เว็บ 9to5Mac อ้างแหล่งข้อมูลจากภายในแอปเปิล ได้ภาพหน้าตาสกรีนช็อตของ iOS 13 มาเปิดเผยบางส่วน ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดในงาน WWDC สัปดาห์หน้า

ฟีเจอร์สำคัญใน iOS 13 คือ Dark Mode ข้อมูลบอกว่าผู้ใช้งานสามารถเรียกเปิด Dark Mode ได้ทั้งจาก Settings และใน Control Center โดยจากภาพที่ได้มานั้นพบว่าหน้า Home ส่วน Dock มีการปรับให้มืดลง ส่วนภาพต่อมาจากแอป Music ทำให้เห็นว่าเมื่ออยู่ใน Dark Mode พื้นหลังจะเป็นสีดำล้วน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานสำหรับหน้าจอ OLED และรูปสุดท้ายเมื่อเวลาจับภาพหน้าจอ ตัว UI มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย พร้อมมีเครื่องมือแต่งภาพมากขึ้น

ในงาน Build 2019 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ไมโครซอฟท์ได้ประกาศขยายการใช้งาน Fluent Design System แนวทางการดีไซน์ส่วนติดต่อผู้ใช้ของบริษัท ที่แต่เดิมได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับ Windows 10 โดยเฉพาะ ให้ครอบคลุมการพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เว็บ, Android และ iOS

เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอพที่ใช้แนวทางการออกแบบเดียวกันกับ Fluent Design และยังคงไว้ซึ่งความสอดคล้องกันของดีไซน์แม้ว่าจะเป็นแอพที่พัฒนาบนต่างแพลตฟอร์มได้สะดวกขึ้น

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์รายงานถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจากโทรศัพท์เพื่อสร้างหมายเลขประจำตัวเครื่องสำหรับติดตามตัวผู้ใช้ โดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ในตัวเครื่อง เช่น accelerometer หรือ gyroscope ทำให้เว็บหรือแอปสามารถติดตามว่าผู้ใช้กำลังใช้งานจากโทรศัพท์เครื่องเดียวกันหรือไม่ โดยไม่ต้องขออนุญาตใดๆ เรียกว่า SensorID

ปัญหา iPhone กำหนดค่าให้ซอฟต์แวร์ทำงานช้าลง เพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่ กลายเป็นประเด็นใหญ่โตเมื่อปีที่แล้ว จนนำมาสู่โปรแกรมลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ และเพิ่มเงื่อนไขใน iOS เวอร์ชันอัพเดต ล่าสุดมีความคืบหน้าอีกแบบเป็นทางการ เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลผู้บริโภคของอังกฤษ ประกาศว่าแอปเปิลได้ยอมรับเงื่อนไข ที่จะแจ้งผู้ใช้งานให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งข้อมูลแบตเตอรี่ การอัพเดตซอฟต์แวร์

หลังจากรอมายาวนานจนอาจลืมไปแล้ว แต่ในที่สุดแอปแคสต์เกม Steam Link ก็เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วบน iOS และ Apple TV ซึ่งก็นานถึงหนึ่งปี นับจากที่แอปเปิลปฏิเสธแอปนี้ ด้วยเหตุผลว่ามีข้อขัดแย้งทางธุรกิจ ซึ่งเวลาต่อมา Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดแอปเปิลก็บอกว่ากำลังเจรจาหาทางออกเรื่องนี้

ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่าแอป Steam Link บน iOS นั้น ผู้ใช้งานไม่สามารถซื้อเกมโดยตรงผ่าน Steam store ได้ เกมที่เล่นต้องมีใน library อยู่ก่อนแล้วจากการซื้อผ่านช่องทางอื่น ซึ่งก็น่าจะเป็นหนึ่งในข้อขัดแย้งทางธุรกิจ

ข่าวสั้นทันเหตุการณ์ครับ วันนี้ ธนาคารกรุงเทพ ได้ส่งอีเมลแจ้งลูกค้าที่ใช้บริการ Bualuang mBanking ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป แอพลิเคชัน Bualuang mBanking จะใช้ได้กับระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 9.0 และ Android เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป

อีเมลระบุว่า ขอให้ลูกค้าทำการตรวจสอบระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือว่าเป็นรุ่นที่รองรับหรือไม่ โดยไม่ระบุสาเหตุถึงการยุติการสนับสนุนการรันแอพบน iOS ที่ต่ำกว่า 9.0 และ Android ที่ต่ำกว่า 5.0 ในอีเมลแต่อย่างใด

ใครที่ยังใช้แอพลิเคชัน Bualung mBanking บนระบบปฏิบัติการที่เก่ากว่าตามอีเมลที่แจ้ง ก็อาจจะต้องเตรียมตัวหาทางกันเล็กน้อยครับ

