ไม่ใช่ข่าวแต่ขอโหนกระแสโอเพนซอร์สหน่อย ผมคิดว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่อยากใช้โอเพนซอร์ส แต่ติดปัญหาว่าไม่มีคู่มือการใช้งานที่เป็นภาษาไทยวางขาย/แจกจ่าย จริงๆ SIPA และหน่วยงานต่างๆ ได้มีทำไว้บ้างพอสมควรครับ

เอกสารทั้งหมดสามารถแจกจ่ายได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องขออนุญาต และพิมพ์ลงกระดาษได้ถ้าไม่ได้ใช้ในการค้า

ไทยรัฐออนไลน์ได้คำสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีสิทธิชัยมาครับ ยกมาตรงๆ เลยละกัน

มีบทความในเว็บข่าวออนไลน์ประชาไทสองบทความที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์และการทำงานของกระทรวงไอซีที

วิสัยทัศน์ ยักษ์เขียวตาเดียว
จม.เปิดผนึกถึงรมต.ไอซีที: “แม้จะไม่สนับสนุน แต่ก็หวังว่าจะไม่รบกวนการทำงาน”

อันหลังนี่เป็นการกล่าวถึงและสรุปความจดหมายที่อยู่ที่ blognone นี่เอง

เนื่องจากทางตัวแทนได้เข้าพบและยื่นจดหมายรวมถึงรายชื่อให้กับรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นขอปิดการลงชื่อนะครับ

คุณเทพได้ร่างจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT ซึ่งกดเข้าไปดูได้ข้างใน การเข้าชื่อในจดหมายฉบับนี้ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละท่านไม่มีบังคับนะครับ ช่วงนี้ผมจะเปิดให้คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก Blognone สามารถคอมเมนต์ได้ด้วย ดังนั้นถ้าอ่านมาถึงตรงนี้และอยากลงชื่อก็ไม่ต้องสมัครสมาชิก เขียนในคอมเมนต์ได้ทันที

วันที่ปิดรับการลงชื่อจะประกาศอีกที หลังจากนั้นตัวแทนจะรวบรวมแล้วทำการยื่นจดหมายไปยังรัฐมนตรี ถ้าเห็นว่าจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้มีประโยชน์ ก็ช่วยกันประชาสัมพันธ์ต่อด้วยครับ - mk

คำสัมภาษณ์ของ รมต. สิทธิชัย ที่ตีพิมพ์ใน Bangkok Post (ข่าวเก่า) ได้ลง Slashdot ไปเรียบร้อยแล้วครับ รีบๆ เข้าไปดูเผื่อพรุ่งนี้อาจจะเข้า /. ไม่ได้กันนะ

ส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญในโครงการ OLPC คือการใช้ LinuxBIOS ที่อาจจะนับได้ว่าเป็นฮาร์ดแวร์ชุดแรกที่ใช้ LinuxBIOS ตั้งแต่ออกมาจากโรงงาน เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วระบบการทดสอบซอฟต์แวร์ระดับล่างๆ เช่นนี้จะทำได้ลำบากมาก เนื่องจากต้องการการทดสอบกับฮาร์ดแวร์โดยตรง

งานนี้กูเกิลจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทางโครงการ ด้วยการสร้างระบบทดสอบที่อัตโนมัติโดยสมบูรณ์ ทำให้เมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโค้ดใน LinuxBIOS นับจากนี้ไป การเปลี่ยนแปลงนั้นจะถูกทดสอบในเมนบอร์ดที่ทางโครงการรองรับทั้งหมดโดยทันที ทำให้หากมีใครต้องการอัพเกรดไบออสในเครื่องไปใช้ LinuxBIOS ก็จะสามารถใช้ได้อย่างอุ่นใจขึ้นอีกขั้น

เอาไว้หาเครื่องเก่าๆ มาลงดีกว่า....

