ก่อนหน้านี้ไม่นานนักมีข่าวลือที่ว่า WhatsApp อาจขยายการใช้งานครอบคลุม Windows และ OS X ซึ่งตอนนี้ WhatsApp ก็ได้ออกแอพสำหรับ Windows และ OS X อย่างเป็นทางการแล้ว

ตัวแอพ WhatApp บน Windows และ OS X นั้นจะมีลักษณะคล้าย WhatsApp Web คือเป็นเพียงส่วนเสริมของ WhatsApp บนโทรศัพท์เท่านั้น และวิธีเข้าใช้งานก็ต้องสแกน QR Code เหมือนกัน

WhatsApp บนเดสก์ท็อปนั้น จะสามารถใช้งานได้บน Windows 8 หรือใหม่กว่า และ OS X 10.9 หรือใหม่กว่าเท่านั้น ดาวน์โหลดได้ที่ WhatsApp

ที่มา - WhatsApp

เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลไทยเปิดตัวเว็บไซต์ภาษีไปไหน หนึ่งในโครงการ GovChannel ให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์ ในงานเดียวกันยังพูดถึง ระบบติดต่อสื่อสารแบบออนไลน์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ หรือ G-Chat ด้วย

ล่าสุดวันที่ 22 เมษายน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขยายความเรื่องแอพ G-Chat ในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยบอกว่า G-Chat มีลักษณะเหมือน LINE มีห้องสนทนาทั้งส่วนตัว สนทนาเป็นกลุ่ม ประชุมทางไกล วิดีโอคอลล์ แชร์พิกัด แต่มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ออกแบบมาเพื่อให้หน่วยงานรัฐประชุมกันเอง คุยงานข้ามกระทรวงได้ โดยมีสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGA) เป็นผู้จัดทำขึ้น

ช่วงนี้มีแอพแชทให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้งานกันอย่างมากมาย โดยแต่ละเจ้าก็งัดฟีเจอร์ทีเด็ดของตัวเองเข้ามาแข่งขันกันอย่างดุเดือด ล่าสุดมีแอพแชทน้องใหม่สัญชาติยุโรปนามว่า PitPut มีฟีเจอร์เด็ดอยู่ที่การเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังพิมพ์ข้อความอะไรอยู่

ปกติการทำงานของแอพแชททั่วไปคือการส่งข้อความโต้ตอบกัน โดยบางแอพก็สามารถเห็นได้ว่าอีกฝั่งกำลังพิมพ์ข้อความมาหาเราแต่ไม่รู้ว่าพิมพ์อะไร ซึ่งแอพ PitPut นำฟีเจอร์นี้มาเป็นจุดเด่นของแอพ การทำงานคือผู้ใช้สามารถเห็นว่าอีกฝั่งกำลังพิมพ์ข้อความอะไรอยู่ในห้องแชทแบบเรียลไทม์ ทำให้การแชทมีความรวดเร็วกว่าเดิม สามารถตอบข้อความได้ทันทีก่อนที่อีกฝั่งจะกดส่งข้อความ โดยผู้พัฒนาแอพบอกว่ามันจะเหมือนการพูดคุยกันต่อหน้าและตัวแอพไม่มีการเก็บข้อความไว้แต่อย่างใด ทำให้การแชทดูเป็นธรรมชาติและผู้ใช้มีความกระตือรือร้นระหว่างใช้งานตลอดเวลา

เมื่อปี 2014 LINE เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำสติกเกอร์แล้วลงขายใน LINE Creators Market ล่าสุด LINE เปิดให้สร้างธีมและนำมาลงขายได้เช่นกัน