Rovio เปิดตัว Angry Birds AR: Isle of Pigs เกมแบบ Augmented Reality ที่เอ็กคลูซีฟเฉพาะบน iOS เพราะพัฒนาขึ้นมาด้วย ARKit เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้วบน App Store

การเล่นของเกมนี้ไม่แตกต่างจาก Angry Birds ที่ผ่านๆ มา แต่ด้วยความที่เป็น AR ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกมุมยิงได้รอบทิศทาง แตกต่างจากเดิมที่เป็นแบบ 2 มิติ

ถึงแม้เกมนี้จะเอ็กคลูซีฟเฉพาะบน iOS แต่ Rovio ระบุว่ากำลังหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างแอนดรอยด์ด้วย แต่คาดว่าคงต้องรอกันอีกซักพัก

ที่มา - PhoneArena

นอกจากฟีเจอร์ใหม่บน macOS 10.15 แล้ว 9to5Mac ยังได้ข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 13 มาด้วย ดังนี้

• Dark Mode ระดับโอเอสสามารถเลือกเปิดได้ใน Setting แบบเดียวกับบน macOS ขณะที่แอป iOS ที่ในอนาคตจะนำไปเปิดใน macOS ได้ ก็จะรองรับ Dark Mode บนแมคด้วย
• แอปบน iPad หนึ่งแอปมีได้หลายวินโดวส์ สามารถลากไปเปิดเป็น split screen หรือเป็นการ์ดลอยอยู่บนหน้าจอก็ได้
• Undo Gesture ใช้สามนิ้วปาดซ้ายเพื่อ undo ข้อความที่พิมพ์หรือปาดขวาเพื่อ redo
• Safari บน iPad จะเปิดเว็บแบบเดสก์ท็อป

จากประเด็น Netflix ประกาศหยุดรองรับการเชื่อมต่อ AirPlay ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถแคสต์วิดีโอไปยัง Apple TV ได้ ด้วยเหตุผลข้อจำกัดทางเทคนิค ก็ทำให้อดคิดด้วยการเชื่อมโยงว่า หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่ Netflix ไม่นำบริการของตนไปรวมอยู่กับ Apple TV+

มีผู้พบปัญหาว่าแอป Netflix บน iOS ทั้ง iPhone และ iPad จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นผ่าน AirPlay ได้ จากที่ก่อนหน้านี้สามารถใช้งานได้

ในหน้าศูนย์ช่วยเหลือของ Netflix ได้อัพเดตข้อมูล โดยระบุรายละเอียดเอาไว้ชัดเจนว่า "Airplay ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Netflix แล้ว เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิค" แต่ก็ไม่ได้บอกเพิ่มเติมว่าข้อจำกัดคืออะไรยังไง ทั้งนี้ Netflix รองรับ AirPlay มาตั้งแต่ปี 2013

หลังเปิดตัวในงาน Google I/O ปีที่แล้วและเปิดใช้งานก่อนบน Pixel ล่าสุด Google Duplex ฟีเจอร์ที่ให้ Google Assistant คุยโทรศัพท์แทนเราถูกเปิดใช้งานบนแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ และ iPhone แล้ว

ในหน้าซัพพอร์ทระบุว่าอุปกรณ์ที่รองรับต้องเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชัน 5.0 ขึ้นไป ขณะที่ iPhone ก็ต้องลงแอป Google Assistant ก่อนด้วย ทั้งนี้ความสามารถหลักๆ ของ Duplex ก็คือการเลียนแบบการพูดของคน ทั้งโทนเสียง, คำพูดไปจนถึงการเว้นช่องไฟของการพูด โดยตัวอย่างการใช้งานหลักๆ ที่ Google โชว์มาตลอดคือการให้ Google Assistant โทรไปจองที่นั่งร้านอาหารหรือคิวบริการต่างๆ ให้แทนเรา

เมื่อประมาณกลางเดือนมีนาคมที่เพิ่งผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ออกอัพเดตครั้งใหญ่ให้กับ Seeing AI แอพช่วยเหลือผู้มีปัญหาด้านการมองเห็น ด้วยการใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยวิเคราะห์ภาพที่จับได้จากกล้องบนสมาร์ทโฟน ทำให้ Seeing AI สามารถบรรยายและให้ข้อมูลสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวผู้ใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็นบุคคล, วัตถุ หรือข้อความ

หนึ่งในคุณสมบัติที่คนใช้แอพ Gmail หลายคนน่าจะชื่นชอบ คือ Swipe Actions ทำให้สามารถปัดข้อความและทำคำสั่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อปีที่แล้ว Gmail บน Android ก็ได้รับความสามารถเพิ่มเติมด้วยการอนุญาตให้ผู้ใช้ สามารถตั้งค่า swipe actions เป็นค่าที่ตัวเองต้องการได้ แต่ก็ยังเดินทางมาไม่ถึง iOS เสียที

