จาวาสริปต์เป็นภาษาสคริปต์ของ Netscape ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้บนเว็บกับ Netscape 2.0 มาตั้งแต่ปี 1995 โดยยืมชื่อ "จาวา" มาจากซันโดยไม่มีความเกี่ยวเนื่องอะไรกัน แต่ความนิยมของจาวาสคริปต์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มบุกตลาดเซิร์ฟเวอร์ด้วย node.js ตอนนี้ทางออราเคิลก็เปิดโครงการ Nashorn เป็นส่วนหนึ่งของ OpenJDK เพื่อนำจาวาสคริปต์มารันบน JVM แล้ว
โครงการนี้กำลังถูกพัฒนาเป็นการภายในออราเคิลเอง และกำลังเตรียมการโยกย้ายออกมาสู่สาธารณะภายใต้โครงการ OpenJDK จากข้อเสนอของออราเคิล
สมาชิกของ OpenJDK สามารถโหวตเพื่อรับหรือไม่รับโครงการนี้ได้ภายในวันที่ 6 ธันวาคมที่จะถึงนี้
เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว [กูเกิลเปิดตัวภาษา Dart ภาษาโปรแกรมชนิดใหม่สำหรับงานบนเว็บ](http://www.blognone.com/news/26963/%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2-dart-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A) โดยตั้งใจให้เป็นภาษาสคริปต์แบบใหม่ที่มาทดแทน JavaScript
จุดอ่อนอันยิ่งใหญ่ของ JavaScript นั้นเป็นผลพวงจากการที่ตัวภาษาถูกออกแบบมาไม่ดีเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ scope แบบ functional (คล้ายภาษา LISP) แต่กลับเขียนไวยากรณ์ในแบบ procedural (คล้ายภาษา C) ซ้ำยังอนุญาตให้เลือกว่าจะใส่ semicolon (;) ท้ายประโยคหรือไม่ก็ได้ ไปจนถึงชื่อของภาษาที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่ามันคือ Java ขนาดย่อมๆ เสียอีก นี่ทำให้การพัฒนาโปรแกรมที่ดีบน JavaScript ยุ่งยากมากสำหรับมือใหม่
W3C เผยร่างของ Web Cryptography API โดยเป็น JavaScript API ที่ทำหน้าที่เป็นฟีเจอร์ในการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล ตัวอย่างการนำมาใช้งานเช่นการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้งานผ่านทางเว็บแอพพลิเคชั่น โดยมันจะสร้างวิธีการที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นระหว่างเบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์
อีกหนึ่งความสามารถของ API ตัวนี้คือมันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการสิทธิ์ในการอ่านและเขียนข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสบน cloud ได้และมันยังยอมรับมาตรฐานอื่นๆ ในการเข้ารหัสเพื่อใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างเบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์นอกเหนือจาก SSL/TLS อีกด้วย
Dropbox ประกาศเลิกพัฒนาโค้ดใน JavaScript แล้วเขียนใหม่ทั้งหมดเป็น CoffeeScript แทน พบว่าโค้ดลดลงจาก 23,437 บรรทัด เหลือ 18,417 บรรทัด แต่จำนวน token ลดลงไม่มากนัก จาก 75,334 เหลือ 66,058
ปัญหาความยากในการพัฒนาโค้ดเป็น JavaScript เป็นสิ่งที่หลายคนรับรู้ เช่น กูเกิลเองที่พยายามผลักดันภาษา Dart มาก่อนหน้านี้ แต่ความพยายามก่อน Dart คือ CoffeeScript นั้นทำงานร่วมกับ JavaScript ได้เต็มร้อยกว่า ส่วน Dart นั้นต้องการเอนจินเฉพาะเพื่อให้ทำงานได้สมบูรณ์
Blognone เคยลงข่าวของ IonMonkey : Javascript Engine ตัวใหม่ของ Firefox ไปนานจนหลายๆ คนลืมไปแล้ว (ผมก็ลืม) วันนี้มันเริ่มถูกใช้งานจริงใน Firefox 18 ที่ยังมีสถานะเป็น nightly อยู่