รายละเอียดของการทำธีมมาลงขายใน LINE Creators Market ใช้เกณฑ์เดียวกับการนำสติ๊กเกอร์ลงขาย (ดูรายละเอียดได้ที่นี่) และนอกจากนั้น LINE ยังปรับรายละเอียดการตั้งราคาขายได้มากกว่าเดิม จากแต่ก่อนผู้ขายสามารถกำหนดราคาสติ๊กเกอร์ได้แค่ 50 เหรียญต่อชุด แต่ตอนนี้สามารถตั้งราคาได้ตั้งแต่ 50 เหรียญ, 100 เหรียญ, 150 เหรียญ, 200 เหรียญและ 250 เหรียญ ส่วนธีมกำหนดราคาเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 150 เหรียญ, 200 เหรียญและ 250 เหรียญ

เริ่มนำธีมลงขาย LINE Creators Market ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับ

ที่มา : ข้อความประชาสัมพันธ์จาก LINE ประเทศไทย, LINE Creators Market

Facebook Messenger เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือโทรคุยกันเป็นกลุ่มหรือ group calling วิธีใช้งานก็แค่กดไอคอนรูปโทรศัพท์ในหน้าแชทกลุ่ม แล้วเลือกได้ว่าจะโทรหาใครในกลุ่มบ้าง

Facebook บอกว่าผู้ที่ติดตั้งแอพ Messenger เวอร์ชันล่าสุด จะเห็นปุ่มนี้ภายใน 24 ชั่วโมง (ของผมลองดูก็ใช้ได้แล้ว)

เราเพิ่งเห็นข่าว WhatsApp เข้ารหัสแบบ end-to-end เป็นค่ามาตรฐาน ไปเมื่อเร็วๆ นี้ วันนี้มีแอพแชทอีกตัวคือ Viber ประกาศเข้ารหัสข้อความแบบ end-to-end บ้าง การเข้ารหัสจะมีผลในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการแชทเดี่ยวหรือกลุ่มก็ตาม และมีผลกับไคลเอนต์ Viber บนทุกแพลตฟอร์ม

Viber จะทยอยเปิดฟีเจอร์นี้ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าเห็นไอคอนแม่กุญแจสีเทาในหน้าแชท แปลว่าใช้งานฟีเจอร์นี้ได้แล้ว

Viber ระบุว่าแยกคีย์เข้ารหัสตามอุปกรณ์ของผู้ใช้เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้น และสามารถตั้งค่าเพื่อนเป็น trusted ได้ (กุญแจจะกลายเป็นสีเขียว) และหากเพื่อนของเราเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือโดนดักข้อมูล ไอคอนจะกลายเป็นสีแดงเพื่อแจ้งเตือนให้คู่สนทนาทราบ

จากเสียงวิจารณ์ว่า บ็อต Facebook Messenger ยังไม่ดีอย่างที่คาด ล่าสุด David Marcus ผู้บริหารสูงสุดของ Messenger ออกมาตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวของ The Verge แล้ว

The Verge ลองใช้บ็อตพยากรณ์อากาศ Poncho และพบว่าได้คำตอบช้ามาก ซึ่ง Marcus บอกว่าโดยปกติแล้วควรได้คำตอบภายใน 5 วินาที เขาไม่ทราบว่าปัญหาเกิดจากอะไร แต่ก็เป็นสัญญาณว่าผู้สร้างบ็อตต้องเตรียมพร้อมเรื่อง infrastructure ให้มากกว่านี้

เขายังยืนยันว่าแนวทางการสนทนากับบ็อตของ Facebook ออกแบบมาสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่ geek วิธีการคุยไม่ใช้คำสั่งแบบ command-line แต่ใช้ปุ่มและภาพเข้าช่วยเพื่อให้ใช้งานง่ายที่สุด ส่วนเรื่องผู้ช่วยส่วนตัว M ที่ฉลาดกว่าบ็อตทั่วไปมาก (แต่ยังทดสอบในวงปิด) ก็จะพัฒนาให้เข้ามาช่วยเหลือผู้ใช้มากกว่าเดิม ตัว AI ก็ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรียนรู้จากบทสนทนาที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ยังมีข้อจำกัดบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนากันในระยะยาวต่อไป

