John Resig ประกาศทางบล็อกส่วนตัวของเขาว่าเขาได้ลาออกจาก Mozilla Corporation เพื่อย้ายไปทำงานกับ Khan Academy แล้ว

John Resig เป็นผู้สร้าง jQuery ซึ่งเป็น JavaScript Library ชื่อก้องโลกที่ช่วยให้นักพัฒนาประหยัดเวลาในการพัฒนา JavaScript ในด้านต่างๆ เช่น

Mozilla ได้พัฒนาระบบ JavaScript engine ตัวใหม่ ชื่อว่า IonMonkey ซึ่งเป็นคอมไพเลอร์ที่ใช้เทคนิค SSA เพื่อ optimize ไบต์โค้ดในหลายๆ ส่วนที่ JägerMonkey ไม่สามารถทำได้ โดยการปรับปรุงนี้มีอาทิเช่น การรวมฟังก์ชันมากกว่าหนึ่งฟังก์ชันใดๆ เป็นฟังก์ชันเดียว (inlining) การเลือกชนิดข้อมูลให้เหมาะสมกับตัวแปรมากขึ้น การปรับปรุงประสิทธิภาพในการจองรีจิสเตอร์ การกำจัดไบต์โค้ดส่วนที่ไม่มีประโยชน์ทิ้ง ปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำนายการ branch ในไบต์โค้ด รวมถึงการปรับปรุงการใช้หน่วยความจำของตัว engine เองให้น้อยลง

ถึงแม้ JSON จะได้รับความนิยมในฐานะของรูปแบบการส่งข้อมูลที่สามารถอ่านได้เข้าใจและมีขนาดเล็ก แต่ปัญหาหนึ่งของ JSON ก็คือ จะอ่านและทำความเข้าใจได้ยากหากข้อมูลมีจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ JSON Report (ส่วนหนึ่งของ AjaxStack) จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดย JSON Report นั้นสามารถแปลง JSON จาก ข้อความ ไปเป็น รายงาน (ตัวอย่าง ข้อความ และ รายงาน) ทำให้สามารถอ่านได้ง่ายขึ้นมาก และยังมีความสามารถในการเรียง

เป็นปัญหากันมานานสำหรับ jQuery UI ในเรื่องของ Theme ที่มีหน้าตาไม่ถูกใจนักพัฒนาหลายท่าน จนไม่นานมานี้มีนักพัฒนาท่านหนึ่งได้ทำการพัฒนา Theme ขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อว่า Aristo Theme ซึ่งดูจากหน้าตาแล้ว นับว่าเป็นทางออกที่ดีสำหรับปัญหาดังกล่าว (ตัวอย่าง และ ดาวน์โหลด)

กูเกิลพัฒนาเทคนิคการโหลดจาวาสคริปต์แบบใหม่ให้กับ AdSense ทำให้การโหลดเว็บเพจที่ติดโฆษณาจาก AdSense เร็วขึ้นกว่าเดิม

เดิมทีสคริปต์ของ AdSense (show_ads.js) จะต้องโหลดตัวเองเข้ากับเว็บ อ่านเนื้อหาบนหน้าเว็บให้ครบ แล้วดึงโฆษณาจากกูเกิลมาแสดง ทำให้เกิดคอขวดของการแสดงผลเว็บเพจ แต่สคริปต์ตัวใหม่จะใช้ iframe เข้าช่วย การโหลดโฆษณาจะเป็นแบบ asynchronous ซึ่งกูเกิลบอกว่า "แทบไม่รู้สึก" ถึงความแตกต่างกับหน้าเว็บที่ไม่มีโฆษณาเลย

ข่าวดีคือทุกอย่างเกิดขึ้นบนฝั่งกูเกิลหมด คนที่ติด AdSense ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ตอนนี้ยังรองรับเฉพาะ Chrome, Firefox และ IE8 ครับ

แม้ว่า Chrome จะเป็นผู้นำในตลาดจาวาสคริปต์ด้วยเอนจิน V8 มาตั้งแต่เปิดตัว แต่เมื่อคู่แข่งเริ่มไล่กวดมาใกล้ทันในช่วงหลัง ทางกูเกิลก็ต้องหนีโดยออก "Crankshaft" ซึ่งกูเกิลบอกว่ามันคือ compilation infrastructure สำหรับ V8 ที่ประมวลผลจาวาสคริปต์เร็วกว่าเดิมหนึ่งเท่าตัว (วัดจากเบนช์มาร์คของ V8 เอง)