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการโอเพนซอร์สจาวา โดยใช้สัญญาอนุญาตแบบ GPL ก็เกิดข่าวหนาหูว่าซันอาจจะใช้ GPL กับ OpenSolaris ที่โอเพนซอร์สไปก่อนหน้า (แต่ใช้ CDDL) ด้วย

เรื่องนี้ได้รับการยืนยันเล็กๆ ในงานแถลงข่าวโอเพนซอร์สจาวา โดย Jonathan Schwartz ประธาน/ซีอีโอ และ Rich Green รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์ของซัน โดย Schwartz ถาม Green บนเวทีแบบขำๆ ว่า "Will you GPL Solaris, Mr. Green?" ซึ่งคำตอบก็คือ "We will take a close look at it,"

mk ฝากมาให้ลงข่าว เพราะตัวเองอ่านแล้วหมดแรง

ก่อนอื่นขอตัดตอนส่วนที่บอกวิสัยทัศน์เรื่องนี้มาให้อ่านก่อนละกันครับ

ส่วนโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมไอที รมว.ไอซีที กล่าวว่า เอ็มเบดเด็ด ซอฟต์แวร์เป็นโครงการที่สำคัญ โดยสำนักงานส่ง เสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซิป้า จะตั้งศูนย์พัฒนาเอ็มเบดเด็ด ซอฟต์แวร์ร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ ส่วนด้านแอนิเมชันซิป้าทำอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ขณะที่ซอฟต์แวร์เฮ้าได้สั่งให้ซิป้าส่งเสริมต่อไป สำหรับโอเพนซอร์สมองไม่เห็นประโยชน์เท่าไร

เนื้อหาสาระอยู่ที่ประโยคสุดท้ายนั้นเอง ...

จากข่าวลือที่ผ่านมาว่าจาวา (Java SE, Java ME) จะโอเพนซอร์สด้วยไลเซนส์ GPLv2 วันนี้ก็เป็นที่ยืนยันชัดเจนแล้วว่าเป็นไปตามนั้น

ก็เป็นไปตามประกาศทุกอย่างว่าซันจะโอเพนซอร์ส javac และตัว HotSpot ออกมาก่อน ส่วนที่เหลือจะทะยอยออกมาให้แล้วเสร็จภายในกลางปีหน้า ตัวซอร์สโค้ดที่จะออกมาภายหลังตัวไลเซนส์จะ + Classpath exception เข้าไปด้วย กล่าวคือเป็นข้อยกเว้นเอาไว้ว่า ถ้าคลาสใดที่สืบถอดหรือมีความสัมพันธ์กับคลาสในตัว runtime ไม่จำเป็นต้องเป็นไลเซนส์ GPL ตามไปด้วย

ส่วน Java EE ที่โอเพนซอร์สมานานแล้วในรูปแบบไลเซนส์ CDDL ต่อไปก็จะใช้ระบบสองไลเซนส์ ใครสงสัยอะไรอ่าน FAQ เพิ่มเติมได้ (ยาวมาก)

ข่าวเด่นครับ Sun Microsystems Inc ได้ประกาศ Opensource ของ Java Technology ในวันที่ November 13, Sun will announce the open sourcing of Java technology. โดยจำแนกเป็นหมวดได้คือ 1. Java Standard Edition ที่ทำงานอยู่ที่ desktop 2. Java Micro Edition ที่ทำงานบนโทรศัพท์มือถือและพวก embedded devices 3. Java Enterprise Edition ที่ทำงานอยู่บนในงานธุรกิจเป็นหลัก

โดยการนี้ได้ออกรูปแบบของ Opensource แบบ Free Software Foundation's GNU General Public License (GPLv2) ซึ่งเป็น license ของกลุ่ม GNU/Linux community

ข่าวและรายละเอียดเพิ่มเติมจาก Sun

การเลือกสัญญาอนุญาต (license) ของซันครั้งนี้ จะเลือกใช้ GPL กับรุ่นไมโคร (J2ME) และรุ่นมาตรฐาน (J2SE) แต่ยังคงใช้ CDDL กับรุ่นองค์กร (J2EE) ซึ่งเป็นแบบเดียวกันที่ใช้กับ OpenSolaris