นักพัฒนาชาวจีนขโมยเอนจินเกมจาวาสคริปต์ที่มีชื่อว่า Impact พร้อมทั้งลอกเว็บไซต์มาเปิดให้บริการในเวอร์ชันภาษาจีน และยังขายถูกกว่าต้นฉบับกว่าครึ่ง
Impact เป็นเอนจินเกมจาวาสคริปต์สำหรับพัฒนาเกมในรูปแบบ HTML5 ที่พัฒนาโดย Dominic Szablewski และภายหลังพบว่าถูกละเมิดลิขสิทธิ์โดยเว็บไซต์ kilofox.net หากดูแล้วจะพบว่ามีจุดแตกต่างเพียงแค่ แปลเป็นภาษาจีน ราคาขายที่ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง ไม่มีบริการหลังการขายและแน่นอนว่าต้องจ่ายเงินให้กับผู้แอบอ้าง
นักพัฒนาเว็บแถวๆ นี้คงคุ้นกับชื่อโปรแกรมเบนช์มาร์คสำหรับภาษาจาวาสคริปต์อย่าง SunSpider ที่พัฒนาโดยแอปเปิล, V8 ของกูเกิล และ Dromaeo ของค่ายม็อซซิลลา
จุดอ่อนของเบนช์มาร์คพวกนี้คือชุดทดสอบจะเน้นการทดสอบเฉพาะด้านแยกจากกัน (แต่รันแล้วนำคะแนนมาคิดรวมกัน) ซึ่งไม่สะท้อนความเป็นจริงของเว็บแอพพลิเคชันเท่าไรนัก ฝั่งกูเกิลจึงแก้ปัญหานี้โดยขยายชุดทดสอบ V8 เพิ่มเติมเป็นชุดทดสอบ Octane ที่เพิ่มแอพพลิเคชันที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงเข้ามาด้วย
เว็บ W3Techs เปิดรายงานการสำรวจการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ บนหน้าเว็บในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา พบว่า jQuery ที่เป็นไลบรารียอดนิยมนั้นมีการใช้งานถึง 50% ของเวบที่อยู่ในการสำรวจแล้ว และนับว่าเป็นเทคโนโลยีเว็บที่มีการเติบโตมากที่สุดในปี 2011 โดยยังไม่มีแนวโน้มว่าจะชะลอความเติบโตลง
เรื่องน่าสนใจคือเว็บที่ใช้ jQuery จำนวนมากเป็นการใช้งานร่วมกับไลบรารีอื่นๆ เช่น 49.5% ของเว็บที่ใช้ MooTools และ 49.2% ของเว็บที่ใช้ Prototype ก็ใช้งาน jQuery ร่วมไปด้วย
สำหรับเครื่องมืออื่นๆ เช่น Flash นั้นมีเว็บที่ใช้งานคิดเป็น 23.1% และลดลงเรื่อยๆ ส่วน Silverlight นั้นเหลือแค่ 0.25% และกำลังลดลงเรื่อยๆ อีกเช่นกัน
โครงการเปิดซอร์สโค้ดของ webOS เดินทางมาถึงจุดสำคัญ เมื่อ HP ประกาศว่าเฟรมเวิร์คจาวาสคริปต์ Enyo 2 (ที่เขียนใหม่ขึ้นจาก Enyo 1) เสร็จสมบูรณ์แล้ว
การโหลดบิตผ่านหน้าเว็บไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มันกำลังจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญมากขึ้น เพราะบริษัท BitTorrent Inc. ได้เปิดตัว BitTorrent Torque ไลบรารีจาวาสคริปต์ที่คอยเชื่อมเว็บกับไคลเอนต์ BitTorrent เข้าด้วยกัน
BitTorrent Torque จะเป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานให้เราเห็นการใช้งาน BitTorrent ผ่านเว็บในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ตัวอย่างขั้นต้นที่บริษัท BitTorrent Inc. โชว์ให้ดูมีสองอย่างคือการแชร์ไฟล์ข้ามเครื่องคอมพิวเตอร์โดยผ่านหน้าเว็บ (เบื้องหลังส่งข้อมูลกันผ่านไคลเอนต์ BitTorrent) และการดาวน์โหลดบิตเสมือนว่าดาวน์โหลดไฟล์ผ่านเบราว์เซอร์ (ใช้กับ Chrome)
กว่าสองปีตั้งแต่ jQuery UI 1.8 ออกมา และเริ่มพัฒนา 1.9 ตอนนี้ 1.9 Beta ก็มีการปล่อยให้ทดสอบแล้วครับ
ของใหม่ที่เห็นเป็นชิ้นเป็นอันในเวอร์ชัน 1.9 จะมี widget ใหม่เพิ่มเข้ามาสามตัว
นอกนั้นก็จะเป็นการปรับ API และเพิ่มความสามารถให้กับ widget เดิม