Crankshaft เป็นชื่อเรียกขององค์ประกอบย่อย 4 อย่างสำหรับการประมวลผลจาวาสคริปต์ ได้แก่ base compiler, runtime profiler, optimizing compiler, deoptimization support รายละเอียดอ่านได้จากที่มา

แอพพลิเคชันที่ได้ประโยชน์จาก Crankshaft คือแอพพลิเคชันที่มีการประมวลผลจาวาสคริปต์หนักๆ ส่วนเร็วขึ้นแค่ไหนก็ดูกันเองตามกราฟ

ไมโครซอฟท์ทำตัวเป็นยักษ์หลับปล่อยให้ทุกค่ายอวดความเร็วจาวาสคริปต์กันอย่างต่อเนื่อง โดยมี Internet Explorer รั้งท้ายในทุกการทดสอบให้เราเห็นเสมอๆ แต่ใน IE9 ดูเหมือนไมโครซอฟท์จะตื่นมาเอาจริงกับจาวาสคริปต์แล้ว เมื่อจาวาสคริปต์เอนจินใหม่ที่ชื่อว่า Chakra ทำงานได้อย่างเต็มที่ ดันคะแนน SunSpider ขึ้นไปเป็นที่หนึ่งอีกครั้ง

Chakra สามารถคอมไพล์และเก็บโค้ดที่คอมไพล์ได้เพิื่อเพิ่มความเร็วได้หลายสิบเท่าไปจนถึงนับพันเท่าในบางกรณี เช่นเดียวกับ V8 ใน Chrome, Nitro ใน Safari, Carakan ใน Opera ส่วน Firefox นั้นกำลังเปลี่ยนเอนจินใหม่เป็น JägerMonkey ใน Firefox 4.0

แอบหวังต่ออีกหน่อยว่าไมโครซอฟท์จะพาเอนจินไปลงโทรศัพท์ในเร็ววัน

ต่อจากข่าว โครงการ jQuery Mobile เริ่มต้นแล้ว, รุ่นแรกออกปลายปีนี้ ตอนนี้รุ่นทดสอบแรกมาแล้ว

jQuery Mobile เป็นเฟรมเวิร์คสำหรับสร้างส่วนติดต่อผู้ใช้ (user interface framework) ที่สร้างครอบ jQuery อีกทีหนึ่ง เป้าหมายของมันคือสร้างเว็บแอพพลิเคชันยุคใหม่ที่ใช้งานผ่านมือถือและแท็บเล็ต

ตอนนี้ jQuery Mobile ออกรุ่น Alpha 1 แล้ว ใครสนใจลองเล่น เดโม ก่อนได้ (ทำเดโมกับเอกสารเป็นเว็บเดียวกันเลย เจ๋งมาก) ในรุ่นนี้พวกฟอร์มพื้นฐานเสร็จเกือบหมดแล้ว และรองรับการเปลี่ยนธีมที่ตัวเฟรมเวิร์คเลย ส่วนรุ่นถัดๆ ไปก็จะเพิ่มพวก progress bar, date/time picker และรองรับแท็บเล็ต

เว็บไซต์ derStandard.at มีโอกาสสัมภาษณ์ Chris Blizzard ผู้บริหารของ Mozilla ในหลายเรื่อง แต่คำถามสำคัญคือ "ทำไมตอนนี้ Firefox มีอันดับเกือบบ๊วยในการประมวลผลจาวาสคริปต์"

คำตอบของ Blizzard คือ Firefox 4 จะนำเทคนิค Tracing-JIT มาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ประสิทธิภาพดีขึ้นมาก เหนือกว่าคู่แข่งไปอีก 1 ชั่วรุ่น (we'll be one generation ahead of everyone else)

