปได้ที่แหล่งข่าวต้นทาง
Google ร่วมมือกับ AP สร้างเซกชั่นแยกบน Search เพื่อดูผลและข้อมูลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. นี้ แบบเรียลไทม์ ระบบแสดงแบนเนอร์เพื่อให้ดูผลในแต่ละรัฐได้ หรือใช้คำสั่งเสียงเรียก Google Assistant เพื่อให้ AI อ่านผลการเลือกตั้งให้ฟังผ่าน Smart Displays เช่น “Hey Google, what are the current election results?”
Google จัดงาน SearchOn มีการอัพเดตของใหม่ใน Search หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ Google Lens ใน Search เพิ่มความสามารถส่องกล้องเพื่อแก้โจทย์เลข เช่นเดียวกับที่เคยมีในแอปหลัก Google Lens มาแล้ว
วิธีใช้งานคือกดที่ไอคอนรูปกล้องตรงแถบ Search เลื่อนเมนูไปที่ Homework ระบบจะแสดงคำแนะนำทีละขั้นตอน รวมถึงวิดีโอแนะนำการเรียนการสอน ให้สามารถทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งโจทย์เคมี, ชีววิทยาและฟิสิกส์
Google เปิดตัวฟีเจอร์ Hum to Search เพื่อให้ผู้ใช้คนหาเพลงได้ด้วยการฮัมเพลงเป็นจังหวะ
Hum to Search เป็นฟีเจอร์ค้นหาเพลงเหมือน Shazam หรือ Soundhound แต่จุดต่างคือ Google ต้องการเฉพาะเสียงฮัมหรือเสียงผิวปากเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเพลงจริง ๆ เหมาะกับเพลงที่ติดอยู่ในหัวและแต่นึกไม่ออกว่าเพลงอะไร
ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานผ่านทั้ง Google Assistant และ Google Search เพียงกดปุ่มไมค์แล้วพูดว่า “what’s this song” และฮัมเพลงสัก 10-15 วินาที อัลกอริทึมของ Google จะค้นหาเพลงที่คล้ายที่สุดมาให้