Tencent เคยประกาศไว้ว่ากำลังพัฒนาแอพ Enterprise WeChat เวอร์ชันคุยงานในองค์กร วันนี้แอพเปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว แต่ยังมีเฉพาะภาษาจีนเท่านั้น

ความสามารถของ Enterprise WeChat ก็เหมือน WeChat มาตรฐาน หน้าตาดูคล้าย Slack ส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ การตั้งสถานะว่าไม่อยู่ที่โต๊ะ, การสนทนาด้วยเสียงแบบกลุ่ม, การกรอกฟอร์มมาตรฐานในองค์กร เช่น เบิกค่าใช้จ่าย ใบลา

นอกจากนี้ Enterprise WeChat ยังสามารถโทรออกผ่าน VoIP ไปเข้าเบอร์โทรศัพท์ปกติได้ โดยลงบิลเป็นค่าใช้จ่ายขององค์กรได้ด้วย

แอพมีให้ดาวน์โหลดบน iOS, Android, OS X, Windows แต่ยังมีเฉพาะภาษาจีน และการใช้งานต้องมีใบอนุญาตธุรกิจในจีนเพื่อเปิดบัญชีขององค์กรก่อนด้วย

จากข่าว Facebook Messenger มีบ็อตแล้ว เว็บไซต์ Gizmodo ลองทดสอบคุยกับบ็อต และพบว่าผลลัพธ์ยังไม่น่าประทับใจนัก บ็อตยังไม่ฉลาดอย่างที่ควร และตอบได้แค่คำถามง่ายๆ ที่ตรงกับสคริปต์ที่เตรียมไว้เท่านั้น

Gizmodo ลองใช้บ็อตพยากรณ์อากาศ Poncho ซึ่งสามารถบอกได้ว่าต้องใส่เสื้อแจ็คเก็ตหรือไม่ ("Do I need a jacket?") แต่ถ้าใช้คำถามลักษณะเดียวกัน โดยไม่มีคำว่า "Do I need" นำหน้า (เช่น "Sunglasses?") บ็อตกลับไม่เข้าใจเรื่องนี้ และพยายามใช้มุขตลกหรือการ์ตูน GIF กลบเกลื่อนแทน

ไฮไลท์สำคัญในงาน F8 เมื่อคืนนี้คือ Facebook Messenger เปิดตัว Messenger Platform อย่างเป็นทางการ บริษัทหรือแบรนด์สามารถสร้าง "บ็อต" มาพูดคุยกับผู้ใช้งานได้ ซื้อขายหรือสอบถามข้อมูลผ่านบ็อตได้

กระบวนการทำงานของบ็อต ใช้วิธีถามตอบตามตัวเลือกที่กำหนดไว้ ผ่าน Send/Receive API และในอนาคตก็จะมีบ็อตผู้ช่วยส่วนตัวที่เป็น AI เต็มขั้นด้วย

Telegram ได้ออกอัพเดตแอพเวอร์ชันใหม่ โดยอัพเดตใหม่ของ Telegram ในรอบนี้เน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ของบอท ซึ่ง Telegram เรียกว่า Bots 2.0 ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง และสร้างบอทใหม่เพื่อให้ผู้ใช้ทดสอบความสามารถของ Bots 2.0 ได้แก่ @music สำหรับค้นหาเพลง, @youtube สำหรับค้นหาวิดีโอบน YouTube, @foursquare สำหรับค้นหาตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ, @sticker สำหรับค้นหาสติ๊กเกอร์ตาม emoji

ส่วนฟีเจอร์ใหม่ใน Bots 2.0 มีดังนี้

Facebook Messenger ยังเดินหน้าเปิดให้แอพและบริการออนไลน์อื่นมาต่อเชื่อมได้มากขึ้น ฟีเจอร์ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาน่าจะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ใช้ นั่นคือเราสามารถกดแชร์ไฟล์ Dropbox ได้จากแอพ Messenger โดยตรง