ประเด็นอื่นๆ คือ Firefox จะมี hardware acceleration บนลินุกซ์และแมคอย่างแน่นอน เพียงแต่มีบนวินโดวส์ก่อนเพราะ API ของวินโดวส์ดีกว่า, ส่วนการแยกโพรแซสของแท็บจะทำเช่นกัน แต่ไม่ทันใน Firefox 4

jQuery ประกาศโครงการ jQuery Mobile ที่จะเป็นเฟรมเวิร์คสำหรับการทำแอพลิเคชั่นเต็มรูปแบบบนโทรศัพท์มือถือ โดย jQeury Mobile จะไม่ใช่เพียงเฟรมเวิร์คสำหรับงานทั่วไปเท่านั้น แต่จะรวมเอาส่วน user interface ทั้งหมดเข้ามา เพื่อให้เราสามารถพัฒนาเว็บแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เกือบทุกยี่ห้อได้ในครั้งเดียว

jQuery เป็นเฟรมเวิร์คที่ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงหลัง Drupal เองก็รับ jQuery เป็นส่วนหนึ่งของ API อย่างเป็นทางการ แต่ในรุ่นปรกตินั้นกลับไม่มีความสามารถด้านการแสดงผลมากมายนัก โครงการเสริมเช่น jQeury UI เองก็ยังมีความสามารถที่จำกัดอยู่มาก

หลังจากที่กูเกิลเปิดตัว Android 2.2 ไปได้ไม่นาน และได้เห็นรีวิว กันไปแล้ว

ทาง Ars Technica ได้นำ Nexus One มาวัดประสิทธิภาพในการรัน JavaScript ด้วย SunSpider และ V8 benchmarks บนเบราว์เซอร์ของ Froyo ซึ่งเร็วกว่าเวอร์ชันก่อนหน้านี้พอสมควร และนำมาเปรียบเทียบกับการรันบน iPhone 4 โดยใช้ Safari ผลปรากฏว่า Nexus One ทิ้ง iPhone 4 แทบไม่เห็นฝุ่น โดยผลจากการรัน V8 นั้น Nexus One ได้ผลออกมามากกว่า iPhone 4 เกือบสี่เท่า (ดูภาพ benchmarks ได้จากที่มา)

แอปเปิลคงต้องทำการบ้านเยอะซักหน่อยแล้ว ถ้ายังอยากจะให้ Safari ครองบัลลังก์เรื่องของเบราว์เซอร์บนมือถือที่เร็วที่สุด

อันที่จริงก็แว่วมานานแล้วเหมือนกันครับ แต่ครั้งนี้ทางกูเกิลได้ยืนยันไปยัง Forbes แล้วว่า กูเกิลบอท หรือโปรแกรมดูดข้อมูลเว็บไซต์ของกูเกิลนั้นสามารถประมวลผล JavaScript บางส่วนได้ด้วย

นอกจากนี้ กูเกิลบอทยังสามารถอ่านเข้าไปถึงไฟล์มีเดียประเภทต่างๆ ได้ค่อนข้างมาก ประกอบกับการเปิดใช้งานระบบดัชนีเว็บตัวใหม่ จะยิ่งทำให้กูเกิลบอทสามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เร็วขึ้น และทันสมัยขึ้นอีกด้วย

เผลอๆ ไม่แน่อีกหน่อยอาจเห็นกูเกิลบอทเก็บผักได้ด้วย !

ทีม V8 ซึ่งทำเอนจินจาวาสคริปต์ให้กับ Chrome ออกมาโชว์ตัวเลขว่า Chrome 5.0 จะเร็วขึ้นอีก ถ้าวัดเฉพาะจาวาสคริปต์ในชุดทดสอบของ V8 เร็วกว่า Chrome 4.0 ถึง 30% และถ้าเป็นชุดทดสอบ SunSpider ตัวเลขอยู่ที่ 35%

ถ้าเทียบกับ Chrome ตัวแรกสุดที่กูเกิลเคยปล่อยออกมา (เบต้าของ Chrome 1.0) เราจะได้ว่า Chrome 5.0 เร็วกว่าเดิม 213% และ 305% ตามลำดับชุดการทดสอบ

อ่านฟีเจอร์ใหม่ของ Chrome 5.0 ได้จากข่าว จะมีอะไร ใหม่ใน Chrome 5.0

ที่มา - Google Chrome Blog

Opera ชนะผลทดสอบชุดทดสอบ Sputnik ของกูเกิลด้วยเบราเซอร์รุ่นใหม่ๆ ทั้งหมด โดย Opera 10.50 นั้นไม่ผ่านเพียง 78 ชุดทดสอบ ขณะที่ WebKit 4.0.4 ไม่ผ่าน 158 ชุด, Chrome 4.0 ไม่ผ่าน 218 ชุด, Firefox 3.6 ไม่ผ่าน 259 ชุด, ส่วน IE8 ยังรั้งท้ายด้วยการไม่ผ่าน 463 ชุด

