สตาร์ทอัพสายฝรั่งในสหรัฐฯ และยุโรปมักจะเนื้อหอมในหมู่นักลงทุน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มลงทุนจากประเทศจีนอย่าง Silk Ventures
Silk Ventures มีสำนักงานอยู่ที่ซิลิคอนวัลเล่ย์ ลอนดอน เสินเจิ้น และปักกิ่ง มักลงทุนในสตาร์ทอัพประเภทฟินเทค ปัญญาประดิษฐ์ การแพทย์ ในปี 2016 Silk ร่วมลงทุนใน Cocoon Networks Ventures (กลุ่มลงทุนสัญชาติจีนที่ลงทุนนสตาร์ทอัพยุโรป) เป็นจำนวนเงิน 500 ล้านดอลลาร์ โดยจำนวนเงินครึ่งหนึ่งมาจาก SASAC หรือหน่วยงานกำกับดูแลทรัพย์สินของรัฐของสภา ซึ่งกำกับดูแลกิจการของรัฐในประเทศจีน
แอปเปิลประกาศลงทุนในบริษัท Corning Incorporated เจ้าของกระจก Gorilla Glass ที่เราคุ้นเคยกันดี เป็นเงินมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
การลงทุนของแอปเปิลจะผ่านกองทุน Advanced Manufacturing Fund ที่แอปเปิลเพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ เงินลงทุนจะนำไปใช้ด้านการวิจัย และการพัฒนากระบวนการผลิตกระจกของ Corning ให้ดียิ่งขึ้น
แอปเปิลระบุว่า Corning ถือเป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญของบริษัท ที่ร่วมมือกันมานาน 10 ปีตั้งแต่ iPhone รุ่นแรกในปี 2007 โดยมาจากโรงงานของ Corning ที่เมือง Harrodsburg ในรัฐเคนทักกี
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แอปเปิลเพิ่งประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างงานให้คนอเมริกัน การลงทุนใน Corning ถือเป็นงานแรกของแผนการนี้
Plastc สตาร์ทอัพที่นำเสนอไอเดียในการรวมบัตรเครดิตราว 20 ใบลงไปในบัตรพลาสติกใบเดียว พร้อมเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน เพื่อให้ผู้ใช้เลือกบัตรในการใช้งาน ประกาศล้มละลายและไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ที่สั่งพรีออเดอร์ได้เลย แม้จะได้เงินทุนจากพรีออเดอร์ถึง 9 ล้านเหรียญก็ตาม
Plastc ให้เหตุผลในอีเมลที่ส่งหาผู้สั่งพรีออเดอร์ว่า ไม่สามารถปิดดีลในการระดมทุนราว 3.5 ล้านเหรียญในรอบ Series A ได้ทั้งๆ ที่มีการ์ดตัวจริงมาโชว์นักลงทุนแล้ว โดยเงินก้อนนี้จะถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตสำหรับผู้พรีออเดอร์ด้วย ก่อนจะโดนนักลงทุนอีกกลุ่มปฏิเสธในขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้ง ทำให้เงินอีกราว 6.75 ล้านเหรียญที่คาดว่าจะได้หายไปเช่นกัน
LeEco บริษัทไอทีของจีนที่กำลังประสบปัญหาการเงิน จนส่งผลกระทบไปยังFaraday Future ที่ไปลงทุน ล่าสุดดูเหมือนจะได้เงินก้อนใหญ่มาต่อลมหายใจสักหน่อยแล้ว หลังขายหุ้นบริษัทลูกในเครือบางส่วนให้นักลงทุน
บริษัทที่มาลงทุนกับ LeEco มากที่สุดในครั้งนี้คือ Sunac China Holdings บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีน โดยซื้อหุ้นบริษัทลูกของ LeEco 3 บริษัทได้แก่
SoftBank บริษัทไอที-โทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศตั้งกองทุน SoftBank Vision Fund เพื่อลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก ในเบื้องต้น กองทุนนี้จะมีเงินทุนอย่างน้อย 70 พันล้านดอลลาร์ (2.47 ล้านล้านบาท) ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยมาจาก
นอกจากนี้ยังมีกองทุนหรือนักลงทุนรายใหญ่ กำลังเจรเจาเข้าร่วมกับกองทุนนี้ คาดว่ากองทุนอาจมีขนาดใหญ่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ (3.5 ล้านล้านบาท) ในอนาคต
Didi Chuxing ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ยักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศลงทุนใน ofo สตาร์ทอัพที่ทำด้าน ride-sharing สำหรับจักรยานในจีนหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ
Didi เผยว่ามีความตั้งใจจะร่วมมือกับนักลงทุนที่มีความคิดคล้ายกัน เพื่อโปรโมทอุตสาหกรรม ride-sharing ให้เติบโตยิ่งขึ้น โดย ofo เป็นสตาร์ทอัพของนักเรียนมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ก่อตั้งเมื่อปี 2014 ปัจจุบันมีรถจักรยานถูกเรียกใช้งานกว่า 7 แสนคันในแต่ละวัน มีผู้ใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์มราว 1.5 ล้านคนใน 20 เมือง และมีการเรียกใช้บริการมากกว่า 5 แสนครั้งในแต่ละวัน
ที่มา - people.cn
รัฐบาลจีนเคยประมาณการสัดส่วนหญิงชายในบริษัทใหม่ พบว่า 55% เป็นผู้หญิง และกว่า 1 ใน 4 ของผู้ประกอบการ เป็นผู้หญิง เป็นตัวเลขในฝันที่วงการไอทีและสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเล่ย์ยังทำไม่ได้
ประเทศจีนที่ดูเหมือนไม่มีอิสระมากนักเรื่องอินเทอร์เน็ต และวัฒนธรรมผู้ชายเป็นใหญ่ยังแข็งแกร่ง แต่ในวงการธุรกิจการลงทุน และไอทีดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว เพราะสัดส่วนผู้หญิงในองค์กรไอทีรวมถึงอุตสาหกรรมการเงินการลงทุนค่อนข้างมาก เว็บไซต์ Bloomberg ได้ยกตัวอย่างผู้หญิงจีนแถวหน้าในวงการหลายราย เช่น
Chan Zuckerberg Initiative หน่วยงานการกุศลของ Mark Zuckerberg และ ภรรยา Priscilla Chan เตรียมลงทุน 3 พันล้านดอลลาร์ภายนระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นทุนส่งเสริมให้นักวิทยาศาสตร์ควบคุมและป้องกัน 4 โรคร้ายที่เป็นสาเหตุการตายของมนุษย์ส่วนใหญ่ ให้เด็กๆ มีโอกาสมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น
โดย 4 โรคที่ว่าคือ โรคหัวใจ (สถิติการตาย 10.8 ล้านคน) มะเร็ง (สถิติการตาย 8.2 ล้านคน) โรคติดเชื้อ(infectious disease สถิติการตาย 8.5 ล้านคน) และ โรคระบบประสาททางสมอง (สถิติการตาย 6.8 ล้านคน)
JB Straubel ผู้เสนอไอเดียให้ Tesla ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนกับรถยนต์ของบริษัท ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Tesla ได้ร่วมลงทุนในสตาร์ตอัพชื่อ Axiom Energy (อ่านว่า แอ็กเซี่ยม) ดำเนินธุรกิจผลิตแบตเตอรี่พลังน้ำเกลือที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2013 การลงทุนคราวนี้มีผู้ร่วมลงทุนหลายราย เช่นกลุ่มศิษย์เก่า MIT, Victory Capital และ JB Straubel ก็เป็นหนึ่งในนั้น รวมเงินได้มากถึง 2.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 87 ล้านบาท)
Toshiba และ Western Digital แล้ว เตรียมลงทุนครั้งใหญ่แบบต่อเนื่องภายใน 3 ปีนับจากนี้ เพื่อขยายธุรกิจการผลิตหน่วยความจำแบบแฟลช โดยมูลค่าการลงทุนนั้นสูงถึง 1.7 ล้านล้านเยน (ประมาณ 0.6 ล้านล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ Toshiba ได้ร่วมลงทุนกับ SanDisk อยู่ก่อนแล้วในการสร้างและดำเนินงานโรงงานในเมือง Yokkaichi จังหวัด Mie และเมื่อ SanDisk ถูก Western Digital ซื้อกิจการไปจนควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง Western Digital ก็ยังคงสนใจที่จะร่วมมือกับ Toshiba ในการลงทุนขยายโรงงานการผลิตต่อไปอีก
เว็บไซต์ The Verge รายงานว่าคณะกรรมาธิการยุโรป (The European Commission) ลงนามในข้อตกลงจัดตั้งงบประมาณด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (cybersecurity) อยู่ที่ 450 ล้านยูโร (ประมาณ 17,000 ล้านบาท) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการวิจัย การคิดค้นนวัตกรรม การลงทุนและเสริมสร้างศักยภาพในด้านนี้ในหมู่สมาชิก
หลังผลประชามติ Brexit ที่คะแนนฝั่งออกจากสหภาพยุโรปได้ครองเสียงข้างมากไป ส่งผลต่อเรื่องความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการลงทุน
ทางฝั่ง Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ออกมาให้ความเชื่อมั่นว่า ผลประชามติที่ออกมา จะไม่ส่งผลต่อการลงทุนและการจ้างงานของบริษัท เนื่องด้วยสหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่ใหญ่ และรายได้กว่า 55% มาจากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากสหรัฐอเมริกา
ไมโครซอฟท์มีพนักงานในสหราชอาณาจักรอยู่กว่า 3,000 คน ในสำนักงาน 6 แห่ง
ที่มา - Business Journal
NextGov สำนักข่าวที่นำเสนอเรื่องเทคโนโลยีและรัฐบาล เผยรายงาน ปีที่แล้วรัฐบาลสหรัฐฯลงทุนด้าน IoT (Internet of Things) สูงกว่าปี 2014 ถึง 20% ให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันภัยเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนองค์กรที่ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกันประเทศแต่ได้ัรับงบประมาณลงทุนสูงคือ NASA
ข่าวนี้ขอรวมเป็น 2 ข่าวเลยนะครับ Uber ระดมทุนรอบใหม่ (Series G) ในประเทศซาอุดิอาระเบียได้เงินมากว่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Uber มีมูลค่าสูงถึงกว่า 62.5 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว
ทาง Uber เคยระบุว่าจะลงทุนในตะวันออกกลางอีกกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐและการระดมทุนครั้งนี้ทำให้การขยายอาณาจักรของ Uber ในตะวันออกกลางง่ายยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน Uber เปิดให้บริการไปแล้วกว่า 15 ประเทศในภูมิภาค และมีคนมาร่วมขับกว่า 395,000 คน
หลังจากการประกาศของ Uber เพียงหนึ่งวัน ประธานของ Didi Chuxing แอพเรียกแท็กซี่คู่แข่งของ Uber ในประเทศจีนขึ้นกล่าวในงาน Code Conference ว่าบริษัทกำลังระดมทุนรอบใหม่ซึ่งสูงกว่าของตัวเลขของ Uber โดยก่อนหน้านี้ Didi เพิ่งระดมทุนไปได้ราว 5 พันล้านเหรียญ
ถือเป็นสองข่าวที่อาจไม่ค่อยดีสำหรับวงการสตาร์ตอัพเท่าไหร่นัก เพราะบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง Fidelity และวาณิชธนกิจระดับโลกอย่าง Morgan Stanley ปรับมูลค่าบริษัทสตาร์ตอัพชื่อดังหลายๆ แห่งอีกรอบ
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วทาง Fidelity พึ่งปรับลดมูลค่าสตาร์ทอัพอย่าง Snapchat ลงไปถึง 25% รวมไปถึงสตาร์ทอัพชื่อดังในระบบบริหารงานบุคคลอย่าง Zenefits อีกด้วย
รายชื่อสตาร์ทอัพดังๆ ที่โดนปรับลดมูลค่าบริษัทโดย Fidelity เมื่อเทียบกับมูลค่าปลายปีที่แล้ว เช่น
บิล เกตส์ นำทีมมหาเศรษฐีและนักลงทุนทั่วโลก ตั้งกลุ่ม Breakthrough Energy Coalition เพื่อลงทุนด้านพลังงานสะอาด (clean energy) เป้าหมายของกลุ่มมีทั้งการผลักดันเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และหากำไรจากการลงทุนเหล่านี้ไปพร้อมกัน
สมาชิกที่ร่วมลงทุนกับ Breakthrough Energy Coalition มีทั้ง Jack Ma (Alibaba), Jeff Bezos (Amazon), Mark Zuckerberg, Richard Branson (Virgin), Masayoshi Son (SoftBank), George Soros, Reid Hoffman (LinkedIn), Marc Benioff (Salesforce), Meg Whitman (HP) เป็นต้น (รายชื่อทั้งหมด)
dtac Accelerate โครงการผลักดันสตาร์ทอัพไทย และวงการสตาร์ทอัพไทย ได้ประกาศผู้ชนะประจำโครงการปีที่ 3 จำนวน 3 ทีม จาก 6 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย
ทีมผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย
Andy Rubin ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่ง Android ที่ออกจากกูเกิลมาตั้งบริษัทใหม่ของตัวเองในชื่อ Playground Global ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพสายฮาร์ดแวร์เมื่อช่วงต้นปี ล่าสุดในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Walt Mossberg บนเวที Code/Mobile ก็ได้เผยความคืบหน้าของแผนออกมาเพิ่มเติมแล้ว
โครงการ dtac Accelerate ปี 2015 เชิญนักลงทุนชื่อดังระดับเอเชียมาเป็น mentor ให้ความรู้กับทีมสตาร์ตอัพที่ผ่านเข้ารอบ หนึ่งในนักลงทุนที่ทาง dtac เชิญมาคือ Jeffrey Paine ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทลงทุน Golden Gate Ventures ซึ่งเป็น venture capital (VC) จากประเทศสิงคโปร์