กาลเวลาผ่านไปเกือบปี (ประมาณ 9 เดือนเศษ) Google จึงประกาศปล่อยความสามารถเดียวกันนี้ให้กับแอพ Gmail บน iOS แล้ว

โซนี่ออกอัพเดต PS4 ล่าสุด (6.50) อนุญาตให้สตรีมหน้าจอ (Remote Play) PS4 บนอุปกรณ์ iOS (iPhone, iPad) โดยจะต้องเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เดียวกัน ไม่สามารถเชื่อมต่อผ่าน Hotspot ได้ สามารถใช้งาน DualShock 4 ร่วมกันได้ โดยที่ต้องอยู่ไม่ห่างจากตัวเครื่องมากนัก

จากการทดลองใช้งานของทางเว็บไซต์ DualShockers พบว่ายังมีอาการหน่วงอยู่ และยังไม่รองรับทุกเกมที่มีในตอนนี้ คงต้องรอให้โซนี่อัพเดตต่อไป แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าระบบสตรีมมิ่งเกมผ่านอุปกรณ์มือถือเริ่มมีความสำคัญ และจะแพร่หลายในอนาคตมากขึ้น

ทางเพจ Levelupthailand ได้อ้างอิงข้อมูลที่มีการเปิดเผยจากทาง Chinainternetwatch ที่ระบุว่า ในแพลตฟอร์ม 10 อันดับแรกที่ทำกำไรสูงสุดบน iOS มีถึง 5 อันดับ ที่เป็นของสัญชาติจีน

สำหรับแพลตฟอร์มที่มาแรงและมีผลกำไรสูงสุด ได้แก่ Netflix แพลตฟอร์มชื่อดังจากสหรัฐ ที่เวลานี้ได้มีการระดมป้อน Content และผลิตทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ของตนเองออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จบ้างหรือผลตอบรับไม่ดีบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ให้บริการ Content ด้านสื่อบันเทิงที่มาแรงและหลากหลายที่สุด เป็นการตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนที่หันมาดูสื่อบันเทิงที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกันแทนที่การชมจากแผ่นดีวีดีหรือช่องเคเบิลยุคเก่า

Bloomberg เผยแผนการของแอปเปิลในการรวมแพลตฟอร์มแอพ iPhone, iPad, macOS เข้าด้วยกันในปี 2021

ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย เพราะแอปเปิลก็ประกาศในงาน WWDC 2018 ว่าต้องการรวมแพลตฟอร์มแอพเข้าด้วยกัน แต่ไม่ได้ระบุระยะเวลาที่ชัดเจนว่าแผนการทั้งหมดเป็นอย่างไร

สิ่งที่แอปเปิลประกาศเอาไว้คือทำ SDK สำหรับให้แอพจาก iOS ไปรันบน macOS ได้ ซึ่งในปี 2018 ยังจำกัดเฉพาะแอพของแอปเปิลเอง และเตรียมเปิดให้นักพัฒนาภายนอกใช้งานในปี 2019 นี้ (ซึ่งก็น่าจะประกาศในงาน WWDC 2019 ช่วงเดือน มิ.ย.)

ข้อมูลของ Bloomberg เผยว่า

ไมโครซอฟท์เตรียมแถลงข่าวในงาน Game Developers Conference (GDC) 2019 ช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยจะเปิดบริการออนไลน์ Xbox Live ให้แพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้ง Nintendo Switch, iOS, Android เข้ามาใช้งานได้ด้วย

Xbox Live เป็นบริการออนไลน์สำหรับการเล่นมัลติเพลเยอร์ที่เริ่มต้นพร้อม Xbox รุ่นแรกสุดในปี 2002 และภายหลังก็ขยายมายังเกมฝั่งพีซีบน Microsoft Store ด้วย บริการตัวนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ 68 ล้านคน และมีอุปกรณ์เชื่อมต่อ 400 ล้านชิ้น

จากรณีที่ Facebook ปล่อยแอป Facebook Research เก็บข้อมูลผู้ใช้งานบน iOS ซึ่งละเมิดนโยบายของแอปเปิล จนนำไปสู่การบล็อกใบรับรอง Facebook ถึงแม้ตัวแอปจะถูกลบไปแล้วก่อนหน้าก็ตาม

แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ Facebook เจ้าเดียวที่มีโครงการและแอปในลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อ TechCrunch รายงานว่า Google ก็มีแอปเก็บข้อมูลผู้ใช้ iOS ภายใต้โครงการวิจัยและให้ผลตอบแทนเหมือนกันในชื่อ Screenwise Meter และแจกจ่ายแอปผ่านช่องทาง enterprise เหมือนกัน