การแข่งเรื่องความเร็วในการประมวลผลจาวาสคริปต์กำลังจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากค่าย Opera เปิดตัว "Carakan" ใน Opera 10.5 ซึ่งเร็วกว่า Chrome และ Safari ถ้าเทียบเวอร์ชันบนแมคด้วยกัน

หลายๆ ท่านในที่นี้คงใช้ iPhone เปิดเว็บ และมักจะหัวเสียเมื่อเว็บที่สร้างด้วย Adobe Flash แล้วดูไม่ได้ แต่ล่าสุด โปรแกรมเมอร์คนหนึ่งนั่งเพียรเขียน Flash Runtime ด้วย Javascript ทำให้ iPhone สามารถเปิด Adobe Flash หรือ ไฟล์ Shockwave Flash (.swf) ได้แล้วในระดับหนึ่ง

Runtime ตัวนี้มีโค้ดเนมว่า Gordon เขียนด้วย Javascript ล้วนๆ โดยใช้เทคนิคในการสั่งให้ Javascript สร้างภาพแบบ SVG เพื่อแสดงภาพใน Browser ได้ ซึ่งวิธีนี้ทำให้สามารถเปิดไฟล์ Adobe Flash ผ่าน iPhone ได้แล้ว ลองดูจากภาพรถวิ่ง ที่ใช้ Gordon ในการเปิดไฟล์ Adobe Flash

กูเกิลเปิดซอร์สชุดพัฒนาของภาษาจาวาสคริปต์ที่กูเกิลใช้ในบริการดังๆ ของตัวเอง เช่น Gmail, Google Docs และ Google Maps

ชื่อของมันแบบรวมๆ คือ Closure Tools ประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้

หลังจากเมื่อปีที่แล้วกูเกิลได้เปิดบริการ Ajax Libraries API ที่รับฝากไลบรารีจาวาสคริปต์ไว้ให้ ทำให้ผู้ใช้งานเว็บสามารถโหลดไลบรารีเหล่านั้นได้เร็วขึ้นและช่วยประหยัดแบนด์วิธของเว็บ ในวันนี้คุณ Scott Guthrie ซึ่งเป็นรองประธานฝ่ายนักพัฒนาของไมโครซอฟท์ ก็ได้ออกมาประกาศเปิดตัวบริการฟรีในลักษณะเดียวกันภายใต้ชื่อ Microsoft Ajax CDN

แม้ว่าจะออกมาได้ไม่นาน แต่ก็มีคนค้นพบข้อผิดพลาดร้ายแรงของ Firefox 3.5 ที่เกิดขึ้นกับการประมวลผลของ JavaScript แล้ว โดยข้อผิดพลาดนี้นั้นเกิดขึ้นจาก Tracemonkey ตัวประมวลผล JavaScript ตัวใหม่ที่เพิ่งจะมีเพิ่มในรุ่น 3.5 เองครับ

ข้อผิดพลาดดังกล่าวนี้สามารถใช้ให้รันโค้ดอื่นๆ ที่ผู้ใช้ไม่ได้สั่งได้ และยังมีโอกาสทำให้สูญเสียข้อมูลในหน่วยความจำอีกด้วย ซึ่งบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย Secunia นั้นให้ระดับความรุนแรงถึงขั้น Highly critical เลยทีเดียว (รายละเอียดดูได้ในรายงานของ Secunia)

Microsoft Live Labs ปล่อยของเล่นมาให้เล่นกันอีกแล้วครับ คราวนี้เป็น Deep Zoom ที่พัฒนามาจากเทคโนโลยี Seadragon ที่ Microsoft ซื้อมาและพ่วงมากับ Silverlight ได้สักพักแล้วครับ แต่ว่าคราวนี้มาเป็น Seadragon Ajax คือเป็น Deep Zoom แบบไม่ต้องมี Silverlight ครับ คือใช้ Javascript เท่านั้น