Golden Gate Ventures ก่อตั้งเมื่อปี 2012 ในสิงคโปร์ เน้นการลงทุนใน early state สตาร์ทอัพอย่าง Seed Round และ Series A ลงทุนไปแล้วกว่า 25 บริษัททั่วภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และมีแผนจะลงทุนเพิ่มในภูมิภาคนี้อีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐจากการระดมทุนรอบล่าสุด
GitHub ได้รับเงินทุนรอบ B รวมเป็นเงิน 250 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุนนำโดย Sequoia Capital, Andreessen Horowitz, Thrive Capital, และ Institutional Venture Partners
ทาง GitHub ไม่ได้ระบุว่าเงิน 250 ล้านดอลลาร์นี้ได้หุ้นไปที่สัดส่วนเท่าใด แต่ Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวระบุว่ามูลค่าบริษัทตามการลงทุนรอบนี้อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์
การระดมทุนรอบล่าสุดของ GitHub คือปี 2012 ได้เงินไป 100 ล้านดอลลาร์
จากข่าว Intouch ลงทุนกว่า 52 ล้านบาทให้กับ Playbasis (เพลย์เบสิส) บริษัทสตาร์ทอัพจากสิงคโปค์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเกมมิฟิเคชัน (Gamification) เพื่อสร้างแอพพลิเคชันที่มีกลไกแบบการเล่นเกม (เช่น การเก็บสะสมแต้มแข่งกันในหมู่สมาชิก) และมีเป้าหมายเพื่อให้บริการธุรกิจที่ต้องการสร้างแอพส่งเสริมการทำการตลาดลักษณะนี้
วันนี้ Playbasis เปิดแพลตฟอร์มเกมมิฟิเคชัน (Gamification) ในไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีรายละเอียดของตัวแพลตฟอร์มดังนี้
The Wall Street Journal รายงานข่าวลือว่านักลงทุนรายสำคัญของบริษัท Qualcomm ซึ่งก็คือ Jana Partners LLC ที่เป็นกองทุนรวมซึ่งลงทุนในบริษัทต่างๆ กำลังกดดันทีมคณะผู้บริหารและบอร์ดของบริษัท ให้ทำการแยกธุรกิจการผลิตชิปออกไปจากบริษัท หลังจากที่ทางบริษัทเองเคยเสนอแนวคิดนี้เมื่อ 15 ปีก่อน แต่ล้มเลิกไป
Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีนประกาศระดมทุนครั้งใหญ่เป็นมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านเหรียญ นำทีมโดย All-Stars Investmen, DST Global, GIC จากสิงคโปร์ และบริษัทลงทุนที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหาร Alibaba อย่าง Yunfeng Capital
จากการระดมทุนในครั้งนี้ส่งผลให้มูลค่าบริษัทของ Xiaomi พุ่งขึ้นไปสูงถึง 45,000 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการระดมทุนรอบก่อนเมื่อเดือนสิงหาคม 2013 ที่ราว 10,000 ล้านเหรียญ แซงหน้าทุกบริษัทหน้าใหม่ที่กำลังเติบโตในปัจจุบัน (รวมถึง Uber ที่เพิ่งมีรายงานว่ามูลค่าสูงถึง 41,000 ล้านเหรียญด้วย)
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีรายงานว่า Baidu จะลงทุนใน Uber เป็นมูลค่าสูงถึง 600 ล้านเหรียญ ซึ่งตอนนี้มีประกาศเกี่ยวกับการลงทุนครั้งนี้ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว
ในประกาศดังกล่าวไม่ได้ระบุว่า Baidu ลงทุนใน Uber เป็นมูลค่าเท่าไร แต่พูดถึงเรื่องของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเสียมากกว่า โดยฝั่ง Baidu จะสามารถเพิ่มฟีเจอร์เรียกรถจาก Uber เข้าไปในแอพ Baidu Map และ Mobile Baidu ได้ ส่วน Uber จะได้ช่องทางในการกระจายแอพในประเทศจีนของ Baidu ซึ่งสำคัญมากเนื่องจาก Play Store นั้นไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศจีน และ 91 Wireless หนึ่งในร้านขายแอพของ Baidu ก็เป็นรายใหญ่สุดในตลาดที่มียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 160 ล้านครั้งต่อวัน
สำนักข่าว Bloomberg ซึ่งเป็นสำนักข่าวทางเศรษฐกิจ รายงานว่า Baidu บริษัทเทคโนโลยีของจีน เตรียมที่จะเข้าถือหุ้นเป็นส่วนน้อย (minority stake) ในบริษัท Uber Technologies Inc. หรือบริษัท Uber ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกและจองรถยนต์อย่างเป็นทางการ