เหตุผลส่วนนึงมาจาก poll ที่ทำขึ้น ซึ่งเลือก GPL+LGPL ถึง 37% รองลงมาคือ Apache 31% แต่แปลกใจตรงที่มีผู้โหวตที่ ไม่ต้องการให้โอเพนซอร์ส สูงถึง 21%

ข่าวใหญ่รอบสัปดาห์นี้คือการเซ็นสัญญาระหว่างไมโครซอฟท์กับโนเวลล์ โดยเนื้อหาสัญญามี 3 ประเด็นดังนี้

Jonathan Schwartz ซีอีโอของซันประกาศในงาน Oracle OpenWorld conference ว่าซันจะโอเพนซอร์สจาวาภายใน 30-60 วัน โดยยังไม่ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม บอกเพียงแค่ว่าสัญญาอนุญาตจะใช้แบบที่ OSI ยอมรับ ซึ่งน่าจะเป็น CDDL แบบเดียวกับ OpenSolaris

ผมอ่านความเห็นฝรั่งเค้าแซวกันว่าตอนแรกซันบอก October แต่พอถึง October จริงๆ ก็บอกว่าอีก 30-60 วัน ไหนๆ รอมากันจะเป็นสิบปีแล้ว อีกสองเดือนจะเป็นไรไปเนาะ :P

ที่มา - Infoworld

เริ่มที่ข่าวแรก สำหรับแฟนๆ ORM ตอนนี้ Hibernate ORM ชื่อดังออกเวอร์ชั่นใหม่ออกมาแล้วครับ ซึ่งเวอร์ชั่นนี้ผ่าน certified JPA(Java Persistence API) ด้วยครับ

และข่าวถัดไปสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ต้องสร้างหน้ารายงานด้วย Java คงจะคุ้นเคยกับ iReport ดี แต่ตอนนี้เจ้าของบัลลังค์อย่าง Crystal Reports ได้ออก Crystal Reports for Eclipse Professional มาแล้วครับ ซึ่งดาวน์โหลดได้ที่ เวบของ BusinessObject สนนราคาอยู่ที่ $495 ต่อ 1 Server ครับ

สำหรับคนที่รอใช้ Ubuntu ตัวต่อไปคือ 6.10 นั้นคงเหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นที่ต้องรอ แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้ามา Mark Shuttleworth ก็ประกาศแผนการสำหรับเวอร์ชั่นต่อไปทันที กับ Ubuntu 7.04 ที่มีชื่อว่า The Feisty Fawn โดยเขาระบุว่าในเวอร์ชั่นต่อไปนี้ การพัฒนาจะเน้นหนักไปที่ด้านมัลติมีเดีย และเอฟเฟคในเดสก์ทอป ซึ่งรายละเอียดจะมีการตกลงกันอีกครั้งในงาน Ubuntu Developer Submit ที่สำนักงานของกูเกิลในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

หลายคนอาจเคยใช้โปรแกรมอีเมลยุคดั้งเดิมอย่าง Eudora ซึ่งอยู่คู่กับอินเทอร์เน็ตมานานมาก แต่ระยะหลังตลาดโปรแกรมอีเมลเริ่มถึงทางตันเนื่องจากโปรแกรมหลายตัวได้แจกฟรี และการเข้ามาของเว็บเมลรุ่นใหม่ๆ ทาง Qualcomm บริษัทแม่ของ Eudora จึงประกาศหยุดการพัฒนา Eudora เวอร์ชันคอมเมอร์เชียล และหันมาพัฒนาแบบโอเพนซอร์สโดยใช้ Thunderbird เป็นฐาน