วิธีการใช้งานคือเข้าหน้าแชทคุยกับเพื่อนตามปกติ แล้วกดปุ่ม More (...) เพื่อเลือกแอพอื่นๆ จะมีตัวเลือก Dropbox ขึ้นมาให้เลือก กดแล้วเราจะเห็นไฟล์ใน Dropbox ของเรา พร้อมส่งให้เพื่อนได้ทันที

การใช้งานจำเป็นต้องมีแอพ Facebook Messenger และ Dropbox ติดตั้งอยู่ในเครื่อง ใช้ได้ทั้งบน iOS และ Android ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดใช้งานแล้ววันนี้

ช่วงนี้กระแส Chat Bot กำลังมาแรง เราเห็น WeChat ทำเรื่องนี้มาได้สักระยะ, Facebook เริ่มเปิดให้เรียกรถ Uber ผ่านแชท, Telegram ตามด้วย LINE ประกาศทำบ็อตปีนี้ และ Skype เพิ่งประกาศทำเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

แต่ม้ามืดที่กลับเปิดระบบบ็อต รวมถึงร้านขายบ็อต (Bot Shop) ได้ก่อนใครคือ Kik Messenger แอพแชทอีกตัวที่ได้รับความนิยมในสหรัฐ

Kik อธิบายว่าคนดาวน์โหลดแอพใหม่น้อยลง จากสถิติของ comScore พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนสหรัฐไม่ได้ดาวน์โหลดแอพใหม่เลยสักตัวในเดือนที่แล้ว แต่คนกลับใช้เวลาในแอพแชทมากขึ้น จึงพยายามสร้างระบบบ็อตที่ช่วยให้คนเข้าถึงบริการต่างๆ ผ่านการแชทแทนการใช้แอพ

ในงาน Build 2016 ทางไมโครซอฟท์ได้นำเสนอบ็อตปัญญาประดิษฐ์บน Skype หนึ่งในนั้นคือ Project Murphy บ็อตสนทนาโต้ตอบกับเรา ด้วยการป้อนคำสั่ง "What if..." (ตัวอย่างดูได้ท้ายข่าว)

ไมโครซอฟท์เผยว่าได้ใช้เทคโนโลยีหลายอย่าง ได้แก่ Bing Image Search, Microsoft Bot Framework, Azure Stream Analytics, Azure Data Lake และ PowerBI

Project Murphy เปิดให้ใช้แล้วใน Skype บน iOS, Android และ Windows โดยต้องเพิ่ม Project Murphy เข้าไปในรายชื่อผู้ติดต่อเสียก่อน ที่นี่

ที่มา - Project Murphy via Windows Central

ยุคนี้ แอพแชทหลายตัวเริ่มมีระบบบ็อตช่วยพูดคุยและตอบโต้กับผู้ใช้ (ตัวอย่างก่อนหน้านี้คือ LINE) ฝั่งไมโครซอฟท์ก็เปิดตัวระบบบ็อตสำหรับ Skype เช่นกัน

Skype Bots นำเสนอตัวเองผ่านการสนทนากับ Cortana ภายในแอพ Skype (นั่นคือเราจะมี Cortana เป็นผู้ช่วยส่วนตัวก่อน แล้ว Cortana จะเรียกบ็อตของบริการอื่นๆ ให้อีกที)

Snapchat แอพแชทยอดนิยมของวัยรุ่นในสหรัฐ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชุดใหญ่ที่เรียกรวมๆ ว่า "Chat 2.0" มีของใหม่ดังนี้