Mark Gurman นักข่าวจาก Bloomberg ที่มีประวัติรายงานข่าวลือแอปเปิลแม่นพอสมควร ออกรายงานล่าสุด ว่าด้วยข้อมูล iPhone และ iPad ของแอปเปิลในปี 2019 จนถึง 2020 มีรายละเอียดดังนี้

เขาบอกว่า iPhone รุ่นใหม่จะมีกล้องหลังแบบ 3D ซึ่งสามารถสแกนและสร้างภาพแบบ 3 มิติได้ โดยรองรับระยะไกลที่สุดกว่า 4 เมตร (15 ฟุต) ซึ่งสูงกว่ากล้องหน้า iPhone รุ่นปัจจุบันที่ใช้สำหรับ Face ID ในระยะ 25-50 เซ็นติเมตร ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าแอปเปิลจะต่อยอดเทคโนโลยีไปทางใด ที่ใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็น AR โดยคาดว่า iPhone พร้อมกล้อง 3D นี้ จะมีออกมาได้เร็วที่สุดในปี 2020 จากแผนเดิมที่กำหนดออกภายในปีนี้

จากประเด็นแอพ VPN ของ Facebook หรือ Facebook Research ที่จ่ายเงินให้คนใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูลการใช้งานได้ ล่าสุด Facebook ปิดการใช้งานแอพดังกล่าวบนอุปกรณ์ iOS แล้ว แต่แอนดรอยด์ยังคงใช้งานได้อยู่

ตัวแอพบังคับให้ติดตั้งใบรับรองเข้ารหัส root CA ลงในเครื่อง ทำให้มีโอกาสผิดนโยบายการรีวิวของ App Store ที่ห้ามโน้มน้าวให้ผู้ใช้ปิดฟีเจอร์ความมั่นคงปลอดภัย หรือปรับแต่งการตั้งค่าของอุปกรณ์

แอปเปิลได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ทั้งหมดในเครือ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• iOS 12.1.3 แก้ไขบั๊กหลายรายการ รวมทั้งปัญหาเชื่อมต่อลำโพงกับ iPad Pro, ปัญหาเชื่อมต่อกับ CarPlay
• macOS Mojave 10.14.3 ปรับปรุงด้านความปลอดภัย ความเสถียร
• watchOS 5.1.3 แก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วไป
• tvOS 12.1.2 แก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วไป
• HomePod 12.1.3 อัพเดตเพื่อแก้ปัญหาอุปกรณ์รีสตาร์ทตัวเอง

แอปเปิลรายงานตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้ iOS ล่าสุด ณ วันที่ 1 มกราคม 2019 โดย iOS 12 เวอร์ชันล่าสุดมีผู้ใช้งานแล้วถึง 75% ของอุปกรณ์ iOS ทั้งหมด และหากนับเฉพาะอุปกรณ์ที่เปิดตัวในช่วงไม่เกิน 4 ปี จะมีส่วนแบ่งถึง 78%

ตัวเลขภาพรวมสำหรับเวอร์ชันก่อนหน้านี้ iOS 11 มี 17% และเก่ากว่านั้น 8%

The Wall Street Journal ออกบทวิเคราะห์คาดเดาสิ่งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในวงการเทคโนโลยีของปี 2019 มีรายละเอียดดังนี้

แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการย่อย iOS 12.1.2 มีผลเฉพาะกับ iPhone มีรายละเอียดดังนี้

• แก้ไขบั๊กในการเปิดใช้ eSIM สำหรับ iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max
• แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณมือถือในตุรกี สำหรับ iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max

ผู้ใช้ iPhone สามารถอัพเดตได้ผ่าน iTunes หรือผ่าน OTA ใน Settings

ที่มา: Apple Insider

Saurik หรือ Jay Freeman ผู้พัฒนา Cydia ศูนย์รวมแอปสำหรับอุปกรณ์ iPhone ที่เจลเบรก ได้ประกาศผ่าน Reddit ว่าเขาเตรียมปิดให้บริการ Cydia Store ทั้งหมด ก่อนสิ้นปีนี้ ด้วยเหตุผลเหมือนที่เขาเคยเกริ่นเมื่อปีก่อน ว่าการเจลเบรกได้ตายไปแล้ว ทำให้ Cydia ไม่สามารถทำเงินได้คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ ผลจึงขาดทุนมาตลอด ตัวเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปิดให้บริการต่อไปอีก

ในตอนนี้ Cydia Store ได้ปิดการซื้อแอปใหม่แล้ว แต่ผู้ใช้งานเดิมยังสามารถใช้ต่อไปได้จนกว่าบริการจะปิดตัว