Qualcomm ยังไม่ได้ให้รายละเอียดของโครงการ Eudora แบบโอเพนซอร์สมากนัก บอกแค่ว่าจะออกรุ่นแรกภายในครึ่งแรกของปีหน้า ส่วนผู้ใช้ Eudora เก่ายังสามารถรับบริการสนับสนุนได้ต่อไป

เรื่องหนึ่งที่เรารู้กันมาโดยตลอดคือโครงการคอมพิวเตอร์ OLPC นั้นจะมีความสามารถในการสร้างเครือข่ายแบบ Ad-Hoc ที่ไม่ต้องการศูนย์กลางเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสร้างเน็ตเวิร์คในโรงเรียนได้

แต่ช่วงหลังมานี้ความสามารถนี้อาจจะกำลังทำให้เกิดปัญหากับโครงการอยู่ ด้วยชิปที่ใช้งานคือ Marvell 88W388 ที่มีความสามารถในการสร้างเครือข่ายที่ทางโครงการวางแผนไว้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการคำนวณจากซีพียูโดยแม้แต่น้อย

ปัญหาคือบริษัท Marvell นั้นไม่ยอมอนุญาตให้มีการแจกจ่ายไฟล์ที่จำเป็นสำหรับระบบปฏิบัติการที่ต้องการทำงานกับชิปตัวนี้ได้อย่างเสรี ทำให้คนดังในวงการโอเพนซอร์สอย่าง Theo de Raadt และ Richard Stallman ออกมาต่อต้านเรื่องนี้อย่างชัดเจน

คำถามหนึ่งที่ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สไม่สามารถตอบได้ตลอดมา คือข้อสงสัยที่ว่าไลเซนส์แบบโอเพนซอร์สนั้นมีสภาพบังคับใช้จริงเพียงใด เนื่องจากยังไม่เคยมีคดีที่กฏหมายบังคับใช้จริงเลย

แต่จากนี้ไป อย่างน้อยๆ ในประเทศเยอรมนี ไลเซนส์แบบ GPL ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีผลบังคับใช้จริง เมื่อแฮกเกอร์คนหนึ่งชื่อ Harald Welte ได้ติดตามการละเมิด GPL แล้วพบว่าทางบริษัท D-Link นั้นได้ละเมิดไลเซนส์แบบ GPL เป็นจำนวนหลายรายการ

การละเมิด GPL ของ D-Link นั้นเกิดจากการที่ทาง D-Link นั้นไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้นเป็นซอฟต์แวร์ GPL อีกทั้งไม่ได้ให้หนทางเข้าถึงซอร์สโค้ดไว้อย่างชัดเจน

เราอาจจะกำลังได้เห็นการแตกแยกครั้งใหญ่ที่สุดของโลกโอเพนซอร์ส เมื่อกลุ่มนักพัฒนาลินุกซ์ได้รวมตัวกันออกเอกสารแสดงจุดยืนของตนกับ GPLv3 ขึ้นมา โดยเอกสารนี้แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน

จุดสำคัญที่ทางกลุ่มนักพัฒนาลินุกซ์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาใน GPLv3 ทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องของ DRM, เงื่อนไขความเข้ากันได้กับไลเซนส์แบบอื่นๆ ไปจนถึงเรื่องของสิทธิบัตร

อยู่ดีๆ บริการจ่ายเงินผ่านอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ส่งอีเมลไปยังโครงการโอเพนซอร์สอย่าง ScummVM เพื่อแจ้งยุติการให้บริการรับเงินบริจาคให้กับทางโครงการ โดยให้เหตุผลว่าโครงการ ScummVM นั้นขัดต่อนโยบายของทาง Paypal ที่จะไม่ให้บริการกับโครงการที่เปิดโอกาสให้มีการใช้ซอฟต์แวร์บนแพลตฟอร์มที่ผู้ผลิตไม่ได้ระบุไว้

โครเอเชียเป็นอีกประเทศที่รัฐบาลได้ออกมาหนุน open source และ open standard อย่างจริงจัง