• Auto-Advance Stories เวลาดู Stories หรือเรื่องราวที่เพื่อนแชร์มาจบ ก็จะเลื่อนไปยังเรื่องต่อไปให้อัตโนมัติ
• เพิ่มสติ๊กเกอร์อีกกว่า 200 แบบ
• ถ้าเพื่อนเราไม่ออนไลน์ สามารถส่ง Video Notes คลิปสั้นแนว GIF ความยาว 10 วินาทีไปหาได้ หรือถ้าไม่สะดวกใช้กล้องก็มี Audio Notes ส่งแต่เสียงก็ได้
• สามารถโทร Video/Audio Calls ไปหาเพื่อนได้เลย แม้ว่าเพื่อนไม่ได้ออนไลน์อยู่ในตอนนั้น (คล้ายกับการโทรศัพท์ปกติ)
• ส่งรูปภาพขณะสนทนาวิดีโอ และสลับโหมดการสนทนาทั้งคุยสด ส่งโน้ต ข้อความ รูปภาพ สติ๊กเกอร์ ได้ตามต้องการ

ประกาศสำคัญของงานแถลงข่าว LINE คือการเปิด LINE Business Platform ให้คนอื่นเข้ามาใช้งานได้มากขึ้น (สักที!) รายละเอียดของการเปิดแพลตฟอร์มแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ เปิดให้ Web Service, เปิดให้ SME, เปิดให้นักพัฒนา

รายละเอียดมีดังนี้ครับ

LINE ประกาศภารกิจองค์กรอันใหม่ชื่อ "Closing the distance" ไม่เพียงแค่ช่วยให้คนใกล้ชิดกันเท่านั้น แต่ยังนำพาคนไปใกล้กับบริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วย ส่วนยุทธศาสตร์ของ LINE คือทำตัวเป็น "Smart Portal" พอร์ทัลสำหรับเข้าถึงข้อมูลทุกสิ่งอย่างได้ตลอดเวลา ซึ่งขยายจากการเป็นแอพแชท Messenger อย่างที่แล้วมา

รวมสถิติที่น่าสนใจของ LINE ในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้ครับ

แอพคุยงาน Slack ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ตอนนี้มีผู้ใช้งาน 2.3 ล้านคนแล้ว ความนิยมของ Slack แสดงให้เห็นว่าแอพแชทยังสามารถพัฒนาต่อได้อีกมาก

ข้อจำกัดของ Slack คือข้อมูลทั้งหมดเก็บลงในเซิร์ฟเวอร์ของ Slack (ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะคงอยู่ตลอดไป) อีกทั้งการปรับแต่งฟีเจอร์ทำได้ยาก เพราะต้องขึ้นกับ Slack เพียงฝ่ายเดียว ช่วงหลังเลยเกิดโปรแกรมเลียนแบบ Slack แต่พัฒนาแบบโอเพนซอร์สขึ้นมาหลายตัว

LINE เริ่มเปิดให้ผู้ใช้ในบางประเทศทดสอบใช้งานการสนทนาด้วยเสียงแบบเป็นกลุ่มผ่าน Wi-Fi, 3G หรือ 4G โดยรองรับการสนทนาร่วมกันได้สูงสุด 200 คน ฟีเจอร์ใหม่นี้มีทั้งบนแอพสำหรับอุปกรณ์ Android และ iOS รวมทั้งเวอร์ชั่นสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows ส่วน LINE สำหรับ MAC จะได้ทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ในภายหลัง

LINE ตัดสินใจปล่อยฟีเจอร์นี้ให้ทดลองใช้กันในหลายประเทศ ยกเว้น ไทย, อินโดนีเซีย, ไต้หวัน และญี่ปุ่นประเทศแม่ ซึ่งคาดว่าเป็นกลยุทธ์ทดลองกับประเทศที่ไม่ได้เป็นฐานลูกค้าหลักของตนเองก่อน เพื่อหยั่งกระแสตอบรับก่อนตัดสินใจว่าจะปล่อยฟีเจอร์นี้ให้กลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ใน 4 ประเทศข้างต้นหรือไม่