ผมว่าไม่ต้องอารัมภบทมากว่ามันดียังไง ลองเข้าไปเล่น Sample ดูได้ที่หน้าลิงค์เลยครับลองซูมเข้าไปดูตรงแถวๆ ที่เป็นข้อความดูครับ

http://livelabs.com/seadragon-ajax/

แบบนี้น่าจะเริ่มเห็น Website เอาไปใช้กันบ้างแล้วล่ะครับ เพราะว่าไม่ได้ผูกกับ Silverlight อย่างเดียวแล้ว

InfoWorld มีสกู๊ปเกี่ยวกับอนาคตของภาษาโปรแกรมแบบไดนามิก ว่าจะไปในทิศทางใด จำนวน 10 ข้อ

ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่น่าจับตามอง เมื่อคุณ Scott Guthrie รองประธานบริษัทฝ่าย Developer ได้ประกาศว่าต่อไปนี้ไมโครซอฟท์จะผนวกเอา jQuery ที่เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับจาวาสคริปต์โอเพนซอร์สยอดนิยม เข้ามาไว้เป็นส่วนหนึ่งของ Visual Studio โดยไม่มีการแก้ไขต้นฉบับ สำหรับส่วนขยายเพื่อรองรับ Intellisense สำหรับ jQuery นั้นจะเปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานได้ภายในสองถึงสามสัปดาห์ และจะผนวก jQuery เข้าไปใน ASP.NET MVC ด้วย

ไมโครซอฟท์ยังได้วางแผนใช้งาน jQuery ในผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่น ASP.NET Ajax Control Toolkit, Ajax helper ต่างๆใน ASP.NET MVC และความสามารถใหม่ๆ ASP.NET AJAX เป็นต้น และจะส่งแพทช์หรือรายงานข้อผิดพลาดต่างๆกลับไปที่ jQuery เช่นเดียวกับผู้ใช้อื่นๆ

หลายคนอาจจะคุ้นเคยการอัพโหลดไฟล์ที่เป็น ajax ตัวอย่างเช่น การอัพโหลดไฟล์บน Wordpress หรือ Flickr โดยเบื้องหลังความมหัศจรรย์นี้คือ Flash ที่ทำหน้าที่อยู่เบื้องหลัง โดยถูกเรียกใช้งานจาก JavaScript อีกต่อหนึ่ง ซึ่ง เทคนิคคล้ายกันนี้เป็นที่นิยมแพร่หลาย เพื่อทดแทนความสามารถที่จำกัดของมาตราฐานเว็บและ JavaScript แต่ยัง คงความง่ายในการพัฒนาของ HTML และ JavaScript แต่ทั้งนี้ Lee Brimelow นักพัฒนาจาก Adobe ได้เขียน blog อธิบายว่าความสามารถเหล่านี้จะไม่มีอยู่ใน Flash version 10 โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย

ช่วงนี้ไม่มีสมรภูมิไหนสู้กันดุเดือดเท่ากับการแข่งเอนจินจาวาสคริปต์อีกแล้ว

เรื่องเริ่มจากค่าย WebKit นั้นเปิดตัว SquirrelFish (ปลากระรอก - โลโก้) เพื่อเป็นเอนจินตัวใหม่แทน JavaScriptCore ของเดิมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัย KJS จากนั้นก็เป็นฝั่ง Mozilla อัพเกรดเอนจิน SpiderMonkey มาเป็น TraceMonkey (ข่าวเก่า) และปิดท้ายด้วย V8 จากกูเกิล

Mozilla ออกโรงแถลงเกี่ยวกับ firefox ในรุ่นถัดไปว่าจะทำให้การรัน javascript เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยการใช้ TraceMonkey ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจาก SpiderMonkey ที่เป็น JavaScript engine ที่ใช้อยู่ใน firefox ตัวปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ยังได้ทดสอบด้วย micro-benchmarks พบว่าเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 37.5 เท่า เมื่อจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับโปรแกรมทดสอบ การใช้งานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรรอทดสอบกันนะครับ

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้จะถูกใส่มาพร้อมกับ Firefox 3.1 ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปที่กำลังจะออก

เขาคิดเรื่อง memory ใช้เพิ่มมากขึ้นบ้างไหมนะ หรือว่าไม่สนใจเครื่องเก่าๆเลย ฮือๆ