ทีมวิศวกรรมของ Twitter โพสต์ข้อมูลผ่านบล็อก Twitter Engineering ว่าบริษัทปรับกลไกการทำงานของ Twitter เวอร์ชันเว็บใหม่ โดยหน้าตายังเหมือนเดิมทุกประการแต่เปลี่ยนระบบการทำงานข้างหลังไปหลายจุด ส่งผลให้ประสิทธิภาพดีขึ้นมาก
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนคือ URL ของเพจต่างๆ บนเว็บไซต์ Twitter จะไม่มีอักขระพิเศษ #! (hashbang) อีกแล้ว เนื่องจากอักขระแบบเดิมเป็นกลไกการเรนเดอร์ข้อมูลทับไปบนเพจเดิมที่โหลดมาแล้วอีกครั้ง (ไม่ใช่การ redirect) แต่ตอนนี้ทีมงานเปลี่ยนวิธีการแสดงผลใหม่โดยเลิกใช้การเรนเดอร์ข้อมูลทับเพจเดิม เพื่อลดกระบวนและระยะเวลาของการแสดงผลข้อมูล ทำให้อักขระ #! ถูกเลิกใช้ไปด้วย
Google ออกเวอร์ชันใหม่เป็นเวอร์ชันที่ 19 สำหรับเบราว์เซอร์ยอดนิยม Google Chrome โดยในเวอร์ชันนี้มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ครับ
Brendan Eich บริจาคเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ สนับสนุนร่างกฏหมายห้ามการแต่งงานในเพศเดียวกัน (Proposition 8) โดยการบริจาคครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่สองของเขาหลังจากที่เขาเคยบริจาคเงินสนับสนุนร่างกฏหมายนี้จำนวน 1,000 ดอลลาร์ มาแล้วในปี 2008
แน่นอนว่ามันย่อมไม่มีปัญหาถ้าเขาคือคนทั่วไป แต่ Eich ได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งจาวาสคริปต์ การบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนร่างกฏหมายที่มีนัยจำกัดสิทธิเสรีภาพจึงได้รับการวิจารณ์อย่างหนัก โดยหลายๆคนพูดว่า มันทำให้ Mozilla เสื่อมเสีย บางคนก็บอกว่า เขาคือผู้ทำลายล้างเสรีภาพบนโลกอินเทอร์เน็ต(เกี่ยวกันยังไง?) หรือแม้แต่ Eich กลายเป็นไดโนเสาร์ไปแล้ว
คนที่ใช้ Windows 8 Consumer Preview คงทราบกันดีว่าไมโครซอฟท์เพิ่มแอพ Maps แบบ Metro เข้ามาแล้ว แน่นอนว่ามันใช้ข้อมูลจาก Bing Maps และวันนี้ไมโครซอฟท์เปิดให้นักพัฒนาทั่วไปสามารถสร้างแอพ Metro ที่ฝัง Bing Maps แบบเดียวกัน
นักพัฒนาที่อยากใช้ Bing Maps ในแอพ Metro สามารถดาวน์โหลด Bing Maps SDK for Metro style apps (Beta) (ต้องใช้คู่กับ Visual Studio 11 Beta) โดยสามารถเลือกเครื่องมือพัฒนาได้ 2 แบบคือ
ทุกวันนี้หลายๆ คนคงใช้งานเว็บต่างๆ เหมือนแอพพลิเคชั่นบนเดสก์ทอปกัน เช่น Gmail ความสะดวกในช่วงหลังๆ มีมากขึ้นเมื่อเราไม่ต้องมองหน้าเว็บเหล่านั้นตลอดเวลาเมื่อมีเหตุการณ์ที่เราควรได้รับการเตือนบนเดสก์ทอป เช่น แชตใหม่ หรือเมลใหม่ แต่ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือเราต้องเปิดเว็บเหล่านั้นไว้ตลอดเวลา
ทางฝั่งไฟร์ฟอกซ์เริ่มเสนอทางออกในเรื่องนี้ ด้วยการเสนอ API ในชุด notification ทำให้เว็บสามารถสื่อสารกับเบราเซอร์ได้ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้เปิดหน้าเว็บอยู่
จากที่ กูเกิลเปิดตัวภาษา Dart ภาษาโปรแกรมชนิดใหม่สำหรับงานบนเว็บ โดยออกมาชนกับ JavaScript โดยตรง (ด้วยคุณสมบัติบางอย่างที่เหนือกว่า) ล่าสุดกูเกิลออก
จริงๆ ตัวไฟล์เปิดให้ดาวน์โหลดมาสองวันแล้ว แต่ผมรอให้ประกาศอย่างเป็นทางการออกเสียก่อนนะครับ (เชื่อว่าคนแถวนี้คงรัน Beta/Aurora กันเยอะด้วย)
ของใหม่ของ Firefox 9 รุ่นเดสก์ท็อป ได้แก่