รัฐบาลโครเอเชียให้ความเห็นแบบที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า การใช้ทั้ง open source และ open standard จะช่วยลดการพึ่งพิงผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใดรายหนึ่งมากเกินไป, เปิดโอกาสให้ซอฟต์แวร์ข้ามค่ายทำงานร่วมกันได้ และช่วยประหยัดตังค์ โดยรัฐบาลเองจะเลือกใช้โอเพนซอร์สให้มากที่สุดที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็ยังสนับสนุนซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์อยู่ เพียงแต่ต้องทำงานเข้ากับมาตรฐานเปิดได้เท่านั้น

การผลักดันนโยบายนี้ โครเอเชียบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากนโยบายของสหภาพยุโรปครับ

กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ออกรายงานชื่อว่า Open Technology Development roadmap plan (pdf) มีใจความรวมๆ ว่า Open Technology ซึ่งประกอบด้วย Open Standard, Open Source Softwares และ collaborative tools ต่างๆ (เช่น wiki, IRC, CVS, Bugzilla) จะช่วยให้กองทัพสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาวต่อ "ความมั่นคงของชาติ" ด้วย

เนื่องจากรายงานมันยาวมาก ผมอ่านแค่ executive summary ถ้าใครอยากอ่านฉบับเต็มก็ตามลิงก์ข้างบน

เห็นคุณ bact บอกซันประกาศแล้ว ก็เลยตามไปเก็บข่าวมาแปะให้

ซันประกาศกำหนดการเบื้องต้นมาแล้ว ซึ่งคาดว่าภายในตุลาคมปีนี้เราจะได้เห็นบางส่วนของจาวาในรูปแบบไลเซนส์โอเพ่นซอร์สกัน ข้อมูลส่วนแรกของ Java SE จะถูกปล่อยออกมาก่อนนั้น ประกอบไปด้วยตัวจาวาคอมไพเลอร์ (javac) และส่วนที่สองคือ HotSpot VM ทางซันเองคาดการว่าจะสามารถโอเพ่นซอร์สทั้งหมดได้ภายในกลางปีหน้า ส่วนกำหนดการทางด้าน Java ME คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปีนี้

ปัญหาอย่างหนึ่งในวันนี้ของลินุกซ์อาจจะเป็นการที่มันไม่รองรับไฟล์เพลงที่มีสิทธิบัตร เช่น ไฟล์ MP3 หรือไฟล์ WMV อย่างที่เป็นข่าวในวันนี้ แต่ข้อจำกัดนี้อาจจะลดลงในอนาคตเมื่อทาง RealNetwork ประกาศเตรียมรองรับไฟล์ WMV ใน RealPlayer รุ่นลินุกซ์

พร้อมๆ กับข่าวนี้ทางโนเวลก็ประกาศรวม RealPlayer ไว้ใน SUSE รุ่นต่อไปด้วยเช่นกันทำให้ SUSE รุ่นต่อไปเล่นไฟล์ WMV ได้ทันที

เริ่มเกลียด WMV ก็ตอนเจอมันในซีดีที่ซื้อมาเนี่ยแหละ...

ที่มา - ArsTechnica

หลังจากโดยสังคมภายนอกกดดันให้ซันปล่อยซอร์สโค้ดของจาวาอย่างหนัก ซันก็เริ่มกระบวนการเปิดซอร์สโค้ดของจาวาออกมาเรื่อยๆ โดยโมดูลแรกจะเป็น J2ME ที่เป็นจาวาสำหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเช่นมือถือ หรือพีดีเอ

ยังไม่มีการประกาศว่าซันจะใช้ไลเซนส์แบบใดกับซอร์สที่จะปล่อยออกมานี้ ที่น่ากลัวคือสุดท้ายซันอาจจะปล่อยซอร์สโค้ดออกมาเป็น CDDL ของซันเองเหมือนเมื่อก่อนทำให้สุดท้ายแล้วโลกโอเพนซอร์สก็ยังไม่ยอมรับกันอยู่ดี