แอพแชทชื่อดังอย่าง Facebook Messenger ไม่มีอัพเดตเรื่องหน้าตามานาน ล่าสุด Facebook Messenger บน Android เผยโฉมดีไซน์ใหม่ตามแบบฉบับ Material Design โดย David Marcus หัวหน้าฝ่าย Messenger ได้โพสต์ข้อความและภาพของแอพนี้บน Facebook ส่วนตัวของเค้าถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

WhatsApp ได้ประกาศข่าวที่ไม่ค่อยดีนักในวันนี้ คือการหยุดการพัฒนาแอพหลายแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ Nokia และ BlackBerry

WhatsApp ให้เหตุผลว่าช่วงที่บริการเปิดตัวใหม่ๆ ในปี 2009 ยังมีแพลตฟอร์มมือถือที่หลากหลาย 70% ของมือถือที่ขายไปเป็นแพลตฟอร์มของ Nokia และ BlackBerry แต่ปัจจุบัน 99.5% ของมือถือที่ขายไปเป็นแพลตฟอร์มของ Apple, Google และ Microsoft

ดังนั้น เพื่อการก้าวไปข้างหน้า WhatsApp จะนำทรัพยากรมาพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ใช้กัน และจะหยุดพัฒนาและหยุดการสนับสนุนแอพบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ภายในสิ้นปี 2016 (หมายความว่าในปี 2017 ก็จะใช้งานไม่ได้แล้ว) ได้แก่

WhatsApp ประกาศหยุดสนับสนุนระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าและระบบปฏิบัติการที่มีคนใช้น้อย

• BlackBerry รวมถึง BlackBerry 10
• Nokia S40
• Nokia Symbian S60
• Android 2.1/2.2
• Windows Phone 7.1

แอพ WhatsApp บนระบบปฏิบัติการเหล่านี้จะใช้งานได้ถึงสิ้นปี 2016 จากนั้นจะเลิกซัพพอร์ตแล้ว

ที่มา - WhatsApp Blog

คนไทยอาจไม่นิยม Snapchat กันเท่าไรนัก แต่ตอนนี้ Snapchat กลายเป็นวิธีการส่งข้อความยอดฮิตของวัยรุ่นสหรัฐไปเรียบร้อย และเมื่อมันได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น สิ่งที่ตามมาคือ "ฟิลเตอร์" หรือกรอบตกแต่งภาพถ่ายน่ารักๆ จำนวนมาก

ล่าสุด Snapchat ออกฟีเจอร์หาเงินแบบใหม่ เราสามารถสร้างฟิลเตอร์ของตัวเอง แล้วกำหนดการใช้งานเฉพาะพื้นที่ในโลกจริงได้ (geofencing) วิธีการคือลากพื้นที่พร้อมระบุช่วงเวลาที่ต้องการใช้ฟิลเตอร์ดังกล่าว และจ่ายเงิน (ราคาเริ่มต้น 5 ดอลลาร์ ที่เหลือขึ้นกับระยะเวลาและขนาดพื้นที่) จากนั้นเมื่อถึงวันเวลาที่กำหนด คนที่เดินเข้ามาแล้วเปิดแอพ Snapchat ก็จะเห็นฟิลเตอร์ที่เราสร้างไว้

หลักจากที่วงการ Instant Messenger ได้มีน้องใหม่อย่าง Telegram เกิดขึ้นมาเมื่อ 2 ปีกว่า วันนี้ทาง Telegram ออกมาประกาศว่าตัวเองนั้นมีผู้ใช้งานในเดือนที่ผ่านมาครบ 100 ล้านผู้ใช้ไปแล้ว แถมในแต่ละวันมีผู้สมัครเข้ามาใช้งานใหม่กว่า 350,000 รายอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังเผยข้อมูลอีกว่าในแต่ละวันมีข้อความที่ถูกส่งไปมาใน Telegram กว่า 15,000 ล้านข้อความ/วัน (15 billion messages daily) เลยทีเดียว