เว็บไซต์ ReadWriteWeb มอบรางวัลให้กับเครื่องมือพัฒนาเว็บ (Web Developer Tools) ประจำปี 2011 โดยเน้นเครื่องมือที่สร้างนวัตกรรม มีคนใช้แพร่หลาย และเป็นประโยชน์ต่อนักพัฒนาเว็บ
ReadWriteWeb เลือกมาได้ 8 ตัว (ไม่เรียงลำดับ) รายละเอียดของแต่ละตัวก็อ่านต้นฉบับหรือค้นข้อมูลกันเองนะครับ
ยาฮูเปิดตัว Cocktails เฟรมเวิร์คสำหรับพัฒนา "แอพ" ที่ฉีกแนวคิดแบบเดิมๆ ทิ้งไป
เดิมทีเฟรมเวิร์คสำหรับการพัฒนาแอพ มักใช้กับ "เว็บแอพ" หรือแอพที่ทำงานบนฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (เช่น Ruby on Rails) แต่ภายหลังเราก็เห็นเฟรมเวิร์คสำหรับภาษาจาวาสคริปต์ ที่ออกแบบมาทำงานบนฝั่งไคลเอนต์มากขึ้น (เช่น jQuery)
แต่ Cocktails ของยาฮูกลับแนวคิดนี้เสียใหม่ โดยสร้างเฟรมเวิร์คภาษาจาวาสคริปต์ที่โค้ดชุดเดียวกัน สามารถรันได้ทั้งบนไคลเอนต์และเซิร์ฟเวอร์ แถมการทำงานบนไคลเอนต์ยังไม่จำกัดเฉพาะภายในเบราว์เซอร์ แต่ขยายไปยัง iPad/iPhone ได้ด้วย
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงงาน IDF 2011 อินเทลยังคงมีของมาโชว์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เทคโนโลยีตัวแรกคือซีพียูตัวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Near Threshold Voltage (NTV) โดยมีชื่อรหัสว่า Claremont เป็นชิปสาธิตการทำงานของซีพียูที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้ทำงานที่ใกล้กับความต่างศักย์เริ่มเปลี่ยน (Threshold Voltage - ค่าความต่างศักย์ที่เริ่มทำให้ทรานซิสเตอร์เปลี่ยนสถานะ) โดย Claremont จะทำงานที่ความต่างศักย์ประมาณ 400-500 มิลลิโวลต์เท่านั้น ขณะที่ซีพียูทั่วไปทุกวันนี้จะทำงานประมาณ 1 โวลต์ขึ้นไป
ไม่กี่วันหลังข่าวว่ากูเกิลกำลังจะเปิดภาษาใหม่ ก็มีคนไปขุดเอาเมลที่ Mark S. Miller ที่อยู่ในทีม JavaScript Standard ของกูเกิลส่งเข้าเมลกลุ่มของโครงการ Caja เมื่อปลายปีที่แล้ัว
เมื่อปี 2010 กูเกิลได้เพิ่มตัวอ่าน PDF เข้ามาใน Chrome ซึ่งเทคนิคของมันคือการแปลง PDF เป็น HTML แล้วเรนเดอร์แบบเว็บเพจทั่วไป ถึงแม้ฟีเจอร์จะน้อยกว่าตัวอ่าน PDF เต็มรูปแบบ แต่ก็ช่วยให้นักท่องเว็บสะดวกขึ้นมาก
มาคราวนี้ค่าย Mozilla หันมาทำแบบเดียวกันบ้าง แต่รูปแบบจะต่างไปเล็กน้อย เพราะ Mozilla พัฒนาเป็นโค้ด JavaScript ชื่อ pdf.js ที่ทำหน้าที่แบบเดียวกัน (แปลง PDF เป็น HTML5/Canvas) แต่สามารถนำไปฝังที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ได้เลย
Chrome ขึ้นชื่อในเรื่องประสิทธิภาพในเรื่องของ JavaScript ตามเว็บไซต์ทั่วๆ ไป แต่การประมวลผลงานที่ต้องใช้ JavaScript หนักๆ นั้น Chrome กลับมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างต่ำ
Fabrice Bellard ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Linux บน JavaScript ได้ระบุว่า V8 นั้นทำงานช้ากว่า JaegerMonkey ถึง 2 เท่า และ Erik Möller ซึ่งเป็นนักพัฒนาของ Opera ได้ทดสอบใช้ JavaScripts มาแตกไฟล์ zip พบว่า Chrome ทำงานช้ากว่า Opera ร่วม 60 เท่าตัวทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทางทีมพัฒนา V8 ได้ทราบปัญหานี้มานานพอสมควรแล้ว และกำลังปรับปรุงประสิทธิภาพในการประมวลผล JavaScript อยู่เช่นกัน